ผับ Storm Night
ชายวัยกลางคนกำลังโดนเหล่าชายฉกรรจ์ชุดดำรุมกระทืบซ้อมจนกระอักเลือดนอนกองจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้อง ใบหน้าเหยเกไปด้วยความเจ็บ
“เอามันออกไป!”ชายหนุ่มเจ้าของผับที่ยืนหันหลังให้กับเหล่าชายหนุ่มชุดดำพูดออกคำสั่งเสียงแข็ง
“ครับ”หัวหน้าชายชุดดำขานรับคำของเจ้านาย พร้อมกับโค้งตัวลาและส่งสัญญาณให้กับลูกน้องที่เหลือของเขาพามันออกไป
สายฟ้าชายหนุ่มหน้าตาดีใบหน้าหล่อเหลาก็ได้เดินสวนเข้ามาเจอเข้าพอดี เขาจึงได้ออกปากถามไปยังชายผู้เป็นเจ้าของคำสั่งที่ยืนหันหลังยกดื่มแก้วเหล้าในมืออยู่
“อะไรกันว่ะพี่ ไอ้นี่คือ?”
เขาที่โดนถามจึงได้หันหลังกลับมาแล้วมองดูไปยังสายฟ้าและเริ่มพูดแถลงว่าคนเมื่อกี้มันเป็นใครกัน
“ลูกหนี้กูเอง มันติดหนี้กูอยู่ 5ล้าน”
“อืม แล้วช่วงนี้เป็นไง เห็นเงียบๆไปกูเลยแวะเข้ามาดู พ่อเป็นห่วงมึงไอ้พายุ”สายฟ้าเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาแล้วพูดถามผู้เป็นพี่ออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะช่วงหลังๆพี่ชายของเขาเงียบหายไป
“หึ! ช่วงนี้งานเยอะก็เลยไม่ค่อยได้เข้าไปบ้าน”
เจ้าของผับที่นี่ก็คือ พายุ เขาเป็นลูกชายคนโตของบ้าน จิรกุลชัย มีน้องชาย1คนนั่นก็คือสายฟ้า (จากเรื่องสัญญารักมัดใจเธอ)
เขากับน้องชายอายุห่างกัน 3ปี พวกเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบเด็กผู้ชายแมนๆจึงทำให้ทั้งสองรักและสนิทกันเป็นอย่างมาก
“อาทิตย์นี้มึงไปไหนมั้ย? แม่อยากให้พวกเราไปกินข้าวที่บ้าน”สายฟ้าที่พอรู้ถึงสาเหตุแล้วว่าทำไมพี่ชายของเขาถึงได้เงียบหายไปก็พยักหน้ารับรู้และถามและยังบอกเขาไปอีกว่าแม่ต้องการให้พวกเขานั้นเขาไปกินข้าวที่บ้าน
“เดี๋ยวกูดูก่อนก็แล้วกัน แล้วนี่มึงมาหากูแค่นี้?”พายุเจ้าของผับเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานของเขาและเอ่ยพูดบอกน้องชายตนเองกลับไป
สายฟ้าที่มาหาพี่ชายตนเองด้วยความเป็นห่วงแล้วก็ยังมีเรื่องที่จะพูดถามเขาอีกหนึ่งเรื่องอยู่เหมือนกัน เขาจึงได้เริ่มพูดมันออกมาและจ้องมองไปยังพี่ชายตนเองที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“มีเรื่องคุยนิดหน่อย มึงจำไอ้แม็คได้มั้ย?”
“ไอ้แม็คที่ติดหนี้พนันบ่อนกูอ่ะนะ ทำไมว่ะ?”เขาลองนึกอยู่สักพักจนเมื่อคิดออกก็เอ่ยถามน้องชายอีกครั้งว่าเพราะอะไรถึงได้ถามหามัน
“กูจะใช้หนี้แทนมัน!!”สายฟ้าจึงได้เริ่มพูดความต้องการของตนเองออกมาอย่างตรงไปตรงมากับพี่ชาย
“มึงเล่ามาเลยดีกว่าว่าเพราะอะไร”พายุรู้ว่าน้องชายต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอนจึงได้เอ่ยปากถามและบอกให้เขานั้นเล่ามาเลยดีกว่า สายฟ้าจึงได้เริ่มพูดอธิบายความต้องการของเขาให้พี่ชายได้ฟังทั้งหมด
พอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของน้องชายตนเองก็ถึงกับหลุดขำออกมา เขารู้นิสัยของน้องชายเป็นอย่างดีว่าถ้าต้องการหรือล็อคเป้าหมายอะไรแล้ว ของสิ่งนั้นจะไม่สามารถหลุดหรือหายไปจากเขาได้ทั้งนั้น
“หึ! คงจะถูกใจมึงมากเลยสินะ ถึงได้ยอมควักตังค์จ่ายหนี้แทนให้ก่อน”
สายฟ้าลอบยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าของยัยคุณหนูอลิสที่ชอบทำหน้ายู่และชอบหลบหน้าหลบตาเขาแต่ถ้าเขาจะเอาซะอย่างเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธเขาได้ เขาเปลี่ยนเรื่องคุยกับพี่ชายตนเองทันทีพาเข้าเรื่องของพี่ชายเฉย
“แล้วมึงล่ะเมื่อไหร่จะมีแฟนสักที นี่พ่อบ่นแล้วนะว่าอยากอุ้มหลาน”
“ข้ามไปรอลูกของมึงได้เลย”พายุจึงรีบบอกออกมาเลยว่าไม่มีทางและอย่ามารอเขาเลยให้ข้ามไปรอน้องชายอย่างสายฟ้าซะจะยังดีซะกว่า
สายฟ้าถึงกับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยินในคำตอบของพี่ชายที่บอกว่าข้ามมารอลูกของตนได้เลย
“มึงนี่นะ เมื่อไรจะเจอคนที่ใช่กับเขาสักที กูยังไม่เคยเห็นมึงเข้าใกล้หรือคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย”
“พวกผู้หญิงวุ่นวาย กูไม่ชอบ ขออยู่คนเดียวดีกว่า”
“แล้วกูจะคอยดูว่ามึงจะอยู่คนเดียวไปได้อีกนานแค่ไหน กูกลับก่อนแล้วกัน ไปหาเมียกูก่อน”เมื่อพูดจบสายฟ้าก็ลุกขึ้นยืน ยกมือโบกลาพี่ชายพร้อมกับเดินออกไป
“เมีย เต็มปากเต็มคำเลยนะมึง..ไอ้สายฟ้า”เมื่อเห็นน้องชายพูดเมียออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำเขาจึงรีบพูดตะโกนตามหลังไปติดๆ
ครืด ~ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นระงม
พายุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็กดรับสาย“อืม ว่าไง”
“กูอยู่ที่ร้าน อยากจะเข้าก็เข้ามาได้เลยแล้วไอ้นีโอกับไอ้ขุนพลล่ะ?”
