ฉู่เฉินส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ไม่เคยครับ นี่น่าจะเป็นการออกทะเลครั้งแรกของผม”“จริงเหรอคะ?”จางหลิงดูเหมือนค้นพบทวีปใหม่ก็ไม่ปาน เธอจับแขนของฉู่เฉินขึ้นมาทันทีแล้วพูดว่า “คุณฉู่คะ อยากลองสัมผัสความรู้สึกว่ายน้ำในทะเลอย่างเต็มที่ไหมคะ?” แต่ยังไม่ทันที่ฉู่เฉินจะตอบ มือน้อย ๆ ของจางหลิงก็ออกแรงผลักฉู่เฉินลงไปในทะเลทันทีเสียงดังตูม คลื่นสาดกระเซ็นขึ้นมา ฉู่เฉินผุดขึ้นมาจากในน้ำ มองไปทางหัวเรือเวรเอ๊ย!ยัยนี่รีบร้อนมากขนาดไหนในขณะที่ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ร่างขาวเนียนก็กระโดดลงมาในทะเล หลังจากที่จางหลิงว่ายน้ำมาอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน ฉู่เฉินพลันรู้สึกได้ว่าเหมือนมีมือเล็ก ๆ จับเขาเอาไว้ เธอแม่งมีเครื่องตรวจจับใต้น้ำหรือไง? จับได้แม่นยำขนาดนี้เชียวซ่า ๆ!คลื่นทะเลซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า จางหลิงเหมือนกับปลาหมึก พัวพันร่างกายของฉู่เฉินไว้อย่างแน่นหนาไม่มีพิธีรีตองเลยสักนิดเดียวจริง ๆ นี่มันโจมตีเข้าเป้าไปเลย?ฉู่เฉินทำหน้ามึนงงเช่นกันความจริงแล้วเขาอยากเอากลับมามาก ๆ แต่ว่าร่างกายอยู่ในน้ำ ควบคุมไม่ได้เลย คลื่นใต้น้ำในทะเลผลักเขาไปข้างหน้าซ่า ๆๆผ่านไปไม่นาน เสียงน
เมื่อเห็นว่านายท่านใหญ่ตกอยู่ในวิกฤติแล้ว ไม่ว่าคนแซ่ฉู่จะพูดถูกต้องหรือไม่ เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือช่วยปลุกนายท่านใหญ่ให้ฟื้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุด เฉียวเทียนฉี่ไม่สนใจอะไรมากมายแล้ว จะอยู่หรือจะตาย ได้แต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้วต่อให้ตอนนี้ส่งนายท่านใหญ่ไปที่เมืองเอกของมณฑล นายท่านใหญ่อาจจะทนรับการเดินทางที่โคลงเคลงไม่ไหว มีเพียงวิธีการเดียวก็คือเชิญฉู่เฉินกลับมา แล้วลองทำตามวิธีการของเขาหลูไคซานเห็นเฉียวเทียนฉี่ร้อนใจจนตาแดงแล้ว เขาก็รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจียงไห่ตง“อธิบดีเจียง ตอนนี้นายท่านใหญ่ตกอยู่ในวิกฤติแล้ว รีบให้คนแซ่ฉู่คนนั้นกลับมาเดี๋ยวนี้เลยครับ”ทันทีที่รับสาย หลูไคซานก็ตะโกนเสียงดังใส่เจียงไห่ตงที่อยู่ปลายสายเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหลูไคซาน เจียงไห่ตงก็อึ้งไปก่อน จากนั้นถึงค่อยเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจื่อนว่า “เลขาหลู คุณคิดว่าคุณฉู่จะเชื่อฟังคำพูดของผมเหรอครับ?” “เฮ้อ คนที่ไล่เขาไปคือผู้ว่าการเฉียว ผมจะมีสิทธิอะไรให้คุณฉู่กลับไปอีก?” คำพูดนี้ทั้งพูดให้หลูไคซานฟัง และพูดให้เฉียวเทียนฉี่ฟัง ฉู่เฉินมาถึงบ้านตระกูลเฉียวตั้งแต่เช้าแล้ว เป็นคนตระกูลเฉียวของพวกคุณที่ด
เมื่อได้ยินเสียงปังในโทรศัพท์ ฟางอวี่เจิ้งก็สะดุ้งเช่นกัน เขารีบวางสายแล้วหันตัววิ่งกลับไปยังห้องพักโดยสาร“น้องฉู่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ฟางอวี่เจิ้งเล่าคำพูดของเฉียวเทียนฉี่เมื่อครู่นี้ออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ฉู่เฉินหัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “ฮึ ถ้าเกิดผมเดาไม่ผิด ตอนนี้ผู้อาวุโสเฉียวน่าจะมีเลือดไหลออกจากปากแล้ว”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ฉู่เฉินก็หันหน้าไปมองสีท้องฟ้าอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “อย่างมากอีกหนึ่งชั่วโมงก็จะกระแกเลือดคำใหญ่แล้ว”“ก่อนพลบค่ำพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าเกิดไม่ดำเนินการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง ขอเพียงตะวันลับฟ้าก็สามารถฝังนายท่านใหญ่ลงดินไปสู่สุคติได้เลย” ซี้ด!เมื่อคำพูดนี้ออกมา จางหลิงที่เพิ่งเอนตัวนอนเข้าไปอยู่ในสนามเพลาะเดียวกับฉู่เฉินก็มองไปทางฉู่เฉินด้วยความไม่อยากจะเชื่อจริง ๆถ้าเกิดบอกว่าวิชาแพทย์ของคนเรามีระดับ ฉู่เฉินจะต้องอยู่ระดับสูงสุดอย่างแน่นอน ควบคุมการเกิดแก่เจ็บตายของคนได้ในพริบตา เป็นตัวตนที่เหมือนกับเทพเซียนจริง ๆ หลี่จิงจิงเองก็มองฉู่เฉินด้วยความไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “คุณฉู่ คุณคาดการณ์อาการป่วยของผู้อาวุโสเฉียวได้เป็น
“ฉู่เฉิน นายท่านใหญ่ใกล้จะไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ ผมให้เวลาคุณยี่สิบนาที รีบกลับมารักษานายท่านใหญ่เดี๋ยวนี้!”เฉียวเทียนฉี่ใช้น้ำเสียงที่ไม่อนุญาตให้สงสัยออกคำสั่งอย่างเย็นชา“ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ว่าง”ฉู่เฉินพูดจบก็โอบเอวบางของหลี่จิงจิงอีกครั้ง ก่อนจะพูดกับเนื้อขาปูในจานข้าง ๆ ว่า “ผมอยากกินปูที่มือเรียวสวยถือให้” “แหม คุณนี่แย่จริง ๆ ฉันกำลังถือโทรศัพท์อยู่ ยังมีมือที่สามมาแกะขาปูให้คุณที่ไหนกัน?” หลี่จิงจิงกล่าวพลางแค่นเสียงอย่างแง่งอน“งั้นก็วางสายสิ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจวินาทีต่อมา เฉียวเทียนฉี่ที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟยังไม่ทันได้ระบายโทสะออกมา ก็มีเสียงสายไม่ว่างดังมาจากปลายสาย ตัดสายของเขาจริง ๆ เหรอเนี่ย?!ดวงหน้าของเฉียวเทียนฉี่แดงฉานเพราะความโกรธจัด!“บังอาจ! บังอาจ!”เฉียวเทียนฉี่ปากสั่น ตวาดอย่างเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าบึ้งตึง “แค่แพทย์แผนจีนตัวเล็ก ๆ กล้าตัดสายฉันเนี่ยนะ?!”วินาทีถัดมา เฉียวเทียนฉี่โทรศัพท์ไปอีกครั้ง“พูดมา!” ฉู่เฉินกินเนื้อขาปูไปด้วย เอ่ยพลางเคี้ยวเสียงดังไปด้วย “เมื่อกี้คุณได้ยินที่ผมพูดไหม ผมบอกว่านายท่านใหญ่ของบ้านเ
นั่นคือเฉียวเทียนฉี่เลยนะฉู่เฉินสามารถทำให้เฉียวเทียนฉี่พูดจาอ่อนน้อมได้ แถมยังแล่นมาตั้งหลายสิบกิโลเมตรเพื่อมารับเขาด้วยตัวเอง นี่เป็นปาฏิหาริย์จริง ๆ หลี่จิงจิงกับจางหลิงยิ่งนับถือฉู่เฉินราวกับมีตัวตนประหนึ่งเทพเจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าในสายตาของพวกเธอ ฟางอวี่เจิ้งก็สูงเกินเอื้อมแล้ว เป็นตัวตนที่เหมือนกับท้องฟ้าแล้ว ส่วนเฉียวเทียนฉี่ นั่นเป็นตัวตนที่พวกเขาไม่มีวันได้สัมผัสไปชั่วชีวิต ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่เฉิน คนแบบนี้ก็ถูกขัดเกลาจนต้องยอมจำนนส่วนฉู่เฉินตอนนี้เพิ่งอายุยี่สิบกว่าปี อนาคตของเขาในวันข้างหน้าไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง ต่อให้เป็นเพียงคนรักข้างกายเขา ผลประโยชน์ที่ตนได้รับก็นับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว.....อีกทางด้านหนึ่ง เฉียวเทียนฉี่กำลังจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พูดกับหลูไคซานว่า “ เตรียมรถ ไปที่ท่าเรือตะวันออก!” หลูไคซานพยักหน้าหนัก ๆ แล้วพูดว่า “ครับ!”ผ่านไปไม่นาน เฉียวเทียนฉี่ก็เข้าไปนั่งในรถ เมื่อรถค่อย ๆ แล่นออกไป หลิ่วหรูเยียนกับมารดาที่รอคอยอยู่ตรงหน้าประตูด้วยความวิตกกังวลกำลังคิดจะเข้ามาขวางรถของเฉียวเทียนฉี่ หลูไคซานที่นั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับก็ตวาดอย่
ฉู่เฉินงั้นเหรอ?ไม่มีทางเด็ดขาด นั่นมันคือรถของผู้ว่าการเฉียวนะ ฉู่เฉินมีสิทธิ์อะไรมานั่ง?“ลูกคงตาฝาดไปเอง ลูกลองคิดดูให้ดีรถของผู้ว่าการใครจะนั่งก็ได้งั้นเหรอ?”หลิ่วชิงเหอจ้องมองไปยังไฟท้ายรถ กล่าวขึ้นมาด้วยความคิดเมื่อได้ยินดังนั้น หลิ่วชิงเหอก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมาด้วยความโล่งใจ เธอน่าจะมองผิดไปจริงๆ ใช่ไหม?......อีกด้านหนึ่ง รถเคลื่อนที่ไปถึงข้างในประตูของบ้านใหญ่จึงจะหยุดลง หลังจากลงจากรถแล้ว เฉียวเทียนฉี่ก็พูดอย่างเกรงอกเกรงใจกับฉู่เฉินว่า “คุณฉู่เชิญทางนี้ครับ”ฉู่เฉินพยักหน้าลงเล็กน้อย ย่างก้าวเดินไปยังห้องนอนของนายท่านใหญ่เมื่อเห็นว่าเฉียวเทียนฉี่เชิญฉู่เฉินกลับมาอีกครั้ง เฉียวซูอวี่ก็ยังคงกอดอกมีสีหน้าที่ไม่พอใจ พร้อมทั้งจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน คนที่ไม่เคยแม้แต่เรียนการแพทย์มา จะมีความสามารถมากมายขนาดไหนกันเชียว?มันเป็นเพียงกลอุบายของนักต้มตุ๋น เธอไม่เชื่อหรอกนะว่าฉู่เฉินจะช่วยชีวิตนายท่านใหญ่ไว้ได้เนื่องจากมีเฉียวเทียนฉี่อยู่ข้างๆ เธอจึงไม่มีได้พูดอะไรให้มากความ และทำได้เพียงจ้องมองอย่างเย็นชาจากด้านข้างเท่านั้น“คุณฉู่ครับ พ่อผมเขา...”ระหว่างที่เฉียวเทีย
เฉียวเทียนฉี่ถึงกับตกใจในการกระทำของฉู่เฉิน ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลพลั่ก!เศษกระสุนที่ตกลงบนเหรียญจักรพรรดิทั้งห้ายังคงมีเศษชิ้นส่วนเนื้อติดอยู่ด้วย เป็นไปได้จริงหรือที่ฉู่เฉินดึงมันออกมาจากร่างกายของนายท่านใหญ่โดยผ่านทางอากาศ?“ผู้ว่าการเฉียว ลองดูสิครับ นี่คือเศษกระสุนที่อยู่ในร่างกายของนายท่านใหญ่” ฉู่เฉินยกมือขึ้นมาจากชามน้ำ หยิบเศษกระสุนออกมา ยื่นให้กับเฉียวเทียนฉี่ที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตกเฉียวเทียนฉี่กลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ เขาถามขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อว่า “คุณฉู่ นี่... นี่มันออกมาจากร่างกายของพ่อผมจริงๆ เหรอครับ? แต่ว่า...”เขาไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าในโลกนี้มันจะมีการเอาสิ่งของออกมาผ่านอากาศแบบนี้ด้วย“ที่จริงนี่ก็ถือว่าเป็นแพทย์แผนจีนแขนงหนึ่ง เรียกว่าวิชาจู้โหยว”“เพียงแต่ว่าในตอนนี้คนที่ใช้วิชาแพทย์แผนจีนแขนงนี้ได้นั้นน้อยลงไปแล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจขนาดนั้นนะครับ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเฉียวซูอวี่ที่ยืนอึ้งอยู่กับที่ไปอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็กล่าวขึ้นมาด้วยความเย็นชาว่า “แกน่ะหยุดหลอกลวงได้แล้ว เศษกระสุนบ้าบออะไรที่ออกจากร่างของพ่อฉัน เห็นได้ชัดๆ เลยว่าแกใ
เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆ ข้างหลังเขา ฉู่เฉินขมวดคิ้วและหันไปมองเมื่อเห็นหลิ่วหรูเยียนและหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูก เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า “ทำไมจะเป็นฉันล่ะ?”ขณะที่เขาพูด ฉู่เฉินเหลือบมองสองแม่ลูกที่สวมเสื้อกาวน์และพูดว่า “มีปัญหากับฟางอวี่เจิ้งแล้ว ยังมีหน้าใช้เส้นสายแอบมาหาเฉียวเทียนฉี่ลับๆ แบบนี้เหรอ?”ขณะที่เขาพูด สายตาของฉู่เฉินก็จับจ้องไปที่สะโพกที่งดงามของผู้หญิงสองคนเมื่อเห็นแววตาร่าเริงของฉู่เฉิน ใบหน้าของหลิ่วชิงเหอ ก็ซีดลงด้วยความโกรธ เธอจึงก้าวไปข้างหน้าหลิ่วหรูเยียนเพื่อขวางทาง และตะโกนอย่างเย็นชาว่า “ฉู่เฉิน แกมันไอ้สัตว์เดรัจฉาน แกกำลังพูดจาบ้าบออะไรอยู่!”ใช้เส้นสายงั้นเหรอ?พวกเธอมาขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าการเฉียวเกี่ยวกับเรื่องทางการ ผู้ว่าการเฉียวไม่ได้เป็นคนแบบนั้นสักหน่อยหลิ่วหรูเยียนอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปมองที่ลานใหญ่ของตระกูลเฉียว จากนั้นก็มองไปที่ฉู่เฉิน และคิดหาความเป็นไปได้ทันทีฉู่เฉินคงไม่ได้มาแย่งชิงธุรกิจจัดหาอุปกรณ์การแพทย์หรอกใช่ไหม?เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลิ่วหรูเยียนก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ฉู่เฉินหยุดแพร่ข่าวลือได้แล้ว ฉั
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