“โดยเฉพาะคุณหนูใหญ่กู้ ทำให้ผมต้องมองใหม่แล้วจริง ๆ” เมื่อได้ยินคำพูดที่แฝงไปด้วยการทิ่มแทงของหลี่เจี้ยนกั๋ว นายท่านใหญ่กู้ก็เอ่ยขอโทษติดต่อกันว่า “ประธานหลี่ ความจริงเรื่องนี้เกิดจากความเข้าใจผิดทั้งนั้น ขอเพียงประธานหลี่ให้ทางแก๊งมังกรของเมืองหมอตูปล่อยตัวคนได้ ตระกูลกู้ของผมยินดี...” “ปล่อยตัวคน? ฮ่า ๆๆ!”จิตสังหารพลุ่งพล่านในดวงตาสองข้างของหลี่เจี้ยนกั๋ว ก่อนที่เขาจะกัดฟันกล่าวว่า “กู้ฉางเหอ ตาแก่ใกล้ลงโลงอย่างคุณให้คนมาทำร้ายลูกชายผมจนใช้การไม่ได้ คุณแม่งยังจะให้ผมปล่อยตัวคนอีกเหรอ?!” “ตระกูลกู้ของพวกคุณรอจัดงานศพให้ไอ้เด็กนั่นเถอะ!” “อีกอย่าง หลานสาวของคุณก็อย่าหวังว่าจะรอดออกจากเมืองหมอตูไปได้เลย!”หลังจากที่ตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว หลี่เจี้ยนกั๋วก็วางสายโทรศัพท์ทันทีแล้วตะโกนไปทางด้านนอกประตูว่า “ใครก็ได้มานี่!”“ครับ!” ชายสวมชุดดำปราดเปรียวที่ดูเฉลียวฉลาดมากความสามารถผลักประตูเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย ก่อนจะเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “คุณหลี่!” “ให้เวลาพวกนายแค่หนึ่งชั่วโมง จับตัวยัยเด็กแซ่กู้คนนั้นไปที่วิลล่าอวิ๋นเชวี่ย!” หลี่เจี้ยนกั๋วกัดฟันตวาดอย่างเกรี้ยวกราด ใบหน้
บ้าไปแล้ว!ไอ้หมอนี่บ้าไปแล้วใช่ไหม?! สมาชิกชายสองคนของแก๊งมังกรที่อยู่ทางด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉินก็พากันกลืนน้ำลายหนัก ๆ พวกเขาเห็นคนร้ายบ้าคลั่งที่ชั่วช้าเลวทรามมามากมาย แต่ยังไม่เคยเห็นใครกล้ายั่วยุเหลิ่งหนิงซวงในสถานการณ์แบบนี้เลย อย่าเห็นว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอดูเซ็กซี่น่าหลงใหล แต่พอยัยนี่ลงมือขึ้นมากลับโหดเหี้ยมมากเลยนะ!ไม่นานมานี้ อาชญากรข้ามชาติคนหนึ่งก็ไม่เห็นเหลิ่งหนิงซวงอยู่ในสายตาเหมือนกับฉู่เฉิน ผลคือไม่ถึงสิบนาที เขาถึงขนาดร้องเรียกแม่คุณทูนหัวอ้อนวอนขอชีวิตแล้ว ต่อมา อาชญากรรมข้ามชาติคนนั้นก็ถูกหามขึ้นเปลออกไป ทั่วทั้งร่างแทบจะหากระดูกที่ครบสมบูรณ์ไม่เจอเลยสักชิ้น“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เหลิ่งหนิงซวงหรี่ตาสวย ๆ เล็กน้อย จ้องมองฉู่เฉินอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เดินอยู่บนรองเท้าส้นสูง ก้าวเรียวขายาวที่ขาวนวลดุจหิมะเดินไปหาฉู่เฉินอย่างช้า ๆ “คนสวย ขาคู่นี้ของคุณอย่างน้อยก็มีค่าห้าร้อยล้านเลยนะ”ฉู่เฉินมองเรียวขางามสุดขีดคู่นั้นของเหลิ่งหนิงซวงแล้วเอ่ยประเมินค่าด้วยความจริงใจ “จริงเหรอ?” รอยยิ้มของเหลิ่งหนิงซวงพลันแข็งทื่อ วินาทีต่อมา เธอก็ฟาดขาล
