“ไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นมายังไงกันแน่คะ?”คำถามนี้เห็นได้ชัดว่าตั้งใจโจมตีหลิ่วหรูเยียนจากคำพูดของเธอ ฉู่เฉินไม่มีความสามารถสักนิด แล้วเขาช่วยชีวิตผู้อาวุโสเว่ยต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?หรือพูดอีกอย่างก็คือ ฉู่เฉินที่ไร้ความสามารถด้านการแพทย์ จะมีทักษะด้านการแพทย์ที่สูงขนาดนั้นได้อย่างไร?“เหอะ!”หลิ่วหรูเยียนเห็นว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ไหลย้อนเข้ามาหาเธอ เธอจึงเลิกเสแสร้ง และพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยันว่า “คุณซู คนเราแม้จะอับโชคแค่ไหนก็ต้องมีสักครั้งที่โชคเข้าข้างบ้างรึเปล่าล่ะคะ?”“แมวตาบอดตัวหนึ่งบังเอิญเจอหนูนอนตายก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรมั้งคะ?”“ฉันยังยืนยันคำเดิม บริษัทยาไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ ศาสตร์ความรู้ที่เกี่ยวข้องมีมากเกินไป บริษัทของฉู่เฉินไม่มีทางพัฒนาได้ แม้จะมีเงินทุนหลายร้อยล้าน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนความจริงที่ว่าซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลต้องปิดตัวลง”สิ้นเสียง ผู้ชมในช่องไลฟ์สดจำนวนกว่าแสนคนต่างหันไปสนับสนุนความคิดของหลิ่วหรูเยียน“เหอะ ถ้าเขามีความสามารถด้านการแพทย์ที่สูงขนาดนั้นจริง จะเป็นอัมพาตไปถึงสามปีได้ยังไงล่ะ!”“นั่นน่ะสิ เ
“สวัสดีค่ะ คุณฉู่ ฉันชื่อสวี่ถิงถิง เป็นนักข่าวแนวหน้าของกลุ่มคอลัมน์รู้ทันวงการแพทย์ค่ะ ขอสัมภาษณ์สักครู่ได้ไหมคะ?”นักข่าวสาวสวยถามฉู่เฉิน“ผมไม่สนใจครับ!”ฉู่เฉินตอบเสียงเรียบ จากนั้นก็ดันมือของจินหลิงเอ๋อร์ที่แขนของเขาออกเบาๆ ก่อนจะหันตัวเดินเข้าบ้านไป“ปรมาจารย์ฉู่ เดี๋ยวก่อน”ขณะที่เหล่านักข่าวถูกฉู่เฉินเมินจนยืนอึ้งค้างอยู่กับที่นั้น จินเจิ้นหลงเอามือกุมหน้าอก พุ่งตัวออกไปท่ามกลางฝูงคน“คุณคะ ไม่ทราบว่าเมื่อครู่คุณเรียกคุณฉู่เหรอคะ? แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่คะ?”สวี่ถิงถิงแพลนกล้องไปทางจินเจิ้นหลงทันที“เหลวไหล ฉันไม่เรียกคุณฉู่แล้วจะให้เรียกเธอหรือไง?”จินเจิ้นหลงผลักสวี่ถิงถิงที่ยืนขวางตัวเอง ก่อนจะสบถด่า “เธอตาบอดหรือไง? ไม่เห็นเหรอว่าฉันบาดเจ็บขนาดนี้? นอกจากมาขอความช่วยเหลือ แล้วจะให้ทำอะไรได้อีก?!”พูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านี้ จินเจิ้นหลงก็เดินจ้ำไปทางฉู่เฉิน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น“ปรมาจารย์ฉู่ ตะ…ตระกูลจินของผมยินยอมน้อมรับคุณเป็นเจ้านาย ได้โปรดช่วยพวกเราสองพ่อลูกด้วยเถอะครับ”ขณะเอ่ย จินเจิ้นหลงดึงจินหลิงเอ๋อร์ให้คุกเข่าด้วยภาพที่เกิดขึ้นทำให้ช่องไลฟ์สดแตกตื่นฮือ
