จ้าวเจวียนถึงขั้นเสียดายที่ไม่ลาออกมาทำงานกับฉู่เฉินตั้งแต่แรกถึงทำงานที่กรมตำรวจทั้งชีวิต เธอก็ไม่มีทางหาเงินซื้อรถหรูคันหนึ่งได้แน่ๆเห็นอย่างนั้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเชอฮุยถึงขั้นกระตุกสั่นฉู่เฉินมีเงินจริงๆ เหรอเนี่ยเขาค่อนข้างไม่อยากเชื่อ จึงรีบเรียกพนักงานขายคนหนึ่งให้หยิบเครื่องรูดบัตรมารูดบัตรเครดิตของฉู่เฉินดู จากนั้นก็พูดกับฉู่เฉินอย่างกระอักกระอ่วนสุดขีดว่า “คุณฉู่ กรุณากดรหัสของคุณด้วยครับ”พริบตาต่อมา เมื่อมีเสียงแจ้งเตือนว่าได้รับเงินสามร้อยล้านแล้ว ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตะลึงตาค้างไปทันทีโดยเฉพาะจ้าวเจวียนกับกวนเหล่ย พวกเธอแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองรถคนละหนึ่งคัน รวมทั้งหมดสามร้อยล้านบาทงั้นฉู่เฉินก็ซื้อรถหรูราคาร้อยห้าสิบล้านให้พวกเธอคนละคันน่ะสิ?ความสุขมาเยือนกะทันหันเกินไป กวนเหล่ยควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นไม่ไหว วิ่งเข้าไปกอดคอฉู่เฉิน และหอมแก้มเขาอย่างบ้าคลั่งภาพนั้นทำให้เย่ชิ่นเหยียนถึงขั้นยืนอึ้งค้างไปกับที่ไม่ใช่แค่เธอที่อึ้ง แม้แต่หยางเส้าหัวที่หันไปมองหน้าเชอฮุย ก็มีสีหน้าที่ดำทะมึนจนน่ากลัวแม่งเอ๊ย ใช้เงินสามร้อยล้านง่ายๆ โดยไม่แม้แต่จะกระ
พูดจบ ฉู่เฉินก็โทรศัพท์หาสองพี่น้องต้วนหลิงเสวี่ยทันทีถึงแม้กวนเหล่ยกับจ้าวเจวียนจะผิดหวังอยู่บ้างแต่การได้เจอกับเจ้านายที่รวยขนาดนี้ ขอแค่ปรนนิบัติพัดวีให้เขาผ่อนคลายสบายใจ วันข้างหน้าไม่แน่อาจได้รถหรูราคาสามร้อยกว่าล้านมาครองก็ได้หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที ณ ประตูทางเข้า แสงแดดยามสายัณห์สาดส่องเข้าสู่ม่านตาของทุกคนผู้หญิงหน้าตาสะสวยดัดผมลอนใหญ่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสด เดินเฉิดฉายเข้ามาพร้อมกับบั้นท้ายอันอวบอิ่ม และหน้าอกอันสูงเชิดข้างๆ เธอ มีผู้หญิงสวยเพริศพริ้งที่เรือนร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์แบบในชุดเดรสสีขาวยืนอยู่ด้วย ภาพที่เห็นกลายเป็นทิวทัศน์อันงดงามและสมบูรณ์แบบอย่างยิ่งพอเห็นสองพี่น้องสกุลต้วน พวกเฒ่าลามกที่ตั้งใจมาถ่ายรูปพริตตี้ถึงขั้นลืมพวกพริตตี้สาวไปทันที พวกเขาหันกล้องมากดชัตเตอร์ใส่สองพี่น้องรัวๆชุดแดงเย้ายวน ชุดขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องพอสองสาวปรากฏตัว ก็ทำให้สาวสวยที่อยู่ในนี้กลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ไปในพริบตาแม้แต่เย่ชิ่นเหยียนก็ยังต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงในผิวอันเรียบลื่นดูชุ่มชื่น รวมถึงองคาพยพอันประณีตงดงามของพวกเธอที่จริงนั่นก็มีความดีความชอบข
แววตาที่มองฉู่เฉิน เต็มไปด้วยความรักและเทิดทูนผู้ชายคนนี้ตอนรูดบัตรจ่ายเงิน ช่างหล่อและมีเสน่ห์อะไรอย่างนี้!ยิ่งพอทุ่มเงินให้ผู้หญิงหลายร้อยล้าน แต่กลับยังพูดจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้คลื่นอารมณ์อย่างนี้ บวกกับน้ำเสียงทุ้มมีเสน่ห์ของเขา น่าหลงใหลเกินไปแล้วแม้แต่นางแบบสาวที่อยู่ข้างกายหยางเส้าหัว จู่ๆ ก็รู้สึกว่าหยางเส้าหัวไม่ได้เนื้อหอมอะไรขนาดนั้นราวกับว่าฉู่เฉินต่างหากที่คู่ควรกับความงามและคุณค่าของเธอเย่ชิ่นเหยียนในตอนนี้ถูกการกระทำอันบ้าคลั่งไร้การควบคุมของฉู่เฉินทำให้ช็อกค้างไปนานแล้ว เธอถึงขั้นเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเองขึ้นมาหรือหมอแผนจีนตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมีเงินได้ขนาดนี้จริงๆ ถึงขั้นที่ว่าจ่ายเงินไปหลายร้อยล้านโดยที่ไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย?แล้วผู้หญิงสวยสองคนที่เพิ่งมานั่น เป็นอะไรกับเขากันนะคงไม่ใช่ว่าเป็นคนรักของเขาหมดหรอกนะพอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมาได้ เย่ชิ่นเหยียนอดเบนสายตาไปมองจ้าวเจวียนกับกวนเหล่ยไม่ได้ถ้าหากกวนเหล่ยเป็นคนรักของฉู่เฉิน เธออาจจะเชื่อ แต่จ้าวเจวียน…จ้าวเจวียนอายุมากกว่าเธอถึงสามสี่ปีด้วยซ้ำ…ไม่น่าจะใช่คนรักของเขานั่นก็หมา
หยางเส้าหัวล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อทุกคนในงาน ก่อนจะค้นหาเบอร์โทรศัพท์แล้วโทรออกไปไม่นานนัก ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินก็เบียดฝ่าผู้คนออกมาอยู่ตรงหน้าหยางเส้าหัวแล้วเอ่ยว่า “คุณชายหยาง”หยางเส้าหัวชี้ไปที่ชายวัยกลางคนด้วยใบหน้าลำพองใจก่อนจะกล่าวว่า “ท่านนี้คือหัวหน้าแผนกจ้าวจากกรมขนส่ง ต้องขอโทษมาก ๆ ครับ วันนี้ทางกรมขนส่งหยุด รถทุกคันไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ ถูกต้องไหมครับ? หัวหน้าแผนกหลิว?”หัวหน้าแผนกหลิวอึ้งไปก่อน จากนั้นถึงค่อยพยักหน้าติดต่อกันแล้วเอ่ยว่า “ใช่ ๆๆ วันนี้ไม่สามารถ...” “หัวหน้าแผนกหลิวใช่ไหม? ฉันขอแนะนำคุณสักประโยค คิดให้ดีก่อนแล้วค่อยพูด”หัวหน้าแผนกหลิวยังไม่ทันเอ่ยจบ จ้าวเจวียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉู่เฉินก็มองหัวหน้าแผนกจ้าวด้วยใบหน้ายิ้มหยัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชาซี้ด!ทำไมหัวหน้าแผนกหลิวยิ่งฟังเสียงนี้ก็ยิ่งรู้สึกคุ้น ๆ?เมื่อหันหน้าไปมอง เขาก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอยปีศาจโลหิต!ยัยนี่เป็นคนโหดเหี้ยมเลยนะ!“อุ๊ย นะ...นี่หัวหน้าจ้าวไม่ใช่เหรอครับ ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ได้ครับ?”หัวหน้าแผนกหลิวดูหวาดกลัวขึ้นมาในพริบตาแม้ว่าหยางเส้าหั
ทว่าฉู่เฉินกลับทำหน้าจริงจัง เย่ชิ่นเหยียนได้แต่ถอนหายใจกล่าวว่า “เขานอกใจ”คำธรรมดาสามคำก็เหนือกว่าคำพูดนับพันนับหมื่นแล้วฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เรื่องในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไป ตอนที่อายุยังน้อยใครไม่เคยเจอคนโง่เง่าบ้างล่ะ?” พรืด! ในกลุ่มคนรอบข้างที่เฝ้าดูความคึกคัก ในที่สุดก็มีคนอดไม่ไหวหัวเราะออกมาสถานการณ์ของหยางเส้าหัวในตอนนี้เลยดูกระอักกระอ่วนมากยิ่งขึ้น ถูกฉู่เฉินชี้หน้าด่าว่าโง่เง่า เขากลับไม่อาจพูดแย้งกลับอะไรได้“คุณฉู่ คุณคิดดีแล้วจริง ๆ เหรอว่าจะเป็นศัตรูกับตระกูลหยาง?”หยวนคุนที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้ง“ทำไมครับ?” ฉู่เฉินหันหน้ามองไปทางหยวนคุน “คุณฉู่อย่าเข้าใจผิดครับ ผมหมายความว่าในเมื่อคุณเป็นลูกค้าของบริษัทจำหน่ายรถเรา ถ้าเกิดมีความต้องการ บริษัทจำหน่ายรถของเราสามารถให้บริการคุ้มครองคุณได้ทุกเมื่อ” “การรับประกันว่าลูกค้าทุกท่านสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัยคือหน้าที่ของบริษัทจำหน่ายรถเราครับ” หยวนคุนทำสีหน้าสงบนิ่ง ไม่มีความหวั่นไหวเลยสักนิดเดียว ทว่าได้แสดงจุดยืนออกมาแล้วหยางเส้าหัวที่ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทั
“ฉู่เฉิน”หลังจากที่รับนามบัตรแล้ว ฉู่เฉินก็เอ่ยปากพูดอย่างเฉยชาก่อนจะโทรศัพท์ไปตามหมายเลขบนนามบัตร เมื่อเสียงดังขึ้นเพียงหนึ่งครั้ง ฉู่เฉินก็วางสายหยวนคุนอดอึ้งไม่ได้ ก่อนจะเข้าใจทันทีแล้วแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังลั่นขึ้นมา“ไม่มีนามบัตร ขอโทษด้วยนะครับ แต่ว่าเป็นเพื่อนกันได้”ฉู่เฉินกล่าวจบก็ยัดนามบัตรเข้าไปในอกหยวนคุนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นกล่าวว่า “น้องชาย ถ้าเกิดต้องการอะไร สามารถโทรเข้าเบอร์นั้นได้ตลอดเวลา ไม่มีใครในเจียงจงทำร้ายคุณได้หรอก”ฉู่เฉินก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะจับมือกับหยวนคุนแล้วพูดว่า “คนที่ทำร้ายผมได้ยังไม่เกิดมาหรอกครับ” หยวนคุนตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มทันทีว่า “น้องชายมีมาดไม่ธรรมดาจริง ๆ ผมขอตัวก่อนนะ” เมื่อเห็นหยวนคุนเดินไปไกลแล้ว ใบหน้าของหยางเส้าหัวก็เผยรอยยิ้มหยันที่ดุดันออกมาตราบใดที่หยวนคุนไม่สอดมือ วันนี้ฉู่เฉินจะต้องตายอย่างแน่นอน!ในขณะที่เย่ชิ่นเหยียนขับรถสปอร์ตกลับมาที่โชว์รูมรถ ชายชราผมสีดอกเลาสวมเสื้อคอจีนสองคนก็เดินลงมาจากรถเก๋งสีดำเมื่อเห็นชายชราสองคนนี้ หลายคนในที่แห่งนี้ก็ร้องอุทานออกมาเย่ชิ่นเหยียนตกใจจนสะ
หมอนี่บ้าไปแล้วหรือไง?นั่นคือผู้อาวุโสฮวากับผู้อาวุโสกู่ เป็นตัวตนที่แม้แต่ปรมาจารย์จินเจิ้นหลงเห็นก็ต้องคุกเข่าโขกหัวคารวะคนอื่นเขาไม่ได้หาเรื่องคุณก็โชคดีมากแล้วคุณกลับกล้าหาเรื่องเองเนี่ยนะ?!เย่ชิ่นเหยียนเครียดจนพูดไม่ออกแล้ว มือเล็ก ๆ ที่ดึงแขนของฉู่เฉินไว้ก็สั่นเทาไม่หยุด ถึงแม้เธอจะรู้จักกับฉู่เฉินได้ไม่นาน แต่เธอไม่อยากให้ฉู่เฉินเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ“สหายน้อย คุณกำลังพูดกับผมเหรอ?” ฮวาว่านโหลวหันตัวกลับมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะมองฉู่เฉินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“ถ้าไม่ได้พูดกับคุณ แล้วพูดกับอากาศหรือไง?”