“อือ ตามนั้น กูทำงานก่อน”
สวัสดีครับ ผมพายุ พชรวิชญ์ จิรกุลชัย เป็นเจ้าของกิจการที่นี่ ปีที่ผมก็เข้าอายุ 25ปีแล้ว ครอบครัวของเราเปิดกิจการแบบนี้มานานมากแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อ พอผมเรียนจบแล้วอยู่ว่างๆพ่อจึงได้มอบหมายให้ผมได้เข้ามารับหน้าที่บริหารงานต่อจากเขา ผมน่ะเรียนจบบริหารมาก็จากมหาลัยCHนั่นแหละ
ผมมีเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาอยู่สามคน นั่นก็คือ ไอ้เจมส์ ไอ้ขุนพล และคนสุดท้ายไอ้นีโอ พวกเราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนถึงมหาลัย และที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ก็คือไอ้เจมส์ ที่โทรมาบอกว่าพวกมันทั้งสามกำลังจะเข้ามานั่งกินนั่งเล่นกันที่ร้านของผม
ตอนมหาลัยผมก็ถือว่าเป็นหนุ่มฮอตอยู่พอสมควรมีพวกผู้หญิงเข้ามาหาผมอยู่เรื่อย แต่ผมไม่สนใจใครสักคน ผมมองว่าผู้หญิงพวกนี้ดูน่ารำคาญและต่อไปอาจทำให้วุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด จึงเลือกที่จะอยู่คนเดียวซะยังจะดีกว่า เอาจริงนะตั้งแต่เล็กยันโตผมยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนและต่อไปก็คงจะไม่มีเลยล่ะมั้ง
แต่ถ้าถามว่าไม่มีแฟนแล้วมีอารมณ์พวกนั้นมั้ย มันก็มีนั่นแหละครับ ผมก็ใช้นิ้วมือทั้งห้าของผมจัดการมันก็จบแล้วไม่ต้องมายุ่งยากกับใครด้วย
ผับ Storm Night“กรี๊ดมึง ผู้ชายคนนั้นเขาหล่อมากอ่ะ กูอยากได้เขา” หญิงสาวสวยหุ่นบอบบางแต่งตัวด้วยชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสุดเซ็กซี่พูดขึ้นหลังจากที่กลุ่มของพวกเธอได้เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะภายในร้าน พลางชี้มือไปที่ชายหนุ่มที่มีใบหน้าสุดหล่อเหลาคมคายชุดดำ ซึ่งนั่งกันอยู่ในโซนVIPกับกลุ่มเพื่อน“เออจริงด้วย หล่อมาก กูเชียร์ มึงเข้าไปขอเบอร์เขาเลย” เพื่อนของเธอมองตามมือของเธอไปก็พบเข้ากับชายหนุ่มคนที่เพื่อนของเธอพูดถึง มันจริงดั่งคำที่นางกล่าว ผู้ชายคนนี้กราวใจดูแบดบอยมาก มีรอยสักอยู่ที่คอและตรงช่วงหน้าอก รีบหันมาพูดเชียร์เพื่อนสาวคนสวยให้เข้าไปจีบผู้ชายคนนั้น“อือ~ กูดูสวยหรือยังว่ะ” ร่างบางสุดเซ็กซี่ลุกยืนขึ้นขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่หันไปหาเพื่อนๆว่าให้ช่วยมองให้ทีว่าดูดีหรือยัง เมื่อเพื่อนบอกผ่าน หญิงสาวก็เดินเข้าไปยังโต๊ะที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีนั่งกันอยู่ถึง4คนด้วยความมั่นใจไปกับหน้าตาที่ดูสวยเซ็กซี่ของตัวเอง ในใจเธอคิดว่าถ้าไม่ได้คนที่เธอหมายตาไว้ก็ขอใครสักคนใครก็ได้ใน3คนนี้ที่เหลือเพราะแต่ละคนก็งานดีกันทั้งนั้น“สวัสดีค่ะ ขอนั่งด้วยคนจะได้มั้ยคะ” หญิงสาวที่หมายตาในชายหนุ่มก็ได้พูดขึ้นขยับกายเด
ขุนพลที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาบ้าง เขารู้นิสัยของพายุเป็นอย่างดีเพราะรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแต่ก็ยังอยากที่จะถามย้ำๆให้ได้ยินกับหูอีกสักครั้ง“กูยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมแต่แค่ยังหาคนที่ใช่ไม่ได้ก็เท่านั้น” พายุจึงได้ตอบกลับเน้นน้ำเสียงดังฟังชัดแน่นอนไปยังเพื่อนๆของเขาให้ได้รับรู้ให้แน่ชัดอีกครั้งคอนโดพายุเช้าวันต่อมา7.30 น.