แต่ต่อให้ขับรถทั้งคืนไปด่านเจิ้นกวน จะสามารถแจ้งข่าวก่อนที่กองทัพเผ่าหมานม่อเป่ยจะไปถึงได้หรือไม่?จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นอย่างฉับพลัน เขาหยิบเสบียงและอุปกรณ์จากแจกันออกมา แล้วสั่งให้เถียนฉินและสวี่หมิงไปตามหาทหารผ่านศึกที่ขับรถเก่งที่สุดทั้งหมดมีสามคัน เป็นรถออฟโรด แต่ละคันมีสามคน ขับผลัดกันไม่หยุด!เถียนฉินและสวี่หมิงรู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรง รีบออกไปคัดเลือกคนทันทีจ้านเฉิงอิ้นเดินไปมา เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมไม่นาน เถียนฉินและสวี่หมิงก็นำ ทหารหกนายมารายงานตัวจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขาด้วยสายตาดุดัน และออกคำสั่งเด็ดขาด “พวกเจ้ามุ่งหน้าไปด่านเจิ้นกวน หากพวกอดีตลูกน้องของสวีหวยไม่ยอมออกทัพช่วยเปี้ยนจื่อผิง... ฆ่าทิ้งซะ!”“ถ้าทหารใต้บังคับบัญชาของเขากล้าก่อความวุ่นวาย ก็ให้อู๋ลี่ค่อย ๆ ทำลายพวกเขาลงทีละน้อย เริ่มจากการล้อมครอบครัวของพวกเขาไว้ แล้วให้คนที่พูดเก่ง ๆ ไปคุยกับพวกนางทุกวัน บอกพวกนางว่ามีคนอดตายข้างนอกเยอะแค่ไหน!”“จากนั้นก็ไปคุยกับทหาร กองทัพตระกูลจ้านตอนนี้มีจำนวนถึงห้าแสนห้าหมื่นคน ถ้าพวกเขากล้าทรยศต่อกองทัพตระกูลจ้าน ออกไปก็มีแต่ทางตาย!”“ถ้าเผ่าหมานม่อเป่ยไม่บุกโจม
หากไม่มีการเสริมกำลังคน ไม่ว่าอุปกรณ์สวมใส่จะดีแค่ไหน ก็ต้องตายหมดไม่ว่าช้าก็เร็วหลัวซู่อาจไม่เห็นค่าแคว้นเยี่ยน แต่ถ้ามีโอกาสบุกเข้ายึดเมืองหลวงของแคว้นต้าฉี่ เขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่นอน ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือ เผ่าหมานม่อเป่ยอาจกำลังบุกเข้าเมืองหลวงเมื่อคิดถึงจุดนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็รู้สึกว่าการตั้งรับที่หมิ่นโจวอาจไม่ใช่ทางเลือกที่มั่นคงเขาพูดกับซ่งตั๋วว่า “แจ้งออกไป ให้ย้ายจากหมิ่นโจวไปตงโจวคืนนี้”แม่ทัพหลายคนมองหน้ากันด้วยความสงสัย ทำไมต้องย้ายไปตงโจวตงโจวมีคนน้อยกว่า การค้าไม่เจริญเท่าหมิ่นโจว ประชากรก็เบาบางที่นั่นแม้จะมีเส้นทางสายหลักที่นำเข้าสู่เมืองหลวง แต่~มู่ฉีซิวมีถนนการค้าอยู่ในหมิ่นโจว เขาจะอ้อมไปตงโจวทำไม?ถึงแม้หมิ่นโจวและตงโจวจะเป็นเมืองป้องกันเมืองหลวงเหมือนกันแต่ระยะทางตรงนั้นแปดร้อยลี้การขี่ม้ารอบทางอ้อมต้องใช้เวลาเพิ่มอีกสิบวันในยุคที่ขาดแคลนเสบียง นี่เป็นราคาที่แพงมากเฉินอู่ดูเหมือนจะเข้าใจเจตนาของจ้านเฉิงอิ้นเขาขมวดคิ้วถามว่า “ท่านแม่ทัพ ท่านคิดว่าเผ่าหมานจะบุกเข้าเมืองหลวงจากทางตงโจวหรือ?”“ใช่!”“แต่เขาพาทหารที่