“ฉันคิดว่าวิญญาณของคุณอาฉู่ที่อยู่บนสวรรค์เองก็คงไม่อยากให้ฉู่เฉินตกต่ำและกลายเป็นจอมลวงโลกแบบนี้ เพราะฉะนั้นฉันมีหน้าที่เปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของเขาค่ะ”ประโยคนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามขึ้นอีกครั้งในช่องไลฟ์สด“คนอย่างไอ้ฉู่เฉินก็ยังกล้าเปิดบริษัทยาอีกเหรอ?”“ใช่ ต้องเปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของเขา!”“ฉันอยากจะรู้นัก ไอ้แซ่ฉู่นี่จะปิดฉากยังไง มันเชิญนักแสดงมาไม่ใช่เหรอ? งั้นเรามารอดูกันว่ามันจะรักษาให้คนอื่นยังไง!”“ใช่ กับบริษัทที่ไร้คุณธรรมแบบนี้ ที่กล้าโปรโมตด้วยเรื่องลวงโลก ต้องแฉให้หมดเปลือก!”ชั่วขณะหนึ่ง ข้อสงสัยและคำด่าทอเต็มไปทั่วช่องไลฟ์สดกระแสความเดือดของช่องไลฟ์สดพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดผู้ชมทะลุหนึ่งแสนห้าหมื่นคนไปแล้วชาวเน็ตเกือบครึ่งมณฑลเจียง รวมถึงชาวเน็ตจากทั่วประเทศต่างก็รุมด่าฉู่เฉินซูซูเหลือบมองช่องแชตด้านล่าง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน รายการของเราเพิ่งตัดสินใจร่วมกัน แม้จะต้องเสี่ยงโดนฉู่เฉินฟ้องข้อหาบุกรุกสถานที่ พวกเราก็จะเปิดโปงหน้ากากที่แสร้งเป็นคนดีของเขาให้ได้ค่ะ”“ต่อจากนี้ แพลนกล้องไปฝั่งนักข่าวแนวหน้
เรือนร่างอันเย้ายวนของสวี่ถิงถิงดึงดูดความสนใจจากผู้ชมส่วนใหญ่ในช่องไลฟ์สดทันทีประโยคที่เธอพูดเมื่อกี้จึงยิ่งเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับผู้ชมในห้องไลฟ์สดให้เดือดพล่านกว่าเดิม!แอคเคาท์ที่ชื่อจักรพรรดิเสินเยวี่ยแห่งเจียงจง สาดคอมเมนท์ใส่หน้าจอว่า “ถ้าไอ้แซ่ฉู่นี่มีความรู้ด้านการแพทย์จริง ฉันยอมไลฟ์สดกินขี้เลย!”พอประโยคนี้ปรากฏบนหน้าจอ ชาวเน็ตหลายคนก็สาดคอมเมนต์เยาะเย้ยตามมาติดๆ“แหม จักรพรรดิเสินเยวี่ยมาหาแสงอีกแล้ว”“เหอะ ถ้ามันมีความรู้ทางการแพทย์จริง ฉันยอมไลฟ์สดตีลังกาขี้เลย”“พวกเอ็งเอาซะขี้มีคุณค่าขึ้นมาเลย!”ขณะเดียวกัน ฉู่เฉินพาจินเจิ้นหลงและจินหลิงเอ๋อร์สองพ่อลูกเข้าไปในห้องรับแขกจินเจิ้นหลงนั่งลงตรงมุมเล็กๆ ของโซฟาด้วยท่าทางนอบน้อม ก่อนจะพูดกับฉู่เฉินด้วยสีหน้าอ้อนวอน “ปรมาจารย์ฉู่ ผมไม่สำคัญเท่าไร ถ้าเป็นไปได้ คุณช่วยรักษาโรคเรื้อรังของลูกสาวผมให้ก่อนได้ไหมครับ”เขาคิดดีแล้ว ถึงตระกูลจินจะนับถือฉู่เฉินเป็นเจ้านายแล้วยังไง?ขอแค่ลูกสาวมีสุขภาพแข็งแรง แล้วแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่เหมาะสมเร็วๆ เขาก็มีหน้าไปเจอแม่ของจินหลิงเอ๋อร์ที่จากไปแล้ว ฉู่เฉินขมวดคิ้วบอกว่า “อาการป่วยของ
