บางครั้งองครักษ์ที่เฝ้าเมืองก็คิดจะไล่พวกเขาเช่นกันทว่าสู้ไม่ได้แล้วจะทำอะไรได้!ทำได้เพียงมองดูพวกเขาปล้นคนรวยไปช่วยคนจนในเมือง และตั้งโรงทานโจ๊ก!กระทั่งชาวบ้านที่เข้าแถวซื้อโจ๊กยังขวางพวกเขา ตั้วตนเป็นศัตรูกับพวกเขา!ตอนนี้ คำสรรเสริญจากประชาชนในเมืองต่อพวกเขาดีเป็นอย่างมากหนึ่งคือเรื่องที่พวกเขาทำ ล้วนเป็นการผดุงธรรมแทนสวรรค์ แม้จะเป็นเสบียงอาหารที่ปล้นออกมาจากแต่ละจวนก็ตาม ทว่าล้วนแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ไม่ได้กินข้าว มอบทางรอดชีวิตให้แก่พวกเขาและเนื่องจากผลพลอยจากการได้รับคำสรรเสริญของประชาชนในเมือง กระทั่งมีคนคิดจะเข้าร่วมกับพวกเขาตรงนั้นเลยภายในเวลาสองวัน จำนวนของผู้ที่เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านมีมากถึงหนึ่งแสนคนมิหนำซ้ำหลี่หยวนจงไม่ปฏิเสธผู้ที่เข้ามา เพียงมีรูปร่างดีหน่อยก็สามารถเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านได้แล้วเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคน ทหารที่เฝ้าเมืองยิ่งไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม เพียงแต่รีบส่งข่าวให้ฮ่องเต้แคว้นฉู่อย่างรวดเร็ว ให้เขารีบกลับมา!ไม่นานบัลลังก์ของเขาจะเปลี่ยนเจ้าของแล้วไม่นานหัวเมืองของเขาก็ถูกกองทัพตระกูลจ้านยึดครองจนหมดใช่แล้ว เหลวไหลสิ้นด
ขณะหลี่หยวนจงเขียนจดหมาย ยังมีความกังวลใจเล็กน้อยว่ากันตามเหตุผล ทำความผิดเช่นนี้ เมื่อออกคำสั่งทางทหาร ที่ร้ายแรงอาจถูกบั่นคอสองทัพทำศึกใหญ่ ผู้บัญชาการพามาผิดทาง ความผิดที่ได้ทำร้ายแรงเพียงใดฉะนั้น ในจดหมายเขาอธิบายให้ตัวเองสารพัด วันนี้ยังดึงคนกองกำลังมาได้หนึ่งแสนคนนับว่าชดเชยความดีความชอบแล้ว!ไม่ว่าอย่างไร แม่ทัพใหญ่ก็ไม่คงลงโทษเขากระมัง!อันที่จริงอาจจะยังน่าเดือดดาลอยู่ เขาจึงหอบความหวังไปไว้ที่การซุ่มโจมตีสองหมื่นคน อีกฝ่ายสามแสนคน!จำนวนคนเหลื่อมล้ำ ไม่แน่ว่าเขาจะควบคุมได้ทว่า ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร ระเบิดกองทัพแคว้นฉู่ไม่ตาย?มิหนำซ้ำ ข่าวในเมืองก็คงไหลรั่วออกไปฮ่องเต้แคว้นฉู่คงได้รับข่าว และรีบกลับมาโดยเร็วเขาได้แต่รอจะถูกโบยลงโทษหรือนับเป็นผลงานทางทหาร จะสำเร็จหรือคว้าน้ำเหลวอยู่ที่ตรงนี้*ภูเขาเหมือง!จ้านเฉิงอิ้นได้รับจดหมายของหลี่หยวนจงในวันที่สิบห้าไม่คิดเลยว่าเขาจะไปผิดทาง?เขาไปเมืองหลวงแคว้นฉู่?ไม่คิดเลยว่ายังจะโจมตีเข้าไปด้วย!มิหนำซ้ำยังรับคนเข้ามาหนึ่งแสนคน!เรื่องไร้สาระเช่นนี้ เขาทำสำเร็จเสียด้วยนี่เป็นเมืองหลวงแคว้นฉู่เลยนะ!