เย่มู่มู่ไปที่ตลาดรถบ้านมือสองและพบรถบ้านกับรถบรรทุกใหญ่จำนวนมากตลาดในเมืองหลวงมีขนาดใหญ่พ่อค้ารถมือสองที่นี่ไม่เหมือนกับบ้านเกิดของเธอ ที่มักมีสต็อกเพียงสิบหรือยี่สิบคัน...แต่พ่อค้ารถมือสองแถบชานเมืองหลวง หากมีสต็อกรถร้อยกว่าคัน ก็ถือว่าเป็นร้านขนาดเล็กแล้วที่มีสต็อกสี่ถึงห้าร้อยคันก็มีอยู่มากยิ่งไปกว่านั้น ยังมีพ่อค้าที่มีรถในสต็อกถึงพันหรือสองพันคัน กระจายส่งไปทั่วประเทศ!ยานพาหนะมีจำนวนมาก ราคาค่อนข้างถูก และการแข่งขันสูงเย่มู่มู่เดินสำรวจย่านรถมือสอง กวาดซื้อเกือบทั่วทั้งถนนเย่มู่มู่เดินอยู่ในย่านรถมือสอง ราวกับกวาดซื้อรถบรรทุกคันใหญ่เกือบทั้งถนนเธอให้ทางร้านจัดส่งไปยังโกดังชานเมือง ซึ่งมีคนรับเรื่องอยู่แล้วแน่นอนว่ารถบ้านมือสอง โดยเฉพาะรุ่นขนาดใหญ่นั้นหายาก แต่รถบ้านขนาดเล็กที่ใช้ใบขับขี่ประเภท C กลับมีอยู่มากช่วงนี้ตลาดรถบ้านมือสองล้นตลาด พ่อค้าหลายรายปล่อยรถค้างสต็อกมานานจนขายไม่ออกเย่มู่มู่จึงกวาดซื้อทั้งหมดมาไว้เองรถบ้านราคาหนึ่งล้านห้าแสนกว่า ๆ ตอนนี้เหลือแค่ราว ๆ ห้าแสน ลดไปกว่าครึ่ง เรียกได้ว่าคุ้มสุด ๆ!เย่มู่มู่กวาดซื้อรถบ้านมือสองขนาดกลางและเล็
หลังจากที่เย่มู่มู่ทำความรู้จักกับทุกคนแล้ว ก็ได้เรียกประชุมพนักงานขยายปั๊มน้ำมัน สร้างมินิมาร์ทและศูนย์ล้างรถขึ้นมา รวมถึงจัดสร้างสำนักงานให้เรียบร้อยถังเก็บน้ำมันของปั๊มน้ำมันเล็กเกินไป ต้องเพิ่มความจุอีกเท่าตัวมอบหมายให้ผู้จัดการเป็นผู้ดำเนินการ แน่นอนว่าจะให้เวินลี่แต่งตั้งคนที่ไว้ใจได้มาคอยกำกับดูแลหลังจบการประชุม ให้ขึ้นเงินเดือนพนักงานทุกคน เพิ่มอีกห้าพันผู้จัดการได้เงินเดือนขึ้นหนึ่งหมื่นต่อไปยังมีค่าคอมมิชชั่นให้ด้วยพนักงานดีใจกันมาก แต่ผู้จัดการกลับเป็นกังวลอย่างหนักเขาคิดว่าเย่มู่มู่ทำเรื่องเหลวไหล สภาพของปั๊มน้ำมันเป็นอย่างไร เขารู้ดียิ่งกว่าใคร ขาดทุนแทบทุกเดือน จนแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างอยู่แล้วแต่กลับยังกล้าขยายกิจการอย่างใหญ่โต!เขานึกว่าเย่มู่มู่เป็นลูกคุณหนูผู้มั่งคั่ง ไม่มีอะไรทำเลยอยากซื้อปั๊มน้ำมันมาเล่นสนุกแต่แนวทางที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น กลับทำให้ผู้จัดการต้องอึ้งตาค้างวันที่สอง เย่มู่มู่ก็สั่งซื้อถังเก็บน้ำมันเปล่าหลายสิบใบ แล้วนำไปวางไว้ในโกดังที่อยู่ไม่ไกลจากปั๊มน้ำมันเธอให้เหตุผลว่า “เก็บน้ำมันสำรองไว้ก่อน พอปั๊มน้ำมันตกแต่งเสร็จ จะได
ครั้นเฉินอู่ ซ่งตั๋ว และมั่วฝานเห็นภาพเช่นนี้ ขอบตาของทุกคนก็แดงก่ำเห็นประชาชนต้าฉี่เป็นอาหาร ในดินแดนต้าฉี่...พวกเขาล้วนเป็นบุรุษแข็งแกร่งห้าวหาญ จะอดกลั้นได้อย่างไรหนำซ้ำยังเป็นแม่ทัพพ่ายแพ้ที่ถูกผู้ใต้บัญชาของกองทัพตระกูลจ้านรบพ่ายติดต่อกันสองสามคราพวกเขากล้าได้อย่างไร!หลัวซู่ เขากล้าได้อย่างไร?ชาวบ้านที่ถูกมัดมือทั้งสองด้วยเชือกและมัดเชื่อมต่อกันมีเยอะมาก กะประมาณคร่าว ๆ หลายหมื่นคนพวกเขามาถึงเมืองตงแล้ว ยังมีอีกหลายหมื่นนายบุรุษสตรีคนแก่และยังมีเด็กเล็กอีกด้วยในนั้นมีสตรีเยอะที่สุด รองลงมาคือเด็ก บุรุษน้อย บุรุษยิ่งน้อย...เช่นนั้น หลัวซู่ฆ่าเผาปล้นสะดมมาตลอดทั้งทาง อย่างน้อยก็เข่นฆ่าประชาชนชาวต้าฉี่ไปมากกว่าล้านคนตอนนี้สตรีและเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่น้อยมาก ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทัพใหญ่เผ่าหมานจะจับมาได้เยอะขนาดนี้!นี่เป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ประชากรเท่าหนึ่งเมืองใหญ่ไม่ได้เป็นเพราะอดตาย ทว่าเป็นเพราะแม่ทัพเหล่านี้ประมาทเลินเล่อ จึงนำไปสู่โศกนาฏกรรมขอบตาของจ้านเฉิงอิ้นมีน้ำตากลิ้งไปมาเขาหันหลังไป กดเสียงต่ำแหบพร่าอย่างเจ็บปวด“แพร่ลงไป เตรียมวัตถุระเบิดใ
ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กข้าว หรือเนื้อตุ๋น หรือว่าน้ำใสสะอาดคนตงโจวที่หิวมาครึ่งปีกว่า ผู้ใดจะอดกลั้นได้พวกชาวบ้านถือหม้อไหถ้วยชามออกมาจากบ้าน จากนั้นก็เดินตามรถไปมั่วฝานให้พวกเขาออกจากเมือง...แจกจ่ายโจ๊กตรงหน้าประตูเมืองทั้งสี่ขณะที่พวกเขาถือหม้อเดินไปยังประตูเมือง มองไปจากไกล ๆ พบว่ามีถังเหล็กวางอยู่จริง ๆคนที่วิ่งไหว วิ่งไปข้างหน้าราวกับผึ้งแตกรังคนที่วิ่งไม่ไหว ถูกคนทั้งครอบครัวพยุงเดินไปยังประตูเมืองยังมีบางคนแม้แต่คลานยังคลานไม่ไหว ถูกกองทัพตระกูลจ้านลากขึ้นมาบนรถบรรทุก ยัดเข้าไปในรถโดยตรงเลยพวกชาวบ้านต่างวิ่งไปที่หน้าประตูเมืองราวกับผึ้งแตกรัง คิดว่าในถังมีของกิน ทว่าคิดไม่ถึง ถังที่ประตูเมืองล้วนมีฝาปิดเอาไว้แต่ทหารที่แก้มมีเนื้อหนัง กลับเรียกให้พวกเขาขึ้นรถเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นรถยนต์ ที่สูงและใหญ่ขนาดนี้มีสี่ล้อ ประหลาดเป็นอย่างมาก!แต่บนรถกลับมีอาหาร!มิหนำซ้ำ ยังมีขนม มีแหล่งน้ำ มีทหารบนรถเรียกพวกเขา...“ขึ้นมารับตรงนี้!”เขายังตักน้ำสะอาดให้พวกเขาดูหนึ่งกระบวยพวกชาวบ้านริมฝีปากแห้งแตก คนมากมายไม่ได้ดื่มแหล่งน้ำสะอาดมานานอยู่มาได้จนถึงตอนนี้ ร่างก
แม่ทัพข้างกายเขาคือซาเทียนอี้และเซวียเหวินเต๋อสีหน้าของเซวียเหวินเต๋อเคร่งขรึม บางทีเขาอาจจะไม่เห็นด้วย มู่ฉีซิวเป็นพวกเดียวกับเผ่าหมาน สังหารหมู่ราษฎรต้าฉี่ เห็นราษฎรเป็นอาหาร...ทว่าหากไม่ร่วมมือกับเผ่าหมาน พวกเขาก็ไม่สามารถมั่นใจได้ บุกเข้าเมืองหลวง พลิกการปกครองของฮ่องเต้ต้าฉี่ ระหว่างทาง เขาอีรุงตุงนังมาตลอดซาเทียนอี้มีความทะเยอะทะยานเขาคิดว่า สังหารหมู่ชาวบ้านสองสามหมื่นคนเป็นอาหารก็เท่านั้น ขอเพียงเผ่าหมานเป็นบริวารหน้ารถม้า ช่วยพวกเขากำจัดอุปสรรค เสียสละแค่นี้จะเป็นไรไป?ผู้กระทำการใหญ่ ไม่สนใจเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ที่พวกเขาจะทำคือเปลี่ยนแผ่นดินไม่มีทางปล่อยให้ผู้อื่นมาทำเสียเรื่องอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมีภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดแฝงอยู่ นั่นก็คือกองทัพตระกูลจ้านกองทัพตระกูลจ้านไม่ถูกละเว้นเลยแม้แต่วันเดียว แม้พวกเขาจะเอาราชวงศ์ต้าฉี่มาได้ ก็ยังอันตรายอยู่ดีเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นสามารถโค่นล้มราชวงศ์ใหม่ที่พวกเขาสร้างขึ้นได้ทุกเมื่อศัตรูตัวฉกาจที่สุดของพวกเขาก็คือกองทัพตระกูลจ้าน คือจ้านเฉิงอิ้นส่วนเผ่าหมาน มีเพียงความสัมพันธ์เป็นประโยชน์ต่อกันเท่าน
“ตลอดทางที่เราเดินทางมาไม่ง่ายเลย หากไม่มีจ้านเฉิงอิ้น บางทีงานใหญ่ของเราคงสำเร็จไปนานแล้ว”“รอข้าได้ขึ้นครองตำแหน่งนั้น ก็จะแต่งตั้งเจ้าเป็นอ๋อง ประทานศักดินาที่เดิน ขอเพียงเป็นสตรีที่เจ้าถูกตาต้องใจ อัญมณี ขอแค่เจ้าชอบ ข้าก็ให้เจ้าได้ทั้งหมด!”“ดูสิ เบื้องหน้าก็คือเมืองหลวงแล้ว ความปรารถนาของเราใกล้จะบรรลุแล้ว!”ซาเทียนอี้มองไปที่ยังทิศทางของเมืองหลวง ใกล้แล้ว เหลืออีกเพียงสองร้อยลี้เท่านั้น พวกเขาก็จะโจมตีเข้าไปในเมืองหลวงได้แล้วบิดาที่ทิ้งลูกทิ้งเมียไปของเขาผู้นั้น เป็นขุนนางอยู่ที่เมืองหลวงเขาเอาสินเดิมของมารดาไปจนเกลี้ยง ขายที่ดินผืนนาถูก ๆ จำนองจวนกับพวกอันธพาลพาอนุและลูกของอนุมาถึงยังเมืองหลวงอย่างปีกกล้าขาแข็งปล่อยให้เขากับมารดาเร่ร่อนอยู่ข้างถนนมารดาเพื่อเลี้ยงดูเขา ยินยอมขายตัวเองที่หอโคมเขียว ถูกแขกที่มาเที่ยวหอนางโลมข่มเหงจนตายเขาเพิ่งอายุสิบสอง ฆ่าแขกที่มาเที่ยวหอนางโลม แล้วก็หนีออกมาหลังจากนั้นก็เร่ร่อนมาตลอดทาง เคยทำมาหมดแล้วทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป เกียรติและคุณธรรมต่างทิ้งไปทั้งหมดหลังจากนั้นใต้หล้าก็เกิดภัยแล้ง เขาเข้าร่วมกองทัพธงเหลืองเร็
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด