“ทีกับผัว แตะต้องไม่ได้แม้กระทั้งคำพูด แล้วทีกับคนอื่นไปไหนต่อไหนกันแล้วล่ะ”แสงเทียนหน้าชา ลำคอแห้งฉับพลัน เมื่อฝ่ายนั้นเอ่ยคำว่า ‘ผัว’ ได้เต็มปากเต็มคำ“คุณเป็นบ้าอะไรของคุณ” เธอย้อนกลับอย่างเดือดดาลไม่แพ้กัน“หึ...บ้าก็เพราะความอยากได้ของพวกคุณนั่นแหละ” เพราะเรื่องในอดีต ที่เธอไม่ยอมปล่อยวางได้“คุณอย่ามาพาลหาเรื่องนะ” แม้จะไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่มากนัก แต่เมื่อของทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนี้อยากได้ก็คืนกลับไปแล้ว ก็ถือว่าเรื่องทุกอย่างจบลง แต่ดูเหมือนธัญกรยังไม่ยอมจบ!“พาลเหรอ พาลตรงไหน” เธอทำหน้ามึน ทั้งที่รู้ตัวว่าเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่อง“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงล่ะ...รู้เอาไว้ด้วย ว่าพวกขี้แพ้เท่านั้นแหละที่ชอบใช้อำนาจข่มเหงคนอื่น”“และคนขี้แพ้ ที่ชอบกุเรื่องให้คนอื่นไม่มีที่ยืนในสังคม จะต้องเปรียบเหมือนอะไรดี...” ธัญกรยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ ๆ เหมือนกลัวอีกฝ่ายไม่ได้ยินแสงเทียนหน้าจืดเจื่อน เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจพาลไปถึงเรื่องในอดีต“เทียนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” บอกจบก็รีบวิ่งปรี่ไปยังประตูกว่าจะรู้ตัวว่าเผลอปล่อยให้อีกฝ่ายหนีเอาตัวรอดไปได้ ธัญกรก็คว้าตัวแสงเทียนไว้ไม่ทัน เล่นทีเผลอนี่! เธอ
“คุณธัญ คุณจะทำอะไรแบบนี้อีกไม่ได้นะ” เธอร้องห้ามเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายต้องหักหาญน้ำใจเธอเป็นแน่“คุณเดินมาหาเองนะคะ” เธอหน้ามึนตอบกลับทั้งที่ไม่จริงแต่ก็หาข้ออ้างให้ตัวเองดูดี“ใครมาหาคุณ เทียนมาหาเอลิสต่างหาก และก็ปล่อยก่อนที่เอลิสจะตามมาเจอ” น้ำคำที่เอ่ยเรียกกัน ทำให้ธัญกรถึงกับหงุดหงิด เพราะนั่นบอกถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แม้จะแค่เพื่อนที่สนิทสนมกันดี แต่เธอก็ไม่ชอบให้แสงเทียนไปสนิทกับหญิงอื่นนอกจากตน“เอลิสแค่เพื่อน ไม่เห็นต้องแคร์” “ใครบอกคุณ ว่าเอลิสเป็นแค่เพื่อน” แสงเทียนเชิดหน้าท้าทาย“ไม่เป็นเพื่อน แล้วจะเป็นอะไร”“มากกว่าเพื่อน” เธอตอบเพราะอยากยั่วโมโห และให้อีกฝ่ายเลิกตอแย่เธอได้แล้ว“มากกว่าเพื่อน ก็เป็นแฟนงั้นสิ... ใครจะเชื่อหากเป็นแฟนคงเป็นนานแล้วสิ ”ธัญกรเอ่ยอย่างมั่นใจว่าทั้งคู่ไม่น่าจะเป็นมากกว่านั้น แต่รู้ว่าเอลิสคิดพัฒนาความสัมพันธ์กับแสงเทียนมานาน แต่เป็นแสงเทียนเอง ที่ปิดกั้นไม่ให้อีกฝ่ายข้ามเส้นคำว่าเพื่อนออกมาคิ้วเรียวผูกปม จากที่เคยสงสัย ครานี้แสงเทียนเริ่มแน่ใจแล้วว่าเรื่องราวที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนี้ต้องสืบหาความเป็นมาของเธอเป็นแน่ แล้วสืบยังไง ในเมื่
“คุ คุณธัญกร” เสียงแหบพร่าเอ่ยเรียก หากเจ้าของร่างบางกลับไม่ได้ขานตอบ สองมือเรียวยังคงฟอนเฟ้นไปตามเนื้อเนียนนุ่มอย่างหลงใหล จมูกโด่งซุกอยู่ตามซอกคอและติ่งหู ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไซ้เนินหน้าอกอวบอิ่ม จนร่างบางสั่นสยิวตอบสนอง “คิดถึงรู้ไหม...” เสียงแหบพร่า กระซิบแผ่วข้างแก้มนวลสีเรื่อ เหมือนประหนึ่งตัดพ้อน้อยใจแสงเทียนขืนตัวเล็กน้อย เมื่อเสียงนุ่มแผ่วต่อว่าต่อขาน กระทบโสตประสาท...เธอนี่นะใจร้าย เกิดคำถามขึ้นในใจ หากใจหนึ่งกลับเต้นระทึกแค่ผู้หญิงที่เธอต่อว่า ว่าเห็นแก่ตัว บอกว่า ‘คิดถึง’ มือเรียวยังคงลูบไล้ไต่ไปตามสัดส่วนได้รูปอย่างปรารถนา “ขอนะคนดี...” เธอพร่ำต่อแบบเสียงขาด ๆ หาย ๆ พร้อมมือเรียวสอดไปตามชายเสื้อของเธออย่างย่ามใจ จากนั้นก็ดันชายเสื้อขึ้นไปกองอยู่ตรงหน้าอก จนเผยให้เห็นหน้าท้องที่แบนราบ และบัวตูมที่ล้นอยู่ในชุดชั้นในสีขาว จากนั้นก็ดันออกมาจากพื้นที่จำกัด ตั้งนูนเด่นอยู่ตรงหน้าปากบอกไม่มีใจ แล้วใครจะเชื่อ ในเมื่อร่างกายตอบสนองทุกสัมผัส... แสงเทียนต่อว่าตัวเองใจอยากค้านแต่กายกลับสนองแอ่นรับสัมผัส เมื่อธัญกรเริ่มรุกหนักไม่สนสถานที่ เธอใช้ริมฝีปากอุ่นดูดกลื
แสงเทียนดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง แม้จะเสียการทรงตัวไปบ้าง แต่เธอก็เดินไปจนถึง แล้วปิดประตูดังปังและจัดการเช็ดรอยเปรอะเปื้อนให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นมองดูตัวเองในกระจกเช็คความเรียบร้อยดีแล้ว ก็เปิดประตูออกมา“เดี๋ยวจะพาคุณไปคอนโดก่อน แล้วจะเลยไปส่งที่บ้าน”“ไม่ เทียนไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น” เธอบอกปัด“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” น้ำเสียงจริงจังทำให้แสงเทียนหวั่นใจมากกว่าเก่า“ขอโทษนะคะ เทียนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณอีก”“ทำไม” น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่บีบหัวใจแสงเทียน“ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ แค่เทียนคิดว่าเรื่องของเราจบกันไปแล้ว”“แล้วเมื่อกี้มันคืออะไร” เธอย้อน รู้สึกเจ็บแปลบกับคำตอบของแสงเทียน“ขอร้องนะคะ อย่าทำร้ายกันอีกเลย ทุกอย่างที่คุณอยากได้ พวกเราก็ให้คุณไปหมดแล้ว ปล่อยครอบครัวเราไปเถอะนะคะ” เธอเอ่ยจบก็รีบเดินเลี่ยงเมื่อร่างที่นั่งไขว้ขามองมาที่เธอสายตาไม่ยอมอ่อนให้“นี่ หากไม่อยากวุ่นวาย หยุดอยู่ตรงนั้นนะ...” เสียงแหลมทรงพลังออกคำสั่งแต่คนอยากออกไปไม่ฟังเสียงธัญกรจึงพูดต่อ“สัญญาทุกอย่างยังเหมือนเดิม ส่วนบริษัทพ่อคุณก็แค่ให้คนอื่นไปดูแล และเงินในส่วนที่พ่อคุณจะได้ก็ยังเหมือนเดิม”เมื่อตัดสิน
ไม่รู้อะไรดลใจให้เอลิสคิดว่าแสงเทียนอาจอยู่ในห้องธัญกรอีกก็เป็นได้ เท้าเรียวมุ่งตรงไปด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ มูลความจริงต้องมีบ้าง ‘เจ้านายคนใหม่ของเราเสน่ห์แรงจริง ๆ เลยเธอว่ามะ’ ‘รู้ได้ไง’ ‘อ้าว แกไม่เห็นหรือไง ว่าวันเดียวกันมีผู้หญิงมาหาถึงสองคน’ ‘จริงเหรอ สวยหรือเปล่า’ ‘คนแรกสวยดูดีนะ ที่สำคัญหากฉันจำไม่ผิด จะเป็นลูกนักธุรกิจ ชื่ออะไรนะ นายปิยะ อะไรนี่แหละ ฉันเคยเห็นภาพข่าวครั้งหนึ่งเมื่อสองสามปีแล้วมั้ง ส่วนสาวคนที่สอง ดูเปรี้ยวเข็ดฟัน’ ว่าแล้วก็ทำท่าทางเข็ดฟันไปด้วย จนเพื่อนสาวต้องจิกตาแล้วขำกับความอินของนาง ‘โหหลายปี ไม่ใช่แล้วมั้ง’ พนักงานรุ่นน้องแย้ง สาวใหญ่วัยเกือบสี่สิบค้อนให้ ก่อนจะทำตาลอยเหมือนคนเพ้อ ‘ไม่หรอกฉันจำไม่ผิด ลูกสาวนักธุรกิจรับเหมารายใหญ่ ควงลูกสาวคนเดียวออกงาน ความสวยเตะตา จนฉันอยากไปสัมผัสตัวจริงเลยละ’ ว่าพลางทำสายตาเคลิ้มฝันเหมือนคนกำลังตกหลุมรักกระนั้น จนพนักงานรุ่นน้องเบะปากแซวกลับไปว่า ‘ตายละหว่า สงสัยพี่เก๋จะเปลี่ยนเพศแล้ว บรึ๋ย...ไปดีกว่า’ เธอทำท่าขนลุกขนพองแล้วรีบเดินทิ้งห่าง
ใบหน้าสวยคมหันมามองกิริยาที่ไร้การเสแสร้งด้วยความเอ็นนดู“ค่ะ ถึงแล้ว ลุกขึ้นเถอะ...” น้ำเสียงนุ่มชวนให้ฝัน ทำเอาแสงเทียนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แล้วมองตามร่างบางสมส่วนที่เดินออกจากรถไปเพื่อทำหน้าเปิดประตูให้ “เชิญค่ะ” เธอบอกอย่างไม่ถือตัวพร้อมรอยยิ้ม“คุณธัญกลับมาแล้วหรือคะ” ใบหน้าตื่นของแม่บ้านที่ไม่ได้แสดงถึงความดีใจมากนัก ทำเอาเจ้าของบ้านต้องหรี่ตามอง“มีอะไรหรือค่ะ” แม้บ้านคนสนิทยิ้มเจื่อน ๆ ตอบกลับ“มีสิคะ” นางตอบพร้อมชำเลืองมองสาวสวยที่เดินเคียงคู่กันมา“มี?” เท้าเรียวยึดอยู่กับที่ ท่าทางไม่ชอบมาพากลของแม่บ้านคนสนิท ทำให้คนมีชนักติดตัวร้อน ๆ หนาว ๆ หรือแม่จะกลับมา... เธอไม่ถามไถ่กลับกระชับข้อมือเรียวของแสงเทียนแล้วตรงดิ่งเข้าด้านในวันนี้เป็นไงเป็นกัน เขาอยากรู้นัก เมื่อเหตุการณ์กลับตาลปัตรกับคู่อริเก่าแม่จะเล่นงานตัวเองยังไง...แสงเทียนได้แต่ทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนอีกฝ่ายดึงรั้งเข้าด้านในอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอไม่ทันได้ทำความเคารพผู้ใหญ่ที่ยืนมองอยู่ทางด้านหลังที่มีสีหน้าเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ยังพูดไม่จบเสียงฝีเท้าที่ดังถี่เข้ามาทำให้ร่างบางที่นอนเมื่อยอยู่บนโซฟานุ่มผุดลุกขึ้น“พี่