จ้านเฉิงอิ้นรีบส่งจดหมายของหลี่หยวนจงให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่กำลังกลับจากโกดังไปยังคฤหาสน์เธอคำนวณวัน อีกสองสามวันก็จะกลับมหาวิทยาลัยแล้ว หากเธอยังเลื่อนออกไปอีก เธอก็ไม่สามารถอธิบายกับมหาวิทยาลัยได้แล้ว!เธอครุ่นคิด ในท้ายที่สุดก่อนจะกลับมหาวิทยาลัย จะซื้อของให้จ้านเฉิงอิ้นล็อตหนึ่งเกรงว่าหากกลับไปมหาวิทยาลัยแล้ว จะไม่สะดวกส่งของไป!ไม่คิดเลยว่า แค่คิดเล่น ๆ จะเป็นประโยชน์จริง ๆส่งไปในตอนที่จ้านเฉิงอิ้นต้องการที่สุดทั้งสามคนเพิ่งกลับถึงคฤหาสน์ กระดาษแผ่นหนึ่งก็ปลิวตกลงมาหลูซีหยิบขึ้นมา แล้วส่งให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่เห็นคำอธิบายในกระดาษ ก็พลันหัวเราะออกไหล่สั่น...“ฮ่า ๆ ๆ อายุเท่านี้ทำศึกยังหลงทางได้อีก หลี่หยวนจงเขาโง่เรื่องทิศทางหรือ?”“ไม่คิดเลยว่าเขาจะวิ่งแจ้นไปแคว้นฉู่ มิหนำซ้ำยังรวบรวมกองกำลังได้กองหนึ่ง”“พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ไม่คิดเลยว่าเขาจะบุกเข้าเมืองหลวงแคว้นฉู่!”“ฮ่า ๆ ๆ เรื่องเข้าใจผิดนี่ น่าขำชะมัด!”เย่มู่มู่ส่งจดหมายให้หลูซีและหลูหมิงอ่าน...ครั้นทั้งสองคนอ่าน ใบหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความหมดคำพูดเหตุใดหลี่หยวนจงจึงหลงทาง แม้แคว้นฉู่กับแคว้นเยี่ยนจะเชื่อ
“แต่หนูยังคิดจะเอามากมายขนาดนี้อีก นี่มันพาอาไปซวยชัด ๆ!”เย่มู่มู่คิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของอาเซียวหัวจะรุนแรงขนาดนี้แต่ว่า ด่านเจิ้นกวนขาดวัตถุระเบิด รอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวจริง ๆเธอเองก็ต้องกลับมหาวิทยาลัยแล้วไม่สะดวกจะออกไปซื้อของและขนย้ายของในปริมาณมากเย่มู่มู่ตอบ “อาเซียวหัว หนึ่งร้อยตันห้าร้อยล้าน หามาได้เท่าไร ก็พยายามโยกย้ายมา”“มีเวลาแค่สามวันเท่านั้น ขอเพียงทำเรื่องใหญ่ ชีวิตนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้ อาดูแล้วจัดการเองแล้วกันค่ะ หนูจะไม่บังคับอา!”พูดจบเย่มู่มู่ก็ตัดสายทิ้งหลังจากนั้นก็ติดต่อเถ้าแก่โรงงานเลียนแบบของโบราณแล้วตัดสินใจสั่งอุปกรณ์สวมใส่อีกสามแสนชุด...ดาบม่อเตาสามแสน ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังสามแสน หน้าไม้ราชวงศ์ฉินหกแสน ปีกลูกธนูสิบล้านชิ้นโล่ หอก ปืนยาว เกอ ง้าวอื่น ๆ...อย่างละห้าหมื่นชุดและยังมีกระบี่ชื่อดังใช้เลียนแบบของโบราณ ต้องการอย่างละหนึ่งพันเล่มหินทับทิมที่ฝังพลอยไว้ด้านบน ซื้อฝังเพชรสีและพลอยเทียมกระบี่ชุดนี้ เย่มู่มู่ส่งให้จ้านเฉิงอิ้นซื้อใจคนไม่แคว้นเยี่ยนก็แคว้นฉู่ จะต้องเอามาได้สักแคว้นซื้อตัวทหารและแม่ทัพเบื้องล่าง ตบรางวัลเป็นกร