ฉู่เฉินหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนแล้วจุดไฟทันที เขาสูบพ่นควันพลางเอ่ยปากพูดอย่างเรียบนิ่งว่า “คนที่เที่ยวข่มผู้อื่นโดนอาศัยว่าตัวเองอาวุโสกว่า ผมเห็นมาเยอะแล้ว แต่ว่าคนที่อายุเท่าคุณแต่ยังทำตัวอวดเก่ง ผมไม่ค่อยเห็นจริง ๆ” แค่ก ๆๆ...ฮวาว่านโหลวอดกระแอมไอแรง ๆ ไม่ได้ เขาอวดเก่งตั้งแต่เมื่อไหร่?ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า นายคิดว่าเรื่องนี้จะแล้วกันไปแบบนี้เหรอ? ให้ทางรอดนายแท้ ๆ แต่นายจะหาเรื่องตายเองให้ได้“ดูเหมือ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าวินาทีต่อมาฉู่เฉินจะถูกพลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวสองสายนี้กดดันจนคุกเข่าลงทันที ฉู่เฉินกลับแค่นเสียงเย็นแล้วโบกมือหนึ่งที พลังกดดันอันน่ากลัวสองสายหายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา!เมื่อเห็นฉากนี้ ฮวาว่านโหลวกับกู่ฉางเซิงตกตะลึงไปเล็กน้อย แม้แต่หยางเส้าหัวก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง ยังนึกว่าตัวเองมองผิดไปใช่หรือเปล่า พลังกดดันสองสายของผู้แข็งแกร่งระดับฝึกปราณชั้นเจ็ดถูกฉู่เฉินจัดการง่ายดายขนาดนี้เชียวเหรอ?“เจ้าหนุ่ม คิดไม่ถึงว่าคุณจะเก็บงำฝีมือไว้ลึกมากเลย”กู่ฉางเซิงหรี่ตา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน!จนกระทั่งตอนนี้เอง เขากับฮวาว่านโหลวถึงตระหนักได้ว่าที่แท้ฉู่เฉินก็เป็นสุดยอดฝีมือระดับฝึกปราณชั้นเจ็ดเหมือนกัน! แม้ในใจของเขาจะตกตะลึงอย่างยิ่ง แต่ว่าต่อให้ฉู่เฉินเอาชนะหนึ่งในพวกเขาได้ก็ไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้เลย สองต่อหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้อย่างยุติธรรมระหว่างระดับเดียวกัน ฉู่เฉินก็ไม่มีทางรอดไปได้เด็ดขาด“เลิกพูดจาไร้สาระ พวกคุณสองคนจะเข้ามาทีละคน หรือว่าเข้ามาพร้อมกัน?” ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ไม่เห็นกู่ฉางเซิงกับฮวาว่านโหลวอยู่ในสายตาเลย แค่ระดับ
แม้ว่าฉู่เฉินจะมีมรดกของมังกรเฒ่า แต่เวลานี้เขาตกอยู่ท่ามกลางอาคมประตูกลมหัศจรรย์โดยสิ้นเชิงแล้วตั้งแต่โบราณมาวิชาประตูกลมหัศจรรย์ก็คือวิชาลี้ลับที่แย่งชิงพลังจากฟ้าเพื่อสร้างโชค ลึกลับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเห็นใต้เท้าของฉู่เฉินเกิดเป็นน้ำวน “กินคน” เสิ่นเจี้ยนเฟิงรีบตะโกนเสียงดังบอกเกาเซิ่งอี้ว่า “รีบไปเร็วเข้า! ที่นี่กำลังจะถล่มแล้ว!”เมื่อสิ้นเสียงพูด เสิ่นเจี้ยนเฟิงก็พุ่งปราดออกไป เกาเซิ่งอี้เองก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนร่างกาย รีบทะยานออกไปอย่างรวดเร็วโครม!วินาทีต่อมา ทั่วทั้งห้องโถงถล่มลงไปจริง ๆ เกิดเป็นหลุมลึกที่มองไม่เห็นพื้นขึ้นมาที่ใต้ดินโครมคราม!ชั่วขณะหนึ่ง อาณาเขตคฤหาสน์กว่าครึ่งคล้ายกับอยู่ท่ามกลางทรายดูดในทะเลทราย แม้แต่ตัวคฤหาสนทั้งหลังก็จมลงไปในหลุมลึกเช่นกันส่วนฉู่เฉินก็จมลงไปสู่ใต้ดินตามคฤหาสน์ไปเช่นเดียวกัน“ฮ่า ๆๆ...”เสิ่นเจี้ยนเฟิงเห็นฉู่เฉินโดนฝังลึกอยู่ในใต้ดินแล้ว เขาก็อดแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังไม่ได้แล้วพูดว่า “ไอ้เด็กไม่รู้ความ ยังกล้าอวดดีต่อหน้าพวกเราอีกเหรอ? นี่ก็คือจุดจบของแก!”จางจิ่งหลงมองคฤหาสน์ที่โดนฝังลึกอยู่ในใต้ดินแวบหนึ่ง ก่อนจ
ฉู่เฉินกลับไม่สนใจเขาเลย เพราะว่าจางจิ่งหลงที่อยู่ข้างหลังเขาก็ออกหมัดสังหารเข้ามาเช่นกัน“ลองดูหมัดมังกรดำของฉัน!”ฟิ้ว!สายลมรุนแรงที่ขนาบโดยหมอกดำพุ่งตรงมาที่กลางหลังของฉู่เฉิน“ตายซะ!”ในขณะเดียวกัน เกาเซิ่งอี้พุ่งกายหลายครั้งราวกับภูตผีจนมาถึงด้านหลังของฉู่เฉิน เขายกฝ่ามือดำทะมึนขึ้นมาก่อนจะฟาดตรงไปที่เอวของฉู่เฉินถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะพุ่งตัวหลบหมัดมังกรดำของจางจิ่งหลงแล้ว แต่เขาก็รับหมัดของเกาเซิ่งอี้ไปเต็ม ๆผัวะ!ลอบโจมตีสำเร็จ เกาเซิ่งอี้ยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มหยันออกมาสุดท้ายฉู่เฉินก็ยังเด็กเกินไป ไม่เคยผ่านประสบการณ์ต่อสู้ตะลุมบอนเช่นนี้มาก่อนขอเพียงเขาโดนฝ่ามือนี้ แค่ไอชั่วร้ายด้านในก็เพียงพอเปลี่ยนให้ฉู่เฉินกลายเป็นน้ำเลือดน้ำหนองแล้วอย่างไรก็ตาม วินาทีถัดมา รอยยิ้มของเขาก็แข็งค้างโดยสิ้นเชิงฉู่เฉินถูกเขาซัดฝ่ามือใส่เอว ไม่เพียงไม่ล้มลงคาที่ แต่ว่าลมปราณกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าไอชั่วร้ายของเขาไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ ให้กับฉู่เฉินเลย ตรงกันข้ามยังเป็นยาบำรุงให้ฉู่เฉินแทนเวรเอ๊ย!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?ต้องรู้เอาไว้ว่า วิชาที่เขาฝึกฝนคือ
เมื่อไอชั่วร้ายแผ่กระจายออกมา อุณหภูมิรอบด้านพลันลดฮวบลงถึงจุดเยือกแข็งในพริบตา เวลานี้เอง ผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่อยู่ด้านล่างเวทีพากันส่ายหน้า แปดเก้าในสิบส่วนคิดว่าฉู่เฉินจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแล้วถูกยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสามคนล้อมเอาไว้ แม้ว่าร่างกายของฉู่เฉินเป็นเหล็ก จะบดขยี้ตะปูหลายเล่มได้เหรอ?ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เป็นเกาเซิ่งอี้ที่มีความสามารถอ่อนด้อยที่สุดในหมู่ทั้งสามคนก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายเหมือนกัน“คนแซ่ฉู่ ต่อให้ฉันต้องตายก็จะให้แกตายไปเป็นเพื่อนด้วย”ทางด้านข้าง ฉีอวี่ไท่ที่นอนประคับประคองชีวิตอยู่บนเสาปูนมาตลอด ไอเป็นเลือดไปพลาง เอ่ยพร้อมกับหัวเราะหยันติดต่อกันไปพลางเวลานี้เอง เขารู้ว่าอวัยวะภายในของตัวเองถูกฉู่เฉินทำลายจนหมดแล้ว ต่อให้ฉู่เฉินไม่ฆ่าเขา เขาก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่พอเขาเห็นฉู่เฉินโดนยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสามคนรุมโจมตี ดวงตาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งส่วนผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่ชมความคึกคัก เวลานี้ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความอันตรายเลยพากันถอยออกไปจากห้องโถง หลบออกไปไกลถึงอย่างไรยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสี่คนต่อสู้กัน ต่อให้
“ไอ้หนู แกล้าดีนักนะ!”จางจิ่งหลงถลึงตาสองข้างอย่างเกรี้ยวกราด เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องมองฉู่เฉินอย่างขุ่นเคืองเกาเซิ่งอี้ก็ลุกขึ้นมาช้า ๆ แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเย็นชาว่า “ฉู่เฉิน แกโอหังเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? ต่อให้อาจารย์ของแกมาก็ไม่กล้าท้าทายพวกเราสามคนพร้อมกันหรอก!”เสิ่นเจี้ยนเฟิงลุกขึ้นมาเช่นกันแล้วกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม เปิดเผยความสามารถมากเกินไป บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ”ถังเทียนอวี่เป็นอัจฉริยะของตระกูลถังจริง ๆ แต่ถึงอย่างเขาก็มีแค่พลัง ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริงเท่าไหร่นัก แต่พวกเกาเซิ่งอี้กับจางจิ่นหลงไม่เหมือนกันตลอดทางมาเดินมานี้ มีใครบ้างที่ไม่ได้ผ่านศึกมานับร้อย?เมื่อเทียบกันแล้ว ความสามารถอันน้อยนิดของถังเทียนอวี่ไม่นับว่าเป็นอะไรเลยพูดได้ว่า ถึงแม้จะอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นสี่เหมือนกัน แต่ถังเทียนอวี่สองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจางจิ่งหลงยิ่งไม่ต้องพูดถึงจางจิ่งหลงกับเสิ่นเจี้ยนเฟิงที่เป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นสี่นอกจากนี้ เกาเซิ่งอี้ก็อยู่ห่างจากระดับสร้างรากฐานชั้นสี่แค่ก้าวเดียวเท่านั้น“เดิมทีฉันไม่อยากเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขอเพียงแกย
พรวด!คราวนี้ เจ็บมากเกินไปแล้วถังเทียนอวี่อ้าปากกว้างกระอักเลือดคำโตโดยที่มีเศษอวัยวะภายในปะปนอยู่ด้วยออกมาแม้แต่แสงสีทองบนร่างของเขาสายนั้นก็หมองหม่นลงไปในพริบตาเวลานี้ถังเทียนอวี่รู้สึกแค่ว่าเหมือนอวัยวะภายในเคลื่อนที่หมดแล้ว เจ็บจนเส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปนขึ้นมา อ้าปากกว้าง ทว่าร้องโหยหวนไม่ออกแม้แต่นิดเดียว“นี่ก็คืออัจฉริยะของตระกูลถังเหรอ?”ฉู่เฉินใช้เท้าเหยียบใบหน้าของถังเทียนอวี่ แล้วขยี้กับพื้นไม่หยุด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “ต่อให้เป็นหมูก็ยังเก่งกว่าอัจฉริยะแบบนี้อีกมั้ง?” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หางตาของถังเทียนอวี่ก็แทบจะเบิกโพลง เขากัดฟันแน่น ปรายตามองฉู่เฉินพลางเอ่ยว่า “นะ...นายกล้าดูถูก...”“ผัวะ!”ฉู่เฉินเตะเข้าที่ปากของถังเทียนอวี่ จากนั้นก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “ผมดูถูกตระกูลถังของคุณแล้ว คุณจะทำอะไรผมได้? ผมดูถูกคุณแล้ว คุณจะทำอะไรได้?”ถังเทียนอวี่โกรธจนตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด แต่ก็เป็นเหมือนกับที่ฉู่เฉินพูดไว้ ตันเถียนของเขาถูกฉู่เฉินเตะจนแตกไปหมดแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?เวลานี้ บรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่รอบด้านต่างมองไปทางฉู่เฉินด้วยสายตาที่เ
บรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่นั่งใกล้หน้าประตูมากมาย เห็นกับตาว่าแม้แต่รถกอล์ฟก็ถูกอัดจนผิดรูปไปแล้ว พวกเขาก็รีบถอยไปทางมุมกำแพง กลัวว่าจะต้องตายอย่างอนาถโดยไร้ความผิดส่วนหมัดของถังเทียนอวี่นี้ก็มีอานุภาพสะเทือนฟ้าดินจริง ๆพูดได้ว่าเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ฉู่เฉินเคยพบเจอนับตั้งแต่ที่เข้าวงการมาถึงอย่างไรตระกูลถังก็เป็นตัวตนที่กดขี่ทั้งเมืองได้ด้วยตระกูลเดียว ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธ์หรือความสามารถของตัวถังเทียนอวี่เอง สำนักเล็ก ๆ ระดับล่างอย่างสำนักเสวียนเทียนกับสำนักอวี้ซือไม่อาจเทียบได้เลยพูดได้ว่าสำนักเล็ก ๆ ทั้งสองนั้นเป็นเพียงเศษธุลีที่ลอยวนเวียนอยู่ขอบโลกแห่งการหยั่งรู้เท่านั้นแต่ตระกูลถังกลับไม่เป็นเช่นนั้น ตัวตนที่สามารถสยบทั้งเมืองได้ด้วยพลังอำนาจของตระกูล มีใครบ้างที่ไม่ได้มาจากสำนักใหญ่ ครอบครองวิชาชั้นสูงเป็นมรดกตกทอด?เวลานี้เอง ภายในดวงตาของถังเทียนอวี่เต็มไปด้วยจิตสังหารเย็นเยียบ แทบอยากจะต่อยฉู่เฉินให้เนื้อแหลกละเอียดในหมัดเดียวเมื่อเห็นเขาจะลงมือสังหารฉู่เฉินจริง ๆ เกาเซิ่งอี้ที่นั่งอยู่บนที่สูงรีบเอ่ยปากกล่าวว่า “หลานถัง ห้ามต่อยเขาให้ตายในหมัดเดียวเด็ดขาด
เธอไม่อยากเอาชีวิตเล็ก ๆ ของตัวเองไปทิ้งตอนนี้ที่หลิ่วหรูเยียนยังอยู่กับฉู่เฉินไม่ไปไหน ก็เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากเขา ให้ช่วยพวกเธอสองแม่ลูกก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ก็เท่านั้น ไม่ตายเป็นเพื่อนฉู่เฉินแน่!“ฉู่เฉิน คนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะ หรือว่านายจะลองยอมรับปากพวกเขาไปก่อนดีไหม ถึงยังไง...”ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขัดขึ้นมา “พวกมันเคยเป็นใครมาก่อนฉันไม่รู้ แต่อีกไม่นาน เดี๋ยวพวกมันก็จะเป็นศพแล้ว”ซี้ด!ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ บรรดานักธุรกิจทรงอิทธิพลหลายคนที่นั่งอยู่รอบ ๆ ถึงกับสูดหายใจเข้าลึกด้วยความตกใจติด ๆ กันชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านล่างแถวหน้าสุดก็ลุกขึ้นยืน และพูดกับฉู่เฉิน “นี่น้องชาย แกรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?”“คนที่อยู่ตรงนั้นน่ะ คือปรมาจารย์เสิ่น บุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดของตระกูลผู้บำเพ็ญพรตแห่งปินเฉิง!”“ส่วนท่านผู้อาวุโสท่านนี้ คือผู้นำตระกูลจางแห่งเซียงเฉิงเชียวนะ!”“แล้วก็ยังท่านผู้นั้นอีก เขาคือถังเทียนอวี่อัจฉริยะของตระกูลถังแห่งอวิ๋นเฉิง!“มีท่านไหนบ้างที่สามารถเทียบเคียงกับคนแบบฉันและแกได้? เอ
“แม่คุณแซ่อะไรเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะมองเกาเซิ่งอี้ด้วยแววตาแข็งกร้าว“แก! แกหมายความว่าอะไร?”ใบหน้าของเกาเซิ่งอี้แฝงไปด้วยความเยือกเย็น เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะจ้องฉู่เฉินตาเขม็ง“คุณสั่งให้ผมมอบหยกโลหิตกิเลนให้คุณ ผมก็ต้องยอมมอบให้คุณง่าย ๆ? แล้วถ้าผมบอกให้คุณมอบชีวิตให้ผม คุณจะยอมปาดคอฆ่าตัวตายไหม?”ฉู่เฉินพูดออกมาด้วยสีหน้าหยันเกาเซิ่งอี้หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธในใจเอาไว้ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “นี่ไอ้หนุ่ม แกไม่รู้คุณสมบัติที่แท้จริงของหยกโลหิตกิเลนด้วยซ้ำ ถ้าแกมีมันอยู่ในมือ ก็ถือเป็นการทำลายสมบัติที่มีค่าและยังจะนำพาปัญหายิ่งใหญ่ตามมาอีก”“การให้แกมอบหยกโลหิตกิเลนให้ฉัน ก็เพราะหวังดีต่อแกนะ”ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างหนักแล้วพูดว่า “พูดได้มีเหตุผลดีจริง ๆ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ ก็ปรากฏความเย้ยหยันออกมา เพราะยังไงสุดท้ายแล้วฉู่เฉินก็ต้องยอมศิโรราบอยู่ดีไม่ใช่หรือไง?แต่ในวินาทีถัดมา ไม่ใช่แค่ถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ เท่านั้น แม้แต่เกาเซิ่งอี้เองก็ถึงกับหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธ เพราะคำพูดต่อมาของฉู่เฉิน“ความจ
บางทีสักวันหนึ่ง เธออาจจะสามารถเหยียบผู้ชายเฮงซวยพวกนี้ให้จมดินได้ในตอนนี้ คนที่ตกใจมากที่สุดก็ยังเป็นฉีอวี่ไท่ ความจริงแล้ว ฉีอวี่ไท่เป็นคนเดียวในรุ่นที่สองของตระกูลฉีที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเคยกราบอาจารย์เก่ง ๆ หลายคนตอนที่ตระกูลฉีมาพึ่งพิงเกาเซิ่งอี้ เขาก็มีพลังระดับปรมาจารย์แล้ว และหลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหลายปี ประกอบกับทรัพยากรจำนวนมากที่เกาเซิ่งอี้มอบให้ เขาจึงประสบความสำเร็จเหมือนในวันนี้แต่ฉู่เฉินกลับสามารถใช้ลูกเตะเดียวทำลายพลังของเขา สะเทือนอวัยวะภายในร่างของเขาจนเละอย่างน้อยสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ฉู่เฉินต้องเป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานอย่างแน่นอนในความทรงจำของเขา ตระกูลฉู่แห่งเจียงจง ไม่มีพื้นฐานด้านการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย และในช่วงเวลาสามปีที่พ่อแม่ของฉู่เฉินหายสาบสูญไป ฉู่เฉินก็อยู่ในสภาพ เกือบตายตลอดเวลาอย่าว่าแต่การฝึกวรยุทธ์หรือบำเพ็ญพรตเลย แม้แต่การลุกขึ้นยืนและเดิน สำหรับฉู่เฉินแล้ว นี่เป็นเพียงความฝันที่ไม่สามารถเป็นความจริงได้ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน ทำไมฉู่เฉินถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?เมื่อครู่เขาได้ทำการยืนยันหล