ตกลงคนนี้แน่ใช่ไหมคะ”ป้าจันแม่บ้านเก่าแก่ที่เปรียบเสมือนญาติสนิทของธัญกรเอ่ยถาม เมื่อสาวสวยที่แต่งตัวเปรี้ยวเข็ดฟันเดินออกไปแล้ว เหลือไว้แค่ผู้หญิงที่ดูสุขุมและเรียบร้อยในสายตาของนางใบหน้าสวยคมเรียบสนิท หากไม่มีคำใดเล็ดลอดออกมา ทุกคนจึงคิดว่านั่นคือคำตอบแน่นอน“แล้วนี่ลูกเต้าเหล่าใครกันค่ะ หน้าตาสะสวยมาก”นางถามด้วยความชื่นชม และสังเกตผิวพรรณที่เนียนละเอียดขาวผ่องอย่างลูกคุณหนู ในขณะที่เสื้อผ้าและการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีมีราคา แต่ใจหนึ่งก็อยากรู้ข้อมูลให้แน่ชัด“เอ่อ...คุณพ่อกับคุณแม่รู้จักคนตระกูลนี้ดีค่ะป้าจัน”คำตอบนั้นเหมือนขอไปที ทำเอาหญิงสูงวัยถอนหายใจ แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าคำสั่งตรงจากแดนไกลเป็นความจริงแล้ว“ดีเลยค่ะ ไม่ต้องเรียนรู้กันให้มากความ งั้นป้าไปชงน้ำหวานมาให้ก่อนนะคะ” พูดจบนางก็เดินออก ธัญกรจึงหันสนใจคนป่วยที่นอนอยู่แสงเทียนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง และเห็นว่าธัญกรเฝ้าเธอไม่ห่าง แต่ก็ไม่อาจทำให้ขอบคุณในความใส่ใจของเธอได้ “ปล่อยมือเทียนนะคะ” เธอปั้นปึงใส่ ธัญกรหน้าเจื่อน“เป็นอะไร คนเป็นห่วงนะ...” คนเป็นห่วงเอ่ยเสียงอ่อน ไม่ได้โกรธเคืองกิริยาที่เปลี่ยนไป เงียบน่ากลัวกว
เนี่ยสายตาแบบนี้จะไม่ให้เธอกระดากได้ไง... แสงเทียนย้อนอยู่ในใจ โดยเธอไม่กล้าพูดไปตามตรง“ยังเหรอ งั้นจะทำให้ชินเอง” ว่าแล้วก็เดินตรงเข้าไปหาแสงเทียนถอยหลังหลบ “คุณธัญกร อย่าเล่นอะไรแผง ๆ เสียงแหลมหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าของห้องย่อตัวเตรียมช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม“พาไปอาบน้ำไง” ธัญกรตอบเสียงเรียบคำตอบนั้นทำเอาแสงเทียนร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ก่อนจะรู้สึกท้องไส้บิดมวนปั่นป่วนอยู่ในช่องท้อง...อาบน้ำของเธอ คงไม่แคล้วนวดนาบไปด้วย คนหื่นเอ๊ย!และเป็นไปอย่างที่แสงเทียนคิดไว้ เมื่อเธอไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น จับตัวไม่ได้ก็โผล่เข้ามาใหม่อีกครั้งครานี้แสงเทียนหลบไม่ทัน จึงโดนคว้าตัวไว้ โดยไม่มันให้เธอได้ตั้งตัว ธัญกรจัดการถอดเสื้อผ้าของเธอ แล้วก็รีบจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นทั้งคู่ก็มีสภาพเปล่าเปลือยไม่ต่างกันบทรักร้อนแรงใต้ฝักบัวก็เริ่มขึ้นอย่างที่เธอไม่คิดว่าเขาจะอึดได้จริง ๆ เมื่อจูบแบบสูบวิญญาณเริ่มขึ้น ทำเอาเธอเกือบหมดลมหายใจ ทรุดลงไปนั่งอยู่บนพื้น หากไม่ติดที่วงแขนแกร่งโอบรั้งเธอไว้“อืมส์...”ธัญกรส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ กับการสัมผัสกลีบปากนุ่ม ที่ไม่เคยทำให้เธออิ่ม... จากนั้นสอดลิ้นเกี่