เมื่อคืนพายุกับเพื่อนดื่มกันจนเกือบจะโต้รุ่ง เขาได้กลับมานอนยังคอนโดของเขาและนอนได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปทำงานยังบริษัทของผู้เป็นพ่อ มันเหมือนเป็นความเคยชินไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตามพายุก็จะตื่นเช้าอยู่เสมอพายุหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด 10นาทีผ่านไป เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อเชิ้ตสีดําแบรนด์ดังนำขึ้นมาสวมใส่ ทุกๆอย่างในห้องนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสีดำไปซะส่วนใหญ่ในตอนเช้าถึงช่วงเย็นเขาเป็นถึงรองประธานบริษัทแต่พอช่วงดึกๆเป็นต้นไปก็จะกลายเป็นเจ้าของผับดูแลควบคุมสั่งการกิจการร้านผับ บ่อนคาสิโน และธุรกิจสีเทาอีกหลายอย่างแต่งตัวเสร็จอะไรเสร็จก็เดินออกจากห้องเพื่อไปทำงานที่บริษัทของ
ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น“เข้ามา” พายุจึงได้ส่งเสียงบอกให้เข้ามาได้“ขออนุญาตครับคุณพายุ คุณอิทธิมาขอพบคุณพายุครับ” ลูกน้องคนสนิทอย่างวีรวิทย์ได้เดินเข้ามาและแจ้งไปยังผู้เป็นเจ้านายของเขา“อืม ให้เขาเข้ามาได้”“ครับ” โค้งคำนับและเดินออกไปยังหน้าห้องทำงานของพายุ ผายมือเชิญแขกที่มาขอพบให้เข้ามาพบกับผู้เป็นเจ้านายของเขา“เชิญครับ”“สวัสดีครับ ผมอิทธินะครับคุณพายุ” คนมาใหม่ได้เริ่มกล่าวแนะตัวเองให้พายุได้รู้จักอย่างเป็นทางการ“ครับยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เชิญนั่งก่อน” พายุยิ้มรับพร้อมกับบอกให้เขานั้นนั่งลงก่อนแล้วค่อยมาเริ่มพูดคุยกัน“เชิญพูดเรื่องของคุณมาได้เลยครับ” พายุที่เห็นว่าทางฝั่งเขานั้นยังเงียบ จึงได้เริ่มพูดขึ้นมาก่อน“ครับ วันนี้ผมจะมาเสนอยาตัวใหม่ที่ทางผมพึ่งคิดค้นได้ครับ มันเป็นยากล่อมประสาทชนิดรุนแรง และนี่ครับผมจะให้ทางคุณพายุได้นำไปทดลองใช้ก่อน ใช้ไม่กี่หยดก็เห็นผลแล้วครับ”“ครับ เอาไว้ผมจะติดต่อไปแล้วกัน”“ถ้างั้นวันนี้ผมขอตัวลาก่อนแล้วกันนะครับและนี่เป็นนามบัตรของผมครับ หวังว่าคุณจะพอใจไปกับสินค้าของผม” อิทธิได้ขอตัวลากลับไปก่อน เขาทิ้งตัวอย่างทดลองเอาไว้กับพายุ“ผมว
อลิสกับชะเอมหายออกไปเดินเล่นกันที่ริมชายหาดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง พอเมื่อเธอกลับมาก็รีบขึ้นมาบนเตียงนอนทันที เพราะอากาศข้างนอกยังค่อนข้างแดดร้อนอยู่ด้วย ความเพลียจึงทำให้เธอเผลอหลับไปเมื่อเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว สายฟ้าเดินมาเคาะประตูห้องของชะเอม หญิงสาวเดินมาเปิดประตูให้เขา ไม่รอช้าเขาจึงได้พูดขึ้น“ชะเอม เราช่วยไปซื้อของและก็ซื้อเค้กแทนพี่หน่อยได้มั้ยครับ”“เค้กเหรอคะ” ชะเอมทำใบหน้างุนงงเอ่ยปากถามกลับไปยังพี่สายฟ้าอย่างคนที่ลืมในวันเกิดของเพื่อนสนิทตนเอง“ใช่ครับ วันนี้วันเกิดอลิส” สายฟ้ายิ้มรับพร้อมกับเฉลยว่าวันนี้คือวันเกิดของอลิสเพื่อนสนิทของเธอเอง“เออจริงด้วย! ลืมได้ไงเนี่ย งั้นได้เลยค่ะพี่ เดี๋ยวชะเอมจัดการให้” ชะเอมเบิกตาโตอย่างตกใจ พอพี่สายฟ้าบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอลิส เธอก็จำขึ้นมาได้ทันที ยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับบอกว่าจะจัดการเรื่องเค้กให้เรียบร้อยและระหว่างที่พูดคุยกันอยู่พายุก็ได้เดินออกมาพอดี“ขอบคุณครับ พายุ มึงช่วยไปเป็นเพื่อนน้องชะเอมหน่อย” สายฟ้าหันไปมองสบตากับพี่ชายเมื่อทุกอย่างได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ เอ่ยปากพูดให้พายุช่วยไปเป็นเพื่อนชะเอมหน่อย“เอ่อ ไม่ต้องก็ได
“นี่ยัยเด็กบ้า ตื่นแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอซะ” พายุตะคอกเสียงใส่คนเมาอีกครั้งอย่างคนที่เหลืออด เธอกำลังนอนที่เตียงและหมอนที่มันควรจะเป็นเขาที่ได้นอนคนเดียวถึงจะถูก“อืม อลิสอย่าบ่นมากน่า เดี๋ยวแก่เร็วนะ” คนเมารับรู้ถึงเสียงบ่นที่หลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มแต่เธอนึกว่ามันเป็นเสียงของอลิส เพื่อนสาวของเธอ ชะเอมจึงได้พูดตอบกลับไป“พูดบ้าอะไรของเธอ” พายุเริ่มไม่พอใจชะเอมเข้าไปใหญ่ เขาไม่ชอบความวุ่นวายแบบนี้ ไม่ชอบเลย“มานี่ มานอน อย่าพูดมาก ฉันง่วง” ชะเอมที่คิดว่าพายุนั้นเป็นเพื่อนสนิทของเธอจึงได้ดึงแขนของเขาให้ล้มตัวลงนอนข้างๆเธอพร้อมกับเริ่มกอดก่ายไปยังร่างหนาของชายหนุ่ม“นี่ออกไปให้ห่างฉัน!” พายุตกใจเบิกตาโตตะลึงไปกับการกระทำของชะเอม ออกคำสั่งเสียงแข็งว่าให้คนเมารีบออกห่างจากร่างกายเขา“อืม ไม่เอาน่า แกเปิดแอร์เย็นไป ฉันหนาว” คนเมาไม่มีสติและคิดว่าพายุเป็นเพื่อนก็ได้พูดขึ้นอีกครั้ง เธอขยับกายแนบชิดไปทุกสัดส่วนเลยก็ว่าได้ เพราะอากาศจากอุณหภูมิแอร์มันหนาวทำให้เธอนอนบดเบียดแนบชิดกายไปยังเขา“อืม ไม่เอาน่า แกเปิดแอร์เย็นไป ฉันหนาว” คนเมาไม่มีสติและคิดว่าพายุเป็นเพื่อนของตนเองก็ได้พูดขึ้น
“ได้สิคะ” ชะเอมพยักหน้าตอบรับเป็นอันว่าตกลงรับคำของชายหนุ่ม เธอค่อยๆเอื้อมมืออันสั่นเทาเข้าไปสัมผัสท่อนเอ็นใหญ่โตของชายหนุ่ม เธอกำมันไม่มิดด้วยซ้ำ เส้นเลือดปูดเต็มลำไปหมด มันน่ากลัวมากสำหรับเธอ“มันใหญ่มากเลยนะคะและก็น่ากลัวมากด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ” ชะเอมปล่อยมือจากท่อนเอ็นของเขาและรีบดึงมือของตนเองกลับมา ก้มใบหน้าแดงระเรื่อไปพูดบอกกับเขา“ก็ 62”“62 คุณบอกหวยเหรอคะ เอมเล่นหวยไม่เป็นหรอกค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเสียงแข็ง เขาไม่ต้องมาบอกเรื่องหวยกับเธอหรอก เพราะเธอนั้นเล่นหวยไม่เป็น“พูดมาก ลุกขึ้นมาแล้วอมให้ฉัน เดี๋ยวนี้!” พายุที่ใกล้จะแตกเต็มที่ก็จับร่างบางของชะเอมให้ลุกขึ้นนั่งส่วนเขานั้นยังคงนอนเหมือนเดิม“อมอะไรคะ? อื้อ~” ชะเอมที่ไม่เข้าใจในคำพูดของพายุก็ได้พูดถามออกมาอีกครั้ง พายุจึงดึงร่างเธอให้ก้มลงมาพร้อมกับกดศีรษะของเธอให้อยู่ตรงส่วนนั้นของเขา“อ้าปากแล้วจัดการอมมันซะ” ชายหนุ่มเลือดร้อนได้ออกคำสั่งเสียงแข็งอีกครั้ง หญิงสาวสะดุ้งตกใจไปกับเสียงดังของเขา เธอค่อยๆอ้าปากตามที่เขาบอก เขาจ่อท่อนเอ็นเข้าไปในโพรงปากนุ่มของเธอ“อ่าส์..” เขากดศีรษะของชะเอมให้ขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงไปตามจังหวะ และไ
“แล้วนี่เราจะไปเที่ยวไหนกันมั้ยคะ” อลิสถามพี่สายฟ้าว่าจะพาเธอกับชะเอมไปเที่ยวที่ไหนกันในวันนี้“เย็นๆไปพายเรือกันมั้ยล่ะ” แพลนในวันนี้ของสายฟ้าก็คือพายเรือ ที่นี่น้ำสีสวย วิวก็ดี“ดีค่ะ อลิสตกลงไปค่ะ” หญิงสาวยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ และรีบตอบตกลงทันทีเมื่อรับประทานอาหารกันจนอิ่มแล้วทั้งสี่ก็ได้พากันไปหามุมนั่งเล่นแถวริมชายหาด สายฟ้าสั่งเบียร์พร้อมกับแกล้มมานั่งกินกับพายุอย่างชิวๆ “วิวที่นี่สวยมากๆเลยนะคะ น้ำทะเลก็ใสน่าเล่นมากเลย” อลิสพูดขึ้นอีกครั้งมองไปทางไหนก็สวย เธออยากลงไปเล่นน้ำ“พูดแบบนี้อยากเล่นใช่มั้ย” สายฟ้าที่รู้ทันไปกับคำพูดของอลิสก็รีบพูดขึ้น“เล่นได้มั้ยคะ” หญิงสาวรีบยิ้มทำหน้าออดอ้อนชายหนุ่มรุ่นพี่ กระพริบตาปิ๊งๆทันที“ได้แน่นอน ไปสิ ลงไปเล่นชวนเพื่อนไปด้วยนะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้” สายฟ้าอนุญาตและบอกให้อลิสนั้นได้ชวนชะเอมลงไปเล่นน้ำด้วยกัน“ขอบคุณค่ะ”แล้วหญิงสาวก็พากันลงไปเล่นน้ำทะเลสีสวย ก่อนที่จะลงก็ไม่ลืมที่จะทาโลชั่นกันแดดก่อน เมื่ออยู่กันสองคนพายุก็ถามน้องชายออกมาตรงๆ“นี่มึงจริงจังกับน้องเขาใช่มั้ย” พายุเอ่ยปากถามไปยังน้องชายที่ตอนนี้เอาแต่มองไปยังแฟนสาวคนสวยของมันอย่าง
คอนโดชะเอม“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ขับรถดีๆนะคะ อลิสถึงแล้วทักมาบอกด้วยนะ” ชะเอมได้กล่าวคำขอบคุณไปยังพี่สายฟ้าและบอกให้อลิสเมื่อถึงห้องแล้วให้ทักมาบอกยังเธอด้วย“ครับ”“อื้อ โอเคเลย ฉันกับพี่สายฟ้าไปก่อนนะ” อลิสหันมาส่งยิ้มหวานให้กับทางชะเอมพร้อมกับโบกมือร่ำลากัน ชะเอมเปิดประตูแล้วก้าวเดินลงจากรถคันหรูของสายฟ้าชะเอมเดินขึ้นมาบนคอนโดเปิดประตูเข้ามาก็พบเข้ากับพี่สาวคนสวยของเธอที่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก แชมเปญหันมามองน้องสาวคนสุดท้องพูดถามเธอถึงเรื่องไปเที่ยวทะเล“เป็นไงไปเที่ยวทะเลสนุกมั้ย?”“ก็สนุกดีค่ะ นานๆจะได้ไปที แล้วนี่มีอะไรให้เอมกินบ้างคะเนี่ย” ชะเอมเดินมานั่งลงด้านข้างของพี่สาว เธอวางสัมภาระเอาไว้กับพื้นห้องพูดถามพี่สาวของเธอว่าวันนี้มีอะไรให้กินบ้าง“วันนี้พี่ทำข้าวยำไก่แซ่บ อยู่ในครัวน่ะ” พี่สาวพูดพร้อมกับชี้มือเข้าไปในครัว“ว้าวว พูดแล้วหิวเลยค่ะงั้นเอมไปกินก่อนนะ พี่แชมเปญ” ชะเอมเมื่อฟังว่าวันนี้พี่ของเธอทำอะไรเอาไว้ให้เธอกินก็ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหิว เธอรีบเดินดุ่มๆเข้าไปในครัวทันที“ย่ะ”“ยัยเชอ เขาฝากขนมมาให้เราด้วยนะ อยู่ในถุงสีฟ้าๆน่ะ พี่แวะเข
“รู้จักค่ะ บริษัทของลินดาส่งไวน์ให้กับทางร้านของคุณพายุค่ะคุณแม่” ลินดาหันหน้าไปบอกคุณแม่พายุด้วยใบหน้าที่ดูเขินอายเล็กน้อย“อ่อแบบนี้นี่เอง ไปกินอาหารเย็นกันเถอะเด็กๆ” แม่พายุพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และลุกขึ้นยืนบอกกับหนุ่มสาวทั้งคู่ให้ไปกินอาหารเย็นกันได้แล้วเพราะตอนนี้แม่บ้านได้จัดโต๊ะเสร็จเป็นที่เรียบร้อย“แล้วคุณพ่อไม่อยู่เหรอครับ” เมื่อเดินมาถึงยังโต๊ะรับประทานอาหาร พายุเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับลินดา เขาถามหาผู้เป็นพ่อไม่แน่ใจว่าอยู่ข้างบนห้องหรือออกไปข้างนอก“วันนี้คุณพ่อเขามีนัดกับเพื่อนเก่าน่ะลูกออกไปทานอาหารกันข้างนอก” แม่พายุตอบให้ลูกชายได้หายสงสัยว่าคุณพ่อของเขาไปไหนกันแน่ เธอหันไปบอกกับลินดาให้นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเธอ“นั่งเลยนะหนูลินดา”“ขอบคุณค่ะคุณแม่” ลินดายิ้มรับและค่อยๆลากเก้าอี้ออกมาเล็กน้อยและนั่งลงที่เก้าอี้อย่างเรียบร้อย“แม่ก็ลืมไปเลยว่าที่บ้านหนูผลิตไวน์ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ” แม่พายุเริ่มชวนลินดาพูดคุยอีกครั้ง เพราะทั้งคู่ ทั้งลินดากับพายุต่างคนต่างเงียบกันเกินไป“ใช่ค่ะคุณแม่ว่าแต่คุณพายุชอบกินอะไรเหรอคะ” ลินดาเมื่อได้โอกาสทำความรู้จักก็เริ่มถามพายุให้มา
หญิงสาวตรงหน้าลนลานรีบขอโทษไปยังชายหนุ่มเจ้าของผับทันที ถ้าเผลอพูดอะไรผิดไปก็กลัวว่าเขาจะยกเลิกไวน์จากทางบริษัทเธอ“….” พายุยังคงทำท่าทีไม่พอใจเธอจนหญิงสาวคนดังกล่าวต้องพูดออกมาอีกครั้ง รีบพูดและรีบออกไปจากตรงนี้คงจะดีที่สุดแล้วในตอนนี้“เรื่องไวน์ตัวใหม่เชิญทางคุณเลือกและตัดสินใจได้เลยนะคะว่าต้องการตัวไหนจากทางเรา นี่เป็นนามบัตรของฉันค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ พี่ไปก่อนนะคะคนสวย” ร่างบางพูดบอกเจ้าของผับพร้อมทั้งหยิบนามบัตรของเธอเอาออกมาจากกระเป๋าสะพายใบสวยแล้ววางลงบนโต๊ะทำงานของเขา เธอยิ้มแย้มไม่ลืมที่จะทักทายไปยังชะเอมก่อนที่จะเดินออกไปอีกด้วย“สวัสดีค่ะ” ชะเอมยกมือขึ้นไหว้ผู้หญิงคนนั้นเพราะดูจากใบหน้าแล้วเธอคงจะอายุเยอะกว่าเธอแน่ เมื่อเธอคนนั้นได้เดินออกไปจากห้องทำงานของพายุแล้ว ชะเอมก็ได้เดินเข้าไปหาพายุที่ซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานตัวโปรด“ใครเหรอคะ สวยมากเลย” คนตัวเล็กยิ้มถามชายหนุ่มตรงหน้าว่าเธอคนนั้นคือใคร ดวงตากลมโตมองไปยังขวดไวน์บนโต๊ะที่วางเอาไว้เยอะแยะจนเต็มไปหมดแต่ว่าก็ต้องยอมรับเลยนะว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้เธอสวยมาก“เจ้าของบริษัทที่ฉันซื้อไวน์จากเขาน่ะ เธออย่าไปถือสาคำพูด
“พวกเรายินดีกับพี่ทั้งสองคนด้วยนะคะ” ฉันกับพี่เชอรีนเดินมาถึงยังตรงที่พี่ไบรอันยืนอยู่กับทางเพื่อนๆของเขา มองไปรอบๆก็ไม่ยักจะเห็นพี่แชมเปญเลย“ขอบคุณครับน้องชะเอม น้องเชอรีน” พี่ไบรอันยิ้มรับและกล่าวคำขอบคุณพวกเราสองพี่น้องตอนนี้พี่เขาถือว่าเป็นพี่เขยของพวกฉันแล้วมั้ยนะ“แล้วนี่พี่แชมเปญไปไหนแล้วคะเนี่ย” ฉันถามหาพี่สาวของตัวเองเพราะไม่รู้จริงๆว่าเธอนั้นหายไปไหนทั้งๆที่วันนี้เป็นงานหมั้นของเธอเองแท้ๆ“น่าจะหนีกลับไปคอนโดแล้วล่ะแต่ไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวพี่จะตามไปจัดการให้เข็ดหลาบ” เขาชูโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา ไบรอันรู้ว่าแชมเปญกลับไปหลบซ่อนตัวยังคอนโดของเธอเป็นที่เรียบร้อยและถามว่าเขารู้ได้อย่างไรนะเหรอก็เพราะพี่ไบรอันติดจีพีเอสเอาไว้ที่โทรศัพท์มือถือของพี่แชมเปญแล้วยังไงล่ะ“ช่วยเบามือกับพี่สาวของพวกเราด้วยนะคะพี่เขย ฮ่าๆ” ฉันพูดติดตลกบอกพี่ไบรอันให้ช่วยถนอมพี่แชมเปญของพวกเรา“ขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ งั้นพี่ไปจัดการกับพี่สาวของพวกเราก่อนแล้วกัน เอาไว้เจอกันนะ พี่ไปก่อน” ไบรอันบอกลาเพื่อนรวมไปถึงพวกฉันสองพี่น้องที่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันคิดว่าพี่เขาคงมูฟออนจากฉันได้แล้วแหละขอให้พี่ไบรอันกับพ
“ก็ได้อยู่ค่ะแต่พี่ห้ามพูดอีกนะไม่งั้นไม่ทำให้” คนตัวเล็กที่อยู่บนตักของชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาจะถามอะไรนักหนาไม่พูดก็แปลว่าจะทำให้ไง“ครับ ปิดปากฉันด้วยอะไรดีน้า” คำตอบของเธอทำให้เขาพอใจ ชายหนุ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างบอบบางพลางส่งสายตาแทะโลมร่างกายเธอไปพร้อมๆกัน“พี่จะทำอะไร!!” คนตัวเล็กนั่งแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนเขาลูบคลำเนื้อตัวอย่างถือวิสาสะ“ปิดปากฉันด้วย..นม..ของเธอไง นะ~” พายุใช้มือหนาค่อยๆเลื่อนชุดเดรสเกาะอกสีเทาของเธอดึงลงมากองเอาไว้ที่หน้าท้องแบนราบ มือหนารีบแกะแผ่นปิดจุกทั้งสองข้างออกพร้อมกับส่งฝ่ามือหนาเข้าบีบขยำหน้าอกอวบ“ไม่เอา! เดี๋ยวมีใครเข้ามาเห็น อะ อ๊ะ พี่พายุ อื้อ~” ร่างบางรีบแกะมือของเขาออกเพราะกลัวว่าอาจมีใครเข้ามาเห็นเข้า เธอดึงชุดให้เลื่อนขึ้นมาปกปิดเหมือนเดิมแต่ก็โดนพายุดึงกระชากกลับลงไปอีกและโน้มตัวลงไปดูดเลียหัวนมจนเธอส่งเสียงครางออกมา“แค่แปบเดียวฉันหิว!” พายุจับมือทั้งสองข้างของชะเอมเอาไว้ด้วยเพียงมือข้างเดียวของเขาส่วนมืออีกข้างผลักดันหลังเธอให้แอ่นเข้าหาริมฝีปากเขา ความเสียวที่ได้รับทำเธอแหงนใบหน้าหลับตาพริ้มชายหนุ่มเกร็งปลายลิ้นสากต
