“แต่ท่านแม่ทัพวางใจเถิด เขาสู้ท่านไม่ได้หรอก!”หยางชิงเหอคิดถึงอนาคตที่มู่ฉีซิวจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแย่งชิงบัลลังก์...ความฝันอันสวยงามของเขาถูกจ้านเฉิงอิ้นทำลายตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้นเพียงคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็มีความสุข“ท่านแม่ทัพ ท่านกลับไปเถิด พรุ่งนี้พวกเราจะเลือกฤกษ์งามยามดี แล้วลองเผาหม้อน้ำกัน!”“ได้!”คืนนี้ หวังเซิ่งกอดดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังนอนเฝ้าหน้ากระโจมของหยางชิงเหอทั้งคืนอีกสี่คนที่อยู่กับเขาก็ไม่ได้หลับเช่นกันคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้แม่นางหยางก็จะจากไปแล้วพวกเขาจะปล่อยให้เกิดเรื่องกับนางอีกไม่ได้ จะต้องส่งนางกลับไปอย่างปลอดภัย*วันรุ่งขึ้น ประชาชนต่างก็วุ่นวายตั้งแต่เช้าตรู่ขนแร่จากภูเขาแร่และใส่ลงในหม้อน้ำขนาดใหญ่ใต้หม้อน้ำมีการจุดไฟเผาถ่านหิน...เนื่องจากถ่านหินเป็นก้อนเล็ก จึงใช้เวลานานกว่าจะลุกไหม้จนแดงปล่องควันหนึ่งเริ่มมีควันดำลอยขึ้นมาตามมาด้วยปล่องที่สอง สาม และสี่...ปล่องควันทั้งสี่ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้า ต่างพ่นควันดำออกมาถ่านหินลุกไหม้จนแดงช่างตีเหล็กต่างตักแร่ใส่หม้อน้ำทีละพลั่วหลังจากการเผาไหม้หลายชั่วยาม หม้อน้
ในขณะที่ทุกคนกำลังโห่ร้องยินดี...หยางชิงเหอกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องตีขึ้นรูปใหม่ แค่เทเหล็กหลอมลงในแม่พิมพ์ แล้วเปิดออกก็จะได้ดาบเล่มใหม่แล้ว”“เพียงแต่ว่า โรงงานถลุงเหล็กแห่งนี้ เดิมทีผลิตมีดทำครัว ซึ่งมีดทำครัวนั้นมีความเหนียวและความแข็งแกร่งสูง โดยเฉพาะมีดทำครัวในยุคแปดศูนย์ ทนทานมาก”“หากเราเปลี่ยนแม่พิมพ์เป็นดาบม่อเตา ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง หรือกระบี่...”“ก็จะสามารถผลิตออกมาได้อย่างไม่ขาดสาย คนงานเพียงแค่ร่วมแรงกันเปิดแม่พิมพ์ออกเท่านั้นก็พอ”“แม่พิมพ์นี้ต้องขนส่งมาจากยุคปัจจุบัน และต้องทำให้มันเข้ากับเครื่องจักรด้วย ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก!”เธอหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น~เธออยู่ในกองทัพตระกูลจ้านมานานพอสมควร จึงรู้เรื่องราวเบื้องลึกอยู่บ้างเช่น สิ่งของจากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าจ้านเฉิงอิ้นสามารถเชื่อมต่อระหว่างยุคปัจจุบันและยุคโบราณได้!แต่เป็นเพราะเขามีแจกันที่สามารถเชื่อมต่อกับยุคปัจจุบันได้...มีหญิงสาวคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เป็นลูกเศรษฐี คอยส่งเสบียงมาให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องข้อเรียกร้องเดียวคือจ้านเฉิงอิ้นต้องรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นหญิงสาวคนนั้นช่างใจดีเหลือเกิน ส่งทั้งน้ำ
เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับ 985 ผ่านไป 10 ปี ไม่รู้ว่าความสามารถในการแข่งขันในตลาดยังคงมีอยู่หรือไม่มิเช่นนั้น เธอคงต้องหารายได้สักหน่อยก่อนกลับไปถ้าไม่ได้จริง ๆ คงต้องนำวัตถุโบราณไปขายจะกลับไปยุคปัจจุบันมือเปล่าไม่ได้เด็ดขาดมิฉะนั้น สิบปีของวัยสาวจะสูญเปล่า เงินเก็บก็ไม่มี บ้านก็ซื้อไม่ได้ ข้าวก็ไม่มีจะกินแล้วจะกลับไปทำไมกัน!ถ้าเกิดพ่อแม่ถามขึ้นมาว่า สิบปีที่ผ่านมาเธอหายไปไหนจะตอบอย่างไร?เธอพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นว่าในคลังยังมีแม่พิมพ์เก่าอยู่ หากจะสร้างใหม่คงจะยุ่งยาก แต่ข้าสามารถสอนพวกท่านลับแม่พิมพ์ได้!”“แม่พิมพ์นั้นแข็งมาก แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ยังต้องใช้เครื่องจักรกลในการผลิต!”“ข้าจะช่วยพวกท่านสร้างแม่พิมพ์หัวลูกศรของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ท่านจะให้เงินข้าสักหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะได้เลื่อนเวลากลับไปอีกสักสองสามวัน!”เหล่าแม่ทัพต่างเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัยเดิมทีพวกเขาอยากจะรั้งตัวแม่นางหยางไว้สักระยะหนึ่งแต่เมื่อได้เอ่ยปากสัญญาว่าจะส่งนางกลับในตอนค่ำไปแล้วตอนนี้เมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเขาก็ไม่อาจกลับคำพูดได้ตอนนี้แม่นางหยางเอ่ยปา
จ้านเฉิงอิ้นก็ตกตะลึงกับราคาบ้านที่หยางชิงเหอพูดถึงเช่นกันไม่คิดว่าโลกของท่านเทพ ราคาบ้านจะสูงลิ่วเช่นนี้หากเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น แล้วซื้อบ้านไม่ได้เล่า?เขาจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอนท่านเทพจะยังคบหากับเขาอยู่หรือไม่?ไม่ได้ เขาต้องเก็บเงินส่วนตัวไว้บ้าง จะได้ซื้อบ้านได้จะย้ายไปแล้วกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนไม่ได้เด็ดขาด!เขากล่าวว่า “ได้ หากเจ้าตกลงจะอยู่ต่อหนึ่งปี ข้าจะบอกท่านเทพให้เงินเดือนปีละสิบห้าล้านให้เจ้า! พร้อมทั้งสวัสดิการห้าอย่าง”“หากภายในหนึ่งปีเจ้าทำได้ดี ข้าจะให้รางวัลพิเศษเป็นทองคำหนึ่งหีบ”หยางชิงเหอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่งสิบห้าล้าน แถมด้วยทองคำอีกหนึ่งหีบฮ่า ฮ่า ฮ่า รวยแล้ว!แค่ปีเดียวเอง เธอทำงานให้กับมู่ฉีซิวมาสิบปี มู่ฉีซิวไม่เคยให้สิ่งใดตอบแทนเลยสักอย่างเงินเก็บที่เธอสะสมได้มาจากการทำลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งขาย ให้เสี่ยวเถาแอบนำไปขาย ถึงได้เงินมาบ้างแต่ลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งก็ถูกมู่ฉีซิวค้นพบอย่างรวดเร็ว เขาข่มขู่ให้เธอมอบสูตรให้ และยังห้ามไม่ให้เธอขายข้างนอกอีก เพราะจะไปรบกวนราคาตลาดของเขาและยังสัญญาว่าจะแบ่งผลก
เขาส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้เย่มู่มู่รายการสิ่งของที่หยางชิงเหอต้องการ ทั้งหมดถูกเขียนไว้อย่างครบถ้วนเย่มู่มู่ได้รับกระดาษแผ่นนั้น ก็เปิดออกดูดวงตาก็เบิกกว้าง“สายพานลำเลียงแร่...”ไม่เคยเห็นมาก่อน!“แม่พิมพ์ แม่พิมพ์สำหรับผลิตดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง!”เจ้าของโรงงานผลิตของเลียนแบบโบราณ จะเปิดเผยความลับทางการค้าให้เธอเหรอ?“เชือกลวดเหล็ก อะไรนะ? หลายพันเมตร?”เธอจะไปหาซื้อที่ไหน?“โรงไฟฟ้าดีเซลขนาดเล็ก...”ถ้าเธอมีของแบบนี้ จะต้องซื้อเครื่องปั่นไฟทำไม?“สายไฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัวต้านทานไฟฟ้า อุปกรณ์ต่อสาย ท่ออ่อน...”ของพวกนี้ดูเหมือนจะหาซื้อได้ตามท้องตลาด!และหยางชิงเหอก็ได้วาดภาพให้เย่มู่มู่ดูเป็นภาพการขนแร่ลงมาจากยอดเขาใช้ปั้นจั่นหอสูงขนส่งแร่ลงมาทีละตะกร้ายังมีอีกวิธีหนึ่ง คือการขึงเชือกลวดเหล็กไว้บนยอดเขา ใช้รอก และกระบะเลื่อนลงมาจากด้านบนวิธีนี้ยังพอเป็นไปได้มากกว่าปั้นจั่นหอสูง ถึงแม้จะสามารถขนส่งสิ่งของได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะนี้เธอทำเครื่องหมายถูกที่แผนการที่สอง แล้วส่งภาพวาดกลับไปให้จ้านเฉิงอิ้น“แผนการที่สอง ข้าจะหาคนไปทำ!”“จริงสิ หยางชิงเหอไม่ได้บอก
หยางชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางหยุดฝีเท้ามู่ฉีซิวถึงกับจะร่วมมือกับฮ่องเต้ แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน เพื่อปราบปรามจ้านเฉิงอิ้น...เรื่องนี้ช่างเหลวไหลสิ้นดีแต่ก็สมจริงอย่างยิ่งเป็นเรื่องที่มู่ฉีซิวสามารถทำได้เขาเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหากสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ตัวฉกาจที่สุดอย่างจ้านเฉิงอิ้นได้ ฆ่าให้ตายตั้งแต่ยังอยู่ในเปลไม่ต้องพูดถึงการร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย ต่อให้ต้องไปเป็นชายบำเรอของฮ่องเต้น้อย เขาก็คงจะยอมเขารู้ว่าในโลกนี้ เขาไม่ใช่ผู้ข้ามกาลเวลามาเพียงคนเดียวหยางชิงเหอก็ใช่จ้านเฉิงอิ้นก็ใช่~เขาเห็นโรงงานถลุงเหล็กที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ในใจคงจะหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมถึงได้ร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย!เนื่องจากมีจดหมายลับส่งมา เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว จวงเหลียง เซี่ยเวย จ้าวเฉียน และคนอื่น ๆ...เมื่อได้รับข่าว ก็มายังเรือนพักชั่วคราวของจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายลับให้พวกเขาดูเฉินขุยอ่านก่อนเป็นคนแรกทันใดนั้น ความโกรธก็พุ่งขึ้นถึงกระหม่อม!“ข้าจะนำคนกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ยิงไอ้สุนัขเนรคุณนั่นให้ตาย! ท่านแม่ทัพอุตส่าห์ช่วยเขาปราบปรามกองทัพธงเห
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!
