ฉู่เฉินไม่สนใจ กล่าวต่อ “ความรู้สึกแบบนี้ เป็นเพียงแค่ค่ายกลฮวงจุ้ยขนาดเล็กที่สร้างขึ้นไว้ในหยกลายโลหิตเท่านั้น ดูดซับพลังวิญญาณของเรือนและในห้องโถง กลายเป็นรัศมีฮวงจุ้ยที่พิเศษแบบหนึ่ง”“เมื่อคนธรรมดาอยู่ท่ามกลางนั้น จะรู้สึกเหมือนว่าร่างกายได้รับพลังวิญญาณ เหมือนว่าอยู่ในแดนสวรรค์”“ปรมาจารย์กัว ผมพูดถูกไหม?”ฉู่เฉินยิ้มจาง ๆ หันไปมองสีหน้าของกัวหกนิ้วที่คร่ำเครียดไปในทันทีก่อนหน้านี้ ฉู่เฉินเองก็เกือบถูกหยกลายโลหิตก้อนนี้หลอกลวงโชคดีที่เขาเปิดเนตรมังกรเพื่อมองทะลุแก่นแท้ เพียงแวบเดียวก็มองเห็นปัญหาภายในจนทะลุปรุโปร่งแล้วปรมาจารย์กัวที่มาจากเซียงเจียงคนนี้ ถือว่าพอมีความสามารถอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่วิชาลึกลับฮวงจุ้ย เพียงผิวเผินเท่านั้นค่ายกลฮวงจุ้ยประเภทนี้ อย่างมากก็คงอยู่ได้เป็นเวลาหนึ่งวันหลังจากหนึ่งวัน ก็จะเสื่อมลงไปเองหลอกถังจิ้งจือกับหวังคุนเจ้าใหญ่นายโตที่ไม่มีความรู้เรื่องวิชาฮวงจุ้ย และพวกเศรษฐีใหม่ยังพอไหว เมื่อเรื่องแดง คนพวกนี้ก็จะค้นพบว่าถูกหลอก ปรมาจารย์กัวผู้นี้ก็หอบเงินหนีไปไกลแล้วตั้งนานแล้ว“พูดจาเหลวไหล! ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรเลยสักนิด!”
กัวหกนิ้วสีหน้าบิดเบี้ยว ขมับเต้นตุบ ๆเผาไฟ?ทันทีที่เผาไฟ เรื่องของหลอกลวงของเขาก็ต้องถูกเปิดโปง“ทำไม ปรมาจารย์กัวไม่กล้าใช่ไหม?” ฉู่เฉินถามพร้อมแสยะยิ้มกัวหกนิ้วพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยาม กล่าว “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน พูดจามั่วซั่วไม่คำนึงถึงความจริง! ทำไมถึงต้องเชื่อเธอที่บอกว่าให้เอาไปเผาไฟแล้วต้องทำตาม? ฉันเป็นปรมาจารย์จากเซียงเจียง เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา ทำไมถึงต้องสร้างเรื่องหยกปลอมของวิเศษปลอมอะไรพวกนี้ด้วย?”“ในเมื่อพวกคุณไม่เชื่อ ก็ช่างเถอะ วันนี้ หยกลายโลหิตก้อนนี้ ผมเอากลับไปเองแล้วกัน”ในขณะที่พูด กัวหกนิ้วก็เริ่มเก็บของ เตรียมจะหนีในเวลานี้ เจ้าใหญ่นายโตหลายท่านที่อยู่ในห้องโถง ต่อให้โง่แค่ไหนก็ได้สติกลับคืนมาแล้วนี่คือกำลังจะเตรียมตัวหนีแล้วนี่!“ปรมาจารย์กัว อยากจะไปย่อมได้ แต่เอาของไว้!” ถังจิ้งจือกล่าวเสียงเย็นเยียบกล้ามาหลอกตนถึงที่ รนหาที่ตาย!ในเวลานี้ กัวหกนิ้วเหงื่อแตกเต็มจนหลังเปียกชุ่ม สีหน้าอึมครึมสุดขีดเขาโกรธเกรี้ยว จ้องฉู่เฉินเขม็ง เพลิงโทสะระเบิดอยู่ในใจตนอุตส่าห์แต่งเรื่องราวขึ้นอย่างลำบากลำบน แต่ดันมาถูกไอ้เด็กนี้ทำลายเสียได้...น่ารังเก
ในเวลานี้ กัวหกนิ้วจ้องฉู่เฉินด้วยสายตาดุร้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย กล่าว “ไอ้หนู! เธอทำลายเรื่องดีของฉัน วันนี้ ฉันจะเก็บวิญญาณของเธอไว้ในธงหมื่นวิญญาณ ให้เธอไม่ได้ไปผุดไปเกิดตลอดไป!”“ดีเลย แล้วก็ให้มดแมลงอย่างพวกคุณได้เปิดหูเปิดตา ว่าอะไรเรียกว่าของวิเศษที่แท้จริง!”ทันทีที่พูดจบ กัวหกนิ้วยกมือขึ้นแล้วสะบัด ชักธงเล็กหน้าตาแปลกประหลาดสีดำผืนหนึ่งออกมาจากบริเวณเอว สีดำทั้งผืน มีหมอกสีดำที่น่ากลัวพวยพุ่งออกมา ด้านบนยังมีสัญลักษณ์และตัวหนังสือหน้าตาประหลาดต่าง ๆ อยู่บนนั้นอีกด้วย‘วืด!’กัวหกนิ้วสะบัดธงหมื่นวิญญาณ หมอกสีดำก็พวยพุ่งออกมาจากด้านในเสียงดังวืด ๆภายในชั่วพริบตา อุณหภูมิภายในห้องโถง ก็ลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง!ทุกคนรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งตัว ราวกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็งไม่นานนัก ด้านบนของห้องโถงก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำหลายกลุ่มก้อน มองดูน่าขนลุก และน่าหวาดกลัวมาก“ไอ้หนู! ของวิเศษชิ้นนี้เรียกว่าธงหมื่นวิญญาณ สามารถกลืนกินวิญญาณชั่วร้าย และขับไล่ผีได้ทุกประเภท! การที่ถูกของล้ำค่านี้ดูดกลืนเข้าไป ก็จะกลายเป็นผีหุ่นเชิด ก็จะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของเธอไปชั่วชีวิต”
อะไรนะ?ทุกคนภายในห้องโถง สายตาจ้องเขม็ง หันไปมองฉู่เฉินพร้อมกับหยุดหายใจไอ้เด็กนี่พูดอะไร?คาถาที่แท้จริง?เขาเป็นคาถาด้วยเหรอ?ขี้โม้ละมั้ง!หวังคุนสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวถามอย่างตื่นเต้น “ปรมาจารย์ซ่ง คุณมีความเห็นว่ายังไง? คนสมควรตายอย่างฉู่เฉิน สามารถต่อกรกับกัวหกนิ้วได้จริงไหมครับ?”ซ่งหรูเซียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ผู้นำตระกูลหวัง ไอ้เด็กนั่นก็แค่เสแสร้งอยากจะได้ความสนใจจากทุกคนเท่านั้น”“คาถาไล่ผีของปรมาจารย์กัว เป็นคาถามนต์ดำที่มีชื่อเสียงของทางเซียงซี! ไม่มีใครสามารถทำลายได้!” “อีกอย่าง ธงหมื่นวิญญาณในมือของเขา มองแวบเดียวก็ไม่ใช่ของของวิเศษธรรมดา ๆ”“สำหรับไอ้หนุ่มอย่างฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่ง่ายดาย”“คอยดูเถอะ อีกไม่นานหรอก ไอ้เด็กนั่นก็จะถูกดูดเข้าไปอยู่ในธงหมื่นวิญญาณ กลายเป็นเลือด!”เมื่อได้ฟังแบบนี้ หวังคุนก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ ยิ้มอย่างเหยียดหยามด้วยสีหน้าดุร้าย“แบบนี้เยี่ยมเลย!”หวังคุนยิ้มชั่วร้ายแน่นอนว่าเขาอยากให้ฉู่เฉินตายจนทนแทบไม่ไหวแล้วไอ้เด็กนี่ กล้าหลอกลวงเขา ก็คือการรนหาที่ตาย!ทางด้านนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดร้าย ก
ฉู่เฉินถามอีกครั้ง “วันนี้ ผมทำลายคาถามนต์ดำของคุณ คุณยอมไหม?”“ยอม! ผมยอมแล้วจริง ๆ!” กัวหกนิ้วโขกหัวพร้อมกล่าวเสียงดัง ตกใจจนตัวสั่นระริกฉู่เฉินถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นธงหมื่นวิญญาณผืนนี้ เป็นของผม คุณยอมไหม?”“หา?”กัวหกนิ้วตกใจ แหงนหน้ามอง พบว่าฤทธิ์อัสนีบาตรในดวงตาของฉู่เฉินยังคงหลงเหลืออยู่ ตกใจจนพยักหน้ารัว ๆ “ยอม ๆ ๆ! ธงหมื่นวิญญาณผืนนี้ ถือว่าเป็นค่าชดใช้ของศิษย์ แสดงความกตัญญูต่อปรมาจารย์ฉู่”ฉู่เฉินถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ ยกมือขึ้นโบก ขจัดพลังอัสนีบาตบนตัวออกไปจี้หยกขาวที่ลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อเสียการสนับสนุนของคาถาอาคม ก็ตกลงมาอยู่ในมือของฉู่เฉินเขาจ้องมองกัวหกนิ้วที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตาเมินเฉย กล่าวเสียงเย็นชา“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้จะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง! วันหลัง ถ้าหากให้ผมเห็นว่าคุณแอบอ้างชื่อเสียงหลอกชาวบ้านอีก ผมจะทำลายรากเต๋าของคุณ แล้วฆ่าแกทิ้งซะ!”สะอึก!กัวหกนิ้วตกใจจนขนลุกซู่“ครับ ๆ ๆ สิ่งที่ปรมาจารย์ฉู่สั่งสอน ศิษย์จำไว้ขึ้นใจแล้ว” กัวหกนิ้วรีบโขกหัวพร้อมกล่าวเสียงดังจากนั้น เขารีบลุกขึ้น กำลังจะหนี“เดี๋ยวก่อน!”ทันใดนั้น
ซ่งหรูเซียนตกใจจนเข่าแทบทรุด สีหน้าย่ำแย่สุดขีด เขาพูดตะกุกตะกัก “คือว่า คุณหนูใหญ่กู้ เมื่อกี้ผมก็แค่พูดเล่น”“พูดเล่น?”ดวงหน้าเรียวงามของกู้รั่วเสวี่ยแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ปรมาจารย์ซ่ง ถ้าฉันบอกว่าฉันจะทำให้คุณไม่มีที่ยืนในวงการนี้ คุณยังคิดว่าฉันพูดเล่นหรือไม่?”เฮือก!ซ่งหรูเซียนตกใจหน้าซีด ตัวสั่นสะท้านท่าทางของกู้รั่วเสวี่ยไม่เหมือนกำลังพูดเล่นสักนิดหนำซ้ำ อำนาจของตระกูลกู้สามารถเล่นงานเขาได้อย่างง่ายดายพอได้ยินดังนั้นซ่งหรูเซียนก็ตกใจ รีบคุกเข่าบนพื้นดังตุบ โขกศีรษะตะโกนว่า “คุณหนูใหญ่กู้ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดเมตตา ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ ถ้ากินต่อไป ผมต้องตายแน่ๆ...”ซ่งหรูเซียนได้สติ รีบหันไปทางฉู่เฉินซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ รีบโค้งหัวตะโกนว่า “สหายฉู่ ไม่ๆๆ ปรมาจารย์ฉู่ ขอร้องล่ะ โปรดเมตตาปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ”“นับตั้งแต่วันนี้ ผมซ่งหรูเซียนไม่มีทางเหยียบเข้ามาในเจียงจงอีกแม้แต่ครึ่งก้าว!”“หากที่ใดมีปรมาจารย์ฉู่อยู่ ผมซ่งหรูเซียนจะถอยห่างสิบลี้!”ฉู่เฉินยิ้มเยาะ ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ขออภัย ผมเป็นคนที่ถือคติหากมีเหตุผลมากพอก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครหน้าไหน
ฉู่เฉินสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ได้พูดอะไรถังจิ้งจือเห็นดังนั้นก็ร้อนใจ เขากัดฟัน ก่อนจะคุกเข่า และอ้อนวอนว่า“ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมล่วงเกิน ปรมาจารย์ได้โปรดเมตตา หวังว่าจะช่วยผมและตระกูลถังสักครั้ง หากยอมช่วยครั้งนี้ ผมและตระกูลถังจะไม่ลืมบุญคุณ!”ฉู่เฉินยังคงไม่พูดอะไรกู้รั่วเสวี่ยกระซิบเบาๆ“พี่ฉู่เฉิน ท่านถังเป็นคนดี หลายปีมานี้เขาทำบุญกุศลมากมาย อีกอย่าง พี่ก็เพิ่งเปิดบริษัทไม่ใช่เหรอ ตระกูลถังก็มีธุรกิจด้านยาอยู่เหมือนกัน น่าจะเป็นประโยชน์กับพี่นะ”พอได้ยินดังนั้นฉู่เฉินก็พยักหน้า “ก็ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยคุณเอง”“จริงเหรอ? ขอบคุณปรมาจารย์ฉู่!” ถังจิ้งจือดีใจเกินคาดจากนั้น ทั้งสามก็มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ตระกูลถังส่วนผู้นำตระกูลจ้าว หลังจากถังจิ้งจือกลับออกไป เขาก็ถูกจับมัดออกจากลานบ้าน และโยนใส่กระโปรงท้ายรถของรถคันหนึ่งผู้นำตระกูลจ้าวร้องอ้อนวอนเสียงดังทะลุฟ้า “ท่านถัง ไว้ชีวิตผมด้วย ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้ว…”……ไม่นาน รถยนต์ได้เคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลถังคฤหาสน์ทั้งหลัง ดูเหมือนจวนอ๋องในสมัยโบราณ ใหญ่โตมโหฬาร“ปรมาจารย์ฉู่ เชิญ”ถังจิ้งจือลงจาก
ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาทางประตูกู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ เห็นก็ถามอย่างออกอาการหึงหวง “สวยเท่าฉันรึเปล่า?”“หา?”ฉู่เฉินอึ้ง ก่อนจะตั้งสติได้ และตอบคำถามกู้รั่วเสวี่ยที่ตอนนี้กำลังงอนแก้มป่องว่า “คุณสวยที่สุดแล้ว”“ตอบได้ไม่เลว” กู้รั่วเสวี่ยพูดอย่างพ่อแง่แม่งอนถังจิ้งจือรีบตำหนิทันที “เจียวเจียว อย่าเสียมารยาท! นี่ปรมาจารย์ฉู่เชียวนะ รีบขอโทษเร็ว!”“ปรมาจารย์? ปรมาจารย์อะไรกัน?”แววตาของถังเจียวเจียวเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน เธอถลึงตาจ้องฉู่เฉิน “คุณปู่ หนูว่าคุณปู่แก่จนเลอะเลือนแล้ว แค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่ขนยังขึ้นไม่ครบ ดูท่าทางอายุก็ไล่เลี่ยกับหนู คุณปู่กลับไปเรียกเขาว่าปรมาจารย์เนี่ยนะ?”“หนูว่า เขาก็เป็นแค่นักต้มตุ๋นคนหนึ่งเท่านั้น ต่ำช้า!”เพิ่งจะพูดจบ ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มและย้อนถามว่า “คุณหนูถัง คุณรู้ได้ยังไงว่าขนของผมยังขึ้นไม่ครบ?”พรืด!กู้รั่วเสวี่ยยกมือปิดปากกลั้นหัวเราะพี่ฉู่เฉินก็ตลกเกินไปแล้ว คำพูดอย่างนี้พูดต่อหน้าผู้หญิงได้ยังไงกัน?แต่เธอกลับรู้ดีกว่าใครว่าขนของฉู่เฉินขึ้นครบหรือไม่ถังเจียวเจียวสีหน้
ระยะนี้คำชี้แนะจากอวี้ลู่ รวมถึงวิชาที่ฉู่เฉินมอบให้เธอ ความเร็วในการพัฒนาของอินซู่ซู่จึงรวดเร็วสุดขีด แต่เวลาครึ่งเดือนกว่าสั้น ๆ ก็บรรลุระดับฝึกปราณชั้นห้าแล้วห่างจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติร่างกายแค่ก้าวเดียวเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงของอินซู่ซู่อยู่ในสายตาของฉู่เฉินเช่นกัน ก่อนที่เขาจะนึกยินดีในใจของเพียงปรับเปลี่ยนสำเร็จ อินซู่ซู่ก็จะกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมที่สุดจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉู่เฉินถึงค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่ลานบ้าน ทำการชี้แนะอินซู่ซู่อย่างละเอียด จากนั้นค่อยออกจากบ้านไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วเวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่รอคอยด้วยความกังวลใจให้ป้าอู๋จัดเตรียมอาหารและเหล้าไว้เรียบร้อยนานแล้ว เธออาบน้ำแต่งตัวไปพลาง รอการมาเยือนของฉู่เฉินไปพลางเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลิ่วหรูเยียน ป้าอู๋ย่อมดีใจถ้าเกิดจากนี้ไปฉู่เฉินมา “เป็นแขก” ที่บ้านบ่อย ๆ ต่อให้ไม่อาจมอบความเมตตาได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าแม่น้ำสายใหญ่มีน้ำ ลำธารเล็ก ๆ ย่อมไม่เหือดแห้งให้ความชุ่มชื้นเป็นบางครั้งก็สามารถบรรเทาอาการคันของสาวใหญ่ที่เปลี่ยวเหงาอย่างเธอได้ “ป้าอู๋ ป้าคิดว่าชุดนี
ช่วงบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินตั้งใจนำของว่างท้องถิ่นสิบกว่าอย่างกลับไปยังบ้านเก่าของตระกูลฉู่ พูดตามตรง ความสามารถของสำนักอวี้ซือไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ ตอนนี้ฉู่เฉินเองก็อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานชั้นแรกเท่านั้นต่อให้เป็นคนมุทะลุ เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานห้าคนก็เกินความสามารถที่จะทำได้อยู่บ้างเหมือนกันสถานการณ์ชักจะน่าปวดหัวนิดหน่อยแล้วสถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือพาอวี้ลู่แฝงตัวเข้าไปในสำนักอวี้ซือ กำจัดพวกยอดฝีมือในสำนักด้วยกัน จากนั้นค่อยยืมมือข่งเลี่ยงควบคุมสำนักอวี้ซือไว้ทั้งหมดว่ากันว่าพอติดค้างบุญคุณคนอื่นแล้วก็จะใจอ่อน ฉู่เฉินไม่ได้เตรียมแค่ของว่างท้องถิ่นให้อวี้ลู่เท่านั้น เขายังตั้งใจซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงรุ่นใหม่ทั้งหมดในห้างสรรพสินค้าของเมืองเอกประจำมณฑลกลับมาด้วย อวี้ลู่เห็นฉู่เฉินถือของกินอร่อย ๆ ไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือชุดสวย ๆ เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จากที่เธอรู้จักหมอตัวน้อยคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่คอยเอาอกเอาใจโดยไม่มีเหตุผล“ของกินอร่อย ๆ กับชุดสวย ๆ เยอะขนาดนี้ พูดมาเถอะ มีเรื่องที่ต้องการให้ข้าช่วยเหลือใช่หรือเปล่า?”อวี้ลู่กินปูผัดเผ็ดไปด้วย เอ่ยพล
“เธอถ่ายรูปหลิ่วชิงเหอแล้วส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ หัวหน้าหลูต้องการสอบถามเกี่ยวกับคดี” ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินขัดขึ้นทันทีหลิ่วหรูเยียนอึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยติดต่อกันว่า “ได้ ฉันจะส่งให้นายเดี๋ยวนี้”ไม่นานนัก ภาพถ่ายของหลิ่วชิงเหอที่มีจ้ำศพเต็มตัวก็ถูกส่งมาหลายใบฉู่เฉินทำการปรับภาพอย่างง่าย ๆ อีกครั้ง จากนั้นค่อยส่งให้หัวหน้าหลูแล้วพูดว่า “หัวหน้าหลู รบกวนคุณช่วยดูด้วยครับ รอยช้ำสีดำบนตัวหลิ่วชิงเหอพวกนี้ก็คือจ้ำศพ”หัวหน้าหลูพยักหน้าหนัก ๆ แล้วพูดว่า “คุณฉู่ ช่วยส่งหลักฐานที่คุณให้มาเมื่อกี้ให้ผมได้ไหมครับ? แล้ววันมะรืน...”ฉู่เฉินรีบทำมือบ่งบอกว่าให้เงียบเสียง แล้วมองกลุ่มตำรวจที่อยู่ด้านหลังหลูติ้งไห่แวบหนึ่งหลูติ้งไห่เข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง “พวกคุณออกไปรอกันให้หมด”“ครับ!”พวกตำรวจรีบถอยออกมาจากในห้องส่วนตัวหลังจากที่ฉู่เฉินแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟัง เขาค่อยโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูของหลูติ้งไห่หลูติ้งไห่ฟังแล้วก็พยักหน้าติดต่อกัน สุดท้ายค่อยก็ยกนิ้วโป้งให้ฉู่เฉิน “คุณฉู่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊จริง ๆ ฉลาดล้ำลึกมาก”“แต่ว่า ตระกู
ควบคุมสำนักอวี้ซือ?ข่งเลี่ยงเคยฝันถึง แต่มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อฉู่เฉินสามารถฆ่าบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักอวี้ซือ แล้วก็ต้องกำจัดเจ้าสำนักเสียก่อน ปัญหาคือฉู่เฉินมีความสามารถขนาดนั้นเหรอ?“น้องชาย ขอเพียงคุณสามารถกำจัดเจ้าสำนักและผู้อาวุโสอีกหกคนได้ ผมมั่นใจว่าสามารถทำให้สำนักอวี้ซือยอมศิโรราบต่อคุณได้”ข่งเลี่ยงพูดด้วยความมั่นใจฉู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “ดี ตอนนี้คุณสาบานมาว่าจะภักดีจนตาย”หา?ข่งเลี่ยงเงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบสาบานทันทีว่า “ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ...”“ฉู่เฉิน”ฉู่เฉินพูดชื่อของตัวเองออกมาอย่างเฉยชา“ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉู่เฉินจนตาย หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่า ไฟคลอก จมน้ำ ไม่ตายดี!”ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของข่งเลี่ยง ฉู่เฉินก็วาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ แล้วชี้นิ้วออกไปประทับลงบนหว่างคิ้วของข่งเลี่ยงเปรี้ยง!ข่งเลี่ยงรู้สึกได้เพียงราวกับมีสายฟ้าฟาดในสมอง เหมือนมีสิ่งลึกลับบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในร่างกาย ทำให้ข่งเลี่ยงตกใจกลัวจนหลั่งเหงื่อเย็น ๆ ออกมาทั่วทั้งร่าง!ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรเหมือนกัน
“ผมคิดว่าคนแซ่เซียวไม่น่าจะจ้างคนระดับคุณไหวหรอก พูดมา ใครส่งคุณมา?”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“เกาเซิ่งอี้! เป็นไอ้สารเลวเกาเซิ่งอี้!” “เกาเซิ่งอี้ไม่ได้แค่ต้องการฆ่าหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังอยากฉวยโอกาสยึดอำนาจควบคุมฉู่ซื่อกรุ๊ปด้วย เท่าที่ผมรู้มา ผู้ก่อตั้งฉู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนจะมีสมบัติตกทอดอยู่ชิ้นหนึ่ง”“เพราะว่าเกาเซิ่งอี้ใฝ่ฝันถึงสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา ถึงได้...ถึงได้จ้องฉู่ซื่อกรุ๊ปตาเป็นมัน นอกจากนี้ต้วนโส่วอี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกเกาเซิ่งอี้ซื้อตัวไปแล้ว”“พวกเขาวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกสองวันข้างหน้า จากนั้นก็จะค้นหาสมบัติชิ้นนั้นของตระกูลฉู่ผ่านทางหุ่นเชิดที่สนับสนุน”“น้องชาย เรื่องที่ผมรู้ก็มีแค่นี้ เห็นแก่ที่ทุกคนเป็นคนวงการเดียวกัน ครั้งนี้คุณก็ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมรับรองว่าจากนี้ไปผมไม่กล้าเข้าสู่ทางโลกอีกแน่นอน”ฉู่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางมองข่งเลี่ยงแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นเป็นของตกทอดจากตระกูลฉู่เหรอ?” “ใช่แล้วครับ!”ข่งเล
“ผมขอเตือนคุณนะ ร่างกายคนเรามีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น ผมมีความอดทนพอ สามารถหักมันได้ทีละชิ้นนะครับ”ฉู่เฉินปรายตาลงมองเซียวจี้กวางที่เหงื่อเย็น ๆ แตกพลั่กออกมาราวกับสายฝน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “นอกจากนี้ ผมรับรองได้เลยว่าจะให้คุณได้สัมผัสกระบวนการทั้งหมดโดยที่มีสติครบถ้วน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด จ้องมองฉู่เฉินไม่วางตาแล้วพูดว่า “คะ...คุณมันบ้า! คุณมันปีศาจ! ตะ... ตระกูลเซียวของผมไม่มีวันปล่อย...”กร๊อบ!เสียงแตกหักดังขึ้นอีกครั้ง เซียวจี้กวางเจ็บจนเหมือนกับเขามองเห็นคุณย่าของตัวเองที่ไปสวรรค์แล้ว แต่เรื่องน่าแปลกคือ ครั้งนี้เขาไม่เพียงไม่ได้หมดสติ ตรงกันข้ามความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สติของเขาแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกเซลล์ทั่วทั้งร่างกายกำลังส่งสัญญาณความเจ็บปวดมาให้เขา“พี่ชาย... ไม่ ๆ คุณปู่! ผะ...ผมบอกแล้ว!”เมื่อเห็นฉู่เฉินเหยียบต้นขาของเขาอีกครั้ง เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนรีบคว้ากอดรองเท้าหนังของฉู่เฉินไว้ พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการวิงวอนว่า “เกาเซิ่งอี้ให้ผมหาหยกชิ้นหนึ่งจากบ้านแม่ลูกตระกูลหลิ่ว”“
ปรมาจารย์ข่งได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้นไปอีกทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจหนักหน่วงของเขากับเซียวจี้กวาง และเสียงหอบหายใจของสาวสวยผมทองสองคนปัง!ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวพลันถูกคนเตะกระเด็น! ฟิ้ว!เซียวจี้กวางที่อยู่ใกล้หน้าประตูที่สุดรู้สึกได้ถึงลมกระโชกแรงพุ่งตรงมาทางตัวเอง เขาตกใจกลัวจนรีบพลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงไปที่พื้นประตูไม้แท้บานนั้นพุ่งอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเฉียดผ่านร่างสาวสวยผมทอง ไปหาปรมาจารย์ข่งที่กำลังยุ่งอยู่!“ใคร!”ทันทีที่ปรมาจารย์ข่งพูดจบ เวลาเดียวกันเขาก็ยกมือชี้นิ้วออกไป!“ตูม!”ประตูไม้แท้บานนั้นถูกพลังปราณที่เขาซัดออกมาระเบิดจนกลายเป็นเศษไม้กลางอากาศฉู่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋า เดินจากหน้าประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆเซียวจี้กวางกับปรมาจารย์ข่งลุกขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน สาวสวยผมทองสองคนก็กรีดร้องเสียงแหลมติดต่อกันด้วยความตกใจกลัวกับฉากเมื่อกี้ ก่อนจะคว้าผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาแล้วเข้าไปซ่อนตัวในมุมตัวสั่นระริก"คุณเป็นใคร? ใครส่งคุณมา?"เซียวจี้กวงหรี่ตาจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต“คนที่จะมาเอาชีวิตคุณไง!”ฉู่เฉินยิ
“คุณทำอะไรน่ะ ไม่เห็นตัวหนังสือว่าห้ามลูกค้าเข้าหรือไง?”ฉู่เฉินเพิ่งจะผลักประตูออกมาจากทางหนีไฟ ชายร่างกำยำสวมชุดคล่องตัวสีดำไว้ทรงผมสั้นเกรียนมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา“ผมได้ยินว่าท่านรองตระกูลเซียวอยู่ข้างในเลยอยากไปเยี่ยมเขาสักหน่อย รบกวนคุณช่วยเปิดทางให้ด้วยครับ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มยิงฟันให้ชายในชุดคล่องตัวขณะเดียวกันสายตาก็มองไปที่ระเบียงทางเดินแวบหนึ่งในระเบียงทางเดินมีชายในชุดคล่องตัวยืนเรียงรายกันสองแถว ซึ่งแต่ละคนมีพลังฝึกปรืออยู่ประมาณระดับฝึกปราณชั้นสามกันเกือบทุกคน นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือสี่คนที่สวมชุดคลุม พลังไม่ด้อยไปกว่าระดับฝึกปราณชั้นสี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องส่วนตัวด้านในสุด มีความเป็นไปได้สูงว่าเซียวจี้กวางกับคนที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์จากสำนักอวี้ซือคนนั้นก็อยู่ในห้องส่วนตัวแห่งนั้นด้วยเมื่อแน่ใจแล้ว ฉู่เฉินก็เดินไปทางห้องส่วนตัวโดยไม่รอให้ชายในชุดคล่องตัวคนนั้นตอบกลับ “หยุดนะ!”ชายในชุดคล่องตัวเห็นฉู่เฉินเดินตรงไปยังห้องพักที่ท่านรองเซียวกับปรมาจารย์ข่งพักผ่อนอยู่ราวกับเข้าไปยังเขตไร้ผู้คน เขาก็เดือดดาลฉับพลัน ก่
“ปรมาจารย์ผู้นั้นเขาไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว เขาสนใจแค่ผู้หญิงเป็นพิเศษ ดังนั้น...”เชี่ย!หลินชือหย่าคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ตระกูลเซียวกล้าสร้างฮาเร็มในเมืองแบบนี้แต่ว่าพอลองคิดดูมันก็ถูกนะ สถานที่ที่ยิ่งอันตรายยิ่งปลอดภัยฉู่เฉินเหลือบมองไปที่ถานเหวินหลง เขาพูดขึ้นมาอย่างครุ่นคิด “สหายถานเคยคิดเปลี่ยนเจ้านายไหมครับ”ถานเหวินหลงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ฉู่เฉินด้วยความสงสัย เขายิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “พูดตามตรงนะครับ ถ้ามันมีทางเลือกอื่นให้ผม ผมไม่ทำงานนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ผมมีหนี้เยอะมาก พวกเจ้าหนี้ก็มาทวงหนี้จนจะถึงที่บ้านอยู่แล้ว นอกจากแซ่เซียวแล้ว ยังจะมีบริษัทไหนกล้ารับผมเข้าทำงานอีกล่ะครับ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง แล้วพูดกับหลินชือหย่าว่า “คุณลองหาตำแหน่งให้พี่คุณทำสักตำแหน่งดีไหมครับ ใช้คนของตัวเองน่าจะสบายใจกว่าใช้คนนอกนะครับ”หลินชือหย่าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจความต้องการของฉู่เฉิน แต่เธอก็พยักหน้าตอบรับถานเหวินหลงดีใจแน่นอนอยู่แล้ว สามารถทำงานที่หลินซื่อกรุ๊ปได้จะต้องดีกว่าทำที่ตระกูลเซียวแน่นอนกินข้าวเย็นเสร็จ หล