ตัวแทนจำหน่ายรถท้องถิ่นไม่สามารถทำให้เธอพึงพอใจได้อีกแล้วเธอเปิดคอมพิวเตอร์ เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการ แล้วค้นพบช่องทางการติดต่อของผู้จัดการฝ่ายขายเธอโทรศัพท์ไปผู้ที่ให้คำปรึกษาไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ เมื่อผู้จัดการฝ่ายขายได้ฟังว่าเธอต้องการซื้อรถห้าร้อยคันก็ตกใจอย่างหนักต่อมารู้ว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกร ต้องการสร้างหน่วยขนส่ง เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั่วประเทศจึงตกลงขายให้เธอรถบรรทุกขนาดใหญ่เมื่อลดราคาแล้ว ขายให้เธอในราคาคันละหนึ่งล้านแปดแสนบาททั้งหมดก็เก้าร้อยล้านบาท!เดิมทีผู้จัดการฝ่ายขายจะให้คนขับรถของหน่วยขนส่งของเธอมาขับรถบรรทุกกลับไปแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเย่มู่มู่จะให้อีกฝ่ายเป็นคนส่งมาคนขับรถบรรทุกห้าร้อยคน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นโรงงานก็จัดการได้ยากมากเย่มู่มู่บอกว่าสามารถจ่ายเงินเดือนให้เป็นสองเท่าได้ แต่ต้องขับรถมาที่นี่!สุดท้ายผู้จัดการก็ตอบตกลงมีเงินเดือนสองเท่า ทั้งยังเบิกเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้ว!เย่มู่มู่จ่ายเงินมัดจำ...ผู้จัดการบอกว่ารถห้าร้อยคันมีอยู่ในสต็อก พรุ่งนี้จะส่งมาให้เธอให้เธอหาสถานที่สำหรับจอดร
ของสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในหอนิทรรศการขนาดใหญ่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในบรรดาสมบัติล้ำค่าของด่านเจิ้นกวนที่มั่วฝานส่งมา จะมีของสิ่งนี้อยู่ด้วยเย่มู่มู่ให้หลูหมิงและหลูซี ดึงกระถางสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ออกมา!กระถางสัมฤทธิ์สีเขียว หูลวดลายมังกร ด้านบนแกะสลักลวดลายโบราณที่ซับซ้อนเธอนำกระถางสัมฤทธิ์วางไว้ใต้แสงไฟ มองเห็นว่าด้านล่างของกระถางสัมฤทธิ์มีอยู่ตัวอักษรอยู่แน่นขนัด มองดูจากสายตามีประมาณ 1000 กว่าตัวอักษรเย่มู่มู่ถามลู่หมิง “พวกเจ้ารู้จักตัวอักษรที่อยู่ด้านบนนี้ทั้งหมดหรือไม่!”เธอเพียงแค่ถามไปอย่างนั้นเอง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะรู้จักตัวอักษรภาพพวกนี้ และแปลออกมาให้เธอกระถางสัมฤทธิ์นี้ไม่ได้หล่อขึ้นในราชวงศ์ต้าฉี่ แต่จักรพรรดิองค์แรกของต้าฉี่ ทำศึกสงครามไปทั่วสารทิศ และได้สังหารราชาของชนเผ่าเล็ก ๆ ผู้หนี่งในเวลานั้นชนเผ่ากำลังขอฝน และกระถางสัมฤทธิ์ที่ใช้ในการขอฝนก็คือกระถางใบนี้ต่อมากระถางสัมฤทธิ์ใบนี้ก็ถูกเก็บไว้ในพระคลังของวังหลวงหลายปีต่อมา ไทเฮาทรงเข้าไปตรวจสอบในพระคลัง และพบกระถางสัมฤทธิ์ที่ถูกผู้คนเพิกเฉยใบนี้เข้า จึงมอบมันให้กับบ้านมารดาตระกูลมั่วไปเสียตระกูลมั่ว
ที่บันทึกไว้บนกระดาษเป็นอาวุธทั้งหมด เริ่มต้นที่จำนวนสามแสน...เมื่อมองเห็นจำนวนที่น่าตกใจเช่นนี้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็เบิกกว้างจ้านเฉิงอิ้นรับกระดาษแผ่นนั้นมาเมื่อเขามองไปที่ตัวเลขที่อยู่บนนั้น ทั่วทั้งร่างก็สั่นเทาโดยฉับพลัน!ต่อให้เย่มู่มู่ส่งเสบียงให้กับพวกเขามานับครั้งไม่ถ้วนส่งธัญพืชกับสรรพาวุธมาอย่างไม่ขาดสายปริมาณที่ส่งมาในแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่นดาบม่อเตา ที่จะส่งมาสองถึงสามหมื่นเล่ม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่มากที่สุด เริ่มต้นที่ห้าหมื่นเล่มและตอนนี้ท่านเทพปูพื้นสิ่งของที่ส่งมาทั้งหมดไว้ที่สามแสนสามแสน! นางรวมทหารใหม่ทั้งหมดเข้าไปด้วย!หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน สามแสนคันลูกธนู สิบล้านดอก...ลูกธนูสามารถเก็บกลับมาใช้ใหม่ได้ ทว่าก็สามารถเสียหายได้เช่นกัน และมีอัตราการเสื่อมที่สูงมากดาบม่อเตา สามแสนเล่มดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง สามแสนเล่มหอก ปืนยาว โล่ และเกอ...อาวุธจำพวกนี้เริ่มต้นที่ห้าหมื่นและยังมีชุดเกราะอีกสามแสนชุด!เกราะกันกระสุนสามแสนเกราะกันกระสุนแบบเต็มรูปแบบ เป็นของดียิ่งนักเมื่อทหารอยู่ในสนามรบอัตราการรอดชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมากและที่ทำให้ทุกคนซาบซึ้งใ
ฮ่องเต้น้อยเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างที่มีเพื่อที่จะเอาชนะเขา พวกเขาล้วนคิดเช่นนั้น ผู้คนจำนวนมากล้อมปราบ แม้ว่าจ้านเฉิงอิ้นจะเก่งกาจสักเพียงใดก็ยากที่จะหนีพ้นพวกเขาไม่เคยศึกษาเรื่องราวในอดีต รวมถึงจุดหักเหในทุก ๆ โชคชะตาของจ้านเฉิงอิ้นเลยตั้งแต่แรก ไม่รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเขาเลยแม้แต่น้อยพวกเขาคิดว่าสามารถเอาชนะได้ด้วยจำนวนคนพวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นต่ำไปตามที่กล่าวไว้ในจดหมาย อีกภายในสามวันกองทัพจะบุกประชิดชายแดนที่นี่ไม่ใช่ด่านเจิ้นกวนแต่เป็นเชิงเขาของภูเขาเหมืองไม่มีกำแพงเมืองสูงตระหง่านสกัดกั้น ไม่มีกองทัพคอยเตรียมพร้อมที่คอยเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาแม้แต่กำแพงเมืองที่สร้างขึ้นมาอย่างเร่งรีบยังเตี้ยมากถึงเพียงนี้ ไม่มีผลในการป้องกันอันใดและกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นก็มีคนเพียงแค่ห้าหมื่นคนเท่านั้น ต่อให้รวมกับทหารใหม่เข้าไปแล้ว อย่างมากก็มีเพียงหนึ่งแสนคนเท่านั้นทว่าบรรดาทหารใหม่ที่หลบหนีมาตลอดทางจนมาถึงที่นี่ ส่วนใหญ่ทำศึกสงครามเป็นครั้งแรก พวกเขาไม่มีประสบการณ์เลยแม้แต่น้อยทหารที่สามารถต้านทานศัตรูภายนอกได้ มีเพียงกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ
หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ
“พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท
เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง