บ้าไปแล้ว!ไอ้หมอนี่บ้าไปแล้วใช่ไหม?! สมาชิกชายสองคนของแก๊งมังกรที่อยู่ทางด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉินก็พากันกลืนน้ำลายหนัก ๆ พวกเขาเห็นคนร้ายบ้าคลั่งที่ชั่วช้าเลวทรามมามากมาย แต่ยังไม่เคยเห็นใครกล้ายั่วยุเหลิ่งหนิงซวงในสถานการณ์แบบนี้เลย อย่าเห็นว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอดูเซ็กซี่น่าหลงใหล แต่พอยัยนี่ลงมือขึ้นมากลับโหดเหี้ยมมากเลยนะ!ไม่นานมานี้ อาชญากรข้ามชาติคนหนึ่งก็ไม่เห็นเหลิ่งหนิงซวงอยู่ในสายตาเหมือนกับฉู่เฉิน ผลคือไม่ถึงสิบนาที เขาถึงขนาดร้องเรียกแม่คุณทูนหัวอ้อนวอนขอชีวิตแล้ว ต่อมา อาชญากรรมข้ามชาติคนนั้นก็ถูกหามขึ้นเปลออกไป ทั่วทั้งร่างแทบจะหากระดูกที่ครบสมบูรณ์ไม่เจอเลยสักชิ้น“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เหลิ่งหนิงซวงหรี่ตาสวย ๆ เล็กน้อย จ้องมองฉู่เฉินอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เดินอยู่บนรองเท้าส้นสูง ก้าวเรียวขายาวที่ขาวนวลดุจหิมะเดินไปหาฉู่เฉินอย่างช้า ๆ “คนสวย ขาคู่นี้ของคุณอย่างน้อยก็มีค่าห้าร้อยล้านเลยนะ”ฉู่เฉินมองเรียวขางามสุดขีดคู่นั้นของเหลิ่งหนิงซวงแล้วเอ่ยประเมินค่าด้วยความจริงใจ “จริงเหรอ?” รอยยิ้มของเหลิ่งหนิงซวงพลันแข็งทื่อ วินาทีต่อมา เธอก็ฟาดขาล
แส้หนังเส้นนี้ย่อมเป็นของวิเศษ เพียงแต่ฉู่เฉินยังมองระดับของมันไม่ออกอยู่ชั่วขณะ ถ้าเกิดโจมตีมาอีกครั้ง ฉู่เฉินไม่มีอะไรป้องกันได้แล้วหากโดนฟาดเข้าไปเต็ม ๆ นั่นก็คงได้ไม่คุ้มเสียแล้ว“อาชญากรฆ่าคนแย่งชิงทรัพย์อย่างคุณ ใกล้จะตายอยู่แล้วยังกล้าปากแข็งอีก!” เหลิ่งหนิงซวงกัดฟันกรอด ตะโกนด่าทอด้วยเสียงเย็นชา“คนสวย พูดจาต้องมีหลักฐานด้วยนะครับ ผมยังบอกได้เลยว่าคุณยั่วยวนผม แล้วคุณจะอธิบายว่ายังไง?”ฉู่เฉินมองเหลิ่งหนิงซวงอย่างเย็นชา เบ้ปากกล่าว “บังอาจ!” เหลิ่งหนิงซวงโกรธจนเจ็บหน้าอก จ้องมองฉู่เฉินอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “กลางวันแสก ๆ ยังฆ่าคนมากมายในตึกเถิงหลง แถมทำร้ายคุณชายใหญ่ตระกูลหลี่อีก นี่ถ้าคุณไม่ได้ฆ่าคนแย่งชิงทรัพย์แล้วจะเป็นอะไร!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็หัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “งั้นคุณไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมทำร้ายเขาทำไม? มีคนนับสิบล้านอยู่เต็มท้องถนน ทำไมผมต้องทำร้ายเขาจนพิการด้วย?” “ถ้าเกิดเป็นเพราะว่าตระกูลหลี่ร่ำรวย เขาทำอะไรก็ถูกหมด งั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่ผมขอเตือนคุณไว้เลยนะ ถ้ากล้าลงมืออีก ผมจะไม่ออมมือเด็ดขาด!” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ไม่ได
ปัง! ประตูห้องทำงานปิดลงอย่างหนักหน่วงทำให้เสิ่นเหว่ยตกใจจนสะดุ้งโหยง ผ่านไปหลายวินาที เขาถึงค่อยชี้ไปที่เหลิ่งหนิงซวงแล้วเอ่ยว่า “เหลิ่งหนิงซวง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”“นี่คุณขัดคำสั่งเหรอ ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที รีบกลับมาเดี๋ยวนี้...”เหลิ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “หัวหน้าเสิ่น ถ้าอยากสอบสวนคุณก็ไปสอบสวนเองเถอะค่ะ”คำพูดต่อต้านประโยคเดียวทำให้เสิ่นเหว่ยถึงกับอึ้งไปแต่ว่าหัวหน้าอย่างเขาล่วงเกินเหลิ่งหนิงซวงไม่ได้จริง ๆ ตระกูลเหลิ่งเป็นตระกูลชั้นสูงในวงการต่อสู้ของเมืองหมอตู อีกทั้งยังมีเส้นสายกับสำนักบำเพ็ญเพียรอีกด้วยคนแบบนี้ไม่ใช่คนที่เขาสามารถจัดการได้ตามใจชอบเรื่องสำคัญที่สุดคือ สิ่งที่เหลิ่งหนิงซวงพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดความแค้นระหว่างฉู่เฉินกับตระกูลหลี่ มีคนรายงานให้เขาทราบอย่างละเอียดตั้งแต่แรกแล้ว หากเรื่องนี้บานปลายยกใหญ่ถึงที่สุดละก็ ต่อให้เขาถูกปลดออกจากงานและโดนสอบสวนลงโทษยังถือว่าเบาไปสำหรับเขาเสิ่นเหว่ยสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินไปมาในห้องทำงานคนอย่างฉู่เฉินไม่ใช่คนที่ส่งคนไปตามใจชอบก็สามารถสอบสวนจนได้ผลลัพธ์ออกมาหากไม่ระวังจนเกิดเรื่องถ
เมื่อกลับไปถึงห้องทำงาน เหลิ่งหนิงซวงรีบค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของกู้รั่วเสวี่ยผ่านเครือข่ายข้อมูลของแก๊งมังกร ก่อนจะโทรไปหากู้รั่วเสวี่ยทันทีทางฝั่งนี้เอง กู้รั่วเสวี่ยเพิ่งกลับมาถึงออฟฟิศของบริษัท เฝ้ารอสายโทรศัพท์จากนายท่านใหญ่กู้ด้วยความกังวลใจอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงริงโทนของโทรศัพท์ดังขึ้นมาถี่ ๆ กู้รั่วเสวี่ยก็รีบรับสายแล้วพูดกับปลายสายว่า “คุณปู่คะ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างคะ?”แต่ปลายสายเงียบไปหลายวินาที ก่อนจะมีเสียงของผู้หญิงที่เหมือนกับกระดิ่งเงินดังขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วยนะคะ คุณกู้ ฉันไม่ใช่ผู้อาวุโสกู้ค่ะ ฉันคือหัวหน้าทีมปฏิบัติการของแก๊งมังกรเมืองหมอตู ฉันชื่อว่าเหลิ่งหนิงซวงค่ะ”“หา?”กู้รั่วเสวี่ยอึ้งไปชั่วขณะ แล้วพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ขะ ขอโทษด้วยค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ?”“คุณไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันได้รับการไหว้วานจากคุณฉู่ให้มาดูแลความปลอดภัยของคุณ คุณฉู่เป็นห่วงว่าคนของตระกูลหลี่จะคิดร้ายกับคุณ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้เลย”กู้รั่วเสวี่ยฟังถึงตรงนี้ก็มึนงงเล็กน้อยคนของแก๊งมังกร?คนของแก๊งมังกรควรช่วยพูดแทนตระกูลหลี่ไม่ใช่เหรอ? ท
เมื่อม่านราตรีคืบคลานลงมา ภายในวิลล่าอวิ๋นเชวี่ยที่อยู่ย่านชานเมืองตะวันตกของเมืองหมอตูก็สว่างไสวไปด้วยแสงไฟภายในห้องโถงใหญ่ นอกจากหลี่เจี้ยนกั๋วแล้ว ยังมีชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทโอต์กูตูร์อีกสองคนทำหน้าเคร่งขรึมมองกู้รั่วเสวี่ยและเหลิ่งหนิงซวงที่ถูกเชือกผูกรอบคอมัดมือไพล่หลังคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลี่เจี้ยนกั๋วก็คือหลี่เจี้ยนเย่ นายท่านรองของตระกูลหลี่ส่วนชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างเขาก็คือหลี่เจี้ยนจวิน บุคคลผู้ทรงอิทธิพลรุ่นที่สองของตระกูลหลี่เมื่อได้ยินว่าหลี่เจี้ยนกั๋วลักพาตัวกู้รั่วเสวี่ยและเหลิ่งหนิงซวงมา สองพี่น้องถึงได้รีบรุดมาตระกูลกู้เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง แม้ว่าอิทธิพลในเมืองหมอตูจะสู้ตระกูลหลี่ไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินได้ง่าย ๆ เหมือนกันส่วนตระกูลเหลิ่งก็เป็นตระกูลที่อยู่ในวงการต่อสู้ท้องถิ่นของเมืองหมอตู เดิมทีเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหลิ่งหนิงซวงเลย ถ้าแม้แต่เธอก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาด้วย ก็เท่ากับว่าตระกูลหลี่ล่วงเกินสองตระกูลใหญ่ในคราเดียว นี่ยังได้อีกเหรอ? “พี่ใหญ่ คนที่ทำร้ายหลานชายไม่ใช่คุณหนูตระกูลกู้ อีกอย่างเหลิ่งหนิงซวงคนนั้นก็เป็นคนของตระก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่เจี้ยนกั๋วก็ได้แต่กัดฟันพยักหน้ากล่าวว่า “พ่อครับ ในเมื่อพูดแบบนี้ งั้นก็เอาตามพ่อ แต่ว่า...”"ไม่มีคำว่าแต่ กฎก็คือกฎ เข้าใจหรือเปล่า?"หลี่หงถูสูดลมหายใจลึก เอ่ยโดยที่ใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็งว่า “ต่อให้จะแก้แค้นให้โย่วถัง แต่เธอก็ตายอยู่ที่ตระกูลหลี่ของเราไม่ได้ ยิ่งตายอยู่ในเมืองหมอตูไม่ได้ด้วย”"แกเข้าใจหรือเปล่า?"อ้อ!หลี่เจี้ยนกั๋วถึงค่อยตระหนักได้ ก่อนจะตบหน้าผากแล้วพูดว่า “ทั้งหมดเป็นเพราะผมถูกความโกรธครอบงำจนขาดสติ ผมวู่วามเกินไป เดี๋ยวผมจะติดต่อคนของตระกูลเหลิ่ง ปล่อยตัวคนทันที”พอได้ยินคำพูดนี้ หลี่หงถูถึงค่อยพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วเอ่ยว่า “นี่สิถูกต้อง ทุกเรื่องต้องรู้จักค่อย ๆ ดำเนินการ ความวู่วามจะทำให้แกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากขึ้นเท่านั้น”“เอาละ เรื่องต่อจากนี้ พวกแกพี่น้องก็จัดการกันตามสมควรเถอะ พ่ออยู่ที่นี่นานไปก็ไม่เหมาะสม”หลี่หงถูกล่าวจบก็กำชับอีกสองสามประโยค จากนั้นถึงค่อยพาบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังออกไปจากวิลล่าอวิ๋นเชวี่ยคืนนั้นเอง เหลิ่งหนิงซวงก็ถูกพาตัวกลับไปยังตระกูลเหลิ่ง แม้ว่าเธอจะพยายามโต้แย้งด้วยเหตุผล แต่ก็ถูกผู
เวลานี้ เสิ่นเหว่ยที่กำลังเดินไปมาในห้องทำงาน ครุ่นคิดแผนการในใจว่าควรจะงัดปากของฉู่เฉินอย่างไรเพื่อให้เขายอมรับสารภาพโดยเร็วที่สุดในตอนนี้เอง เสียงริงโทนของโทรศัพท์พลันดังขึ้นมาถี่ ๆ จากในลิ้นชักเสิ่นเหว่ยขมวดคิ้ว เปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินออกมาแล้วมองดูหมายเลขที่โทรเข้ามาแวบหนึ่งเมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เขาก็กดปุ่มปฏิเสธสายทันที แต่พอกำลังคิดจะวางโทรศัพท์กลับไปที่ลิ้นชัก เสียงริงโทนก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปฏิเสธสายติดต่อกันสี่ห้าครั้ง ในที่สุดเสิ่นเหว่ยก็รับสายด้วยใบหน้าเหลืออด“คุณฉู่เหรอครับ? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ?”เพิ่งจะรับสายโทรศัพท์ เสียงที่ฟังดูร้อนใจดั่งไฟเผาของถานเฟยก็ดังมาจากปลายสาย“คุณฉู่เหรอ? เหอะ!”เสิ่นเหว่ยแค่นเสียงเยาะ แล้วพูดใส่ไมโครโฟนว่า “ต่อไปจะไม่มีคุณฉู่อะไรอีกแล้ว อย่างมากอีกสามวันเขาก็จะเป็นศพ! เทศกาลเชงเม้งปีหน้าก็ไปเผากระดาษที่หลุมศพให้เขาละกัน!”เสิ่นเหว่ยพูดจบก็วางสายทันทีอะไรนะ?ถานเฟยนึกว่าตัวเองฟังผิดไป เขาขมวดคิ้วแล้วโทรศัพท์ไปหาฉู่เฉินอีกครั้งเสิ่นเหว่ยเพิ่งจะวางโทรศัพท์กลับไปไว้ในลิ้นชัก เมื่อเสียงริงโ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสั้น ๆ เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธลำหนึ่งก็ค่อย ๆ ลงจอดในลานกว้างของสำนักงานใหญ่แก๊งมังกรเมืองหมอตูเสิ่นเหว่ยที่กำลังใคร่ครวญทุก ๆ ด้าน ได้ยินเสียงดังสนั่นยกใหญ่ก็ตกตะลึงไปเช่นกันเขามองลงไปจากหน้าต่าง เห็นเพียงเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่มีตราสัญลักษณ์ของแก๊งมังกรลำหนึ่งจอดอยู่ในลานกว้าง เขาก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้แต่ในขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น ก็มีเสียงดังลั่นเข้ามา ประตูห้องทำงานถูกถานเฟยเตะกระเด็นทันที! “พวกนายเป็นใคร!”เสิ่นเหว่ยสะดุ้งตกใจยกใหญ่ วันนี้ช่างประหลาดจริง ๆ เมื่อกี้โดนเหลิ่งหนิงซวงเตะประตูห้องทีหนึ่ง ตอนนี้ก็โดนคนแปลกหน้าหลายคนเตะประตูห้องอีกห้องทำงานของเขาใกล้จะเป็นตลาดที่ไม่ว่าใครก็เข้าออกได้ตามใจชอบเหรอ?“ฉันเป็นใครเหรอ?”ถานเฟยหน้าแดงก่ำ ยื่นมือไปชักปืนพกออกมาจากเอว แล้วปลดเซฟดังแกรก เล็งไปที่ต้นขาของเสิ่นเหว่ยแล้วยกมือยิงไปหนึ่งนัด!ปัง!เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วทั้งตึกสำนักงาน!เสิ่นเหว่ยถูกยิงเข้าที่ขาโดยไม่ทันตั้งตัวเลย เขาเจ็บจนส่งเสียงร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด“บอกมา! ตอนนี้ฉู่เฉินอยู่ที่ไหน! ถ้ากล้าเสียเวลาอีกสักวินาทีเดียว ฉันแม่งจะ
โรคที่เธอเป็นอยู่ เธอรู้ดีว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลา ณ ตอนนี้งั้นก็หมายถึงฉู่เฉินต้องแพ้พนันอย่างแน่นอน แล้วยังต้องคุกเข่าโคกศีรษะให้คนแซ่หลี่อีกคิดได้ดังนั้น หญิงวัยกลางคนรีบเก็บข้อมือกลับมาแล้วลุกขึ้นกล่าว “คุณหมอ น้ำใจของคุณฉันรับด้วยใจได้ แต่...ฉันไม่อยากเป็นให้คุณลำบาก” “อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาขุดหลุมดักรอให้คุณกระโดดลงไป คุณอย่าได้รักษาฉันอีกเลย”ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคนแล้ว บรรดาผู้ชมนับหมื่นก็พากันพยักหน้าใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผู้ป่วยผิวหนังพุพองทั้งร่างจะไปรักษาให้หายทันทีในการแข่งขันนี้ได้ยังไงกันว่าก็ว่าเถอะ ขนาดฟางอวี่เจิ้งยังออกมายืนกรานตั้งข้อสงสัยเลย ขอแค่ฉู่เฉินพยักหน้า แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการแข่งขันก็ยังสามารถเปลี่ยนผู้ป่วยคนใหม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ กดบ่าของหญิงวัยกลางคนให้เธอนั่งลง และเอามือไพล่หลังข้างเดียว กล่าวเนิบๆว่า “ถ้าเพื่อชัยชนะ ที่จริงผมจะเปลี่ยนคนไข้ก็ได้ หรือเปลี่ยนหัวข้อก็ได้” “แต่คนเป็นหมอต้องมีเมตตา” “ถ้าที่ผมพูดไม่ผิดละก็ คุณได้ฝากความหวังครั้งสุดท้ายกับการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้แล้ว ถ้าผมปฏิเสธที่จะรักษาคุณเ
ว่ากันตามกฎการแข่งขันรอบสอง ไม่ว่าใครจับฉลากได้ผู้ป่วยแบบไหนก็ต้องรักษาในตอนนั้นและที่นั่นเลยแต่ผิวหนังที่เปื่อยพุพองทั้งร่างแบบนี้ไม่ใช่จะสามารถรักษาให้หายได้ภายในเวลาอันสั้นได้เลย แม้แต่ครึ่งเดือนการที่จะรักษาหญิงวัยกลางคนผู้นี้ให้หายได้คงเป็นเรื่องปาฏิหาริย์“ทำไมถึงมีผู้ป่วยลักษณะนี้ได้”ฮว่าจิ่วหยางมองไปยังพวกจางเสวี่ยเหยียนและเฝิงว่านชางด้วยความสับสนตามกฎการแข่งขันแพทย์แผนจีนก่อนหน้า ผู้ป่วยที่ถูกเลือกมาก็มีเงื่อนไขการเลือกคือต้องป่วยเป็นโรคในลักษณะที่สามารถรักษาให้หายในตอนนั้นได้เลยแต่ผู้ป่วยตรงหน้านี้ผิดกฎอย่างเห็นได้ชัด“เอ่อ...”จางเสวี่ยเหยียนหันหน้าไปมองถังจิ้งจือที่อยู่ด้านข้างพร้อมขมวดคิ้วกล่าว “ท่านถัง ผู้ป่วยลำดับหลังจากร้อยเป็นต้นไป น่าจะเป็นคุณที่ตัดสินใจเองสินะ?”“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ไม่เพียงแต่จางเสวี่ยเหยียนที่ไม่สบอารมณ์ แม้แต่หลินจื้อหงกับเฝิงว่านชางก็ล้วนมีสีหน้าเหยเกสุดๆฟางอวี่เจิ้งก็กำลังเดินมือไพล่หลังจากเก้าอี้กรรมการมุ่งไปกล่าวกับพิธีกร “ขอหยุดการแข่งขันสักครู่”เจียงถิงพยักหน้ารัวๆ แล้วถอยไปยืนข้างฉู่เฉินพร้อมกระซิบพูดคุยกับฉู่เฉินฉากตรงหน
ทันทีที่ฉู่เฉินพูดออกมา ถังจิ้งจือรู้สึกหนักอึ้ง จ้องเขม็งฉู่เฉินด้วยใบหน้าที่อัปลักษณ์สุดขีดฮว่าจิ่วหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างจ้องมองไปทางถังจิ้งจือแล้วขมวดคิ้วถ้าบอกว่าเขาถูกท่านหลงขับไล่จากสำนัก งั้นก็หมายความว่าได้สูญสิ้นรัศมีคุ้มครองจากท่านหลง แล้วถังจิ้งจือมีสิทธิ์อะไรได้เป็นกรรมการพิเศษล่ะแต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากท่านหลง ฮว่าจิ่วหยางเลยไม่พูดอะไรให้มากความในเวลานี้แต่หลังจากนี้เขาต้องตามสืบเรื่องนี้ต่อไปหากถังจิ้งจือปกปิดขึ้นมาจริง ฮว่าจิ่วหยางย่อมไม่เกรงใจอีกต่อไป จะนำเรื่องนี้ไปรายงานต่อสมาคมแพทย์แผนจีนทันที และยื่นเรื่องปลดและแบนคุณสมบัติสายอาชีพแพทย์ของถังจิ้งจือไม่ให้ผุดให้เกิดเลย“รีบหน่อย ทุกคนรอแกอยู่นะ”ฉู่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าเริ่มรำคาญหลี่จวิ้นเฟิงโมโหตาถลนแทบจะพ่นไฟออกมาแต่อยู่ต่อหน้าผู้คนในสนามนับหมื่น และอยู่ต่อหน้าผู้คนในห้องถ่ายทอดสดนับพันนับหมื่นคน เขาจะถอยหนีก็หนีไม่ได้เพราะถึงยังไงเมื่อกี้เขาก็รับปากเอง หลังจากแพ้ฉู่เฉินจะทำเป็นไม่รักษาสัญญาก็ไม่ได้ไหมล่ะ“พวกแกก็เห็นกันแล้ว นี่เป็นคนจากสำนักหมอ พูดจาเหมือนกับผายลม ไม่รู้เลยจริงๆว่าสำนั
จางเสวี่ยเหยียน หลินจื้อหง เฝิงว่านชางพากันอ้าปากค้างเมื่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าถังจิ้งจือมองจนสมองทึบไปเลยเทพจริงๆแม้แต่เข็มเงินในมือหลี่จวิ้นเฟิงที่ยังไม่ทันได้ปล่อยออกไปก็ตกลงพื้นจนได้ยินเสียงหลิ่วหรูเยียนถึงกับยืนขึ้นพรวด มองหุ่นทองแดงข้างหน้าฉู่เฉินด้วยสายตาเหลือเชื่อ จากนั้นตะโกนออกมาอย่างลืมตัว “โกง! เขาต้องโกงแน่”สายตานับไม่ถ้วนในสนามกีฬามโหฬารแห่งนี้จ้องไปหลิ่วหรูเยียนราวกับมองคนบ้าหลิ่วชิงเหอรีบดึงหลิ่วหรูเยียนไว้พร้อมกล่าว “หรูเยียน อย่าเหลวไหล รีบนั่งลง”หน้าอกของหลิ่วหรูเยียนกระเพื่อมและสองมือสั่นด้วยความโมโห พูดไม่ออกครู่ใหญ่ สุดท้ายก็นั่งลงที่เดิมอย่างไม่เต็มใจ“ยัยผู้หญิงพวกนี้นี่แม่งโคตรโง่เง่าไหมวะ” “แกก็ลองมาโกงให้ดูดิ” “แม่เอ๊ย คนโง่มีทุกปี ทำไมปีนี้มีเยอะจังวะ”ผู้คนได้สติกลับมาต่างพากันกลอกตาดูแคลนให้หลิ่วหรูเยียนส่วนกู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ช็อกกับกระบวนท่านี้ของฉู่เฉินตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแพ้ชนะธรรมดาแล้ว แต่เป็นการบดขยี้หลี่จวิ้นเฟิงให้จมดินเลยทีเดียว“ว้าว นายท่านเท่ระเบิดไปเลย กระบวนท่าเมื่อกี้แหละ โห นับถือสุดๆ...”ต้วนหลิงเวยม
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉู่เฉินก็เปลี่ยนประเด็นทันที เขายิ้มขึ้นมาอย่างนิ่งๆ “อีกอย่างทำไมหมาถึงกลายเป็นคำด่าล่ะครับ?”“หมามันซื่อสัตย์กับเจ้าของจะตาย เฝ้าบ้าน อีกทั้งคนก็ชอบ ทำไมถึงกลายเป็นเป็นคำดูถูกได้ล่ะครับ?”“หรือว่าคุณและท่านหลี่ดูถูกหมาอย่างนั้นเหรอครับ?”เมื่อคำพูดนี้ออกไป ถังจิ้งจือและหลี่จวิ้นเฟิงก็โกรธจนหน้าซีดเซียวแต่ต่อหน้าชาวเน็ตหลายแสนคน พวกเขาไม่กล้าตอกกลับฉู่เฉินจริงๆใครจะกล้ารับประกันได้ว่าในนี้จะไม่มีคนรักหมา ถ้าสมมุติตกหลุมพรางของฉู่เฉิน แค่คนรักหมาพวกนั้นก็สามารถทำให้พวกเขาสองคนจมดินได้“ถือว่าแกแน่! เดี๋ยวรอคอยดูกัน!”หลี่จวิ้นเฟิงโกรธจนหน้าบูดเบี้ยวไปหมด เมื่อกลับมายังที่เก้าอี้ ก็ปล่อยลมปู๊ดป๊าดออกมาเสียงดังหลายครั้งติดกัน“รอแม่แกสิ! จะตอบหรือไม่ตอบ รีบบอกมาสิ!”ฉู่เฉินลองบนหลี่จวิ้นเฟิง หลังจากนั้นด่าหลี่จวิ้นเฟิงออกไปหลี่จวิ้นเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาว่า “ตกลง! เริ่มการแข่งขันใหม่ตอนนี้เลย!”โมโหแล้วนะ!เขาโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ครั้งแรกที่ถูกด่าอย่างเจ็บแสบแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย แต่กลับตอกกลับไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนก
ไม่เพียงแต่ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกสีหน้าจะดูไม่ได้ แม้แต่กรรมการอย่างจางเสวี่ยเหยียนและคนอื่นๆ ก็สีหน้าไม่ดีเช่นกัน“คุณฉู่ คุณหมายถึง...”เฝิงว่านชางเคยเห็นทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินมาก่อน ดังนั้นเขาจึงหันไปถามฉู่เฉินด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจมากๆ“หึ ฉันว่าเขาฝังไม่เป็นมากกว่า เขาถึงได้พูดจาโอ้อวดแบบนี้”หลิ่วหรูเยียนไม่รอให้ฉู่เฉินปริปากพูด เธอก็สวนขึ้นมาทันทีในตอนนั้นเหล่ามวลชนที่อยู่ทั้งบนและล่างเวทีต่างก็พากันพยักหน้า คิดว่าที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาก็มีเหตุผลตอนนั้นเองผู้ชมในช่องไลฟ์สดของแต่ละแอปก็เริ่มกระหน่ำคอมเมนต์อย่างบ้าคลั่ง “ไอ้เจ้านี่เป็นใครกันเนี่ย มีหน้ามาพูดว่าง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากไม่มีทางฝัง ถ้าแน่จริงแกก็ฝังให้ฉันดูสิ” “ไอ้ห่า โคตรเกลียดไอ้พวกดีแต่ปากแบบนี้จริงๆ !”“ไล่มันลงไปสิ ไอ้คนแบบนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าความรู้ทางการแพทย์ไม่เท่าไหร่หรอก ทำเป็นแค่พูดโม้เท่านั้นแหละ!”ในช่องไลฟ์สด หลายคนที่ไม่เคยเห็นทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินก็ต่างพากันด่าเขา แต่ในขณะเดียวกันคนที่เคยดูการถ่ายสดครั้งก่อนก็คอมเมนต์ให้กำลังใจฉู่เฉิน“พวกคุณไม่เข้าใจหรอก ผู้ชายคนนี้ทักษะการแพทย
ระหว่างที่พูด ถังจิ้งจือก็บอกรายละเอียดกฎกติกาของการแข่งขันอีกครั้งหนึ่งผู้เข้าแข่งขันหลายคนหลังจากที่ได้ยินถังจิ้งจือพูดจบแล้ว มีจำนวนไม่น้อยที่สีหน้าเปลี่ยนไปกฎนี่มันทำให้คนลำบากใจจริงๆ นะภายในสิบนาทีถังจิ้งจือจะบอกจุดฝังเข็มแปดสิบเอ็ดจุด หลังจากนั้นผู้เข้าแข่งขันจะต้องฝังเข็มให้ตรงจุดในหุ่นทองแดง ภายในหนึ่งนาทีหลังจากที่เขาอ่านจบอย่างแรกนั่นคือหุ่นทองแดงนะไม่ใช่หุ่นฟางหมอทั่วไปจะมีพลังมากขนาดนั้นได้ยังไง?อีกอย่างจุดฝังเข็มแปดสิบเอ็ดจุด หากฝังผิดพลาดไปสักจุดสองจุดก็ถือว่าต้องออกจากแข่งขันไป แบบนี้ใครจะมั่นใจได้ล่ะว่าจะไม่ฝังผิดจุด?อัตราการผิดพลาดเกือบจะเป็นศูนย์อย่าว่าแต่พวกเขาที่อึ้งเลย แม้แต่ผู้ชมที่อยู่ข้างล่างเวทีก็อึ้งเช่นกัน“การแข่งขันปีนี้จะยากไปไหม?”“นั่นน่ะสิ นี่มันบีบบังคับกันเกินไปหรือเปล่า? การฝังเข็มบนหุ่นทองแดงพวกนี้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“ใช่น่ะสิ อีกทั้งยังต้องฝังทั้งแปดสิบเอ็ดจุด ถ้าระหว่างกลางคันฝังผิดไปจุดสองจุดก็ถือว่าแพ้ไป นี่มันยากเกินไปจริงๆ”แม้แต่ฮว่าจิ่วหยาง จางเสวี่ยเหยียนและคนอื่นๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นล้วนแต่เป
ฟางอวี่เจิ้งรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลแต่ฉู่เฉินไม่ให้โอกาสเขาเปลี่ยนใจเลย ตอนนี้ฉู่เฉินเดินไปที่โซนพักผ่อนของผู้เข้าแข่งขันทันทีฉิบหายละ!ฟางอวี่เจิ้งรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังเขาสู่บทใหม่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอึดอัดหันหลังไปหาเหล่าสาวงาม “แม่หนู ขออภัยด้วยจริงๆ วันนี้การจัดการที่นั่ง...”“ฟางอวี่ ไม่ต้องให้คุณจัดการหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเราไปนั่งตรงนั้นก็ได้ค่ะ”เจียงอิ่งชี้นิ้วไปทางที่นั่งที่ยังว่างอยู่เป็นแถวยาวที่นั่งตรงนั้นเป็นที่ที่จัดไว้ให้เพื่อนร่วมงานที่แพทย์สภมีที่ว่างพอดี แม้ว่าพวกเขาจะมาแล้ว เจียงอิ่งก็ถลึงตาใส่พวกเขาก็สามารถไล่พวกเขาไปได้แล้วพอพูดถึงตรงนี้ ฟางอวี่เจิ้งก็พูดอะไรไม่ออก เขาทำได้แค่หันหน้าไปมองทางฉู่เฉิน พูดกับตัวเองในใจว่าน้องฉู่เอ๊ย ขอโทษจริงๆ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากจะช่วยนะ แต่ว่ามีคนแทรกน่ะสิขอโทษด้วยจริงๆ ไอ้น้องเมื่อเห็นเหล่าสาวงามนั่งเรียงกันเป็นเป็นระเบียบตรงเก้าอี้ข้างหน้าเขา ฉู่เฉินที่กำลังจะดื่มน้ำก็น้ำพุ่งออกมาจากปากฟางอวี่เจิ้ง!แม่งเรียกว่าแยกพาเธอออกจากกันแล้วเหรอ?งานเลี้ยงจะเริ่มละมั้งเนี่ยหลังจากที่ไร้คำพูดใดๆ ฉู่เฉิน
เมื่อได้ยินเสียงอ่อนหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของกวนเหล่ย ฉู่เฉินก็แทบจะเป็นลมถ้าไม่ผิดจากที่ฉู่เฉินเดา กวนเหล่ย จ้าวเจวียน รวมทั้งโจวน่าสามคนนี้จะต้องยืนห่างจากเขาออกไปเป็นระยะทางหนึ่งขั้นบันไดเป็นแน่ขาเรียวยาวทั้งสามคู่ เครื่องมือสังหารที่น่าภูมิใจทั้งสามคู่ นี่มันปราบผู้ชายได้จำนวนไม่ถ้วนโดยเฉพาะกวนเหล่ยที่วันนี้ตั้งใจใส่ชุดคลุมคอลึกถึงหน้าอก แทบจะปิดหน้าอกเอาไว้ไม่อยู่แล้วใบหน้ารูปไข่นั้นยังใส่แว่นตากรอบสีดำอีกด้วยดวงตาที่น่าดึงดูดใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอยังใส่คอนแท็กต์เลนส์มาอีกด้วย ยั่วยวนไม่มีใครเท่า“พวกเธอมาได้ยังไงกัน วันนี้บริษัทหยุดเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว เขาพูดอย่างจงใจแสดงสถานะของหญิงสาวเหล่านั้น“ใช่น่ะสิคะ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นวันนี้พวกเราก็เลยมาดูความโดดเด่นของประธานฉู่ด้วยกัน พร้อมทั้งมารเป็นกำลังใจให้คุณด้วยค่ะ”กวนเหล่ยกำหมัดเล็ก ๆ แล้วยกหน้าอกขึ้นสูงอย่างภาคภูมิใจคนที่ผ่านไปผ่านมารอบๆ ก็งุนงงไปหมดก็ได้ฉู่เฉินเช็ดเหงื่อ ตอนนี้เขาทำได้อดทนเหตุผลนี้ของกวนเหล่ยไร้ข้อกังขาบางครั้งการที่รอบตัวมีแต่ผู้หญิงก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องดีอะไรฉู