เป็นผู้หญิง!ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เป็นจอมยุทธ์หญิงอายุราวๆ ยี่สิบห้ายี่สิบหกปี เธอยังดูเป็นวัยรุ่น หน้าตาก็ไม่แย่ แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับหลิ่วชิงเหอบนเตียงที่สวยสุดๆ ก็ตาม แต่ถ้าหากพูดถึงในเจียงจง ก็ยังถือว่าเป็นคนสวยอันดับต้นๆ คนหนึ่งสาเหตุที่เขาเรียกเธอว่าจอมยุทธ์ เป็นเพราะว่าฉู่เฉินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายออกมาจากร่างของฝ่ายตรงข้ามที่เหมือนกับของป้าอู๋นั่นคือลักษณะเฉพาะของการฝึกวรยุทธ์มานานหลายปียิ่งกว่านั้น ดวงตาของอีกฝ่ายยังเฉียบคม และการโจมตีเมื่อกี้นี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมากหากเป็นคนธรรมดา เกรงว่าน่าจะตายเพราะคมดาบนั่นไปแล้วแต่ฉู่เฉินไม่เป็นเช่นนั้น เขาในตอนนี้อยู่ระดับฝึกปราณชั้นสาม ไม่ได้พูดถึงครอบครองทั้งเจียงจง แต่ถ้าครึ่งหนึ่งย่อมเป็นไปได้เช่นเดียวกัน จอมยุทธ์หญิงตรงหน้าผู้นี้ ก็แปลกใจเป็นอย่างมากเช่นกันเธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินสามารถหลบการโจมตีที่เธอเตรียมไว้มาเป็นเวลานานได้!การโจมตีนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนกำลังภายในพื้นฐาน ก็ไม่อาจะหลบหลีกได้“รีบฆ่ามันซะ!” ในเวลานี้หลิ่วชิงเหอได้ลงจากเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอชี้นิ้วสีขาวและเรียว ชี้ไปที่ฉู่เฉินอย่างเดือ
หลิ่วชิงเหอหวาดกลัว เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นชายอันแข็งแกร่งของฉู่เฉิน โดยเพราะดวงคู่นั้นสีแดงก่ำ มันกลายเป็นสายตาที่ชั่วร้ายแย่แล้ว!ไอ้เลวฉู่เฉิน มันจะลงมือจริงๆ ด้วย!“ฉู่เฉิน! แกบ้าไปแล้วเหรอ ฉันเป็นแม่บุญธรรมแกนะ! ปล่อยฉันนะ!”หลิ่วชิงเหอร้องขอความช่วยเหลือ ดิ้นรนอย่างไม่หยุดฉู่เฉินเยาะเย้ยอย่างชั่วร้าย “เธอไม่ใช่แม่บุญธรรมของฉัน”เมื่อพูดจบ เขาก็ลงมือกดหลิ่วชิงเหอลงไปบนเตียง แผ่นหลังขาวเนียน ก็ปรากฏให้เห็นต่อหน้าเขาทันทีเอวบางๆ นั้น บั้นท้ายที่แอ่นงอนนั้น ช่างกระตุ้นอารมณ์สัตว์ร้ายในกายฉู่เฉินได้ดีจริงๆ เรือนร่างของหลิ่วชิงเหอสมบูรณ์เหลือเกิน ราวกับเป็นงานศิลปะอย่างนั้นแหละ“ฉู่เฉิน! แกไอ้ชั่ว! ปล่อยฉันนะ! หากแกกล้าแตะต้องฉันล่ะก็ ฉันจะฆ่าแกแน่!” หลิ่วชิงเหอดิ้นรนส่งเสียงร้องเพียะ!ฉู่เฉินยกมือขึ้นแล้วฟาดลงไปที่หลังหลิ่วชิงเหออย่างแรง เสียงนั้นดังก้องไปทั่วห้องนอน“อ๊ะ...” หลิ่วชิงเหอร้องออกมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ แก้มของเธอแดงไปจนถึงโคนหูความรู้สึกนี้มันทั้งน่าอับอาย และสบายในคราวเดียวกันบั้นท้ายงอนของเธอ นานแล้วที่ไม่ได้ถูกผู
ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว กดหลิ่วชิงเหอเข้าไปที่ประตู บีบไปที่คางของเธอ พูดอย่างเย็นชา “หลิ่วชิงเหอ เธอกำลังขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ?”ดวงตาของหลิ่วชิงเหอมืดลง และเธอพยายามดิ้นรนไปอีกสักพัก เมื่อเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ เธอจึงพูดอย่างดุเดือด “ใช่! ถ้าแกกล้าแตะหรูเยียน แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการฉู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่ฉันก็ยังจะฆ่าแก!”“งั้นเหรอ?”ฉู่เฉินแสร้งยิ้ม มือขวาค่อยๆ เลื่อนจากคางลงไป ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูท่าเธอจะไม่ยอมสินะ ยังกล้าจะมาขู่ฉันอีกเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้น เอาอีกสักรอบไหมล่ะ?”“ซี้ด...”หลิ่วชิงเหอคร่ำครวญด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเธอกัดริมฝีปากแรงๆ ดวงตาของเธอราวกับมีด เธอเหลือบมองที่ฉู่เฉิน และพูดอย่างเย็นชา “แกกล้า!”“แล้วมีอะไรให้ฉันไม่กล้าด้วยล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาล็อกเอวบางของหลิ่วชิงเหอได้ในคราเดียวหลิ่วชิงเหอหวาดกลัว!ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ มันเอาจริงแล้ว“แม่ แม่อยู่ในห้องไหมคะ?” เสียงของหลิ่วหรูเยียนดังมาจากข้างนอกประตู ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาใกล้แล้ว!เสียงยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลิ่วหรูเยียนอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว“แม่คะ ทำ
ฉู่เฉินยิ้มอย่างเยือกเย็น ในใจมีแต่ไฟร้อนรุ่ม “เพียะ” เสียงนี้ เขาตบบั้นท้ายของหลิ่วชิงเหออย่างแรง“อ๊ะ...” หลิ่วชิงเหอร่างกายสั่นไปหมดตอนนี้เธอไม่เข้าใจเลยว่าฉู่เฉินลงโทษหรือตอบสนองเธอกันแน่เธอเกลียดฉู่เฉิน เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตาย!แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะให้ฉู่เฉินทำแบบนี้กับเธอต่อไปอีก“พอแล้ว! มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ตอนนี้ลูกกลับห้องตัวเองไปทบทวนให้ดี พรุ่งนี้เช้าแม่จะไปตรวจจดหมายทบทวนของลูก!” หลิ่วชิงเหอพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม ใบหน้าแดงระเรื่อ ยั่วยวนคนเป็นอย่างมาก“แม่...”เสียงกระทืบเท้าของหลิ่วหรูเยียนดังเข้ามาจากข้างนอก ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้แม่ตัวเองถึงได้ดุแบบนี้ทั้งยังยืนกรานให้เธอกลับห้องตัวเอง“กลับไป!” หลิ่วชิงเหอตะคอกด้วยความโมโหหลิ่วหรูเยียนตกใจ รีบปล่อยมือออกจากกลอนประตู พึมพำขึ้นมาว่า “รู้แล้วค่ะ หนูจะกลับไปตอนนี้แหละค่ะ”หลังจากพูดอย่างนั้นหลิ่วหรูเยียนก็พึมพำ หันหลังและจากไป แต่หลังจากเดินไปได้สองก้าว เธอก็มองไปที่ประตูอย่างสงสัยพร้อมกับพึมพำอีกครั้งว่า “แปลก เสียงจากในห้อง มันแปลกๆ... ทำไมมันถึงเสียงเหมือนกับ...”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกตัวขึ
ฉู่เฉินแค่นหัวเราะ สายตาจ้องหลิ่วหรูเยียนอย่างกำเริบเสิบสาน จ้องมอง รูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอรูปร่างอวบอัดตั้งตรง ผิวพรรณขาวละเอียดสูงโปร่งหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสายตาของฉู่เฉิน ก็รู้สึกขยะแขยงราวกับโดนแมลงสาบไต่ไปทั่วทั้งตัวแต่เธอไม่เขินอายหรือตื่นเต้นเลยสักนิด ในทางกลับกันยังเดินเข้าไปหาฉู่เฉินอย่างอวดดีและกล้าหาญยิ่งกว่าเดิม ไม่สนใจเสื้อคลุมอาบน้ำที่อ้าออกเลยสักนิด มือสองข้างกอดอก ยิ่งทำให้หน้าอกอันอวบอัดให้ใหญ่โตยิ่งกว่าเดิม กล่าวอย่างเหยียดหยาม“มองอะไร? สวะ!”“แกคิดว่าคืนนี้แกช่วยฉันเอาไว้ ฉันจะตอบแทนบุญคุณของแกอย่างซาบซึ้งใจอย่างนั้นเหรอ?”“ฉู่เฉิน แกคิดมากเกินไปแล้ว!”“คืนนี้ ความอัปยศที่แกทำกับฉัน ฉันจะจำเอาไว้ในหัวใจ!”“ตอนนี้ แกรีบคุกเข่าลงไป โคกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยที ฉันจะปล่อยให้แกไสหัวไป!”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะเตะขาแกให้หัก!”ในมุมมองของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เฉินหมอนี่ก็คือคนชั่วชั่วมิเสื่อมคลายจะต้องเป็นเพราะข้างนอกไม่มีที่ซุกหัวนอน ถึงได้แอบบุกเข้ามาผลรากฎว่า ถูกตนเองจับได้คาหนังคาเขา“เหอะ ๆ หลิ่วหรูเยียน เธอนี่มันอวดดีมากเลยนะ”ฉู่เฉินสองมือล้วง
“ตอนนี้ลูกน่าจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมแม่ถึงได้ขวางลูกเอาไว้แล้วใช่ไหม” หลิ่วชิงเหอกล่าวเสียงเย็นชาหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เบะปากกล่าว “ถึงอย่างนั้นแล้วจะยังไง ต่อให้ป้าอู๋ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน พวกเราก็ยังสามารถหาคนที่เก่งกว่ามาจัดการมันได้อยู่ดีนี่คะ!”“ไอ้หมอนี่ ภายในระยะไม่กี่วัน ก็เก่งกาจขึ้นขนาดนี้ บนตัวจะต้องมีความลับอะไรแน่!”“หนูกล้ารับรองเลยว่า จะต้องเป็นเพราะกายาโอสถสวรรค์นั้นของมันแน่ ถึงสามารถทำให้มันเร่งฝึกวรยุทธ์ได้หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างคาดเดาหลิ่วชิงเหอครุ่นคิดเล็กน้อย กล่าว “ไม่ว่าจะยังไง ต่อไป หากเจอฉู่เฉิน ลูกก็ต้องเลี่ยง ๆ หน่อย ไอ้หมอนี่ ร้ายกาจกว่าที่ลูกคิด...”“แม่กังวลว่า เขาจะเป็นผลเสียกับลูก”ตอนที่พูดประโยคนี้ ภายในหัวสมองของหลิ่วชิงเหอมีภาพร่วมรักกับฉู่เฉินที่ในห้องนอนเมื่อครู่นี้ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัวอัปยศ!น่าอัปยศมาก!น่าโมโห!น่าโมโหที่สุด!น่ารังเกียจ ตนกำลังคิดอะไรอยู่?หลิ่วชิงเหอตกใจ คิดไม่ถึงว่าตนยังจะหวนคิดถึงภาพและความรู้สึกของการฟาดฟันอันน่าเร้าใจกับฉู่เฉินเมื่อครู่นี้อยู่อีก“แม่ กลัวอะไร หนูมีเพื่อนอยู่หลายคน เป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์แห่ง
“ต่อให้ต้องพลิกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสิบชั้นโลก ข้าก็จะต้องเลาะเอ็นมังกร ทำลายจิตวิญญาณของเจ้าให้ดับสูญ!”หญิงสาวเอ่ยปากพูด แรงอาฆาตพลุ่งพล่าน!ในเวลาเดียวกัน นางก็ขมวดคิ้วทันที สัมผัสกลิ่นอายบริเวณรอบ ๆ กล่าวอย่างประหลาดใจ “เอ๊ะ? สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามกนั่นแล้วแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้หายไปเสียได้...”“หรือว่า เขาเข้าสิงร่างงั้นเหรอ?”“ฮึ! มังกรลามก เจ้าคิดว่าเข้าสิงร่างแล้ว ข้าจะตามหาตัวเจ้าไม่เจออย่างนั้นหรือ?”หญิงสาวที่รูปโฉมราวกับนางฟ้า เย็นชาขึ้นภายในพริบตา“ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”หญิงสาวเอ่ยปากกล่าวอย่างเย็นยะเยือก เสียงปานกระดิ่งฮ่าวเทียน สั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ!นี่คือพลังจิตส่งเสียงอย่างหนึ่ง ผู้ที่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณจะไม่ได้ยินผลสุดท้าย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง บริเวณรอบ ๆ ก็เงียบสงัด“หือ? ผู้บำเพ็ญเต๋าของที่แห่งนี้ ระดับต่ำถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ไม่มีแม้กระทั่งผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณเชียวหรือ?” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยสีหน้าเย็นชา เอ่ยปากกล่าวต่อไป “ผู้บำเพ็ญระดับควบแก่นแท้ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”ว่างเปล่า เงียบสงัดหญิ
“คิดไม่ถึงเลย ๆ ข้าซ่งชิงอวิ๋นบำเพ็ญมาตลอดทั้งชีวิต จะได้รับความเป็นอมตะ ในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้” ในใจของซ่งชิงอวิ๋นปลื้มปีติ กลับไปที่สำนักชิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งประกาศปิดสำนัก ปิดสำนักทันที!ในเวลาเดียวกันสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่ลงมายังโลกมนุษย์ ได้เดินทางเข้าสู่เมืองเจียงจงแล้ว ทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นไม่น้อยพวกอันธพาลสองสามคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นาง“ไอ้เหี้ย! สวยฉิบหายเลยเว้ย! นี่มันนักคอสเพลย์เทพเซียนอะไรกันวะ?”“ไอ้สัตว์! ทั้งรูปร่าง นม เอว ขา ผิวพรรณ พี่ ๆ ว่าเป็นยังไง?”เด็กหนุ่มทั้งหลายคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เข้าใจกันความหมายของกันและกันทันที ขวางสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือเอาไว้“คนสวย ดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมจ๊ะ?”ทันทีที่เด็กหนุ่มเอ่ยปากพูด สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือยกมือโบก โครม ๆ ๆ เด็กหนุ่มทั้งหลายลอยกระเด็นออกไปทันที ตกลงบนพื้น อาเจียนออกมาเป็นเลือด หมดสติ“ไอ้ลามก! ตายซะ!”สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือกล่าวเสียงเย็นชา สาวเท้าเดินจากไปจากนั้น ดวงตาของนางเบิกกว้าง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามก ภายในชั่วพริบตา ทันทีร่างกะพริบ ก็หายตัวไปจากถนนในเวลาเดียวกัน ฉู่เฉ