จ้านเฉิงอิ้นมองดูกระดาษที่เย่มู่มู่ส่งกลับมา นางไม่เสียดายคำชมแก่หยางชิงเหอย้ำแล้วย้ำอีกว่า การที่พวกเขารั้งตัวหยางชิงเหอไว้ได้นั้น เป็นการได้เปรียบอย่างมหาศาลส่วนเครื่องมือนั้นที่ยาว ๆ ตรงๆ...กลับกลายเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นไม่เข้าใจ!ให้เฉินขุยและเฉินอู่ดู ทั้งสองหน้าแดงก่ำ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองภาพวาดนั้นก็แค่ล้อสองล้อ กับเครื่องมือยาว ๆ ตรงๆท่านเทพบอกว่าเป็นอาวุธสังหาร!ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายตอบกลับของเย่มู่มู่ให้หยางชิงเหอดูหยางชิงเหอเห็นว่าเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้าน ก็หัวเราะออกมาทันที จนปากแทบจะฉีกถึงหู“ยี่สิบห้าล้าน ฮ่า ๆ ๆ... เงินซื้อบ้านของฉันรวมได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!”เหล่าแม่ทัพได้ยินก็พากันอุทานราคาบ้านในโลกของท่านเทพ ช่างสูงลิบลิ่วเสียจริงข้าวสองล้านห้าแสนชั่ง ยังซื้อบ้านไม่ได้สักหลัง!เฉินขุยรู้สึกสงสารนางยิ่งนักก่อนตบอกตัวเองพร้อมกล่าวว่า “แม่นางหยาง ท่านแม่ทัพมีเงิน เดี๋ยวจะให้เครื่องประดับแก่เจ้าสักหน่อย เอาไปเถิด จะได้ครบเงินซื้อบ้าน!”เฉินอู่ก็กล่าวว่า “ข้าก็ยังมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้
แม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นหวังให้เขาอย่าเพิ่งมองการณ์ไกล ยึดเมืองหลวงแคว้นฉู่ให้ได้เสียก่อนเมื่อยึดได้แล้ว จงรักษาเมืองไว้ให้มั่นครั้นจ้านเฉิงอิ้นสะสางเรื่องราวในแคว้นต้าฉี่เสร็จสิ้น แคว้นแรกที่จะยกทัพไปตีก็คือต้าฉู่สำหรับกองทัพตระกูลจ้านผู้เกรียงไกรในใต้หล้า การเปิดฉากศึกแรกด้วยชัยชนะอันงดงาม ยึดครองแคว้นต้าฉู่ที่เคยยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งมาไว้ในกำมือ จะเป็นขวัญและกำลังใจอันยอดเยี่ยมแก่เหล่าทหารขณะนั้นเอง พลทหารนายหนึ่งควบม้าเข้ามาหน้าประตู “รายงาน ท่านแม่ทัพใหญ่ มีราชโองการจากฮ่องเต้ขอรับ”บรรดาแม่ทัพต่างลุกขึ้นยืน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์พวกเขาเพิ่งมาถึงที่นี่ได้เพียงสามวัน เมื่อวานเพิ่งสังหารกองทัพธงเหลืองจนสิ้น วันนี้ฮ่องเต้ก็ทรงมีราชโองการมาหรือว่าฮ่องเต้ทรงมีสายลับอยู่ในกองทัพ?ข่าวช่างรวดเร็วเหลือเกินครั้งนี้ กองกำลังรักษาพระองค์เป็นผู้นำขันทีคนสนิทของฮ่องเต้มาอ่านราชโองการด้วยตนเององครักษ์มีจำนวนสองร้อยนาย ขันทีสามคน!เหล่าองครักษ์และขันทีต่างเหลือบมองรถม้าบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเรียงรายอยู่ตามถนนพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ดูไม่ธรรมดาอย่าง
ครั้งก่อนที่เขาส่งเสบียงไปให้ จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้หลี่หยวนจงบุกเข้าไปในพระราชวังต้าฉู่ กวาดล้างจวนขุนนางต่าง ๆ และยึดเมืองหลวงของแคว้นฉู่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?ถ้าเขายังคงโง่เขลารอให้ฉู่อ๋องกลับมา เพื่อที่จะวางระเบิดสังหารเขากลางทางพวกเขาอาจจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นหวังว่าหลี่หยวนจงจะฉลาดพอและยังมีอีกเรื่องหนึ่ง มั่วฝานได้รับจดหมายลับจากด้านเจิ้นกวน!นักฆ่าสองคนที่มั่วฝานส่งไป ฉือซานและฉือลิ่ว เดินทางถึงด่านเจิ้นกวนอย่างราบรื่นพวกเขาจอดรถไว้นอกเมืองก่อน และลอบเข้าไปในเมืองในตอนกลางคืนพวกเขาไม่ได้รบกวนใครขณะเข้าเมือง และตรงไปยังค่ายพักของอดีตลูกน้องสวีหวยสังหารคนไปหลายคนในคืนเดียววันรุ่งขึ้น เมื่ออดีตลูกน้องของสวีหวยตื่นขึ้นมา พบว่ามีแม่ทัพเสียชีวิตถึงสามคน ทุกคนต่างตกตะลึงพวกเขาบอกว่าอู๋ลี่เป็นคนฆ่าคนของพวกเขาแต่คนของอู๋ลี่กลับไม่ยอมรับพวกเขาก็เลยสู้กันอีกจากเดิมที่มีแม่ทัพสิบคน เหลืออยู่เจ็ดคน ในระหว่างการต่อสู้ ก็มีคนถูกฆ่าตายไปอีกสองคนอย่างปริศนาคนที่เหลืออีกห้าคนถึงได้รู้ตัวคนของพวกเขากำลังถูกปองร้าย ถูกลอบสังหาร!พวกเขาไม่กล้าประมาทอีกต่อไป และย
เมื่อเห็นเหวินเหลียนเยว่กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มทำงานบ้าง!อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือได้รับการถ่ายทอดมาในครอบครัว หรือไม่ก็อาจเป็นพรสวรรค์เขาให้เย่มู่มู่ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งก่อนครึ่งหนึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นบริษัทด้านการแพทย์และพลังงานเย่มู่มู่เพิ่งค้นพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บ้านเกิดของเธอจู่ ๆ ก็มีบริษัทหนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งมีธุรกิจทับซ้อนกับกลุ่มฟู่ลี่กรุ๊ปน่าแปลกที่บริษัทนี้ดำเนินกิจการได้ค่อนข้างดีจางเฉินซีกล่าวว่า “รายได้ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นสิบเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อหุ้น”“เมื่อรัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทสำคัญด้านพลังงานใหม่ ราคาหุ้นของบริษัทนี้จะพุ่งสูงขึ้น!”เขาแนะนำให้เย่มู่มู่ซื้อหุ้นของบริษัทนี้อย่างต่อเนื่องเย่มู่มู่จึงมอบบัญชีหุ้นให้เขาจัดการโดยตรงช่วงบ่าย พวกเขายังคงทำงานต่อ แต่เธอจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินค้าที่สั่งไว้เมื่อวานมาถึงแล้ว และส่วนหนึ่งถูกขนส่งไปยังโกด
จางเฉินซีหันกลับไปมองเหวินเหลียนเยว่ พลางยกนิ้วโป้งให้“กล้าทำเรื่องสำคัญขนาดนี้โดยไม่บอกที่บ้านก่อนเนี่ย... เธอมันแน่จริง ๆ”เหวินเหลียนเยว่ยกไหล่ “ก็ไม่นี่คะ ต่อให้พวกเขารู้ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมเธอถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้นะ?”“ก็งานนี้ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ฉันเองนี่นา พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์เขาทั้งนั้น จะกล้าขัดใจได้ยังไง?”จางเฉินซีได้แต่ตอบกลับอย่างขัดเขินว่า “สุดยอด!”ระหว่างขับรถ จางเฉินซีก็เหลือบมองหลูหมิงเป็นระยะหลูหมิงสวมชุดลำลองธรรมดา ๆ บนเสื้อยังมีโลโก้สามร้อยหกสิบองศา ติดอยู่ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไปของรองเท้ายี่ห้อเท่อปู้ดูยังไงชุดนี้ก็ราคาไม่เกินห้าร้อยหยวน“น้องชายคนนี้ชื่ออะไรเหรอ?”หลูหมิงไม่ได้สนใจเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเหลาะแหละไม่น่าไว้ใจความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อจางเฉินซีจึงไม่ค่อยดีนักเย่มู่มู่แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เขาชื่อหลูหมิง เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน!”“ว้าว! บอดี้การ์ดเหรอเนี่ย น้องหลูหมิงฝีมือเป็นยังไงบ้าง? ไว้เรามาประลองกันหน่อยไหม ฉันเองก็เคยได้สายดำเทควันโดนะ!”หลูหมิงที่เงียบมาตลอดทาง จู่ ๆ ก
หลังจากจางเฉินซีเซ็นสัญญาเข้าทำงานแล้ว เลขาที่ผู้อาวุโสมู่แนะนำไว้ก็มาถึงเดิมทีเย่มู่มู่คิดว่า จะเป็นประเภทเดียวกับเวินลี่ เป็นประเภทหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถรอบด้านผู้ที่มาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ากลมเล็ก ใส่แว่นตากรอบดำ สวมเสื้อฮู้ดสีขาว ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษานึกไม่ถึงเลยว่าเลขาจะอาศัยอยู่ในประเทศที่สวยงามในแถบยุโรปมาตั้งแต่เด็ก และเติบโตที่นั่นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายจีนตะวันออก เรียนจบและเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมายชั้นนำ มีใบอนุญาตทนายความความสามารถของเธอสามารถเปิดสำนักงานทนายความได้ด้วยตนเองสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เงียบอย่างมาก หน้าตาน่ารัก และเป็นสาวน้อยที่สวยคนหนึ่งพอพวกเขาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามเย่มู่มู่ไปเมื่อจางเฉิงซีมาถึงที่หน้ารถของเย่มู่มู่ ก็มองเห็นมายบัคแบบโบราณคันหนึ่ง จึงส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ขับรถสับปะรังเคที่เก่าขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”พอเขากล่าวจบ ก็ถูกคุณปู่เขกด้วยไม้เท้าอีกครั้ง“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ต้องขับแล้ว ให้มู่มู่ไป!”“คุณปู่ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่ซื
จางเฉินซีร้องออกมาพลางกล่าวว่า “คุณปู่ คุณปู่โดนเธอล้างสมองยังไงกันครับ ถึงกับให้หลานแท้ ๆ ไปเป็นผู้ช่วยให้เธอ!”ผู้อาวุโสจางโกรธเสียจนเอาไม่เท้าไปเคาะที่ศีรษะของหลานชายคนเล็ก“แกเงียบปากไปเลย แกจะรับปากหรือไม่รับปาก?”“งั้นผมต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงต้องเป็นเธอ!”แน่นอนว่า เขาไม่ได้ไม่ชอบเย่มู่มู่ ผู้เธอเป็นผู้หญิงที่สวย รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบมาโดยกำเนิด ไม่เหมือนกับความงามประดิษฐ์ที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้บุคลิกดี สะอาดใสบริสุทธิ์ทำงานเคียงข้างหญิงสาวที่สวยแบบนี้ คงอารมณ์ดีมีความสุขทุกวันแต่ว่า แค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาละทิ้งชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้อที่เป็นอยู่ในตอนนี้ผู้อาวุโสจางโขกศีรษะจางเฉินซีอีกครั้ง“แกดูตัวเองซิ วัน ๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง ในบัตรของแกมียอดเงินอยู่เท่าไร?”“แกเป็นคนแต่ทำตัวเหมือนหมาไม่มีผิด เอาแต่รูดบัตรเครดิตของพ่อแม่แก มูลค่าของทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของแกก็ติดลบ”“ลองดูมู่มู่ซิ วันนี้เธอโอนเงินหนึ่งหมื่นล้านไปที่บัญชีกองทุนส่วนบุคคล!”“แกเอาแต่พูดว่าอยากจะเข้าบริษัท อยากจะรับช่วงต่อจากพ่อกับแม่ของแก วัน ๆ เอาแต่คุยโม้โอ้อวด แค่เพื่อนเลว ๆ ของแกพวกนั
ไม่เช่นนั้นต่อไปพอทั้งสองคนแบ่งปันของดี ๆ กันแล้ว เขาก็คงจะไม่ได้อะไรทั้งนั้น! “เย่เย่ ตอนนี้คุณก็มีผู้จัดการกับมีเลขาแล้ว ขาดก็แต่ผู้ช่วย วางใจเถอะ ผมช่วยคุณเลือกผู้ช่วยเอาไว้แล้วละ!”“ผมให้คน ๆ นั้นเข้ามาแล้ว จะถึงในอีกครึ่งชั่วโมง ต่อจากนี้ไปหากมีเรื่องอะไร คุณให้ผู้ช่วยเป็นคนไปทำก็พอแล้ว!”เย่มู่มู่ “...”“การศึกษา ความสามารถในการทำงาน และประสบการณ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่พวกเขาแนะนำมา หากคุณไม่พอใจ จะส่งคืนและเปลี่ยนคนก็ได้!”เย่มู่มู่ครุ่นคิด คนของผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสมู่ต่างก็รับเอาไว้ทั้งหมดจึงไม่อาจปฏิบัติต่อผู้อาวุโสจางแตกต่างออกไปได้เธอพยักหน้า “ค่ะ งั้นก็มารายงานตัวได้เลย!”ผู้อาวุโสจางเผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง พลางเหลือบมองไปยังชายชราทั้งสองคนไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประมาณสิบกว่านาที ก็ได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์บินอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้านพักตากอากาศของผู้อาวุโสสวี่เกิดความเคลื่อนไหวขนานใหญ่เมื่อเย่มู่มู่กับผู้อาวุโสทั้งสามคนออกมาดูก็มองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลงจอดตรงลานจอดอย่างมั่นคง มีชายหนุ่มรูปงามสวมชุดนักบินคนหนึ่งลงมากจากภายในห้องโดยสารเขาถอดหมวกกันน็อก
ยังมีสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกไม่กี่อย่าง พวกเขาแบ่งสิ่งของร่วมกันของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งของของแคว้าต้าฉี่ แต่เป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแคว้นไม่กี่แคว้นที่อยู่โดยรอบมีความล้ำค่าและเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางการศึกษาวิจัยอย่างยิ่งเมื่อวานส่งขวัญขวัญให้ฟรี วันนี้ยังส่งของโบราณหนึ่งกล่องมาถึงหน้าประตูอีกสาวน้อยคนนี้รู้จักทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความจริงใจ จนเป็นที่ชื่นชอบของชายชราทั้งหลายแน่นอนว่า ยอดรวมหลังจากการชำระเงินครั้งสุดท้าย เธอทำเงินได้มากกว่าสองหมื่นกว่าล้านบาทสิ่งของในครั้งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ยกตัวอย่างเช่นดาบประจำพระองค์ของฮ่องเต้าแคว้นฉี่ บนโลกนี้มีเพียงดาบประจำพระองค์เล่มนี้เท่านั้นที่มีอายุสองพันหกร้อยกว่าปี บวกกับงานฝีมือตกแต่งที่ประดับประดาด้วยอัญมณีได้อย่างสมบูรณ์แบบหากนำไปประมูล จะต้องมีมูลค่ามากกว่าห้าพันล้านบาทอย่างแน่นอนดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงรู้สึกว่าตนเองทำเงินได้มากแล้วเย่มู่มู่นำเงินหนึ่งหมื่นล้านบาทที่อยู่ในสองหมื่นสามพันล้านบาทให้กับผู้อาวุโสจาง ณ ตรงนั้น เพื่อลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล และให้ผู้อาวุโสจางเป็นผู้ทำการซื้อขายให้กับเธอแน่
ฝักดาบประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า เมื่อดึงฝักดาบออก แสงสีเงินอันเย็นยะเยือกสะท้อนอยู่บนตัวดาบที่ตกแต่งด้วยไหมสีเงิน…ผู้อาวุโสจางอดรนทนไม่ไหว เมื่อหยิบเล่มนี้ดาบขึ้นมาก็มองเห็นด้านบนเขียนเพียงว่า ‘ดาบจงกั๋วกง ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ทรงพระราชทาน’ “ดาบเล่มนี้ฮ่องเต้แคว้นฉู่เป็นผู้ทรงพระราชทาน ฮ่องเต้แคว้นฉู่ทรงพระราชทาน!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เรื่องของคุณผมจะจัดการให้เอง เตรียมเงินเอาไว้ห้าพันล้าน อย่างมากที่สุดครึ่งเดือนผมจะทำให้คุณได้กำไรเป็นเท่าตัว!”เย่มู่มู่ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้ “ขอบคุณมากค่ะผู้อาวุโสจาง!”ผู้อาวุโสสวี่มองดูดาบด้วยใจที่คันคะเยอ เขาก็อยากได้เหมือนกันนี่นาของที่ดีขนาดนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยจะมีของล้ำค่าอยู่ก้นหีบ ทั้งยังเอาเสื้อคลุมสองตัวมาปิดเอาไว้อีกหลอกลวงกันนี่นาผู้อาวุโสจางหัวเราะพลางกล่าวว่า “เบื้องหลังของเหล่าสวี่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก แม้ว่าผมจะมั่งคั่งร่ำรวย ก็เป็นเพียงนักธุรกิจที่ไร้อำนาจเท่านั้น ไม่เหมือนกันกับเขา”“ก่อนที่จะเกษียณ ตอนที่เขาอยู่ที่กองทัพก็เป็นแบบนี้ ลูก ๆ ของเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมืองแล้วก็การทหาร ทั้งยังเชื่