แส้หนังเส้นนี้ย่อมเป็นของวิเศษ เพียงแต่ฉู่เฉินยังมองระดับของมันไม่ออกอยู่ชั่วขณะ ถ้าเกิดโจมตีมาอีกครั้ง ฉู่เฉินไม่มีอะไรป้องกันได้แล้วหากโดนฟาดเข้าไปเต็ม ๆ นั่นก็คงได้ไม่คุ้มเสียแล้ว“อาชญากรฆ่าคนแย่งชิงทรัพย์อย่างคุณ ใกล้จะตายอยู่แล้วยังกล้าปากแข็งอีก!” เหลิ่งหนิงซวงกัดฟันกรอด ตะโกนด่าทอด้วยเสียงเย็นชา“คนสวย พูดจาต้องมีหลักฐานด้วยนะครับ ผมยังบอกได้เลยว่าคุณยั่วยวนผม แล้วคุณจะอธิบายว่ายังไง?”ฉู่เฉินมองเหลิ่งหนิงซวงอย่างเย็นชา เบ้ปากกล่าว “บังอาจ!” เหลิ่งหนิงซวงโกรธจนเจ็บหน้าอก จ้องมองฉู่เฉินอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “กลางวันแสก ๆ ยังฆ่าคนมากมายในตึกเถิงหลง แถมทำร้ายคุณชายใหญ่ตระกูลหลี่อีก นี่ถ้าคุณไม่ได้ฆ่าคนแย่งชิงทรัพย์แล้วจะเป็นอะไร!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็หัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “งั้นคุณไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมทำร้ายเขาทำไม? มีคนนับสิบล้านอยู่เต็มท้องถนน ทำไมผมต้องทำร้ายเขาจนพิการด้วย?” “ถ้าเกิดเป็นเพราะว่าตระกูลหลี่ร่ำรวย เขาทำอะไรก็ถูกหมด งั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่ผมขอเตือนคุณไว้เลยนะ ถ้ากล้าลงมืออีก ผมจะไม่ออมมือเด็ดขาด!” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ไม่ได
ปัง! ประตูห้องทำงานปิดลงอย่างหนักหน่วงทำให้เสิ่นเหว่ยตกใจจนสะดุ้งโหยง ผ่านไปหลายวินาที เขาถึงค่อยชี้ไปที่เหลิ่งหนิงซวงแล้วเอ่ยว่า “เหลิ่งหนิงซวง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”“นี่คุณขัดคำสั่งเหรอ ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที รีบกลับมาเดี๋ยวนี้...”เหลิ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “หัวหน้าเสิ่น ถ้าอยากสอบสวนคุณก็ไปสอบสวนเองเถอะค่ะ”คำพูดต่อต้านประโยคเดียวทำให้เสิ่นเหว่ยถึงกับอึ้งไปแต่ว่าหัวหน้าอย่างเขาล่วงเกินเหลิ่งหนิงซวงไม่ได้จริง ๆ ตระกูลเหลิ่งเป็นตระกูลชั้นสูงในวงการต่อสู้ของเมืองหมอตู อีกทั้งยังมีเส้นสายกับสำนักบำเพ็ญเพียรอีกด้วยคนแบบนี้ไม่ใช่คนที่เขาสามารถจัดการได้ตามใจชอบเรื่องสำคัญที่สุดคือ สิ่งที่เหลิ่งหนิงซวงพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดความแค้นระหว่างฉู่เฉินกับตระกูลหลี่ มีคนรายงานให้เขาทราบอย่างละเอียดตั้งแต่แรกแล้ว หากเรื่องนี้บานปลายยกใหญ่ถึงที่สุดละก็ ต่อให้เขาถูกปลดออกจากงานและโดนสอบสวนลงโทษยังถือว่าเบาไปสำหรับเขาเสิ่นเหว่ยสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินไปมาในห้องทำงานคนอย่างฉู่เฉินไม่ใช่คนที่ส่งคนไปตามใจชอบก็สามารถสอบสวนจนได้ผลลัพธ์ออกมาหากไม่ระวังจนเกิดเรื่องถ
