โดยเฉพาะผิวของเธอที่นุ่มลื่นเหมือนผ้าซาติน แม้ว่าจะเอื้อมมือไปสัมผัสแค่ครู่หนึ่ง ก็ทำเอาฉู่เฉินใจสั่นไปหมด“หลีกไป!”อวี้ลู่ปัดมือของฉู่เฉินออก พร้อมทั้งถลึงตาใส่ฉู่เฉินเจ้าหมอเด็กนี่นับวันยิ่งเหิมเกริมขึ้นทุกวัน กล้าฉวยโอกาสกับเธอหากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ของกิน ไม่อย่างนั้นเธอคงสั่งสอนฉู่เฉินไปแล้วล่ะ!หึ!อวี้ลู่ส่งเสียงพึมพำ อวี้ลู่นำมือทั้งสองข้างไพล่ไว้ที่หลัง เดินเข้าไปในห้องเมื่ออวี้ลู่เดินออกไปไกลแล้ว หยางติ่งเทียนจึงเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาพูดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องว่า “ตระกูลหยางของผมยินดีติดตามคุณฉู่ บุกน้ำลุยไฟไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ!”“หากผิดคำสาบาน พวกเรายินดีให้สายฟ้าผ่าลงมา ให้ลูกศรธนูปักเข้ามายังที่กลางใจของพวกเรา!”หลังจากที่คำพูดของหยางติ่งเทียนจบลง คนอื่นๆ ก็ทำตามฉู่เฉินวาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ พร้อมทั้งชี้ไปทางคนของตระกูลหยางตู้ม!ทันใดนั้นก็เหมือนมีพลังงานลึกลับบางอย่าง ทะลุเข้ามาภายในร่างกายของคนตระกูลหยางแม้แต่หยางเทียนหมิงที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายร้อยไมล์ ก็สามารถสัมผัสถึงร่างกายของเขาถูกพลังงานบางอย่างผูกมัดไว้ “คุณอยู่ตรงนี้ก่อน ส่วนคนอื่นอ
เช้าวันที่สอง หลังจากที่ฉู่เฉินกินข้าวเช้าแล้ว เขาก็ขับรถมายังโรงพยาบาลประชาชนเมื่อถึงหน้าประตูก็ต่อสายหาหลี่จิงจิง เพื่อถามห้องผู้ป่วยของท่านเฉียว หลังจากนั้นเขาถึงเดินเข้ามาในโรงพยาบาลเดินมาถึงห้องพักผู้ป่วยพิเศษที่ชั้นบนสุด รอบๆ ไม่เพียงแต่ตำรวจของเจียงจงคอยเฝ้ายามเอาไว้ อีกทั้งยังมีชายฉกรรจ์ที่สวมหูฟังสื่อสารใส่ชุดสูทสีดำคอยเฝ้าเวรยามอยู่รอบๆ อีกด้วยฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยคนพวกนี้ไม่เหมือนบอดี้การ์ดธรรมดาทั่วไป บนร่างของพวกเขามีความอำมหิตและโหดร้ายแฝงอยู่กลิ่นอายนั้นเป็นกลิ่นที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถมีมันได้ แต่เป็นกลิ่นอายจากคนที่ผ่านศึกมามากมาย อีกทั้งมือยังเคยเปื้อนเลือดมาก่อนหรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งว่า คนพวกนั้นคือนักรบ!“หยุดนะ!”ไม่รอช้าให้ฉู่เฉินได้เข้าใกล้ห้องผู้ป่วยของท่านเฉียว เขาก็ถูกชายในชุดสูทสองคนขวางทางเอาไว้“ฉันมาหาท่านเฉียว”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย“แสดงบัตรประชาชนของคุณหน่อยครับ!”หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ฉู่เฉินหัวเราะเจื่อนๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมลืมไว้ที่บ้าน แต่ว่าพวกคุณลองไปแจ้งให้ผู้ว่าการเฉียวดูก็ได้นะครับ
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าท่านผู้เฒ่าท่านนี้เหลือเวลาอีกไม่มาก แต่สาเหตุที่ว่าทำไมถึงมีร่องรอยของการเสียชีวิต อันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจครับ”ความหมายในคำพูดของฉู่เฉินชัดเจนเป็นอย่างมาก นั่นก็คือท่านหลงไม่ได้มีโรคภัยอะไร แต่จะตายโดยอุบัติเหตุ“บังอาจ!”ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่ฉู่เฉินพูดจบ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านขวาของท่านหลงก็ยืนขึ้นมา ถลึงตาดุร้ายราวกับเสือ พร้อมทั้งเดินมาข้างหน้าอย่าดุร้าย!รอบๆ ตัวของเขามีกลิ่นอายของผู้ฝึกปราณชั้นหกคละคลุ้งออกมา!แม้แต่เฉียวเทียนฉี่ที่เป็นบุคคลสูงส่งขนาดนี้ก็ยังรับไม่ไหวกับความน่าเกรงขามของเขาไม่ได้ ถึงกลับต้องถอยไปข้างหลังท่านหลงกลับยิ้มไม่พูดอะไรมองไปที่ฉู่เฉินเมื่อเห็นฉู่เฉินไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่อย่างไร ยังคงดื่มชาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ท่านหลงเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย และเขาก็ชื่นชมในตัวฉู่เฉินมากยิ่งขึ้นอีกด้วยหนักแน่นดั่งเขาไท่ซาน!เด็กหนุ่มแบบนี้ตอนนี้มีไม่มากเท่าไหร่แล้ว“ที่ผมพูดล้วนแต่เป็นความจริง ดังนั้นนายท่านใหญ่ช่วงนี้ให้ระวังตัวเป็นพิเศษหน่อยนะครับ หลีกเลี่ยงเผื่อจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ เมื่อถ
ถังจิ้งจือกวาดมองฉู่เฉินอย่างดูถูก เขายิ้มเยาะ “เสียแรงที่เป็นถึงแพทย์แผนจีน ไม่รู้จักแม้กระทั่งฉันได้ยังไง ถังจิ้งจือ หนึ่งในแพทย์จีนหัตถ์เทวดาระดับประเทศ เคยได้ยินหรือเปล่า”ถังจิ้งจือใบหน้าหยิ่งทะนง เขาเม้มปาก ยื่นมือออกไปหมายจะคว้ายาบำรุงปราณในมือของท่านเฉียวเขาเป็นแพทย์ประจำตัวของท่านหลง เดิมทีที่เขาติดตามท่านหลงมาในครั้งนี้ เพียงเพื่อมาเยี่ยมเยือนท่านเฉียวเท่านั้นแต่ทว่า ตั้งแต่สองผู้อาวุโสพบหน้ากัน นายท่านใหญ่เฉียวกลับเอ่ยชมความสามารถด้านการแพทย์ของฉู่เฉินไม่ขาดปากแม้แต่เฉียวเทียนฉี่ยังเรียกฉู่เฉินว่าหมอเทวดาฉู่ทุกคำ นี่ทำให้ถังจิ้งจือที่เป็นหมอรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเขาเป็นถึงหมอหัตถ์เทวดาระดับประเทศเชียวนะ แม้จะไร้หนทางรักษาอาการป่วยของนายท่านใหญ่เฉียวก็แล้วไปตอนนี้นายท่านใหญ่ดีขึ้นมากแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เหลือได้ นี่ไม่เท่ากับโดนตบหน้าตรงๆ เหรอเป็นถึงหมอหัตถ์เทวดาระดับประเทศ หมอประจำตัวของท่านหลง แต่กลับพ่ายแพ้เรื่องความสามารถด้านการแพทย์ให้กับเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง ถังจิ้งจือมีหรือจะยอมจบง่ายๆ?เขาข่มกลั้นความโกรธไว้เต็มอกก่อนที่ฉู่เฉินจะมาอยู่แ
เพียะ!ถังจิ้งจือยังพูดไม่ทันจบ ฉู่เฉินสะบัดฝ่ามือใส่หน้าเขาอย่างแรง ถังจิ้งจือถูกตบจนตัวหมุน แว่นตาบนหน้ากระเด็นออกไปไกลสามเมตร ตกกระแทกพื้นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย“ใครมอบความกล้าให้คุณ ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายต่อหน้าผม!”พูดจบ ฉู่เฉินลุกขึ้นและหันไปพูดกับท่านเฉียวว่า “ท่านเฉียว กินยาบำรุงปราณแล้วผมจะใช้วิชาฝังเข็มกระตุ้นให้ฤทธิ์ยากระจายไปทั่วร่างกายของคุณเอง”ท่านเฉียวเหลือบมองท่านหลงที่สีหน้าดำทะมึนแวบหนึ่ง แต่ก็ยังทำตามที่ฉู่เฉินบอกท่านเฉียวเพิ่งจะกินยาบำรุงปราณ ฉู่เฉินยกมือขึ้นพร้อมกับเข็มเงินสามเล่มที่ลอยอยู่กลางอากาศ ส่งเสียงดังหึ่งๆ เป็นระยะภาพเหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่ท่านหลงก็ยังต้องลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึง มองฉู่เฉินและอุทานด้วยความตื่นตาตื่นใจว่า “นะ… นี่มันวิชาฝังเข็มเสวียนเทียนคืนวิญญาณ?!”บอกตามตรง ทั้งชีวิตท่านหลงเคยเห็นแค่ครั้งเดียวนั่นก็คือตอนที่นักพรตพเนจรท่านหนึ่งใช้วิชานี้เพื่อรักษาท่านอาจารย์ที่หอคอยเทียนจื่อในเมืองหลวงตอนนั้น นักพรตพเนจรคนนั้นพูดเองกับปาก บนโลกนี้นอกจากเขาก็ไม่มีใครสามารถใช้วิชาลึกลับนี้ได้อีกพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหลายสิบปี แพทย์ชื่อด
“ท่านหลง… ผม…”ท่านหลงเอามือไพล่หลัง เอ่ยเสียงเย็นว่า “ทักษะการแพทย์ไม่ได้เรื่องยังเรียนเพิ่มได้ แต่จิตใจไร้คุณธรรมนั้นไม่เหมือนกัน อาวุโสถัง รักษาตัวด้วยก็แล้วกัน!”“ผม…”ถังจิ้งจือยังคิดจะแก้ตัวต่อ แต่ถานเฟยไม่เปิดโอกาสให้เขา เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของถังจิ้งจือและโยนเขาออกจากห้องผู้ป่วย ราวกับเขาเป็นเพียงขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้นท่านหลงจ้องแผ่นหลังของเฉียวเทียนฉี่และฉู่เฉิน ก่อนจะหันไปบุ้ยปากสั่งถานเฟยนว่า “ไป ขอช่องทางติดต่อคุณฉู่มา”“ครับ!”ถานเฟยรับคำ จากนั้นก็รีบวิ่งตามไปท่านเฉียวมองถานเฟยที่เดินห่างออกไป หันมาพูดกับท่านหลงว่า “หัวหน้า คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย เทียนฉี่มีเบอร์โทรของคุณฉู่อยู่แล้ว ผมให้เขาส่งให้คุณก็ได้นี่”ท่านหลงโบกมือยิ้มๆ “ไม่ได้ครับ! จะขอร้องยอดฝีมือ ก็ต้องแสดงท่าทีอ้อนวอนให้เขาเห็น ถ้าหากเสียวฉู่ยอมคบเพื่อนอย่างผมคนนี้ เขาย่อมให้ช่องทางติดต่อกลับมา ถ้าหากเขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม ถึงผมจะโทรหาเขาเอง จะมีประโยชน์อะไรล่ะ”ถึงแม้จะรู้จักกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ท่านหลงกลับดูออกว่าฉู่เฉินไม่ใช่คนที่จะสามารถใช้อำนาจกำราบได้ไม่อย่างนั้น เมื่อกี้เขาไม่มีท
ถังจิ้งจือกัดฟันชี้หน้าฉู่เฉิน ข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นถึงไม่มีท่านหลงหนุนหลังแล้ว เขาก็มั่นใจว่าสามารถใช้เส้นสายและวิธีการต่างๆ บีบแพทย์แผนจีนตัวเล็กๆ ในเมืองเจียงจงคนนี้ให้ตายคามือได้อย่างแน่นอนในสายตาของเขา การจะฆ่าฉู่เฉินเป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนบี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น!ฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ ขณะจ้องพิจารณาถังจิ้งจือด้วยสายตาดูถูก “งั้นเรารอดูกันต่อไปก็แล้วกัน แต่คุณอย่าทำอะไรเกินตัว จนเอาชีวิตแก่ๆ เข้าไปเสี่ยงด้วยก็แล้วกัน”“แก…”ฉู่เฉินไม่อยากฟังถังจิ้งจือเห่าหอน เขาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทันทีถังจิ้งจือจ้องไฟท้ายรถของฉู่เฉินที่ขับห่างออกไปแล้ว โกรธจนแทบจะคลั่ง แต่กลับทำอะไรฉู่เฉินไม่ได้เลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคอยดูไว้เถอะ!”ถังจิ้งจือคำรามเสียงลั่น กระชากชุดกราวน์บนตัวปาทิ้งบนพื้นแรงๆเห็นถังจิ้งจือที่โกรธหัวฟันหัวเหวี่ยงผ่านกระจกมองหลัง ฉู่เฉินแสยะยิ้มเยาะ จากนั้นก็หักเลี้ยวพวงมาลัยไปทางซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลได้ยินว่าฉู่เฉินมาตรวจตรางาน กวนเหล่ยเปลี่ยนไปใส่กระโปรงสั้นลายเสือดาวดูยั่วยวน แล้วยังจงใจดึงคอเสื้อลงข้างล่างอีก เธอยืนรอฉู่เฉินอยู่หน้าลิฟต์นานแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก
หลังจากขึ้นเครื่องบินที่จะมุ่งหน้าสู่เมืองหมอตู ฉู่เฉินถึงเพิ่งรู้จากกู้รั่วเสวี่ย ว่าตระกูลหลี่และตระกูลกู้ได้ร่วมมือกันบุกเบิกพื้นที่ใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกับเมืองหมอตูแต่ตระกูลกู้เพิ่งควักทุนก้อนโต เพิ่งได้รับพื้นที่ผืนนั้นมา จู่ๆ ตระกูลหลี่ก็ถอนทุนคืนกลางคันเมื่อเป็นอย่างนั้น ตระกูลกู้จึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกถึงจะได้ที่ดินมาแล้ว แต่กลับไม่มีทุนสร้างตึก ถ้าหากไม่ส่งต่อในราคาต่ำ ก็ทำได้เพียงปล่อยว่างไว้อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นทุนนับหมื่นล้านก็ต้องจมอยู่กับที่ดินผืนนั้นหากปล่อยไว้นาน ตระกูลกู้อาจเสี่ยงเจอสภาวะหมุนเงินทุนไม่ทันฟังกู้รั่วเสวี่ยเล่าจบ ฉู่เฉินขมวดคิ้วบอกว่า “ต้องใช้เงินทุนเท่าไรในการก่อสร้างบนที่ดินผืนนั้น”กู้รั่วเสวี่ยเท้าคางครุ่นคิดครู่หนึ่ง “อย่างน้อยก็หนึ่งหมื่นล้านบาท”“อีกอย่าง นี่ยังเป็นแค่ค่าใช้จ่ายช่วงแรก ถ้าหากสร้างเสร็จทั้งหมดยังต้องลงทุนต่ออีกห้าหมื่นล้านบาท”ฉู่เฉินพยักหัว “นั่นก็หมายความว่า ทั้งหมดต้องใช้เงินแค่หกหมื่นล้านบาท? ที่ดินผืนนั้นตระกูลกู้วางแผนไว้ยังไงล่ะ จะสร้างเป็นสถานบันเทิง หรือว่า…”“วางแผนไว้ว่าจะสร้างศูนย์รวมที่พัก เที่ยว และร้า
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ
“ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ
แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง
“หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ
ยาสร้างกล้ามเนื้อดวงตาคู่งามของอวี้ลู่จดจ้องและจำเม็ดยาสีทองในมือฉู่เฉินได้ในทันทีก็เพราะยาสร้างกล้ามเนื้อในโลกเซียนราคาแพงลิบลิ่ว!ผู้ใดก็ตามที่มียาสร้างกล้ามเนื้อแค่หนึ่งเม็ดก็เท่ากับมีสองชีวิตเชียวและนักหลอมยาที่หลอมยาสร้างกล้ามเนื้อสำเร็จแทบนับนิ้วได้เลยในโลกเซียนด้วยเหตุนี้ยาสร้างกล้ามเนื้อแค่เม็ดเดียวก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรล้ำค่าในการฝึกบำเพ็ญได้มหาศาลเช่นกันแต่ฉู่เฉินตัวดี กลับนำสิ่งล้ำค่าขนาดนี้ใช้กับหญิงวัยกลางคนเพียงเพื่อรักษาโรคฝีหนองนะหรือ?เสียของดีหมด!ช่างเสียของจริงๆ!ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนในนี้เยอะ อวี้ลู่คงคิดจะพุ่งขึ้นไปตบเจ้าฉู่เฉินสักป๊าบ!นี่มันไม่ใช่การสิ้นเปลืองหรอกหรือ?รู้แต่แรกว่าเจ้ารักษาไม่ได้ก็บอกข้าที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์สิ แค่ไอเซียนก็ทำให้นางฟื้นตัวเป็นปกติเช่นเดิมแล้ว ไยต้องสิ้นเปลืองยาสร้างกล้ามเนื้อไปหนึ่งเม็ดด้วย?ทุกคนประหลาดใจหญิงวัยกลางคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยแผลฝีหนองอยู่ๆ ก็หายดีราวปาฏิหาริย์ในเวลานี้เองผิวของเธอซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งดำและหยาบกร้าน กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาใหม่ในขณะนี้ และแม้แต่ผิวหนังชั้นแรกที่อักเสบเป็นพิ
เช่นเดียวกันที่ถังจิ้งจือหน้าเปลี่ยนสีไปมาบนเก้าอี้กรรมการผู้ป่วยที่รักษายากโดยแท้จริงแล้วมีเพียงแค่หญิงวัยกลางคนคนเดียวเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันล่วงหน้าจึงเขียนเลขหนึ่งร้อยสิบแปดในกระดาษฉลากทั้งหมดกล่าวได้อีกว่าไม่ว่าฉู่เฉินจะหยิบใบไหนผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม“โกงจริงๆ ด้วย!”“น่าละอายใจจริงๆ คนจากสำนักหมอมีสันดานอย่างนี้เองเรอะ?”ผู้ชมล่างเวทีและชาวเน็ตบนอินเทอร์เน็ตด่าทอหลี่จวิ้นเฟิงกันยกใหญ่ขนาดฟางอวี่เจิ้งก็หันไปมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยสายตาเกลียดชังราวกับมองศัตรูคู่แค้นแม่เอ๊ย ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนสินะ?กล้าเล่นตุกติกต่อหน้าฉัน!ฟางอวี่เจิ้งคิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจียงไห่ตงทันทีไม่ว่าผลการแข่งขันวันนี้จะออกมายังไง ไอ้สุนัขเฒ่าถังจิ้งจือและสารเลวหลี่จวิ้นเฟิงอย่าได้คิดหนีเลยส่วนฉู่เฉินที่อยู่บนเวทีกลับไม่ได้สนใจรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบข้างสักนิด จับชีพจรหญิงวัยกลางคนพลางตกอยู่ในภวังค์ความคิดพูดตามสัตย์จริง การรักษาโรคฝีหนองสำหรับฉู่เฉินไม่ได้ยากเย็นเลยแต่หากรีบรักษาให้หายโดยเร็วคงต้องคิดวิธีที่พิเศษสักหน่อย“ขอน้ำแร่หนึ่งขวดให้ผมได้ไหม?”ฉู่เฉินก
เชรด พลังบุญนี้ได้มาง่ายเกินไปแล้วไหม?ฉู่เฉินกะพริบตาแล้วหันไปแย้มยิ้มกล่าวกับกลุ่มฮว่าจิ่วหยาง “ท่านฮว่าเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนเป็นหมอควรกระทำ”หลี่จวิ้นเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆฟังแล้วก็เยาะเย้ยกล่าว “ไอ้คนแซ่ฉู่ แม่งอย่าขี้คุยโวเลยแก ยังไม่ทันรักษา แกไปรู้ได้ไงว่าแกจะสามารถรักษาฝีบนผิวหนังของผู้ป่วยให้หายได้”“เหอะ วันนี้ฉันจะทำให้เอ็งคุกเข่าโขกหัวให้ฉัน!”หลี่จวิ้นเฟิงพูดจบแล้วก็เดินมายังข้างหน้ากล่องกระดาษ นิ่งไปชั่วครู่แล้วหันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านข้าง “ต้องขออภัย ผมคิดว่ากล่องใบนี้ไม่มงคล เปลี่ยนกล่องใหม่ได้ไหม”หืม?ทุกคนจ้องมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยความแปลกใจ แต่ที่เขาเรียกร้องมาก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เปลี่ยนกล่องจับฉลากเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้ไม่นานก็มีคนยกกล่องจับฉลากอีกอันขึ้นมา“ผู้ป่วยลำดับที่สามสิบเจ็ด”เจียงถิงอ่านเลขลำดับพร้อมขมวดคิ้วมองไปทางกล่องที่ถูกเอาไปไว้ตรงขอบเวที ในนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่นอนเวลาไม่นานก็ได้เห็นผู้ป่วยที่ติดแผ่นแปะบรรเทาหวัดที่หน้าผากหายใจทีไอทีก้าวเดินขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว“นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! คุณฉู่รักษาโร
โรคที่เธอเป็นอยู่ เธอรู้ดีว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลา ณ ตอนนี้งั้นก็หมายถึงฉู่เฉินต้องแพ้พนันอย่างแน่นอน แล้วยังต้องคุกเข่าโคกศีรษะให้คนแซ่หลี่อีกคิดได้ดังนั้น หญิงวัยกลางคนรีบเก็บข้อมือกลับมาแล้วลุกขึ้นกล่าว “คุณหมอ น้ำใจของคุณฉันรับด้วยใจได้ แต่...ฉันไม่อยากเป็นให้คุณลำบาก” “อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาขุดหลุมดักรอให้คุณกระโดดลงไป คุณอย่าได้รักษาฉันอีกเลย”ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคนแล้ว บรรดาผู้ชมนับหมื่นก็พากันพยักหน้าใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผู้ป่วยผิวหนังพุพองทั้งร่างจะไปรักษาให้หายทันทีในการแข่งขันนี้ได้ยังไงกันว่าก็ว่าเถอะ ขนาดฟางอวี่เจิ้งยังออกมายืนกรานตั้งข้อสงสัยเลย ขอแค่ฉู่เฉินพยักหน้า แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการแข่งขันก็ยังสามารถเปลี่ยนผู้ป่วยคนใหม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ กดบ่าของหญิงวัยกลางคนให้เธอนั่งลง และเอามือไพล่หลังข้างเดียว กล่าวเนิบๆว่า “ถ้าเพื่อชัยชนะ ที่จริงผมจะเปลี่ยนคนไข้ก็ได้ หรือเปลี่ยนหัวข้อก็ได้” “แต่คนเป็นหมอต้องมีเมตตา” “ถ้าที่ผมพูดไม่ผิดละก็ คุณได้ฝากความหวังครั้งสุดท้ายกับการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้แล้ว ถ้าผมปฏิเสธที่จะรักษาคุณเ