“ไม่เอานะคะ แชมเปญไม่ชอบอิตานั่น แชมเปญไม่อยากหมั้น!” คราวนี้ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย ทำไมมันกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เธอยังไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยกับพ่อแม่ของเธอเลยด้วยซ้ำเรื่องที่ไม่อยากให้น้องๆรวมไปถึงตัวเธอเองด้วยต้องไปหมั้นกับทางไบรอัน(ทางบ้านไบรอันเขาเลือกหนูนะลูกแล้วจะให้พ่อกับแม่ปฏิเสธเขาได้ยังไง)“เดี๋ยวหนูจะไปคุยกับนายนั่นเองค่ะพ่อ แค่นี้ก่อนนะคะ”ผับ Storm Night22.00 นหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดเดรสเกาะอกสีแดงตัวสั้นหยิบยกแก้วเหล้าราคาแพงยกขึ้นมาดื่มไม่หยุด เธอเริ่มเมาเพราะมีเรื่องให้คิดหนักและกำลังกลุ้มใจที่ต้องหมั้นกับคนที่ไม่ได้รัก คนที่เธอไม่อยากให้ใจ คนที่คอยคิดแต่จะเอาเปรียบเธอ“ชะเอมม~ พี่จะทำยังดี พี่ไม่อยากหมั้นกับไอ้บ้านั่น” ร่างบางวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะพูดกับน้องสาวว่าตัวเธอเองจะทำยังไงดีคิดยังไงก็คิดไม่ออกจึงได้ใช้เหล้าเป็นตัวแก้ปัญหาซะเลย“พี่ไบรอันเขาก็ดูโอเคอยู่นี่คะทำไมพี่ถึงไม่ลองเปิดใจชอบเขาดูก่อน” คนน้องบีบมือให้กำลังพี่สาวคนโตเธออยากให้พี่เธอลองเปิดใจให้กับพี่ไบรอันดูในเมื่อทั้งสองก็มีอะไรกันไปแล้วแต่ทำไมพี่สาวเธอถึงไม่ชอบพี่ไบรอันกันนะ อยากรู้แต่ไม่อยา
“ครับ ผมจะรอฟังข่าวดีจากทางคุณและนี่เป็นนามบัตรของผมครับ ผมกับคุณดูเหมือนว่าอาจจะได้เกี่ยวดองกันในอนาคตนี้นะครับ หึ!” พายุลุกขึ้นยืนแล้วหยิบนามบัตรของเขานำมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วยื่นให้ไบรอันไบรอันรับนามบัตรของพายุมาไว้ในเมื่อฟังจากที่เขาพูดเมื่อสักครู่เขาคงเดาทางถูกซินะว่าเขาจะจัดการอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” พายุพูดเสร็จก็เดินออกไปจากห้องทำงานไบรอันทันทีภารกิจในวันนี้หมดเพียงเท่านี้ที่เหลือให้มันเป็นหน้าที่ของไบรอันก็แล้วกันส่วนเขามีหน้าที่รอดูว่าไบรอันจะจัดการได้หรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จก็คงต้องเป็นเขานี่แหละที่จะเดินเข้าไปพบคุณพ่อคุณแม่ของชะเอมและเมื่อพายุได้เดินออกไปจากห้องนี้แล้ว ไบรอันก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดต่อสายโทรออกหาผู้เป็นพ่อทันที ไม่นานปลายสายก็รับ“พ่อครับผมมีเรื่องอยากคุยด้วยครับ”“ครับ..คือผมอยากเลือกผู้หญิงที่ผมอยากจะหมั้นด้วยตัวของผมเองครับและคนๆนั้นก็คือ....แชมเปญ ผมกับเธอพวกเรารักกันครับ”มหาลัย CHวันนี้เชอรีนพี่สาวของชะเอมบอกว่าจะมารับเธอถึงที่มหาลัยนานๆที่จะมีเรื่องดีๆแบบนี้นะเพราะโดยปกติแล้วพี่เชอรีนแทบจะไม่เคย
"ฉันเนี่ยนะมีคนอื่นเธอหรือเปล่า" พายุใช้นิ้วชี้ ชี้เข้าหาตัวเองว่าเขาเนี่ยนะที่จะมีคนอื่นเป็นเธอมากกว่ามั้ยก็เธอทั้งสวยทั้งฮอตขนาดไอ้ฝรั่งนั่นยังชอบเธอเลย"ไม่ใช่หนูแน่!!" ชะเอมรีบปฏิเสธเธอเป็นคนรักจริงถ้าคบใครก็จะคบแค่ทีละคน“เอาเถอะถ้าเธอยังไม่อยากให้ฉันบอกใครก็ไม่เป็นไรส่วนเรื่องหมั้นฉันจะเป็นคนจัดการเอง” เขาพยักหน้ารับรู้ในความแน่วแน่ของหญิงสาวร่างเล็กพร้อมทั้งบอกเธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหมั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน“จัดการยังไงของพี่~” คนน้องยังคงสงสัยว่าเขาจะจัดการยังไง“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ารู้เลย” เขาไม่อยากบอกเธอว่าเขาจะจัดการยังไง“ใครเด็ก!! หนูอยู่ปี2แล้วนะอายุยี่สิบปีแล้วด้วย!” เธอที่โดนกล่าวหาว่ายังเป็นเด็กรีบโต้แย้งเขากลับไปทันที“ยังไงก็เด็กกว่าฉันอยู่ดี” จ้าพ่อคนแก่“ชิ..คนแก่ หนูไปอาบน้ำดีกว่าถอยไปหน่อยค่ะ” ชะเอมเลือกที่จะไปอาบน้ำดีกว่าต้องมานั่งทะเลาะกับเขาแบบนี้ ร่างบางบอกให้คนพี่ถอยหนี เธอจะลงทางฝั่งที่ถนัดซึ่งก็คือทางฝั่งที่พายุนอนอยู่มือเรียวยังคงจับผ้าห่มที่ใช้ห่อกายเอาไว้แน่นเตรียมที่จะก้าวเท้าลงจากที่นอนแต่ยังไม่ทันที่จะลงก็โดนคนตัวโตอุ้มเธอให้ลอยขึ้น
ชายหนุ่มออกแรงดึงร่างเธอเข้ามาสวมกอด ฝ่ามือหนาลูบปลอบโยนคนตัวเล็กในอ้อมกอดอย่างเบามือทะนุถนอมราวกับไข่ในหิน เขาอาจจะหวงเธอมากไปหน่อยแต่เป็นใครก็ต้องคิดแล้วมั้ย ชายหญิงชวนกันขึ้นไปบนห้องโดยที่ลืมนึกไปว่าบนห้องนั้นยังมีพี่สาวเธออีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย“...”“ขอโทษจริงๆที่ผ่านมาที่ไม่เคยเชื่อใจเธอเลย” พายุขอโทษเธอออกมาจากใจอีกครั้งและไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาได้พูดคำๆนี้ออกมาจากปากเขาแต่มันก็ทำให้ใจเธอเต้นแรงใจอ่อนยวบ เขาเป็นผู้ชายปากร้ายก็จริงแต่บางมุมเขาก็ดูอ่อนโยนซะเหลือเกินอย่างเช่นในตอนนี้“ก็คือครอบครัวของพี่ไบรอันเขาต้องการที่จะให้ลูกชายของเขาหมั้นกับครอบครัวหนูคนไหนก็ได้ค่ะ” ชะเอมตัดสินใจพูดออกมาว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นมายังไง เธออยากจะบอกกับเขาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน“แล้วทำไมเธอถึงบอกว่าเป็นเธอล่ะ?” พี่เขาคงหมายถึงตอนที่ฉันบอกว่าพี่ไบรอันคือว่าที่คู่หมั้นของฉันนั่นแหละ“ก็ทั้งพี่แชมเปญกับพี่เชอรีนเขาไม่ยอมหมั้นน่ะสิคะ เรื่องหมั้นก็เลยตกมาถึงตัวหนูและดูเหมือนพี่ไบรอันเขาก็ดูจะโอเคที่รู้ว่าจะต้องหมั้นกับหนูด้วย..แต่บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าหนูไ
ชะเอมเงียบไม่ได้ตอบคำถามของพายุ เธอเจ็บและจุกเขาทำเธอรุนแรง ร่างกายบอบบางสั่นกระเพื่อมเคลื่อนไหวไปแทบทุกสัดส่วน ใบหน้าสวยหันหนีเมินไปทางอื่น เธอไม่อยากมองเขาไอ้คนใจร้ายที่ไม่เคยฟังและไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“จะบอกไม่บอก?” พายุมองไปยังใบหน้าสวยของชะเอมผู้หญิงที่ทำให้เขาคลั่งไคล้ลุ่มหลงจนแทบบ้า มือหนาจับขาเรียวของเธอแยกออกจากกันให้มากขึ้นแล้วโน้มตัวลงมาถามเธอใกล้ๆอีกครั้ง ใบหน้าของเขาอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของเธอ ทุกทีที่ตอกกระแทกเข้าออก เขาจะได้เห็นใบหน้าสวยหวานทำสีหน้าเหยเกไปด้วยความเจ็บปนเสียวแบบใกล้ๆจนเขาอยากจะก้มตัวลงไปจูบทาบทับริมฝีปากบางของเธอ“อ๊ะพี่! บะ..เบาหน่อยมันจุก”ชายหนุ่มยังคงเร่งเครื่องกระแทกท่อนลำเข้าออกด้วยความเร็วและแรงจนตัวเธอกระเพื่อมสั่นไหวไปทั้งตัว หน้าอกอวบเสียดสีไปมากับแผงอกของชายหนุ่มจนมันแข็งเป็นไต“ก็บอกมาสักทีฉันรอฟังอยู่” ชายหนุ่มถามเธออีกครั้ง เขาจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้ายถ้ายังไม่ยอมตอบกัน เธอได้คลานลงจากเตียงแน่ เธอรู้ว่าเขาพูดจริงและเธอไม่อยากโดนเขาเอาจนต้องคลานลงจากเตียงแบบนั้น“ไม่ได้ทำอะไรเลย อะ..อ๊ะ พะ..พี่แชมเปญก็อยู่ในห้องด้วย อื้อ~” พายุถึงกับอึ้งไปเล