เมื่อกลับไปถึงห้องทำงาน เหลิ่งหนิงซวงรีบค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของกู้รั่วเสวี่ยผ่านเครือข่ายข้อมูลของแก๊งมังกร ก่อนจะโทรไปหากู้รั่วเสวี่ยทันทีทางฝั่งนี้เอง กู้รั่วเสวี่ยเพิ่งกลับมาถึงออฟฟิศของบริษัท เฝ้ารอสายโทรศัพท์จากนายท่านใหญ่กู้ด้วยความกังวลใจอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงริงโทนของโทรศัพท์ดังขึ้นมาถี่ ๆ กู้รั่วเสวี่ยก็รีบรับสายแล้วพูดกับปลายสายว่า “คุณปู่คะ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างคะ?”แต่ปลายสายเงียบไปหลายวินาที ก่อนจะมีเสียงของผู้หญิงที่เหมือนกับกระดิ่งเงินดังขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วยนะคะ คุณกู้ ฉันไม่ใช่ผู้อาวุโสกู้ค่ะ ฉันคือหัวหน้าทีมปฏิบัติการของแก๊งมังกรเมืองหมอตู ฉันชื่อว่าเหลิ่งหนิงซวงค่ะ”“หา?”กู้รั่วเสวี่ยอึ้งไปชั่วขณะ แล้วพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ขะ ขอโทษด้วยค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ?”“คุณไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันได้รับการไหว้วานจากคุณฉู่ให้มาดูแลความปลอดภัยของคุณ คุณฉู่เป็นห่วงว่าคนของตระกูลหลี่จะคิดร้ายกับคุณ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้เลย”กู้รั่วเสวี่ยฟังถึงตรงนี้ก็มึนงงเล็กน้อยคนของแก๊งมังกร?คนของแก๊งมังกรควรช่วยพูดแทนตระกูลหลี่ไม่ใช่เหรอ? ท
เมื่อม่านราตรีคืบคลานลงมา ภายในวิลล่าอวิ๋นเชวี่ยที่อยู่ย่านชานเมืองตะวันตกของเมืองหมอตูก็สว่างไสวไปด้วยแสงไฟภายในห้องโถงใหญ่ นอกจากหลี่เจี้ยนกั๋วแล้ว ยังมีชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทโอต์กูตูร์อีกสองคนทำหน้าเคร่งขรึมมองกู้รั่วเสวี่ยและเหลิ่งหนิงซวงที่ถูกเชือกผูกรอบคอมัดมือไพล่หลังคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลี่เจี้ยนกั๋วก็คือหลี่เจี้ยนเย่ นายท่านรองของตระกูลหลี่ส่วนชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างเขาก็คือหลี่เจี้ยนจวิน บุคคลผู้ทรงอิทธิพลรุ่นที่สองของตระกูลหลี่เมื่อได้ยินว่าหลี่เจี้ยนกั๋วลักพาตัวกู้รั่วเสวี่ยและเหลิ่งหนิงซวงมา สองพี่น้องถึงได้รีบรุดมาตระกูลกู้เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง แม้ว่าอิทธิพลในเมืองหมอตูจะสู้ตระกูลหลี่ไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินได้ง่าย ๆ เหมือนกันส่วนตระกูลเหลิ่งก็เป็นตระกูลที่อยู่ในวงการต่อสู้ท้องถิ่นของเมืองหมอตู เดิมทีเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหลิ่งหนิงซวงเลย ถ้าแม้แต่เธอก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาด้วย ก็เท่ากับว่าตระกูลหลี่ล่วงเกินสองตระกูลใหญ่ในคราเดียว นี่ยังได้อีกเหรอ? “พี่ใหญ่ คนที่ทำร้ายหลานชายไม่ใช่คุณหนูตระกูลกู้ อีกอย่างเหลิ่งหนิงซวงคนนั้นก็เป็นคนของตระก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่เจี้ยนกั๋วก็ได้แต่กัดฟันพยักหน้ากล่าวว่า “พ่อครับ ในเมื่อพูดแบบนี้ งั้นก็เอาตามพ่อ แต่ว่า...”"ไม่มีคำว่าแต่ กฎก็คือกฎ เข้าใจหรือเปล่า?"หลี่หงถูสูดลมหายใจลึก เอ่ยโดยที่ใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็งว่า “ต่อให้จะแก้แค้นให้โย่วถัง แต่เธอก็ตายอยู่ที่ตระกูลหลี่ของเราไม่ได้ ยิ่งตายอยู่ในเมืองหมอตูไม่ได้ด้วย”"แกเข้าใจหรือเปล่า?"อ้อ!หลี่เจี้ยนกั๋วถึงค่อยตระหนักได้ ก่อนจะตบหน้าผากแล้วพูดว่า “ทั้งหมดเป็นเพราะผมถูกความโกรธครอบงำจนขาดสติ ผมวู่วามเกินไป เดี๋ยวผมจะติดต่อคนของตระกูลเหลิ่ง ปล่อยตัวคนทันที”พอได้ยินคำพูดนี้ หลี่หงถูถึงค่อยพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วเอ่ยว่า “นี่สิถูกต้อง ทุกเรื่องต้องรู้จักค่อย ๆ ดำเนินการ ความวู่วามจะทำให้แกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากขึ้นเท่านั้น”“เอาละ เรื่องต่อจากนี้ พวกแกพี่น้องก็จัดการกันตามสมควรเถอะ พ่ออยู่ที่นี่นานไปก็ไม่เหมาะสม”หลี่หงถูกล่าวจบก็กำชับอีกสองสามประโยค จากนั้นถึงค่อยพาบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังออกไปจากวิลล่าอวิ๋นเชวี่ยคืนนั้นเอง เหลิ่งหนิงซวงก็ถูกพาตัวกลับไปยังตระกูลเหลิ่ง แม้ว่าเธอจะพยายามโต้แย้งด้วยเหตุผล แต่ก็ถูกผู
เวลานี้ เสิ่นเหว่ยที่กำลังเดินไปมาในห้องทำงาน ครุ่นคิดแผนการในใจว่าควรจะงัดปากของฉู่เฉินอย่างไรเพื่อให้เขายอมรับสารภาพโดยเร็วที่สุดในตอนนี้เอง เสียงริงโทนของโทรศัพท์พลันดังขึ้นมาถี่ ๆ จากในลิ้นชักเสิ่นเหว่ยขมวดคิ้ว เปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินออกมาแล้วมองดูหมายเลขที่โทรเข้ามาแวบหนึ่งเมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เขาก็กดปุ่มปฏิเสธสายทันที แต่พอกำลังคิดจะวางโทรศัพท์กลับไปที่ลิ้นชัก เสียงริงโทนก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปฏิเสธสายติดต่อกันสี่ห้าครั้ง ในที่สุดเสิ่นเหว่ยก็รับสายด้วยใบหน้าเหลืออด“คุณฉู่เหรอครับ? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ?”เพิ่งจะรับสายโทรศัพท์ เสียงที่ฟังดูร้อนใจดั่งไฟเผาของถานเฟยก็ดังมาจากปลายสาย“คุณฉู่เหรอ? เหอะ!”เสิ่นเหว่ยแค่นเสียงเยาะ แล้วพูดใส่ไมโครโฟนว่า “ต่อไปจะไม่มีคุณฉู่อะไรอีกแล้ว อย่างมากอีกสามวันเขาก็จะเป็นศพ! เทศกาลเชงเม้งปีหน้าก็ไปเผากระดาษที่หลุมศพให้เขาละกัน!”เสิ่นเหว่ยพูดจบก็วางสายทันทีอะไรนะ?ถานเฟยนึกว่าตัวเองฟังผิดไป เขาขมวดคิ้วแล้วโทรศัพท์ไปหาฉู่เฉินอีกครั้งเสิ่นเหว่ยเพิ่งจะวางโทรศัพท์กลับไปไว้ในลิ้นชัก เมื่อเสียงริงโ
