ถังจิ้งจือกวาดมองฉู่เฉินอย่างดูถูก เขายิ้มเยาะ “เสียแรงที่เป็นถึงแพทย์แผนจีน ไม่รู้จักแม้กระทั่งฉันได้ยังไง ถังจิ้งจือ หนึ่งในแพทย์จีนหัตถ์เทวดาระดับประเทศ เคยได้ยินหรือเปล่า”ถังจิ้งจือใบหน้าหยิ่งทะนง เขาเม้มปาก ยื่นมือออกไปหมายจะคว้ายาบำรุงปราณในมือของท่านเฉียวเขาเป็นแพทย์ประจำตัวของท่านหลง เดิมทีที่เขาติดตามท่านหลงมาในครั้งนี้ เพียงเพื่อมาเยี่ยมเยือนท่านเฉียวเท่านั้นแต่ทว่า ตั้งแต่สองผู้อาวุโสพบหน้ากัน นายท่านใหญ่เฉียวกลับเอ่ยชมความสามารถด้านการแพทย์ของฉู่เฉินไม่ขาดปากแม้แต่เฉียวเทียนฉี่ยังเรียกฉู่เฉินว่าหมอเทวดาฉู่ทุกคำ นี่ทำให้ถังจิ้งจือที่เป็นหมอรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเขาเป็นถึงหมอหัตถ์เทวดาระดับประเทศเชียวนะ แม้จะไร้หนทางรักษาอาการป่วยของนายท่านใหญ่เฉียวก็แล้วไปตอนนี้นายท่านใหญ่ดีขึ้นมากแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เหลือได้ นี่ไม่เท่ากับโดนตบหน้าตรงๆ เหรอเป็นถึงหมอหัตถ์เทวดาระดับประเทศ หมอประจำตัวของท่านหลง แต่กลับพ่ายแพ้เรื่องความสามารถด้านการแพทย์ให้กับเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง ถังจิ้งจือมีหรือจะยอมจบง่ายๆ?เขาข่มกลั้นความโกรธไว้เต็มอกก่อนที่ฉู่เฉินจะมาอยู่แ
เพียะ!ถังจิ้งจือยังพูดไม่ทันจบ ฉู่เฉินสะบัดฝ่ามือใส่หน้าเขาอย่างแรง ถังจิ้งจือถูกตบจนตัวหมุน แว่นตาบนหน้ากระเด็นออกไปไกลสามเมตร ตกกระแทกพื้นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย“ใครมอบความกล้าให้คุณ ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายต่อหน้าผม!”พูดจบ ฉู่เฉินลุกขึ้นและหันไปพูดกับท่านเฉียวว่า “ท่านเฉียว กินยาบำรุงปราณแล้วผมจะใช้วิชาฝังเข็มกระตุ้นให้ฤทธิ์ยากระจายไปทั่วร่างกายของคุณเอง”ท่านเฉียวเหลือบมองท่านหลงที่สีหน้าดำทะมึนแวบหนึ่ง แต่ก็ยังทำตามที่ฉู่เฉินบอกท่านเฉียวเพิ่งจะกินยาบำรุงปราณ ฉู่เฉินยกมือขึ้นพร้อมกับเข็มเงินสามเล่มที่ลอยอยู่กลางอากาศ ส่งเสียงดังหึ่งๆ เป็นระยะภาพเหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่ท่านหลงก็ยังต้องลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึง มองฉู่เฉินและอุทานด้วยความตื่นตาตื่นใจว่า “นะ… นี่มันวิชาฝังเข็มเสวียนเทียนคืนวิญญาณ?!”บอกตามตรง ทั้งชีวิตท่านหลงเคยเห็นแค่ครั้งเดียวนั่นก็คือตอนที่นักพรตพเนจรท่านหนึ่งใช้วิชานี้เพื่อรักษาท่านอาจารย์ที่หอคอยเทียนจื่อในเมืองหลวงตอนนั้น นักพรตพเนจรคนนั้นพูดเองกับปาก บนโลกนี้นอกจากเขาก็ไม่มีใครสามารถใช้วิชาลึกลับนี้ได้อีกพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหลายสิบปี แพทย์ชื่อด
“ท่านหลง… ผม…”ท่านหลงเอามือไพล่หลัง เอ่ยเสียงเย็นว่า “ทักษะการแพทย์ไม่ได้เรื่องยังเรียนเพิ่มได้ แต่จิตใจไร้คุณธรรมนั้นไม่เหมือนกัน อาวุโสถัง รักษาตัวด้วยก็แล้วกัน!”“ผม…”ถังจิ้งจือยังคิดจะแก้ตัวต่อ แต่ถานเฟยไม่เปิดโอกาสให้เขา เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของถังจิ้งจือและโยนเขาออกจากห้องผู้ป่วย ราวกับเขาเป็นเพียงขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้นท่านหลงจ้องแผ่นหลังของเฉียวเทียนฉี่และฉู่เฉิน ก่อนจะหันไปบุ้ยปากสั่งถานเฟยนว่า “ไป ขอช่องทางติดต่อคุณฉู่มา”“ครับ!”ถานเฟยรับคำ จากนั้นก็รีบวิ่งตามไปท่านเฉียวมองถานเฟยที่เดินห่างออกไป หันมาพูดกับท่านหลงว่า “หัวหน้า คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย เทียนฉี่มีเบอร์โทรของคุณฉู่อยู่แล้ว ผมให้เขาส่งให้คุณก็ได้นี่”ท่านหลงโบกมือยิ้มๆ “ไม่ได้ครับ! จะขอร้องยอดฝีมือ ก็ต้องแสดงท่าทีอ้อนวอนให้เขาเห็น ถ้าหากเสียวฉู่ยอมคบเพื่อนอย่างผมคนนี้ เขาย่อมให้ช่องทางติดต่อกลับมา ถ้าหากเขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม ถึงผมจะโทรหาเขาเอง จะมีประโยชน์อะไรล่ะ”ถึงแม้จะรู้จักกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ท่านหลงกลับดูออกว่าฉู่เฉินไม่ใช่คนที่จะสามารถใช้อำนาจกำราบได้ไม่อย่างนั้น เมื่อกี้เขาไม่มีท
ถังจิ้งจือกัดฟันชี้หน้าฉู่เฉิน ข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นถึงไม่มีท่านหลงหนุนหลังแล้ว เขาก็มั่นใจว่าสามารถใช้เส้นสายและวิธีการต่างๆ บีบแพทย์แผนจีนตัวเล็กๆ ในเมืองเจียงจงคนนี้ให้ตายคามือได้อย่างแน่นอนในสายตาของเขา การจะฆ่าฉู่เฉินเป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนบี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น!ฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ ขณะจ้องพิจารณาถังจิ้งจือด้วยสายตาดูถูก “งั้นเรารอดูกันต่อไปก็แล้วกัน แต่คุณอย่าทำอะไรเกินตัว จนเอาชีวิตแก่ๆ เข้าไปเสี่ยงด้วยก็แล้วกัน”“แก…”ฉู่เฉินไม่อยากฟังถังจิ้งจือเห่าหอน เขาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทันทีถังจิ้งจือจ้องไฟท้ายรถของฉู่เฉินที่ขับห่างออกไปแล้ว โกรธจนแทบจะคลั่ง แต่กลับทำอะไรฉู่เฉินไม่ได้เลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคอยดูไว้เถอะ!”ถังจิ้งจือคำรามเสียงลั่น กระชากชุดกราวน์บนตัวปาทิ้งบนพื้นแรงๆเห็นถังจิ้งจือที่โกรธหัวฟันหัวเหวี่ยงผ่านกระจกมองหลัง ฉู่เฉินแสยะยิ้มเยาะ จากนั้นก็หักเลี้ยวพวงมาลัยไปทางซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลได้ยินว่าฉู่เฉินมาตรวจตรางาน กวนเหล่ยเปลี่ยนไปใส่กระโปรงสั้นลายเสือดาวดูยั่วยวน แล้วยังจงใจดึงคอเสื้อลงข้างล่างอีก เธอยืนรอฉู่เฉินอยู่หน้าลิฟต์นานแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก
หลังจากขึ้นเครื่องบินที่จะมุ่งหน้าสู่เมืองหมอตู ฉู่เฉินถึงเพิ่งรู้จากกู้รั่วเสวี่ย ว่าตระกูลหลี่และตระกูลกู้ได้ร่วมมือกันบุกเบิกพื้นที่ใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกับเมืองหมอตูแต่ตระกูลกู้เพิ่งควักทุนก้อนโต เพิ่งได้รับพื้นที่ผืนนั้นมา จู่ๆ ตระกูลหลี่ก็ถอนทุนคืนกลางคันเมื่อเป็นอย่างนั้น ตระกูลกู้จึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกถึงจะได้ที่ดินมาแล้ว แต่กลับไม่มีทุนสร้างตึก ถ้าหากไม่ส่งต่อในราคาต่ำ ก็ทำได้เพียงปล่อยว่างไว้อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นทุนนับหมื่นล้านก็ต้องจมอยู่กับที่ดินผืนนั้นหากปล่อยไว้นาน ตระกูลกู้อาจเสี่ยงเจอสภาวะหมุนเงินทุนไม่ทันฟังกู้รั่วเสวี่ยเล่าจบ ฉู่เฉินขมวดคิ้วบอกว่า “ต้องใช้เงินทุนเท่าไรในการก่อสร้างบนที่ดินผืนนั้น”กู้รั่วเสวี่ยเท้าคางครุ่นคิดครู่หนึ่ง “อย่างน้อยก็หนึ่งหมื่นล้านบาท”“อีกอย่าง นี่ยังเป็นแค่ค่าใช้จ่ายช่วงแรก ถ้าหากสร้างเสร็จทั้งหมดยังต้องลงทุนต่ออีกห้าหมื่นล้านบาท”ฉู่เฉินพยักหัว “นั่นก็หมายความว่า ทั้งหมดต้องใช้เงินแค่หกหมื่นล้านบาท? ที่ดินผืนนั้นตระกูลกู้วางแผนไว้ยังไงล่ะ จะสร้างเป็นสถานบันเทิง หรือว่า…”“วางแผนไว้ว่าจะสร้างศูนย์รวมที่พัก เที่ยว และร้า
“ตอนแรกหัวหน้าคนงานโทรศัพท์หาที่บ้านของเขาเพื่อตกลงเรื่องค่าชดเชยเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่คืนวันนั้น ไม่รู้ว่าศพของคนงานคนนั้นถูกอะไรดูดสมองออกไปหมด แม้แต่อวัยวะภายในทั้งหมดก็หายไปด้วย”“ตอนนี้ครอบครัวของคนงานคนนั้นกำลังโวยวายอยู่ที่นั่น อีกอย่าง สื่อก็กำลังประโคมข่าวเรื่องนี้อย่างหนัก ตอนนี้ที่ดินผืนนั้นในมือเราได้กลายเป็นเผือกร้อนไปแล้ว ท่าทีของตระกูลหลี่ก็แข็งกร้าวมากเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่คิดจะชดเชยแม้แต่แดงเดียวครับ”ผู้จัดการหลี่อธิบายสถานการณ์ยาวเหยียดด้วยสีหน้าโกรธจัดกู้รั่วเสวี่ยฟังผู้จัดการสวีจบก็หน้ามืดหมดสติไปทันทีเรื่องอย่างนี้ถือเป็นวิกฤติใหญ่ในการบุกเบิกพื้นที่ใหม่เมื่อใดที่เรื่องเลวร้ายอย่างนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ถึงจะสร้างสถานบันเทิงเสร็จแล้ว แต่ใครจะกล้าไปใช้เงินที่นั่นอีกล่ะ นี่มันไม่ต่างจากบีบตระกูลกู้ให้จนตรอกเลย“รั่วเสวี่ย คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ พวกเราไปดูสถานการณ์ที่ไซต์งานกันก่อนเถอะ”ฉู่เฉินเอื้อมมือไปประคองกู้รั่วเสวี่ย ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ค่ะ… พวกเราไปที่ไซต์งานกันก่อน”ดวงหน้าน้อยๆ ของกู้รั่วเสวี่ยซีดเผือด เธอรับคำอย่างเหม่อลอยไร้สติตอนนี้เธอไม
“คะ… คุณพูดจาเลอะเทอะอะไรน่ะ ฉัน… ฉันไปรับเงินใครมากัน”หญิงวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงกัดฟันไม่ยอมรับฉู่เฉินกวาดมองหญิงวัยกลางคนแวบหนึ่ง เธอน่าจะเป็นหญิงวัยกลางคนบ้านนอกที่ธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดายังไงแล้ว เดิมทีไม่น่าจะรู้จักข้อหาทำลายศพหรืออะไรทำนองนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงความผิดทางข้อกฎหมายได้อย่างถูกต้องไร้ที่ติอย่างนี้ นั่นยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าเรื่องนี้มีคนจงใจจัดฉากขึ้นมาฉู่เฉินแสยะยิ้มเย็นชา เขาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา พับเป็นนกกระดาษหนึ่งตัว จากนั้นก็วาดยันต์กลางอากาศ เสร็จแล้วก็ตวาดสั่งเสียงเบา “บิน!”สิ้นเสียงสั่งของฉู่เฉิน นกกระดาษตัวนั้นบินขึ้นจริงๆเห็นอย่างนั้น หญิงวัยกลางคนตกใจดวงตาเบิกโพลง ล้มนั่งก้นจ้ำเบ้าลงไปบนพื้นฉู่เฉินชำเลืองมองหญิงวัยกลางคน “เห็นหรือยังล่ะ ถ้าคุณไม่ยอมพูดความจริง ผมที่สามารถสั่งให้นกกระดาษบินได้ ก็สามารถสั่งให้ดวงวิญญาณอาฆาตที่ตายอย่างไม่เป็นธรรมไปคิดบัญชีกับคุณได้เหมือนกัน”หญิงวัยกลางคนได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจจนฉี่ราดกางเกงทันทีนี่เธอเจอกับยอดฝีมือในตำนานแล้วงั้นเหรอ!เพื่อผลประโยชน์เล็กน้อยแค่นั้น ถ้าต้
โดยเฉพาะคำพูดเมื่อกี้ของฉู่เฉิน ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเรื่องเล่าผีที่คุณย่าเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ ทำให้สติหลุดไปชั่วขณะฉู่เฉินขมวดคิ้ว บีบจมูก สอดมือเข้าไปใต้วงแขนของนักข่าวสาวสวยเพื่อประคองเธอ สัมผัสนุ่มนิ่มเกิดขึ้นที่ปลายนิ้ว“ไป รถของคุณอยู่ไหนล่ะ”นักข่าวสาวสวยชี้ไปที่รถเก๋งสีขาวคันเล็กๆ ที่อยู่ห่างออกไป พูดเสียงสั่นๆ ว่า “ทะ… ทางนั้นค่ะ”“พะ… พี่ชาย วิญญาณ… วิญญาณอาฆาตดวงนั้น… คงไม่ตามมาหาฉันหรอกนะ”ขณะพูด นักข่าวสาวสวยตัวสั่นไม่หยุด ส่งผลให้ทรวงอกอันเอิบอิ่มสั่นสะเทือนตามไปด้วย“ไม่หรอก ยังไงคุณก็ทำไปเพื่อทวงถามความยุติธรรม”ฉู่เฉินเอ่ยต่ออย่างสรรหาคำมาพูด “แต่ถ้าคุณถูกคนอื่นบงการมาเหมือนผู้หญิงคนเมื่อกี้ ก็ไม่แน่นะ”“คนเราเกิดมาชาติหนึ่งก็อยากมีเกียรติศักดิ์ศรี แต่คุณดูเขาสิ สมองหายไปมากกว่าครึ่ง อวัยวะภายในถูกควักออกไปจนหมด หากต้องตายอย่างน่าอนาถขนาดนี้ แล้วยังต้องถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมืออีก เป็นคุณจะไม่โกรธเหรอ”นักข่าวสาวสวยคนนั้นได้ยินก็ร้องไห้โฮออกมาทันที“พี่ชาย ฉัน… ฉันก็โดนคุณชายหลี่จ้างมาให้เปิดโปงเรื่องนี้เหมือนกัน ฉัน… ฉันรับประกันได้ จะรีบลบรูปเดี๋ยวนี้เลย บท
ต่อให้อู่เย่าปังมีกำลังทรัพย์เกินใคร แต่การสูญเสียปรมาจารย์คนหนึ่งไปก็เจ็บปวดเหลือทนสำหรับตระกูลอู่!“ไป?”ฉู่เฉินหัวเราะมองอู่เย่าปังเหมือนกำลังมองคนบ้าและกล่าว “ไม่ใช่แค่ผมจะไม่ไป วันนี้พวกคุณพ่อลูกอย่าคิดรอดออกไปจากตึกนี้ถ้าไม่ทำให้ผมพอใจ”“อธิบดีเจียง!”กลัวอะไรจะได้สิ่งนั้นจริงๆเจียงเหวินป๋อกัดฟันยิ้มที่แย่กว่าร้องไห้พร้อมกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ คุณเรียกผม?”“รบกวนอธิบดีเจียงช่วยหน่อยนะ จับตาดูสองพ่อลูก จำไว้ อย่าให้พวกมันหนีไปล่ะไม่งั้นผมจะให้คุณรับผิดชอบ”หา?เจียงเหวินป๋อแทบร้องไห้ในใจแล้ว เรื่องในนี้เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?“ผม… ผม…”เมื่อเห็นสีหน้าฉู่เฉินเริ่มเย็นชา เจียงเหวินป๋อทำได้แค่หยุดพูดแล้วกลืนน้ำลายพยักหน้ากล่าวอย่างจนปัญญา “ก็ตามคุณฉู่เลยครับ”ฉู่เฉินจึงพยักหน้าอย่างพอใจและกล่าว “อู่เย่าปัง คุณฟังให้ดี ไม่ว่าใครมา ถ้าผมยังไม่กลับมาแล้วคุณกล้าออกจากประตูไปแค่ก้าวเดียว ผมจะกวาดล้างตระกูลอู่ของคุณ!”อู่เย่าปังตกใจจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ฉู่เฉินเอาความมั่นใจมาจากไหน?ใครคือคนหนุนหลังฉู่เฉินกันแน่?ขณะนี้อู่เย่าปังกระวนกระวายใจใจเต้นตึกตันราวกับเสียงกลอง
ไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงทุ้มมีพลังของชายวัยกลางคนดังขึ้นจากปลายสายกล่าว “มีอะไร?”“คุณหลู มีบริษัทหนึ่งที่ติดหนี้ธนาคารพวกเราสองพันห้าร้อยล้าน ผม…ผมติดตามทวงหนี้ด้วยตัวเอง ผลคือถูกทำร้าย แม้แต่เจียงเหวินป๋อก็เข้าข้างฝ่ายนั้น ให้ฝ่ายนั้นลงมือทำร้ายตามอำเภอใจ”อู่เย่าปังกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเจียงเหวินป๋อได้ยินแล้วเริ่มว้าวุ่นแม้ไม่แน่ใจว่าคนที่อู่เย่าปังคุยด้วยเป็นใคร แต่มั่นใจว่าปลายสายต้องเป็นคนจากตระกูลหลูแน่ตระกูลหลูแม้เป็นตระกูลใหญ่ที่ประกอบธุรกิจ แต่หลูไคซานในตอนนี้เป็นคนโปรดข้างกายผู้ว่าการเฉียว แค่พูดคำเดียวก็ตัดสินอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขาได้แล้วคิดแล้วก็ไม่รอให้อู่เย่าปังเอ่ยวาจา เขาตัดบทด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไอ้คนแซ่อู่ แกแม่งป้ายสีคนให้มันน้อยๆหน่อย ถ้าฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้ คุณฉู่คงได้…”เจียงเหวินป๋อไม่ทันกล่าวจบ ฉู่เฉินยกมือขึ้นขัดจังหวะกล่าว “ให้เขาเรียกคนมา ในเมืองเจียงจงใครจะคุ้มกะลาหัวเขาได้”เหตุการณ์ในวันนี้พูดได้ว่าแตะหนวดเสือของฉู่เฉินเข้าแล้วระหว่างพวกหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูกกับฉู่เฉินมีความแค้นกันจริง แต่ผู้หญิงของฉู่เฉินจะปล่อยให้ใครมาข่มขู่ได้หรือ?ในเ
ความหมายในคำพูดของเธอก็คือให้ฉู่เฉินชำระหนี้ของฉู่ซื่อกรุ๊ป แต่ว่าสำหรับฉู่เฉินแล้ว เงินจำนวนน้อยแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกฉู่เฉินยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วเอ่ยว่า “ก็แค่สองพันห้าร้อยล้านเอง”เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็โยนบัตรเอทีเอ็มออกมาหนึ่งใบทันทีแล้วพูดว่า “ในนี้มีอยู่ห้าพันล้าน เธอได้กำไรแล้ว”หลิ่วหรูเยียนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมาแล้วพูดกับอู่เย่าปังว่า “ประธานอู่ เงินสองพันห้าร้อยล้านที่บริษัทเราติดหนี้ธนาคารของพวกคุณ สามารถโอนเงินได้ทุกเมื่อ” “ฉันหวังว่าจากนี้ไปคนของตระกูลอู่พวกคุณอย่าได้มาเสียมารยาทก่อกวนอีก”อะไรนะ?อู่เย่าปังหัวเราะหยัน เอามือสองข้างไพล่หลังแล้วพูดว่า “หลิ่วหรูเยียน คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คุณคิดหรือว่าจะรังแกตระกูลอู่ของผมได้? เงินที่พวกคุณติดหนี้ธนาคารของเรา เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่ใช่สองพันห้าร้อยล้านมานานแล้ว”เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลิ่วชิงเหอก็อดหันหน้าไปมองอู่เย่าปังไม่ได้ก่อนจะเอ่ยว่า “ประธานอู่ ตอนที่เรากู้เงินในปีนั้น คุณเคยรับปากเองว่าจะยกเว้นดอกเบี้ยให้ทั้งหมด คุณจะมากลับคำได้ยังไง?”อู่เย่าปังมองฉู่เฉินแวบหนึ่ง ตอนนี้มีเจียง
“เอ่อ...คะ...คุณฉู่?”เจียงเหวินป๋อฝืนกลืนคำพูดครึ่งท้ายประโยคกลับไป รีบยิ้มแย้มเต็มเปี่ยมบนใบหน้า วิ่งเหยาะ ๆ มาหาฉู่เฉิน ก่อนจะล้วงบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนจากในกระเป๋าแล้วยื่นให้“คุณฉู่ บังเอิญจริง ๆ ครับ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? มาครับ สูบบุหรี่ก่อน ผมจะจุดไฟให้”ฉู่เฉินโบกมือ ปัดบุหรี่ที่เจียงเหวินป๋อยื่นมาให้ ก่อนจะชี้ไปที่ศพบนพื้นแล้วพูดว่า “หมอนี่พยายามใช้ความรุนแรงในห้องประชุมของฉู่ซื่อกรุ๊ปเรา โชคดีที่มีคนขัดขวางไว้ได้เลยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ”“แต่ดูเหมือนร่างกายเขาจะค่อยไม่แข็งแรง แค่เอานิ้วแตะเขาทีเดียว เขาก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว อธิบดีเจียงคิดว่าควรจัดการเรื่องนี้ยังไงดีครับ?” เจียงเหวินป๋อมองไปตามนิ้วของฉู่เฉิน ก่อนจะเห็นว่ารูขนาดใหญ่ราวกับอ่างล้างหน้าตรงหน้าอกของปรมาจารย์จ้าวยังคงมีเลือดไหลทะลักออกมาด้านนอกนะ...นี่มันนิ้วแตะหรือว่าโดนปืนใหญ่ยิงใส่กัน?“นี่...”แม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงเหวินป๋อก็แข็งค้างแล้ว “อธิบดีเจียง ขนาดตัวเขาเองก็ยอมรับแล้วว่าเป็นฆาตกรฆ่าคน คุณยังไม่จับเขาไปลงโทษอีก!”อู่เย่าปังทำหน้าเขียว ชี้ไปที่ฉู่เฉินแล้วตะโกนเสียงดังอย่างฉุนเฉียวเจีย
ศพของปรมาจารย์จ้าวร่วงลงพื้นอย่างหนักหน่วง จนฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มพื้นเมื่อเห็นฉากนี้ ห้องประชุมก็เงียบกริบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตก!อู่จวิ้นเจี๋ยที่เมื่อกี้ยังร้องโวยวาย เวลานี้ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด ตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด รู้สึกเหมือนดิ่งลงไปในหลุมลึกนี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว สังหารปรมาจารย์จ้าวในชั่วพริบตา?ถ้ารู้แต่แรกว่าฉู่เฉินน่ากลัวขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เขาจะไม่วิ่งมาหาเรื่องซวยที่ฉู่ซื่อกรุ๊ปหรอกส่วนพวกคนติดตามที่ยังอยากพุ่งไปช่วยเหลืออู่จวิ้นเจียก็ตกใจกลัวจนปัสสาวะราดกางเกงทันทีนั่นมันปรมาจารย์เชียวนะ ยังไม่ทันได้สัมผัสแม้แต่เสื้อผ้าของฉู่เฉินก็โดนฆ่าทิ้งในพริบตาด้วยกระบวนท่าเดียวโชคดีที่พวกเขาไม่ได้บุ่มบ่าม ไม่อย่างนั้นตอนนี้หญ้าบนหลุมศพคงสูงสามนิ้วไปแล้วหลิ่วหรูเยียนก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือก จากมุมมองของเธอสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าฉู่เฉินแค่สะกิดนิ้วเบา ๆ ปรมาจารย์จ้าวคนนั้นก็กระเด็นลอยออกไปไอ้สวะไร้ค่าฉู่เฉินแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?แม้ว่าหลิ่วชิงเหอไม่ได้ตกใจเท่าหลิ่วหรูเยียน แต่เธอก็ตกใจกลัวจนดวงหน้าเล็กซีดเผือดไม่ว่าจะพูดอีกอย่างไร นั่นก็เ
เมื่อเห็นชายวัยกลางคน หลิ่วหรูเยียนกับหลิวชิงเหอแม่ลูกก็ตกใจยกใหญ่อู่เย่าปัง!ประธานธนาคารเทียนเจิ้ง ผู้นำตระกูลอู่!ในวงการธุรกิจของเจียงจง เป็นตัวตนที่ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง แม้แต่ตระกูลหยางที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองยังต้องเกรงใจอู่เย่าปังถึงสามส่วนจบสิ้นแล้ว!ครั้งนี้โดนฉู่เฉินทำร้ายจนตายแล้วจริง ๆ!หลิ่วหรูเยียนจ้องฉู่เฉินด้วยความเคียดแค้นแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน แกยังไม่รีบปล่อยคุณชายอู่อีก แกอยากทำร้ายพวกเราจนตายหรือไง?”หลิ่วชิงเหอกลับรีบดึงหลิ่วหรูเยียนไว้ถึงแม้เธอจะไม่รู้แน่ชัดว่าฉู่เฉินมีไพ่ตายอะไรกันแน่ แต่จากสีหน้าสงบเยือกเย็นของฉู่เฉิน หลิ่วชิงเหอรู้สึกได้ราง ๆ ว่าฉู่เฉินยังต้องมีทางหนีทีไล่อย่างแน่นอน ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่แน่ชัด หากเวลานี้ตัดความสัมพันธ์กับฉู่เฉินละก็ พวกเธอแม่ลูกคงจะจบเห่แล้วจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครู่อู่จวิ้นเจี๋ยบอกเงื่อนไขเองกับปากว่าอยากให้หลิ่วชิงเหอแม่ลูกไปนอนกับพ่อลูกตระกูลอู่หนึ่งเดือน ยิ่งทำให้หลิวชิงเหอไม่อาจยอมรับได้“พ่อ...ช่วยผมด้วย! ผมโดนทำร้ายจนยับเยินแล้ว!”อู่จวิ้นเจียอ้าปากก็พ่นฟองเลือดออกมาคำใหญ่ เนื่องจากโดนตบจนฟันหน้ากระเ
ฉู่เฉินพูดพลางลากเก้าอี้มาหนึ่งตัวก่อนจะนั่งลงหน้าโต๊ะประชุมด้วยท่าทางสง่างามทรงอำนาจอู่จวิ้นเจี๋ยจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉินอยู่นาน ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง ลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามฉู่เฉิน แล้วชี้ไปที่หลิ่วหรูเยียนพลางพูดว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่คุยเรื่องราคาของยัยนี่เท่านั้น”“ใครใช้ให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปของพวกเธอติดหนี้ธนาคารของเราตั้งสองพันห้าร้อยล้านล่ะ?”“ถ้าน้องชายสนใจด้วยเหมือนกัน พวกเราแบ่งกันได้นะ ฉันนอนสามวันแรก นายนอนสี่วันหลัง อย่าทำลายไมตรีต่อกันก็พอ”ถึงอย่างไรอู่จวิ้นเจี๋ยก็เป็นคนที่เคยผ่านโลกมาเหมือนกัน ระดับความโหดเหี้ยมอำมหิตในการลงมือของฉู่เฉินถึงขนาดที่เด็ดขาดยิ่งกว่านักสู้บางคนที่เขาเคยเจอเสียอีก นี่ก็หมายความว่าฉู่เฉินจะต้องมีภูมิหลังอยู่บ้างเหมือนกันแน่นอน อู่จวิ้นเจี๋ยยังไม่อยากแตกหักจนกว่าจะรู้ถึงเบื้องลึกของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน“อู่จวิ้นเจี๋ย คุณมันไร้ยางอาย!”หลิ่วหรูเยียนโกรธจนตัวสั่น แม้แต่หน้าอกขาวนวลคู่นั้นก็แทบจะทะลักออกมาจากในชุดสูทตัวเล็ก หลิวชิงเหอรีบดึงหลิ่วหรูเยียนไว้ แล้วส่ายหน้าให้เธอติดต่อกัน สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอสองแม่ลูกจะ
“ฉู่เฉิน แกพูดเหลวไหลอะไร!” หลิ่วหรูเยียนด่าอย่างเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าตื่นตระหนกหลิ่วชิงเหอรีบเข้ามาหาฉู่เฉิน ก่อนจะผลักฉู่เฉินแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน ฉันขอร้องละ อย่าทำให้เรื่องยุ่งมากกว่านี้อีกได้หรือเปล่า?”ฉู่เฉินผลักมือของหลิ่วชิงเหอออกแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “พูดอีกยังไง ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นธุรกิจที่พ่อแม่ของฉันทิ้งไว้ให้ ใครอนุญาตให้พวกเธอมาค้าประเวณีที่นี่?” “อีกอย่าง เมื่อกี้ใครมันต่ำช้าลวนลามพี่หลิงหลิง ลุกออกมาซะ!” เมื่อคำพูดนี้ออกมา ชายหนุ่มที่สวมชุดสูทสีดำก็จัดคอเสื้อ มองไปทางฉู่เฉินด้วยใบหน้ายิ้มหยันแล้วพูดว่า “ไอ้หนู ใครมันทำพลาดอะไรเข้า ถึงทำให้นายโผล่มาได้!” “รู้ไหมว่าคุณชายอย่างฉันคือใคร? กล้าร้องตะโกนเสียงดังต่อหน้าฉันเรอะ!”ดวงตาของฉู่เฉินหดลงเล็กน้อย มองชายหนุ่มอย่างพิจารณา ยังไม่ทันที่ฉู่เฉินจะก้าวไปข้างหน้า หลิวชิงเหอก็รีบดึงฉู่เฉินไว้ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า “ฉู่เฉิน แกห้ามวู่วามเด็ดขาด!”“เขาคืออู่จวิ้นเจี๋ย คุณชายใหญ่จากตระกูลธนาคารอู่ พวกเราล่วงเกินตระกูลอู่ไม่ได้เด็ดขาดนะ!”ตระกูลอู่?ฉู่เฉินเลิกคิ้ว ในความทรงจำมีแซ่อู่แบบนี้ในเจียงจงจริง
“ฉันก็เลยรีบสิ่งออกมาโทรหาคุณ แต่ว่า...แต่ว่าโดนลูกน้องคนหนึ่งของเขาได้ยินเข้าก็เลยแย่งโทรศัพท์ของฉันไป ถะ...แถมยังคิดจะลวนลามฉันด้วย...”อะไรนะ?!ฉู่เฉินหรี่ตาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “คนที่พยายามลวนลามพี่เมื่อกี้อยู่ที่ไหนครับ?”“แล้วคุณชายใหญ่อู่อะไรนั่นอยู่ที่ไหนครับ?” ต้าหลิงจื่อรีบพูดว่า “อยู่ในห้องประชุมชั้นสิบสาม คุณตามฉันค่ะ” ต้าหลิงจื่อพูดพลางรีบจับมือฉู่เฉินไว้ ก่อนจะวิ่งไปทางชั้นสิบสามเพิ่งจะเลี้ยวผ่านมุมบันไดก็มีเสียงทะเลาะวิวาทดังมาจากทางห้องประชุม “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว ผมแนะนำว่าทางที่ดีคุณควรรู้จักปรับตัวไปตามสถานการณ์หน่อยนะครับ เงินก้อนนี้ธนาคารของเราสามารถเร่งทวงได้ และก็ชะลอได้ แต่เท่าที่ผมรู้มา สถานการณ์ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้ เกรงว่าเวลานี้ของปีหน้าก็คงเอาเงินสองพันห้าร้อยล้านออกมาไม่ได้แล้วละมั้ง?”“อันที่จริงข้อเสนอของผมก็ไม่ได้เกินไปเลยสักนิด ขอเพียงคุณนอนกับผมแค่คืนเดียว แล้วให้ประธานหลิ่วอยู่เป็นเพื่อนพ่อของผมให้ดี เงินบริษัทพวกคุณแค่นี้จะถือเป็นอะไรได้ ให้พวกคุณก็ไม่เป็นไร”“หนึ่งเดือนได้สองพันห้าร้อยล้าน ร่างกายของคุณมีค่ามากเลยนะ” หลังจากเสียงพ