ทักษะการแพทย์สูงต่ำเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลอกกันได้ ถึงแม้ฉู่เฉินคิดจะแสร้งทำก็ไม่รอดอยู่ดีคำพูดของซูซูเองก็ชักชวนให้ชาวเน็ตที่กำลังติดตามหลายคนเห็นด้วยเช่นกันพอเห็นกระแสสังคมพลิกกลับอย่างชัดเจน หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงและเอ่ยอย่างดูถูกว่า “ถ้าฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริง ฉันหลิ่วหรูเยียนคนนี้จะคุกเข่าขอขมาให้เขาต่อหน้าชาวเน็ตนับล้านคนเลย!”ซูซูได้ยินก็เตือนด้วยรอยยิ้ม “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว คุณจะพูดเล่นแบบนี้ไม่ได้นะคะ คุกเข่าขอโทษ ไม่เพียงจะทำให้ชื่อเสียงของคุณเสียหาย แต่ภาพลักษณ์ของบริษัทก็จะ…”“เหอะ!”ซูซูยังไม่ทันพูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็ยิ้มหยัน “คุณซู ฉันดูเหมือนกำลังพูดเล่นเหรอคะ? ฉันหลิ่วหรูเยียนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”“คนอื่นน่ะฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันรู้จักฉู่เฉินดี เขาเป็นคนไร้ความรู้ความสามารถ เป็นแค่จอมลวงโลกที่หลอกลวงคนอื่นไปทั่ว”ซูซูเห็นหลิ่วหรูเยียนมั่นใจขนาดนี้ จึงไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมอย่างไร ได้แต่ยิ้มเล็กน้อย และบอกว่า “โอเคค่ะ งั้นพวกเรามารอดูกันต่อไปก็แล้วกันนะคะ”ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินยื่นมือประคองจินเจิ้นหลงให้ลุกขึ้นมา และเอ่ยเสียงเรียบว่า “ถึงจะยุ่งยากหน
เสียงกรีดร้องของเขาดังก้องไปทั่วทิศ ในช่องไลฟ์สด เกิดการถกเถียงอย่างเร่าร้อนขึ้นอีกครั้ง“เชี่ย! ไอ้แซ่ฉู่ซ้อมปาเป้าอยู่รึไงวะ?”“แม่งเถอะ นี่ไม่ใช่การรักษาแล้ว นี่มันกำลังฆ่าคนชัดๆ”“แม้แต่คนดีๆ ก็ต้องถูกเขาทรมานจนตายแล้วมั้ง? นี่มันวิชาแพทย์แขนงไหนกันเนี่ย!”พริบตาเดียว ฉู่เฉินก็ตวัดเข็มเงินสามเล่มใส่ร่างของจินเจิ้นหลง แม้แต่ชาวเน็ตในหน้าจอก็นั่งไม่ติดแล้วหลิ่วหรูเยียนยิ่งพูดด้วยสีหน้าย่ามใจ “ฉันบอกแล้วว่าเขาเป็นแค่จอมลวงโลกที่ไม่มีความสามารถอะไรเลย ใครๆ ก็เคยเห็นการรักษาด้วยการฝังเข็ม แต่มีใครเคยเห็นการฝังเข็มแบบนี้บ้างล่ะคะ?”“ฉันว่าเราควรเปลี่ยนหัวข้อได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ค่าไอ้สวะอย่างเขา”จบประโยคนี้ กองทัพเรือในช่องไลฟ์สดสาดคอมเมนต์เต็มหน้าจอ ร้องขอให้ตัดภาพถ่ายทอดสดฝั่งฉู่เฉินออก ไอ้สวะที่เป็นแค่จอมลวงโลก มีอะไรน่าดูกัน สู้ดูสองสาวสวยในห้องไลฟ์สดคุยกันยังจะดีซะกว่า คอมเมนต์ประเภทนี้เต็มหน้าจอไปหมดซูซูเองก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง การแสดงละครของฉู่เฉินเกินจริงไปมาก ฉันให้โอกาสนายแล้ว แต่นายใช้ไม่ได้เองจุดพลิกผันที่รอคอยมาไม่ถึง ซูซูได้แต่ผิดหวังอย่างมากในขณะที่ซูซ
ตึง!คำพูดของฮว่าจิ่วหยางทำให้ซูซูอึ้งค้างไปทันทีหรือฉู่เฉินจะมีความสามารถด้านการแพทย์จริง?หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ข้างๆ อดขมวดคิ้วไม่ได้ เธอหันไปมองซูซูซึ่งเป็นพิธีกรของรายการอย่างไม่พอใจคงไม่ใช่ว่ารายการนี้รับเงินใต้โต๊ะจากฉู่เฉิน แล้วตั้งใจหาตาแก่ไร้ชื่อคนหนึ่งมาเพื่อวางกับดักเธอหรอกนะ?เมื่อกี้เธอเพิ่งพูดต่อหน้าแฟนคลับกว่าล้านสองล้านคนว่า ถ้าฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริง เธอจะคุกเข่าขอขมาฉู่เฉินชั่วขณะหนึ่ง ห้องไลฟ์สดแตกฮืออีกครั้ง“เชี่ย ไอ้เดรัจฉานเฒ่านี่มันใครวะ? ถึงได้มาวางท่าเป็นแพทย์จีนโบราณอยู่ตรงนี้!”“ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นวิชาเก้าเข็มลึกล้ำอะไรนั่นอีก ฉันว่าแกนั่นแหละไอ้หน้าโง่ล้ำลึก!”“คงไม่ใช่ว่ารายการต้องการเพิ่มเรตติงก็เลยหาคนมาป่วนหรอกนะ? ยังไงฉันก็ไม่เชื่อใครทั้งนั้น นอกจากเทพธิดาของฉันคนเดียว”“ไอ้พวกไร้สมอง พวกนายไม่รู้จักอาวุโสฮว่าจิ่วหยางรึไง? เขาเป็นผู้นำสิบหมอชื่อดังของเจ็ดมณฑลแห่งทิศใต้เชียวนะเว้ย! แม้แต่หมอเทวดาซุนเวลาเจออาวุโสฮว่ายังต้องเรียกว่าท่านอาวุโสด้วยความนอบน้อมเลย!”เวลานี้ ชาวเน็ตที่เคยติดตามฮว่าจิ่วหยางลุกขึ้นมาพูดปกป้องอาวุโสฮว่า
พอเห็นหลิ่วหรูเยียนสติหลุดในห้องไลฟ์สดอย่างนี้ ซูซูอดขมวดคิ้วสวยๆ ไม่ได้ เธอเอ่ยเตือนสติว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว กรุณาควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยนะคะ”หลิ่วหรูเยียนถลึงตาจ้องหน้าซูซูด้วยสีหน้าย่ำแย่สุดขีด จากนั้นจึงค่อยๆ สงบสติอารมณ์แล้วกลับไปนั่งเห็นหลิ่วหรูเยียนสติหลุดราวกับเสียพ่อเสียแม่ไปอย่างนั้น ซูซูกลับลอบลิงโลดอยู่ในใจความจริง เมื่อกี้เธอไม่ได้คาดหวังอะไรกับฉู่เฉินแล้ว เธอแค่รู้สึกว่าฉู่เฉินกำลังแสดงละครอยู่เท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าตาคุณชายบ้านรวยคนนี้กลับได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากอาวุโสฮว่าขนาดนี้นั่นทำให้ซูซูเซอร์ไพรส์มากจุดพลิกล็อกที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ซูซูใฝ่ฝันมาตลอดเลยทีเดียวเรตติงกระฉูดสูงเสียดฟ้าเกิดขึ้นจริงๆ แล้วนี่ไงซูซูถึงขั้นแอบคิดคำนวณในใจ ว่าจะจุดชนวนให้เกิดประเด็นในเฟซบุ๊กด้วยดีหรือไม่ หลังจากผลักฉู่เฉินให้กลายเป็นประเด็นร้อนถึงขีดสุด เธอค่อยคิดหาทางติดต่อฉู่เฉินเป็นการส่วนตัว อย่างนัดกินข้าวอะไรทำนองนั้นจากนั้น…พวกเขาก็ถูกคนแอบถ่ายโดยบังเอิญ เธอจะใช้ตาทึ่มฉู่เฉินเพื่อทำให้ตัวเองมีชื่อเสียง และผลักดันตัวเองไปสู่บทบาทใหม่นึกมาถึงตรงนี้ ด
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ
“ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ
แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง
“หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