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ
ยาสร้างกล้ามเนื้อดวงตาคู่งามของอวี้ลู่จดจ้องและจำเม็ดยาสีทองในมือฉู่เฉินได้ในทันทีก็เพราะยาสร้างกล้ามเนื้อในโลกเซียนราคาแพงลิบลิ่ว!ผู้ใดก็ตามที่มียาสร้างกล้ามเนื้อแค่หนึ่งเม็ดก็เท่ากับมีสองชีวิตเชียวและนักหลอมยาที่หลอมยาสร้างกล้ามเนื้อสำเร็จแทบนับนิ้วได้เลยในโลกเซียนด้วยเหตุนี้ยาสร้างกล้ามเนื้อแค่เม็ดเดียวก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรล้ำค่าในการฝึกบำเพ็ญได้มหาศาลเช่นกันแต่ฉู่เฉินตัวดี กลับนำสิ่งล้ำค่าขนาดนี้ใช้กับหญิงวัยกลางคนเพียงเพื่อรักษาโรคฝีหนองนะหรือ?เสียของดีหมด!ช่างเสียของจริงๆ!ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนในนี้เยอะ อวี้ลู่คงคิดจะพุ่งขึ้นไปตบเจ้าฉู่เฉินสักป๊าบ!นี่มันไม่ใช่การสิ้นเปลืองหรอกหรือ?รู้แต่แรกว่าเจ้ารักษาไม่ได้ก็บอกข้าที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์สิ แค่ไอเซียนก็ทำให้นางฟื้นตัวเป็นปกติเช่นเดิมแล้ว ไยต้องสิ้นเปลืองยาสร้างกล้ามเนื้อไปหนึ่งเม็ดด้วย?ทุกคนประหลาดใจหญิงวัยกลางคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยแผลฝีหนองอยู่ๆ ก็หายดีราวปาฏิหาริย์ในเวลานี้เองผิวของเธอซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งดำและหยาบกร้าน กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาใหม่ในขณะนี้ และแม้แต่ผิวหนังชั้นแรกที่อักเสบเป็นพิ
เช่นเดียวกันที่ถังจิ้งจือหน้าเปลี่ยนสีไปมาบนเก้าอี้กรรมการผู้ป่วยที่รักษายากโดยแท้จริงแล้วมีเพียงแค่หญิงวัยกลางคนคนเดียวเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันล่วงหน้าจึงเขียนเลขหนึ่งร้อยสิบแปดในกระดาษฉลากทั้งหมดกล่าวได้อีกว่าไม่ว่าฉู่เฉินจะหยิบใบไหนผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม“โกงจริงๆ ด้วย!”“น่าละอายใจจริงๆ คนจากสำนักหมอมีสันดานอย่างนี้เองเรอะ?”ผู้ชมล่างเวทีและชาวเน็ตบนอินเทอร์เน็ตด่าทอหลี่จวิ้นเฟิงกันยกใหญ่ขนาดฟางอวี่เจิ้งก็หันไปมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยสายตาเกลียดชังราวกับมองศัตรูคู่แค้นแม่เอ๊ย ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนสินะ?กล้าเล่นตุกติกต่อหน้าฉัน!ฟางอวี่เจิ้งคิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจียงไห่ตงทันทีไม่ว่าผลการแข่งขันวันนี้จะออกมายังไง ไอ้สุนัขเฒ่าถังจิ้งจือและสารเลวหลี่จวิ้นเฟิงอย่าได้คิดหนีเลยส่วนฉู่เฉินที่อยู่บนเวทีกลับไม่ได้สนใจรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบข้างสักนิด จับชีพจรหญิงวัยกลางคนพลางตกอยู่ในภวังค์ความคิดพูดตามสัตย์จริง การรักษาโรคฝีหนองสำหรับฉู่เฉินไม่ได้ยากเย็นเลยแต่หากรีบรักษาให้หายโดยเร็วคงต้องคิดวิธีที่พิเศษสักหน่อย“ขอน้ำแร่หนึ่งขวดให้ผมได้ไหม?”ฉู่เฉินก
เชรด พลังบุญนี้ได้มาง่ายเกินไปแล้วไหม?ฉู่เฉินกะพริบตาแล้วหันไปแย้มยิ้มกล่าวกับกลุ่มฮว่าจิ่วหยาง “ท่านฮว่าเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนเป็นหมอควรกระทำ”หลี่จวิ้นเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆฟังแล้วก็เยาะเย้ยกล่าว “ไอ้คนแซ่ฉู่ แม่งอย่าขี้คุยโวเลยแก ยังไม่ทันรักษา แกไปรู้ได้ไงว่าแกจะสามารถรักษาฝีบนผิวหนังของผู้ป่วยให้หายได้”“เหอะ วันนี้ฉันจะทำให้เอ็งคุกเข่าโขกหัวให้ฉัน!”หลี่จวิ้นเฟิงพูดจบแล้วก็เดินมายังข้างหน้ากล่องกระดาษ นิ่งไปชั่วครู่แล้วหันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านข้าง “ต้องขออภัย ผมคิดว่ากล่องใบนี้ไม่มงคล เปลี่ยนกล่องใหม่ได้ไหม”หืม?ทุกคนจ้องมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยความแปลกใจ แต่ที่เขาเรียกร้องมาก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เปลี่ยนกล่องจับฉลากเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้ไม่นานก็มีคนยกกล่องจับฉลากอีกอันขึ้นมา“ผู้ป่วยลำดับที่สามสิบเจ็ด”เจียงถิงอ่านเลขลำดับพร้อมขมวดคิ้วมองไปทางกล่องที่ถูกเอาไปไว้ตรงขอบเวที ในนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่นอนเวลาไม่นานก็ได้เห็นผู้ป่วยที่ติดแผ่นแปะบรรเทาหวัดที่หน้าผากหายใจทีไอทีก้าวเดินขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว“นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! คุณฉู่รักษาโร
โรคที่เธอเป็นอยู่ เธอรู้ดีว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลา ณ ตอนนี้งั้นก็หมายถึงฉู่เฉินต้องแพ้พนันอย่างแน่นอน แล้วยังต้องคุกเข่าโคกศีรษะให้คนแซ่หลี่อีกคิดได้ดังนั้น หญิงวัยกลางคนรีบเก็บข้อมือกลับมาแล้วลุกขึ้นกล่าว “คุณหมอ น้ำใจของคุณฉันรับด้วยใจได้ แต่...ฉันไม่อยากเป็นให้คุณลำบาก” “อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาขุดหลุมดักรอให้คุณกระโดดลงไป คุณอย่าได้รักษาฉันอีกเลย”ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคนแล้ว บรรดาผู้ชมนับหมื่นก็พากันพยักหน้าใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผู้ป่วยผิวหนังพุพองทั้งร่างจะไปรักษาให้หายทันทีในการแข่งขันนี้ได้ยังไงกันว่าก็ว่าเถอะ ขนาดฟางอวี่เจิ้งยังออกมายืนกรานตั้งข้อสงสัยเลย ขอแค่ฉู่เฉินพยักหน้า แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการแข่งขันก็ยังสามารถเปลี่ยนผู้ป่วยคนใหม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ กดบ่าของหญิงวัยกลางคนให้เธอนั่งลง และเอามือไพล่หลังข้างเดียว กล่าวเนิบๆว่า “ถ้าเพื่อชัยชนะ ที่จริงผมจะเปลี่ยนคนไข้ก็ได้ หรือเปลี่ยนหัวข้อก็ได้” “แต่คนเป็นหมอต้องมีเมตตา” “ถ้าที่ผมพูดไม่ผิดละก็ คุณได้ฝากความหวังครั้งสุดท้ายกับการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้แล้ว ถ้าผมปฏิเสธที่จะรักษาคุณเ
ว่ากันตามกฎการแข่งขันรอบสอง ไม่ว่าใครจับฉลากได้ผู้ป่วยแบบไหนก็ต้องรักษาในตอนนั้นและที่นั่นเลยแต่ผิวหนังที่เปื่อยพุพองทั้งร่างแบบนี้ไม่ใช่จะสามารถรักษาให้หายได้ภายในเวลาอันสั้นได้เลย แม้แต่ครึ่งเดือนการที่จะรักษาหญิงวัยกลางคนผู้นี้ให้หายได้คงเป็นเรื่องปาฏิหาริย์“ทำไมถึงมีผู้ป่วยลักษณะนี้ได้”ฮว่าจิ่วหยางมองไปยังพวกจางเสวี่ยเหยียนและเฝิงว่านชางด้วยความสับสนตามกฎการแข่งขันแพทย์แผนจีนก่อนหน้า ผู้ป่วยที่ถูกเลือกมาก็มีเงื่อนไขการเลือกคือต้องป่วยเป็นโรคในลักษณะที่สามารถรักษาให้หายในตอนนั้นได้เลยแต่ผู้ป่วยตรงหน้านี้ผิดกฎอย่างเห็นได้ชัด“เอ่อ...”จางเสวี่ยเหยียนหันหน้าไปมองถังจิ้งจือที่อยู่ด้านข้างพร้อมขมวดคิ้วกล่าว “ท่านถัง ผู้ป่วยลำดับหลังจากร้อยเป็นต้นไป น่าจะเป็นคุณที่ตัดสินใจเองสินะ?”“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ไม่เพียงแต่จางเสวี่ยเหยียนที่ไม่สบอารมณ์ แม้แต่หลินจื้อหงกับเฝิงว่านชางก็ล้วนมีสีหน้าเหยเกสุดๆฟางอวี่เจิ้งก็กำลังเดินมือไพล่หลังจากเก้าอี้กรรมการมุ่งไปกล่าวกับพิธีกร “ขอหยุดการแข่งขันสักครู่”เจียงถิงพยักหน้ารัวๆ แล้วถอยไปยืนข้างฉู่เฉินพร้อมกระซิบพูดคุยกับฉู่เฉินฉากตรงหน
ทันทีที่ฉู่เฉินพูดออกมา ถังจิ้งจือรู้สึกหนักอึ้ง จ้องเขม็งฉู่เฉินด้วยใบหน้าที่อัปลักษณ์สุดขีดฮว่าจิ่วหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างจ้องมองไปทางถังจิ้งจือแล้วขมวดคิ้วถ้าบอกว่าเขาถูกท่านหลงขับไล่จากสำนัก งั้นก็หมายความว่าได้สูญสิ้นรัศมีคุ้มครองจากท่านหลง แล้วถังจิ้งจือมีสิทธิ์อะไรได้เป็นกรรมการพิเศษล่ะแต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากท่านหลง ฮว่าจิ่วหยางเลยไม่พูดอะไรให้มากความในเวลานี้แต่หลังจากนี้เขาต้องตามสืบเรื่องนี้ต่อไปหากถังจิ้งจือปกปิดขึ้นมาจริง ฮว่าจิ่วหยางย่อมไม่เกรงใจอีกต่อไป จะนำเรื่องนี้ไปรายงานต่อสมาคมแพทย์แผนจีนทันที และยื่นเรื่องปลดและแบนคุณสมบัติสายอาชีพแพทย์ของถังจิ้งจือไม่ให้ผุดให้เกิดเลย“รีบหน่อย ทุกคนรอแกอยู่นะ”ฉู่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าเริ่มรำคาญหลี่จวิ้นเฟิงโมโหตาถลนแทบจะพ่นไฟออกมาแต่อยู่ต่อหน้าผู้คนในสนามนับหมื่น และอยู่ต่อหน้าผู้คนในห้องถ่ายทอดสดนับพันนับหมื่นคน เขาจะถอยหนีก็หนีไม่ได้เพราะถึงยังไงเมื่อกี้เขาก็รับปากเอง หลังจากแพ้ฉู่เฉินจะทำเป็นไม่รักษาสัญญาก็ไม่ได้ไหมล่ะ“พวกแกก็เห็นกันแล้ว นี่เป็นคนจากสำนักหมอ พูดจาเหมือนกับผายลม ไม่รู้เลยจริงๆว่าสำนั
จางเสวี่ยเหยียน หลินจื้อหง เฝิงว่านชางพากันอ้าปากค้างเมื่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าถังจิ้งจือมองจนสมองทึบไปเลยเทพจริงๆแม้แต่เข็มเงินในมือหลี่จวิ้นเฟิงที่ยังไม่ทันได้ปล่อยออกไปก็ตกลงพื้นจนได้ยินเสียงหลิ่วหรูเยียนถึงกับยืนขึ้นพรวด มองหุ่นทองแดงข้างหน้าฉู่เฉินด้วยสายตาเหลือเชื่อ จากนั้นตะโกนออกมาอย่างลืมตัว “โกง! เขาต้องโกงแน่”สายตานับไม่ถ้วนในสนามกีฬามโหฬารแห่งนี้จ้องไปหลิ่วหรูเยียนราวกับมองคนบ้าหลิ่วชิงเหอรีบดึงหลิ่วหรูเยียนไว้พร้อมกล่าว “หรูเยียน อย่าเหลวไหล รีบนั่งลง”หน้าอกของหลิ่วหรูเยียนกระเพื่อมและสองมือสั่นด้วยความโมโห พูดไม่ออกครู่ใหญ่ สุดท้ายก็นั่งลงที่เดิมอย่างไม่เต็มใจ“ยัยผู้หญิงพวกนี้นี่แม่งโคตรโง่เง่าไหมวะ” “แกก็ลองมาโกงให้ดูดิ” “แม่เอ๊ย คนโง่มีทุกปี ทำไมปีนี้มีเยอะจังวะ”ผู้คนได้สติกลับมาต่างพากันกลอกตาดูแคลนให้หลิ่วหรูเยียนส่วนกู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ช็อกกับกระบวนท่านี้ของฉู่เฉินตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแพ้ชนะธรรมดาแล้ว แต่เป็นการบดขยี้หลี่จวิ้นเฟิงให้จมดินเลยทีเดียว“ว้าว นายท่านเท่ระเบิดไปเลย กระบวนท่าเมื่อกี้แหละ โห นับถือสุดๆ...”ต้วนหลิงเวยม
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉู่เฉินก็เปลี่ยนประเด็นทันที เขายิ้มขึ้นมาอย่างนิ่งๆ “อีกอย่างทำไมหมาถึงกลายเป็นคำด่าล่ะครับ?”“หมามันซื่อสัตย์กับเจ้าของจะตาย เฝ้าบ้าน อีกทั้งคนก็ชอบ ทำไมถึงกลายเป็นเป็นคำดูถูกได้ล่ะครับ?”“หรือว่าคุณและท่านหลี่ดูถูกหมาอย่างนั้นเหรอครับ?”เมื่อคำพูดนี้ออกไป ถังจิ้งจือและหลี่จวิ้นเฟิงก็โกรธจนหน้าซีดเซียวแต่ต่อหน้าชาวเน็ตหลายแสนคน พวกเขาไม่กล้าตอกกลับฉู่เฉินจริงๆใครจะกล้ารับประกันได้ว่าในนี้จะไม่มีคนรักหมา ถ้าสมมุติตกหลุมพรางของฉู่เฉิน แค่คนรักหมาพวกนั้นก็สามารถทำให้พวกเขาสองคนจมดินได้“ถือว่าแกแน่! เดี๋ยวรอคอยดูกัน!”หลี่จวิ้นเฟิงโกรธจนหน้าบูดเบี้ยวไปหมด เมื่อกลับมายังที่เก้าอี้ ก็ปล่อยลมปู๊ดป๊าดออกมาเสียงดังหลายครั้งติดกัน“รอแม่แกสิ! จะตอบหรือไม่ตอบ รีบบอกมาสิ!”ฉู่เฉินลองบนหลี่จวิ้นเฟิง หลังจากนั้นด่าหลี่จวิ้นเฟิงออกไปหลี่จวิ้นเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาว่า “ตกลง! เริ่มการแข่งขันใหม่ตอนนี้เลย!”โมโหแล้วนะ!เขาโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ครั้งแรกที่ถูกด่าอย่างเจ็บแสบแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย แต่กลับตอกกลับไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนก