“ตลอดทางที่เราเดินทางมาไม่ง่ายเลย หากไม่มีจ้านเฉิงอิ้น บางทีงานใหญ่ของเราคงสำเร็จไปนานแล้ว”“รอข้าได้ขึ้นครองตำแหน่งนั้น ก็จะแต่งตั้งเจ้าเป็นอ๋อง ประทานศักดินาที่เดิน ขอเพียงเป็นสตรีที่เจ้าถูกตาต้องใจ อัญมณี ขอแค่เจ้าชอบ ข้าก็ให้เจ้าได้ทั้งหมด!”“ดูสิ เบื้องหน้าก็คือเมืองหลวงแล้ว ความปรารถนาของเราใกล้จะบรรลุแล้ว!”ซาเทียนอี้มองไปที่ยังทิศทางของเมืองหลวง ใกล้แล้ว เหลืออีกเพียงสองร้อยลี้เท่านั้น พวกเขาก็จะโจมตีเข้าไปในเมืองหลวงได้แล้วบิดาที่ทิ้งลูกทิ้งเมียไปของเขาผู้นั้น เป็นขุนนางอยู่ที่เมืองหลวงเขาเอาสินเดิมของมารดาไปจนเกลี้ยง ขายที่ดินผืนนาถูก ๆ จำนองจวนกับพวกอันธพาลพาอนุและลูกของอนุมาถึงยังเมืองหลวงอย่างปีกกล้าขาแข็งปล่อยให้เขากับมารดาเร่ร่อนอยู่ข้างถนนมารดาเพื่อเลี้ยงดูเขา ยินยอมขายตัวเองที่หอโคมเขียว ถูกแขกที่มาเที่ยวหอนางโลมข่มเหงจนตายเขาเพิ่งอายุสิบสอง ฆ่าแขกที่มาเที่ยวหอนางโลม แล้วก็หนีออกมาหลังจากนั้นก็เร่ร่อนมาตลอดทาง เคยทำมาหมดแล้วทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป เกียรติและคุณธรรมต่างทิ้งไปทั้งหมดหลังจากนั้นใต้หล้าก็เกิดภัยแล้ง เขาเข้าร่วมกองทัพธงเหลืองเร็
หญิงสาวพุ่งเข้ามา เตรียมจะคว้าผมของเย่มู่มู่เอาไว้ ข่วนหน้าของเธอให้เป็นแผล ฉีกเสื้อผ้าของเธอ...ทำให้เธอสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียง!ทว่าคนที่มุงดู ไม่มีใครเข้ามาโน้มน้าวเลยพวกผู้หญิงล้อมอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม ๆ เอามือปิดปากพลางหัวเราะ กระทั่งล้วงโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะแชร์ภาพที่เย่มู่มู่ถูกตบสุดจะทนได้ลงในโซเชียลตอนที่ไม่มีใครสนใจเธอก่อนหน้านี้ พวกเธอไม่รู้ถึงการมีอยู่ของคนคนนี้เสียด้วยซ้ำทว่าตอนนี้ ทุกคนสนใจไปที่เธอ ล้วนกำลังแพร่ข่าวลือว่าเธอเป็นชู้กระทั่งถูกคนปล่อยข่าวบนกระดานสารภาพรักเธอเริ่มถูกคนมากมายด่าทว่าตามการกลับมหาวิทยาลัยของเธอ รูปภาพของเธอจะถูกปล่อยในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย ปล่อยข่าวบนกำแพงสารภาพรัก ถูกคนด่าว่าชู้พวกเธอถึงได้รู้ว่า ในมหาวิทยาลัยมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้อยู่ด้วยแม้ว่าคำนินทาว่าร้ายของเธอในมหาวิทยาลัยจะมีเยอะมาก เธอราวกับไม่เป็นไร ไปมาลุกลี้ลุกลน และไปมาเพียงลำพังทุกวันกระทั่งมีผู้ชายบางคนชอบใบหน้าสะสวยจองเธอ คิดอยากจะขอไลน์ของเธอ อยากไปจีบเธอกระทั่งเธอไม่ชายตามองอีกฝ่ายเลยคงเพราะท่าทีถือตัวโอหังและเย็นชา จึงทำให้ไปยั่วโมโหพวกผู้ชายเข้า
คนที่มาถึงก่อนคือฮ่าวอี้ หวังเสี่ยวเฉิง สวีเฟิงและพวกบอดี้การ์ดครั้นพวกเขาเห็นหลูหมิงซ้อมคนจนอยู่ในสภาพนี้ ก็รู้สึกเพียงจบเห่แล้วเขาต้องติดคุกแน่พวกเขาต่างจนปัญญาที่จะไปช่วยออกมา!ฮ่าวอี้ส่งสายตาให้พวกหวังเสี่ยวเฉิง พวกเขารีบล้อมนักศึกษาที่มามุงดูความสนุกเอาไว้ และขอให้พวกเขาทุกคนลบวิดีโอให้หมดกระทั่งฟอร์แมตมือถือทั้งเครื่องไปเลยการกระทำของหลูหมิง ทำเอานักศึกษาที่แสนบริสุทธิ์อึ้งกันไปตาม ๆ กันพวกเขาต่างผวากันไปหมดโดยเฉพาะภาพสุดท้ายของเขา สองมือกดศีรษะของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ คิดจะหักคอของเธออำมหิตเกินไปแล้ว!น่ากลัวเกินไปแล้ว!ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ขอเพียงเป็นคนที่มามุงดู ต่างก็ส่งมือถือออกมาทั้งสั่นเทิ้ม และลบวิดีโอทั้งหมดทิ้งไป!หลังจากนั้น ตำรวจและรปภ.ของมหาวิทยาลัยก็มาถึงฮ่าวอี้กล่าวกับหลูหมิงว่า “เดี๋ยวหากถูกจับ จำเอาไว้ว่าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รอทนายมา!”สีหน้าของเย่มู่มู่ซีดเผือด ถามฮ่าวอี้ “เขาจะถูกตัดสินนานเท่าไร!”ฮ่าวอี้มองไปที่หญิงสาวที่ร้องไห้โอดครวญ“กระดูกมือซ้ายของเธอหักแหลกเหลว กระดูกแขนขวาหัก...คงมีอาการบาดเจ็บภายในอื่นอีก แค่พิการระดับหนึ่งก็หนี
ฮ่าวอี้มองไปที่หลูหมิง คิดจะยกมือขึ้นตบไหล่ของเขาหลูหมิงถอยหลังก้าวหนึ่ง รักษาระยะห่างกับเขาฮ่าวอี้อิหลักอิเหลื่อ เขาลูบจมูกพลางกล่าวว่า “นายไม่เป็นไรแล้ว แก้ต่างให้ไม่มีความผิดได้!”“เธอพกมีดเข้ามาคิดจะฆ่าคน สภาพการณ์ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ต้องสงสัยว่าจะฆาตกรรม!”“นายหักมือของเธอ นับว่าเป็นการปกป้องชีวิตคนและทรัพย์สิน...”ครั้นหญิงสาวได้ยินคำพูดของฮ่าวอี้ ก็พูดอธิบายให้ตัวเองเสียงดัง“ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าคน!”“มีดไม่ใช่ของฉัน คุณหญิงลู่เป็นคนยัดให้ฉัน!”ฮ่าวอี้หัวเราะ “คุณรับเงินไปยี่สิบห้าล้าน?”“ฉันเอามาแค่เงินมัดจำสิบล้าน...”“จ้างวานฆ่า โทษเพิ่มอีกขั้น!”ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้คร่ำครวญอยู่บนเปลหามผู้ป่วยเธอนึกเสียใจแล้ว!ไม่กล้าอีกแล้ว!คิดไม่ถึงเลยว่ากำจัดนักศึกษาหญิงคนเดียว จะต้องชดใช้มากมายขนาดนี้ฮือ ๆ เธอจะเอาเงินคืนกลับไปตำรวจล้อมทุกคนเอาไว้ เตรียมจะพาตัวกลับไปอธิการบดีรีบลุกลี้ลุกลนเข้ามา ไม่เพียงคณบดี รองผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการ บรรดาคณะกรรมการมหาวิทยาลัยต่างก็มากันหมดพวกเขาปลอบขวัญนักศึกษา และห้ามไม่ให้นักศึกษาเผยแพร่ออกไปคนนอกพกมีดเข้ามาฆ่านักศึ
เย่มู่มู่เดินกลับไป แล้วถามฮ่าวอี้ว่า “พวกคุณเข้ามาได้ยังไง?”“ให้บุหรี่ดันฮิลกับรปภ.ตัวหนึ่ง ก็ปล่อยเข้าไปแลว แถมเราไม่ใช่คนไม่ดีอะไร มารับคุณที่หน้าประตูมหาลัยทุกวัน จนสนิทกับรปภ.แล้ว!”รปภ.ได้ยินพวกเขาบอกว่า เป็นบอดี้การ์ดได้เงินเดือนเดือนละสามแสนกำลังคิดจะโยกย้ายงาน ไปเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่ถามอีกว่า “แน่ใจเหรอว่าหลูหมิงจะออกมาได้?”“ได้แน่นอน อีกฝ่ายพกมีด แถมยังรับเงิน สภาพการณ์นี้ก็จะต่างออกไปแล้ว ขอแค่เป็นทนายที่ไม่ตาบอดจนเกินไป ก็แก้ต่างให้พ้นโทษได้!”เย่มู่มู่โทรหาเวินลี่เวินลี่คล้ายกับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย บอกว่าหาทนายเอาไว้เรียบร้อยแล้วตอนนี้อยู่ระหว่างไปสถานีตำรวจ ยื่นประกันตัวออกมาวันนี้เย่มู่มู่ถอนหายใจทีหนึ่งเมื่อเธอกลับถึงคฤหาสน์ ก็พุ่งเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เปิดตู้เซฟเธอย้ายแจกันออกมา กระดาษขาวแผ่นหนึ่งร่วงตกลงมาตรงก้นแจกันเธอหยิบกระดาษขึ้นมาด้านบนเขียนตัวอักษรแสนคุ้นเคยที่ชัดเจนและทรงพลัง เป็นจดหมายที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาแม้จะบอกว่าเป็นจดหมาย ทว่าเหมือนจดหมายลาตายมากกว่าเขาบอกว่า ของทั้งหมดที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้ ใส่เอาไ
“หากเจ้ามีชีวิตรอดกลับมา ข้ารับปากเจ้า จะพบหน้าเจ้า!”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้ม น้ำเสียงไม่เคร่งขรึมหรือเศร้าโศกอีกเขาดีใจ น้ำเสียงใสและร่าเริง “ท่านเทพ ท่านตกลงแล้ว?”“ใช่ ข้าตกลงแล้ว!”“ข้าจะมีชีวิตรอดให้ได้ ต้องมีชีวิตรอด!”“ดี ข้าจะรอเจ้า พวกเจ้าจะไปรบแล้ว มีอะไรที่ข้าช่วยได้บ้าง?”“ไม่ต้องแล้วขอรับท่านเทพ ที่ท่านช่วยได้ก็ช่วยแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงพวกข้าต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น!”“ท่านรอข่าวดีจากข้าได้เลย ไม่ว่าจะต้องข้ามภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบหรือมหาสมุทร ห่างกันหมื่นปี ข้าก็จะไปเจอท่านให้ได้!”เย่มู่มู่เช็ดน้ำตาที่ขอบตา พร้อมฉีกยิ้มอย่างความโศกเศร้ากลายเป็นความสุข “ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”“กองทัพมารวมตัวกันแล้ว ข้าเตรียมตัวจะออกเดินทางแล้ว ท่านเทพไว้เจอกันนะขอรับ!”มือของเย่มู่มู่ลูบแจกัน “เจอกัน จ้านเฉิงอิ้น!”หลังจากนั้น ในใจของเธอมีเสียงเต้นตึกตักเล็ก ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง“ต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!”จนกระทั่ง ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก เย่มู่มู่ก็รู้ทันทีว่าจ้านเฉิงอิ้นไปแล้ว!ไม่รู้ว่าผู้ใดถือแจกันเอาไว้เขาจะต้องปลอดภัย!ในจังหวะนี้เอง มีเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ในแจกัน จากนั้นก็มีก
“คุณก็บอกไปว่าส่งไปเมืองนอกไม่ได้เหรอ?”เถ้าแก่ “...”ครั้นเย่มู่มู่เห็นเถ้าแก่ไม่ยอมผ่อนปรนให้ ก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “หกพัน หกพันกระบอกได้แล้วใช่ไหมคะ? ฉันจะจ่ายตามราคาครั้งที่แล้ว ราคาขายของคุณเป็นสองเท่า ฉันต้องการเร่งด่วน คุณว่ามาเถอะค่ะ ออเดอร์นี้จะดีลไหมคะ?”เถ้าแก่ไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกหกพันกระบอก ราคาขายของทุกกระบอกหลายหมื่นทีเดียว!นี่ทำเงินได้มากกว่าส่งออกนอกประเทศหลายเท่าตัวเลยทว่า ขายออกไปหกพันกระบอก หากถูกตรวจสอบขึ้นมา เขาต้องติดคุกแน่“ไม่ได้ ผมไม่กล้าเสี่ยง ลูกเมียผมต้องพึ่งผมทั้งนั้น หากติดคุกติดตารางขึ้นมาจะทำยังไง?”เย่มู่มู่คิดว่าต้องสร้างความมั่นใจให้เถ้าแก่!เปิดแอปธนาคารในมือถือของเธอ จากนั้นก็อัดวิดีโอ แล้วส่งวิดีโอให้เถ้าแก่บัตรดำใบหนึ่งของเธอ ตอนนี้มียอดเงินคงเหลือพันกว่าล้านเป็นเงินที่เวินลี่โอนเข้ามาเมื่อหลายวันก่อนเธอกล่าว “ห้าพันกระบอก ในคลังของคุณต้องมีแน่ ฉันรู้ว่าคุณขายส่ง สินค้าของร้านเล็ก ๆ มากมาย ล้วนมาเอาจากคุณทั้งนั้น!”“ลูกกระสุนฉันเหมาหมด นี่เป็นยอดเงินคงเหลือของฉัน ขอแค่คุณขายให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินทันที!”“ตราบใดที่ดองสินค้าเอ
มั่วฝานเก็บกระดาษที่ตกอยู่ขึ้นมา และมองเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น ปะ...ปืนสองพันกระบอก!กระสุนปืนห้าร้อยกล่องกระสุนห้าร้อยกล่อง มีลูกกระสุนอยู่ทั้งหมดสองหมื่นห้าพันนัดของเหล่านี้เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิวได้แล้ว!มั่วฝานรู้ดีว่าปืนล่าสัตว์เหล่านี้สำคัญเป็นอย่างมากขอเพียงกองทัพธงเหลืองสามารถถอยทัพกลับไปได้ เผ่าหมานที่เหลือสองแสนคน หากกองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง จะต้องสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนแผนสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ คือเขาต้องรีบนำแจกันไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุดมั่วฝานตะโกนเสียงดัง “หวังเซิ่ง!”ไม่มีผู้ใดขานรับ หน่วยกล้าตายที่อยู่ข้างกายเขาล้วนแต่อยู่ในสนามรบทั้งสิ้นมีเพียงแค่ทหารเด็กจำนวนหนึ่ง และประชาชนในเมืองตงโจวเท่านั้น เหล่าราษฎรถือชามโจ๊กมองมาที่เขามั่วฝานเท้าสะเอว พลางมองไปยังแจกันที่อยู่ตรงหน้าสุดท้ายเขาก็หิ้วแจกันขึ้นมา เดินไปที่ข้างรถกระบะ และพยายามขนถังใบใหญ่ลงมาจากรถด้วยความยากลำบากเขานำแจกันวางไว้ที่ด้านข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็สตาร์ทรถและไล่ตามจ้านเฉิงอิ้นไป...จ้านเฉิงอิ้นออกไปได้ประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว ความเร็วของเขามากกว
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด