ภูมิหลัง เมื่อครั้งก่อน...
“อาเบย์ๆ อาคีย์ๆ พวกเราไปเที่ยวก่อนนะ เดี๋ยวซื้อของมาฝาก” เสียงเล็กของเด็กชาย และเด็กหญิง สามคน ที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ จะมีแค่เพียงเด็กชายที่หน้าตาไม่เหมือนคนอื่น แต่พวกเขาทั้งสามก็เป็นฝาแฝด ทั้งสามของบอมพ์และเฟร์ย่า 10 ปี ต่อมา หลังจากเฟร์ย่าเรียนจบ บอมพ์ขอแต่งงานกับเฟร์ย่า การจัดงานแต่งงานคราวนั้นยิ่งใหญ่สมเกียรติของตระกูลใหญ่แห่งวงการมาเฟียอย่างตระกูล อีแวนสัน ที่รวมเข้ากับตระกูล วรารินทร์ ก่อนจัดงานแต่งงานเฟร์ย่าได้ตั้งครรภ์อ่อนๆ พอดี และได้คลอดเด็กแฝดทั้งสามออกมา ท่ามกลางความดีใจของสองตระกูลเป็นอย่างมาก ตอนนี้เด็กๆ ทั้งสามก็ครบ 10 ขวบ แล้ว ตอนนี้บริษัทของบอมพ์ที่รับดูแลต่อจากพ่อของเขา อีแวนสัน กรุ๊ป ได้ทำการติดต่อการค้า ทำธุรกิจน้ำมัน ขุดเจาะกับต่างประเทศในแถบทวีปแอฟริกา วันนี้ครอบครัวเขาทั้ง 5 คน กำลังจะเดินทางไปประเทศโมทีธ (*ประเทศที่ไรท์สร้างขึ้นมาเองจากจินตนาการ ไม่มีอยู่จริงแต่อย่างใด) ประเทศที่เขากำลังทำธุรกิจด้วย การไปคุยงานครั้งนี้เป็นการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ที่เขาจะต้องร่วมทำธุรกิจขุดเจาะน้ำมันกับชีค ผู้ปกครองของประเทศนั้นด้วย ความจริงเขาเคยไปประเทศนี้หลายรอบแล้ว และก็มีการไปซื้อบ้านพักไว้แถวใกล้บริเวณที่ขุดเจาะน้ำมันอีกด้วย แต่เขาก็ไปแค่เพียงคนเดียว ครอบครัวไม่เคยไปด้วย แต่ครั้งนี้แค่ไปเจรจาตกลงทำสัญญาเท่านั้น จึงพาครอบครัวไปด้วย ถือว่าเป็นการไปเที่ยวพักผ่อน พักบ้านพักที่ได้สร้างไว้ในประเทศนี้ บ้านพักมีโอเอซิส มีสวน มีน้ำตก ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ “เด็กๆ เดินทางปลอดภัยนะ อย่าดื้อ อย่าซน ขนของฝากมาให้อาด้วย” คีย์พูดกับเด็กๆ ทั้งสาม ด้วยความสนิท เนื่องจากเด็กทั้งสามเขาช่วยเฟร์ย่าเลี้ยงและดูแลตั้งแต่คลอดใหม่ๆ “อาคีย์จะเอาอะไรครับ อย่าบอกนะว่าจะเอาอูฐ ผมยกมาด้วยไม่ไหว” เด็กชายฝาแฝดคนโตที่สุดเอ่ยขึ้น เด็กชายอายุ 10 ขวบ รูปร่างไม่อ้วน ไม่ผอมเกินไป ผิวขาวใสอมชมพู ปากชมพูระเรื่อธรรมชาติ ผมดำสนิทได้พ่อเขามา นัยย์ตาดำขลับตัดกับสีผิวขาว ทำให้รวมๆ แล้วใบหน้าหล่อคมเข้มตั้งแต่เด็กๆ ผิวที่ขาวตัดกับชุดที่เขาใส่ ความโปรดปรานในสีดำ ทำเอาการแต่งตัวของเขาเหมือนนายแบบเด็กก็ไม่ปาน กางเกงขาเดฟดำ เสื้อสเว็ตเตอร์แขนยาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ทั้งหมดดูดำไปเสียทุกส่วน "โอ้ยยย ใครจะบ้าให้หลานหอบเอาอูฐมาฝากกัน อาขอแค่พีระมิดก็พอ" คีย์พูดกับหลานชายด้วยรอยยิ้ม "หื้อออ อาคีย์นี่พูดเล่นอีกละ บรูคไปโมทีธ ไม่ได้ไปอียิปต์ครับ" เด็กชายเล่นมุกกลับ "แล้วสองสาว ไปเที่ยวอย่าดื้อ อย่าซนกันนะ ถ้าดื้อ ถ้าซน โดนโจรทะเลทรายลักพาตัวไปกลับไม่ได้นะ บอกเลย" เบย์หันไปขู่หลานสาวฝาแฝดอีกสองคน ลิลลี่ ฝาแฝดคนกลาง ผมยาวตรงสีน้ำตาลอ่อนผิดกับฝาแฝดคนพี่ ใบหน้ากลมน่ารักจิ้มลิ้ม ผิวขาวอมชมพู ปากนิดจมูกหน่อยรวมแล้วเหมือนตุ๊กตาบาบี้ยังไงอย่างนั้น นิสัยออกจากนิ่งๆ เรียบร้อยสักหน่อย คนละบุคลิกกับน้องสาวฝาแฝดคนสุดท้องอย่าง เลดี้ เลดี้ ผมยาวลอนเล็กน้อยสีน้ำตาลอ่อน ดวงตากลม แก้มกลมอมชมพูดน่ารัก เหมือนตุ๊กตาเด็กฝรั่งเลยทีเดียว ใครเห็นทั้งสามเป็นต้องเอ็นดูเด็กๆ จนอดใจที่จะรักจะหลงไม่ไหว ก็ไม่แปลกที่เด็กๆ ทั้งสามจะเป็นที่รักของปู่ย่า ตายายและทวดๆ ตระกูลอีแวนสัน และตระกูลวรารินทร์ จนต้องแย่งกันเลี้ยง เทียวไปเทียวมาเข้าออกสองตระกูลสลับวันกันไปหาปู่ย่า ตายายและทวดๆ เป็นว่าเล่น "อาเบย์อย่ามาขู่ลี่เลย ลี่รู้ว่าไม่มีใครกล้าหรอก แค่เห็นหน้าป๊า คนก็วิ่งหนีหมดแล้วค่ะ" เบย์มองหน้าหลานวัย 10 ขวบที่คำพูดคำจาเหมือนเด็กที่โตแล้วก็ไม่ปาน "พ่อเราน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ" เบย์แกล้งถาม แล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ "น่ากลัวสิคะ ป๊าน่ะ เวลาไม่ยิ้มน่ากลัวมาก เพื่อนๆ ของดี้วิ่งหนีหายหมด บางคนร้องไห้ก็ยังมี" เลดี้ฝาแฝดคนสุดท้องพูดบอกกับอาของเธอด้วยคำพูดเจื้อยแจ้ว แบบเด็กช่างพูด "อาเบย์จะเอาอะไรคะ ลี่จะซื้อมาฝาก" ลิลลี่หันไปถามอา "อาเบย์ขอหนุ่มๆ ทะเลทรายสัก ...โอ้ยยย" เบย์ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อพูดยังไม่ทันได้จบ เพราะโดนมือของคีย์หยิกเข้าที่เอวสอบ "เดี๋ยวจะโดน!" คีย์คาดโทษเบย์ "โอ๋ๆ เค้าล้อเล่นน่า" เบย์ง้อคีย์ทันที แต่ได้สายตาค้อนกลับมา "เดี๋ยวดี้เอา แหวนสวยๆ มาฝากอาเบย์สักวงแทนผู้ชายดีกว่าค่ะ แหวนใส่แล้วไม่ตาย แต่ผู้ชายใส่แล้วตายแน่ๆ ค่ะ" เลดี้พูดแล้วส่งยิ้มให้ผู้เป็นอาที่โดนหยิกไปจนร้องเสียงหลง คำพูดของหลานสาวเรียกเสียงหัวเราะให้ผู้เป็นอาทั้งสองลั่นสนามบิน "ไปกันได้แล้วทั้งสาม" เสียงของบอมพ์ผู้เป็นพ่อของฝาแฝดทั้งสาม หันมาเรียกลูกๆ เพื่อเดินเข้าเกท ของสนามบิน "ไปกัน ป๊าเรียกแล้ว" พี่ชายคนโตหันมาบอกน้องๆ "ไปก่อนนะอาเบย์ อาคีย์ เดี๋ยวเอาแหวนมาฝาก" เลดี้หันมาลาผู้เป็นอาทั้งสอง "เดินทางปลอดภัยนะทุกคน" คีย์อวยพร ก่อนจะโบกมือลาเด็กๆ ไปเข้าเกท ทั้ง 5 คน ใช้เวลาบนเครื่องไม่นาน เครื่องก็ลงจอดสนามบินเล็กๆ ที่เมื่อแห่งหนึ่งในประเทศโมทีธ เมื่อทุกคนถึงสนามบินก็มีคนของชีคแห่งประเทศนี้มารอรับเข้าวัง "เอ้า คุณบอมพ์ คุณเฟร์ย่ามาถึงกันแล้วหรือครับ มาๆ เชิญนั่งก่อน" ชีคฟาเอลเอ่ยทักแขกผู้มาใหม่ที่เขาให้ทหารในวังไปรับ ด้วยภาษาไทย สำเนียงต่างชาติไม่ชัด เขาศึกษาภาษาไทยเพื่อการทำธุรกิจโดยเฉพาะ ไม่พอเขายังให้ครอบครัวของเขาทุกคน ทั้งภรรยา และลูกๆ ของเขาทั้งสาม เรียนภาษาไทยด้วย เขาและภรรยายังคงพูดได้ไม่ชัด เนื่องจากโตแล้วลิ้นจะแข็งกว่าเด็กๆ ที่ตอนนี้ลูกๆ ของเขาค่อนข้างพูดไทยสำเนียงชัดเจนดี "ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ ชีคฟาเอล" บอมพ์เอ่ยทักกลับ ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อจับเป็นการทักทาย "ยินดีครับคุณบอมพ์ ผมยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณอีกยาวๆ" "คราวนี้คงยาวจริงๆ ครับ เพราะผมว่าถ้าถูกใจ จะทำสัญญากันสัก 10 ปี ดีไหมครับ" "โอ้!!ดีเลยครับ ผมยินดีมากถ้าหากจะได้ร่วมธุรกิจกับคนเก่งๆ อย่างคุณ" "ไม่ขนาดนั้นครับ ผมคิดว่าถ้าเราเกื้อหนุนกันไปตลอดแบบนี้ บริษัทผมรุ่นต่อไปที่จะมารับช่วงต่อจากผมก็คงไม่แคล้วเซ็นสัญญากับคุณอีกแน่ๆ" บอมพ์พูดจบก็หันไปมองที่ลูกชายฝาแฝดคนโต ที่เขาวางไว้ว่าจะให้รับช่วงต่อจากเขาเมื่อแก่ตัวไป มารอบนี้เขาจึงพาลูกมาด้วย มาดูงาน ศึกษาสถานที่ไว้ อายุ 10 ขวบ ไม่ไวเกินไปหรอก เพราะลูกของเขาดูแล้วค่อนข้างจะโตเร็วกว่าเด็กคนอื่น ในเรื่องความคิด ความอ่าน และคำพูด บรูคเป็นเด็กที่สนใจเรื่องงานของเขามาตั้งแต่เด็ก เรียนรู้งานของเขาได้ตั้งหลายเรื่อง เรื่องการเอาตัวรอด การใช้อาวุธ การป้องกันตัวเขาสอนให้ลูกหมด "งั้นเดี๋ยวเราไปดูเหมืองสถานที่ขุดเจาะน้ำมันกันก่อนที่จะเซ็นสัญญานะครับ คุณจะได้ตัดสินใจด้วย ให้พวกผู้หญิงและเด็กๆ อยู่กันที่นี่แหละ ให้ลัยร่าดูแล" ชีคฟาเอลบอกกับบอมพ์ ก่อนจะหันไปสั่งทหารให้เตรียมรถออกไปเหมือง "ผมให้ลูกชายไปด้วยแล้วกันนะครับ เขาจะได้ศึกษาไว้ รับช่วงต่อจากผมภายภาคหน้า" บอมพ์กล่าว "ได้ครับ แต่เด็กจะลำบากหรือเปล่า ไม่ได้เที่ยวเล่น เพราะที่นั่นไม่มีที่วิ่งเล่นน่ะครับ" ชีคฟาเอลเป็นห่วง "ไม่หรอกครับ เดี๋ยวให้พักที่บ้านพักกลางโอเอซิสที่ผมสร้างไว้ใกล้ๆ ก็โอเคแล้ว" บอมพ์หันไปบอกชีค เขาซื้อโอเอซิสไว้ สร้างไว้กลางทะเลทราย ที่มีป่า มีแหล่งน้ำ เอาไว้พักผ่อนตอนออกเหมือง ซึ่งมองไปก็เหมือนเกาะกลางทะเลทรายนั่นแหละ "ดีเลยครับ งั้นเราไปกันเลยไหม" "ท่านพ่อเจ้าขา จะไปไหนกันเจ้าคะ" เสียงเล็กเจื้อยแจ้วของเด็กน้อย วัย 5 ขวบ หน้าตาน่ารัก ผิวสีน้ำผึ้งออกขาว ผมตรงสีดำประบ่า วิ่งมาทางชีคฟาเอล "อ้าว ชีร่าห์ พ่อจะไปทำงาน ไปเล่นกับพวกพี่ๆ ก่อนนะ" "พวกท่านพี่ เอาแต่เรียนต่อสู้ ไม่เล่นกับชีร่าห์เลย แล้วท่านพี่ผู้นั้นจะไปกับท่านพ่อด้วยหรือ มาเล่นกับชีร่าห์ไหมเจ้าคะ" เด็กน้อยในอ้อมกอดผู้เป็นพ่อ หันกลับมาถามเด็กชายบรูคลิน เด็กชายตัวโตกว่าเธอ "ไม่หรอก เราไม่เล่นกับเด็กน้อย" บรูคลินเอ่ยตอบเด็กน้อยตัวเล็ก ชีคฟาเอลจึงปล่อยเด็กน้อยลงวางกับพื้น "งั้นก็ไปอยู่กับท่านแม่ก่อน แล้วเล่นกับพี่ๆ ทั้งสองสาวที่มาเป็นแขกเรารอก่อนนะเดี๋ยวพ่อกลับมา" ชีคฟาเอล บอก ก่อนจะดันหลังเด็กน้อยให้ไปหาแม่ เด็กน้อยตัวเล็กจึงต้องไปตามที่พ่อของเธอบอก แต่ก่อนที่จะไปเธอหันมามองเด็กชายตัวโต ที่เสียดายว่าเขาไม่เล่นด้วย เธอรู้สึกอยากเล่นกับเขาจริงๆ ไม่เห็นเหมือนกับที่รู้สึกอยากเล่นกับพี่ๆ ของเธอเลยด้วยซ้ำ มันคนละความรู้สึกกัน แต่...เธอยังเด็ก ไม่เข้าใจความรู้สึกอะไรมากมาย แค่รู้สึกอยากมีเพื่อนเล่นก็เท่านั้น...หาเลขา15 ปี ต่อมา..."นายครับๆ เอกสารพวกนี้ ให้ผมกองไว้ไหนครับ" เต็มลูกน้องคนสนิทของบรูคลิน ประธานบริษัทขุดเจาะน้ำมัน ขนาดใหญ่ในเครือ อีแวนสัน กรุ๊ป ที่ตอนนี้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของระดับทวีปเลยก็ว่าได้ เพราะเขาทำการค้ากับประเทศใหญ่ๆ หลายประเทศในทวีปแอฟริกาบรูคลิน เป็นลูกชายฝาแฝดสาม ของบอมพ์กับเฟร์ย่า ที่ได้สร้างบริษัทขุดเจาะน้ำมันนี้ขึ้นมา และเขาก็รับช่วงต่อหลังจากพ่อเริ่มวางมือกับธุรกิจ เขารับทำธุรกิจต่อได้เพียงไม่นานก็พาบริษัทขึ้นอันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว ด้วยความยังเป็นวัยรุ่นที่อายุเพียง 25 ปี หล่อเหลา หุ่นสมาร์ท และที่สำคัญยังโสดชายหนุ่มผิวขาว ผมดำ นัยย์ตาดำขลับ ปากอมชมพูธรรมชาติระเรื่อ สวมชุดสูทสีดำทับเชิ้ตดำ สวมแว่นตาสีใส ละสายตาจากเอกสารตรงหน้าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเต็ม ลูกน้องคนสนิทและเป็นผู้ติดตามดูแล บอดี้การ์ดให้กับเขา อีกทั้งยังช่วยเขาทำงานในบริษัทอีกด้วย พูดได้ว่าเขาครบเครื่องยังไง ลูกน้องก็ครบเครื่องแบบนั้น"เมื่อไรมันจะหมดสักทีวะ เอกสารที่กูต้องเซ็นเนี่ย" บรูคลินเอ่ยบ่น กับลูกน้องที่เอาแต่ยกเอกสารมากองทับถมกันจนท่วมหัวเขา อันเดิมก็ยังไม่เสร็จ อันใหม่ก็ทับเพิ่ม
จองตัว!"นายครับ จะนั่งโซนไหนครับวันนี้" เต็มหันมาถามเจ้านายที่เดินตามเขาเข้ามาใน BK CLUB คลับของพ่อเขาที่เป็นของตระกูลอีแวนสันดูแลต่อๆ กันมาเป็นรุ่นๆ จนตอนนี้พ่อเขาและฝาแฝดของพ่อยังเป็นผู้ดูแลอยู่ ต่อไปก็คงต้องเป็นเขาที่ต้องรับช่วงต่อในการดูแลกิจการเกือบทุกกิจการ เพราะว่าน้องฝาแฝดทั้งสองของเขาเป็นผู้หญิง ไม่น่าจะมารับงานสีเทาต่อแน่ๆ"เอาโซนกระจกวีไอพี" บรูคลินบอกเต็ม ก่อนเดินขึ้นชั้นวีไอพีโซนกระจกวีไอพีที่บรูคลินพูดถึงนั้นเป็นโซนด้านในคลับ ชั้นสองที่มีกระจกกั้น เมื่อมองลงมาที่ชั้นหนึ่ง จะเห็นคลับทั้งหมด รวมถึงเวทีนักร้องที่แสดงสดด้วย แต่โซนวีไอพีนั้นจะสงบไม่มีคนเดินผ่านไปมามากมายเท่าด้านล่างคลับ"ได้ครับ นายขึ้นไปก่อน เดี๋ยวผมไปสั่งเครื่องดื่มให้" เต็มบอกเจ้านายเสร็จก็เดินแยกออกไปที่เคาเตอร์บาร์ เพื่อสั่งเครื่องดื่มให้เจ้านาย แล้วตามขึ้นไปทีหลัง"เอ้า ไอ้เต็ม วันนี้มาคนเดียวหรือเจ้านายมึงมาด้วย" เสียงทุ้มของเบย์ดังขึ้นทักเต็มที่กำลังยืนสั่งเครื่องดื่มอยู่ตรงเคาเตอร์ ทำให้เต็มรีบหันควับไปทางต้นเสียงทันที"นายเบย์! วันนี้นายดูแลคลับเหรอครับ ผมนึกว่าเป็นนายใหญ่เสียอีก" เต็มบอกกับผู้ทัก
แสนซน!“ไอ้เต็มไปพาเธอขึ้นไปเจอกูในห้องวีไอพี4 กูจะไปรอที่นั่น” บรูคลินหันไปสั่งเต็มที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นกระดก ทำให้เต็มชะงักค้างกับคำสั่งของเจ้านาย ที่เขาไม่คิดว่าเจ้านายจะเริ่มปฏิบัติการเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่แปลกใจมากนัก เพราะเขารู้นิสัยเจ้านายคนนี้ดี ถ้าอยากได้ก็ต้องได้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้!“ตอนนี้เลยเหรอนาย” เต็มถามออกไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว“ตอนนี้แหละ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะได้ตอนไหน” บรูคลินหันกลับมาตอบเต็ม“บรูค...คนนี้อารักเหมือนลูกของอานะ อย่าทำอะไรที่มันเป็นการทำร้ายจิตใจเธอไปมากกว่านี้ ถ้าเราไม่คิดจริงจังก็อย่าทำเรื่องแบบนั้น แค่ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ อาก็สงสารเธอมากพอแล้ว” คีย์เอ่ยบอกกับบณุคลิน คนหนึ่งก็รักเหมือนลูก อีกคนก็รักเหมือนหลานที่เลี้ยงมาตั้งแต่คลอด“ครับอาคีย์...ผมทำอะไรผมรู้ตัวดี และถ้าผมจะทำอะไรแล้วล่ะก็ นั่นแสดงว่าผมคิดดีแล้ว มั่นใจแล้วครับ” พูดจบบรูคลินก็หันมาส่งยิ้มหวานแบบเท่ๆ ให้กับผู้เป็นอาทั้งสอง ก่อนเดินออกจากโต๊ะ มุ่งหน้าไปยังห้องวีไอพี ห้องที่ 4 ทันที“ไอ้เต็ม! เจ้านายมึงไปแล้ว เขาสั่งอะไรมึงไม่รีบไปทำอีก มัวแต่ห่วงกินเหล้า ระวังเจ้านายมึงจะ
แสน...ต้องรับผิดชอบ “นี่ซนต้องบริการคุณเหรอ ซนไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งนะคะ” แสนซนรีบปฏิเสธข้อเสนอของชายหนุ่มตรงหน้าทันที “ไม่ทำก็ได้ งั้นให้อาคีย์มารับผิดชอบ” บรูคลินเอาคีย์มาอ้าง เพื่อให้แสนซนปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอไม่ต้องการให้ผู้มีพระคุณเดือดร้อนแน่นอน “ทำไมต้องให้คุณแม่คีย์มารับผิดชอบด้วย คุณอยากได้เด็กนั่งดริ๊ง คุณก็ไปเรียกเด็กสวยๆ มาสิ” “ไม่!! ฉันชอบเธอ ต้องเป็นเธอเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เธอ อาคีย์ก็ต้องรับผิดชอบ” บรูคลินพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับหยิบแก้วเหล้ายกดื่ม “เอาแต่ใจ!!” แสนซนพูดพร้อมกับทำหน้าตาบูดบึ้ง “ตกลงจะบริการฉันไหม” บรูคลินถามย้ำอีกรอบ “แค่ชงเหล้าใช่ไหม” “ดื่มด้วย” บรูคลินตอบ “ต้องดื่มด้วยเหรอ ซนคออ่อน” “งั้นก็ดื่มแก้วเดียว ฉันชงให้!” บรูคลินยิ้มมุมปาก “แก้วเดียวจริงๆ นะคะ” “อือ แก้วเดียว นอกนั้นเป็นคนชงให้ฉันก็พอ” พูดจบบรูคลินก็ลุกจากพนักผิงโซฟาแล้วมาชงเหล้าใส่แก้วที่ว่างเปล่าเพื่อให้แสนซนกินเป็นเพื่อนเขา “แล้วคุณ...เอ่อ จะให้ซนเรียกคุณว่าอะไรคะคืนนี้” แสนซนเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เขากำลังชงเหล้าให้เธอ เพื่อจะได้รู้จักเขาและเรียกชื่อเขาได้ถูกในระหว่างทำงานบร
แปลกใหม่ (nc) มือหนาทั้งสองข้างที่ประคองใบหน้าหวานเอาไว้ ค่อยๆ รั้งเข้ามาใกล้ๆ หลังจากพูดจบ ริมฝีปากหยักได้รูปประกบเข้ากับริมฝีปากบางทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ปากบางได้เอ่ยถามหรือปฏิเสธอะไรเลย มือสากข้างหนึ่งของเขาค่อยๆ ละจากใบหน้าหวานลงมา แกะจุกนมออกให้พ้นจากการบดบังเม็ดอกสีชมพูระเรื่อ ทั้งๆ ที่ปากยังคงจูบอย่างดูดดื่ม มืออีกข้างค่อยๆ ลูบไล้เอวคอด ลากขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงราวนม ก่อนจะกอบกุมเต้ากลมโตนั้นไว้อย่างเต็มไม้เต็มมือ ยอดเม็ดถันแข็งขืนสู้มือหนาทันที ร่างบางถึงกับบิดเร้าจากความเสียวซ่าน แผ่นหลังบางเริ่มแอ่นเข้าหาจนอกกลมชิดบดเบียดสู้กับมือหนา จนชนชิดเข้ากับอกแกร่งของชายหนุ่ม ปากหยักถอนริมฝีปากออกจากปากบางอย่างอ้อยอิ่ง ใบหน้าคมเข้มค่อยๆ ก้มต่ำลง ริมฝีปากหนาได้รูปอ้าครอบยอดอกกลม เมื่อลิ้นอุ่นสากสัมผัสเข้ากับยอดอกของคนตัวเล็ก ร่างเล็กก็เด้งอกรับสัมผัสนั้นโดยอัตโนมัติ ยิ่งตอนที่เขาใช้เรียวลิ้นอุ่นกวาดวนไปรอบๆ เม็ดอก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านรัญจวนให้กับร่างเล็กเป็นอย่างมาก ระหว่างที่เขากำลังเล่นกับยอดอกอยู่นั้น มืออีกข้างที่ลูบไล้อยู่ที่เอวคอด ลากลามต่ำลงใช้นิ้วแข็งปลดตะขอกางเกงเพ
เข้าแผน (nc) “กรี๊ดดดดดด” เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดที่ได้รับ แม้ว่าเขาจะใช้น้ำหวานเยิ้มเป็นตัวช่วยหล่อลื่นในการช่วยลดการเสียดสีแล้วก็ตาม แต่ความเจ็บกับครั้งแรกที่ถูกรุกล้ำเข้าไปบาดเยื่อพรหมจรรย์ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย แสนซนหลับตาแน่น เม้มปากเป็นเส้นตรงอย่างเผลอไผล ร่างกายเล็กสั่นสะท้าน กระตุกเบาๆ จากความเจ็บปวด ร่องสวาทก็ยิ่งผลิตน้ำหวานให้ออกมามากยิ่งขึ้นเพื่อบรรเทาความเสียดสี ความฝืดของร่องสวาท แม้ว่าบรูคลินจะรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของคนตัวเล็กใต้ร่าง เขาก็ยังเลือกที่จะใส่เข้ามาจนสุดลำในครั้งเดียว แล้วปล่อยแช่อยู่แบบนั้นสักพักให้ร่องสวาทที่คับแน่นได้ปรับสภาพยืดหยุ่นรับกับท่อนเอ็นแกร่งของเขา “อื้ออ จะ...เจ็บ” แสนซนครวญครางออกมาเบาๆ น้ำตาใสๆ ไหลเอ่อเต็มเบ้าตา เกาะอยู่ตรงแพขนตาหนานั้น บรูคลินใช้ริมฝีปากจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน “เจ็บมากไหม? ให้หยุดก่อนไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “มะ...ไม่ค่ะ ซนยังไม่หายร้อนเลย” แสนซนบอกออกมาตามตรง เจ็บก็เจ็บ แต่ส่วนหนึ่งก็ทรมานจากความร้อนรุ่มภายในร่างกาย เขาค่อยๆ ยกสะโพกออกช้าๆ แล้วกดเข้าหาเธออย่างหนักหน่วง และเนิบนาบเชื่องช้าจนร่างเล็กออก
ครั้งแรกของพี่... ครืดดดด ครืดดดดด เสียงเครื่องสื่อสารสมาร์ทโฟน สีดำขลับ สั่นสะเทือนครืดไปมาอยู่บนโต๊ะเล็กหัวเตียงภายในห้องสีขาวสะอาดของห้องวีไอพีใน BK CLUB ห้องทั้งห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ และเสียงของการทำงานของเครื่องปรับอากาศเท่านั้น มือใหญ่ของร่างที่นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ภายใต้ผ้าห่มหนานุ่มยื่นออกมาจากใต้ผ้าห่ม ปัดป่ายควานหาสิ่งที่เป็นต้นเสียงการสั่นที่ทำให้เขาต้องตื่นจากการหลับพักผ่อน หลังจากที่ทำกิจกรรมสวาทมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืน บรูคลินกดรับสายโทรศัพท์โดยไม่ได้สนใจว่าปลายสายนั้นจะเป็นใคร “ใคร!” บรูคลินกรอกเสียงใส่ปลายสายทั้งๆ ที่ยังปิดเปลือกตา “โอ้โหเจ้านายบังเกิดเกล้า ยังไม่ตื่นหรือครับ จะเที่ยงแล้ว” เต็มพูดใส่เจ้านายของเขาที่กดรับสายแล้วกรอกเสียงกลับมาด้วยคำสั้นๆ ตามสไตล์ของบรูคลิน “อือ ทำไม คลับปิดแล้วเหรอ” เขาถามกลับไปอีกครั้งๆ “มันจะเปิดอีกรอบแล้วครับเจ้านาย ผมโทรไปเพื่อจะถามว่า นายจะกลับบ้านไหมครับ” เต็มถามเจ้านายของเขา เหมือนกับว่าเจ้านายของเขาเป็นเด็กมีปัญหา หนีออกจากบ้านยังไงอย่างนั้นแหละ “ไม่กลับ! กูจะเข้าบริษัทเลย แต่...ยังไม่ใช
เกือบแล้ว... “แสน...ไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อยไป เดี๋ยวไปบริษัทกับพี่” บรูคลินบอกกับคนตัวเล็กที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนที่นอนเดียวกับเขา “เมื่อกี๊พี่เรียกซนว่าอะไรนะคะ” แสนซนถามด้วยความงุนงง เมื่อได้ยินเขาเรียกเธอด้วยชื่อที่ไม่มีใครเคยเรียกมาก่อน “แสน... ทำไมเหรอ” บรูคลินหันมาถาม “ไม่เคยมีใครเรียกซนแบบนี้” แสนซนตอบเขา “ดีแล้ว พี่จะได้เรียกคนเดียว” บรูคลินตอบพร้อมกับรอยยิ้มเท่ๆ “ซนต้องเริ่มทำงานวันนี้เลยเหรอคะ” คนตัวเล็กถามอีกครั้ง “ยังไม่ต้องทำงานวันนี้ก็ได้ แต่ต้องไปกับพี่วันนี้ ไปดูพี่ทำงานก่อน” “แต่ซนทำงานบริษัทไม่เป็นนะ ไม่เคยทำ ยังจะจ้างซนอีกเหรอ” “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้เต็มมันสอน” บรูคลินบอกกับแสนซนแบบนั้น เขาคงจะลืมไปแล้วว่า เคยบอกกับเต็มไว้ว่า ถ้าหาเลขาต้องหาคนที่ทำงานเป็นแล้วเท่านั้น เขาไม่อยากมานั่งสอนงานใหม่ แต่สำหรับแสนซนคงเป็นข้อยกเว้นไว้หนึ่งคน “ซนต้องกลับคอนโดค่ะ กลับไปเปลี่ยนชุด และต้องกลับไปนอนที่คอนโด” “ใครบอกจะให้กลับไปนอนที่คอนโด ข้อตกลงของงานคือ ต้องทำงานอยู่กับพี่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะพี่ไปดูงานต่างประเทศกะทันหันบ่อย” บรูคลินหาข้ออ้าง “ซนต้องไป
ตอนจบและตอนเริ่มต้น...(จบ) “พ่อแม่ของแสนซนคือฉันเองแหละ” เสียงทุ้มแหบ ดังขึ้นจากด้านหลังของทุกคน ทุกคนที่อยู่ในห้องอาหารต่างหันไปตามต้นเสียงเป็นตาเดียว สร้างความตกใจให้กับแสนซนและความแปลกใจให้กับคนอื่นๆ ยกเว้นบรูคลินและเต็ม “อาเบย์ อาคีย์!” เลดี้และลิลลี่วิ่งเข้าไปกอดแขกผู้มาใหม่ด้วยความดีใจ “ว่าไงสองสาว” เบย์และคีย์กอดตอบ “ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะคะ ไม่มาหาหลานๆ เลย” เลดี้บอกผู้เป็นอา “ถึงมาก็ไม่เจอ เราทั้งเรียน ทั้งเที่ยวกันบ่อย” เบย์บอก “ไม่ได้ไปแล้วค่ะ หลังจากนี้ ต้องทำงานจริงจังแล้ว” ลิลลี่บอกในขณะที่ยังกอดอาคีย์ของพวกเขาอยู่ “หมายความว่ายังไงพี่เบย์ ที่พูดเมื่อกี๊” เฟร์ย่าถามเบย์ พี่ชายคนสนิทที่เป็นฝาแฝดกับสามีของตัวเอง “ก็หมายความว่า ถ้าเธออยากจะคุยกับผู้ปกครองของแสนซนเรื่องพวกเขาทั้งสอง จะมาขอแสนซนก็มาคุยกับฉันได้เลย” เบย์พูดกับเฟร์ย่า “เพราะพวกเราคือพ่อกับแม่ของแสนซน คนที่เลี้ยงแสนซนมาตั้งแต่แบเบาะ” คีย์พูดสมทบ “พวกเราไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย จะได้ช่วยกันเลี้ยง” เฟร์ย่าพูดต่อ “พ่อและแม่ของแสนซนเป็นคนของพี่เอง ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่แสนซนยังเด็กมากๆ
ทางออกที่ดี... “เจ้านายว่ายังไงนะ” เต็มถามย้ำอีกครั้ง เขาไม่ค่อยแน่ใจเรื่องที่เขาได้ยิน “มึงอยากมีเมียไหม” บรูคลินถามเต็มอีกรอบ เขาอยากหาทางออกให้เรื่องนี้ แต่ก็อยากให้ดีกับทั้งสองฝ่าย รวมถึงผู้ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย ด้วยความสมัครใจ “หมายความว่า...” เต็มถามบรูคลิน อย่าบอกนะว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ “มึงช่วยกูได้ไหม” “นายจะให้ผมแต่งงานกับยัยเจ้าหญิงเอาแต่ใจนั่นเหรอ” เต็มถามออกไปตรงๆ “เธอยังซิง เธอไม่ได้เป็นคนเลว ไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้ายถึงขนาดฆ่าคน แกก็รู้” บรูคลินเริ่มสาธยายข้อดีของชีร่าห์ให้เต็มฟัง เพื่อจะให้เต็มเคลิ้มและช่วยเขา แต่ความจริงแล้ว เต็มไม่ได้รังเกียจอะไรชีร่าห์ เขามองเธอน่ารักเอาแต่ใจด้วยซ้ำ บางครั้งเขาก็อยากจะปราบพยศของเธอให้อยู่ด้วยมือของเขา “ผมจะช่วยก็ได้ แต่...ผมไม่ได้จะช่วยเจ้านายกับคุณแสนซนหรอกนะ อย่ายิ้ม ผมช่วยเพราะผมรู้สึกว่าผมชอบยัยเจ้าหญิงนั่นขึ้นมาแล้ว และผมก็กลัวว่าจะไม่มีคนเอาเธอ เสียของ” เต็มบอกเจ้านาย พร้อมกับหันไปทางชีร่าห์ที่ยืนร้องไห้สำนึกผิดอยู่ข้างพ่อและแม่ของตัวเอง ชีร่าห์ต้องยอมรับกับชะตากรรมของตัวเอง ที่ต่อจากนี้เธอจ
มึงอยากมีเมียไหม? จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ ซ่าาา ซ่าาาา เสียงนกร้องและเสียงน้ำตกดังผสานเสียงกันในยามเช้าตรู่ ร่างบางเปลือยเปล่า แผ่นหลังขาว กอดร่างหนาที่เปลือยเหมือนกันอยู่ใต้ผ้าห่มนุ่มภายในห้องนอนของแสนซน “อืมมม” ร่างหนาเริ่มรู้สึกตัว เมื่อมีแสงจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างด้านหลังห้อง ด้านหน้าก็มีน้ำตก เสียงน้ำตกที่ดังตลอดทั้งวัน ทั้งคืนไม่มีวันหยุด ทั้งสองกลับจากแท่นดูดาวเมื่อคืน มาบรรเลงเพลงรักกันต่อที่ห้องอีกสองสามรอบ ผสานเสียงครางแข่งกับเสียงน้ำตก จนพอใจทั้งคู่ และก็ผล็อยหลับไปจนเช้า ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูด้านนอก และเสียงขออนุญาตดังขึ้นตามมา “ท่านบรูคครับ ท่านพ่อเฒ่าเชิญไปพบครับ” เสียงชายคนหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นชาวบ้านในเผ่า “อืม เดี๋ยวออกไป” เขาตอบออกไปเสียงดัง บรูคลินปลุกแสนซนที่นอนหลับพริ้มสนิทหนุนแขนแกร่งของเขา ก่อนจะรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่ที่มีคนมาตามเขา เรียกชื่อเขาให้ไปพบกับท่านผู้เฒ่า ทั้งๆ ที่เขานอนอยู่ในห้องแสนซนแท้ๆ ทำไมพวกนั้นถึงรู้ได้ และที่ท่านผู้เฒ่าเรียกเขาไปพบ ก็คงไม่แคล้วว่าจะเป็นเรื่องนี้แน่ๆ “ใครมาหรอคะเมื่อกี๊” แสนซนงัวเงียถามเขา
คำมั่น สารภาพรัก (NC) “อ๊าาาาา” ปึก ปึก ปึก เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้น ผสมปนกับเสียงครางเล็กหวานเซ็กซี่ เขาผลักร่างคนตัวเล็กให้ล้มตัวลงนอนราบ แผ่นหลังนาบไปกับแท่นแผ่นหิน ที่เอาไว้นั่งดูดาว เขาโน้มตัวตามมา มือหนาจับข้อเท้าเล็กให้อ้าออกกว้าง พร้อมกับยกขึ้นสูงพาดบ่าแกร่ง ออกแรงกระแทกเข้าช่องรักอย่างหนักหน่วง โดยไม่อดกลั้นอีกต่อไป ตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อจากแรงกระแทกของสะโพกสอบ ที่กระแทกกระทั้นเข้ามาเต็มแรงตามจังหวะความปรารถนาของเขา แรงขึ้น แรงขึ้น ทวีเพิ่มมากขึ้น “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊าาาพี่จ๋า ดะ...เดี๋ยว มะ...มีคนมาเห็น อ๊ะ...” แสนซนเสียงกระเส่าทั้งคราง ทั้งบอกเขา “ก็ช่าง พี่ทนไม่ไหวแล้ว” เขาบอก ทั้งๆ ที่ยังกระแทกช่วงล่างไม่ยอมหยุด “อ๊ะ...อ๊าาาพี่บรูค แสนเสียว อ๊าาา” เสียงครางของแสนซนกระเส่าเซ็กซี่ ทำเอาความต้องการของเขาเพิ่มทวีมากขึ้นไปอีก ทั้งจากฤทธิ์ยา ทั้งจากอารมณ์ดิบของเขาเอง ตับ ตับ ตับ “โคตรดีเลยที่รัก พี่รักแสนนะ อ๊าาาส” เขาบอกรักในเวลานี้ ทำเอาคนได้ยินที่อยู่ใต้ร่าง หัวใจพองโต จนอยากให้เขาเพิ่มความแรงมากขึ้นตามใจเขา “อ๊าาา อ๊ะ... พะ.
ช่วยพี่หน่อยนะ(nc) ผลัก!!! เสียงของบรูคลินผลักร่างของลินซาให้ล้มลงนอนราบบนที่นอนหนานุ่ม โดยมีร่างหนาของบรูคลินที่ตอนนี้ใบหน้าคมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พลิกขึ้นคร่อมร่างลินซา แล้วตรึงข้อมือเล็กขึ้นเหนือศีรษะนั้นทันที ชายหนุ่มจ้องลึกดวงตาดุกร้าว ก่อนกดเสียงทุ้มต่ำร้องถาม อย่างสะกดกลั้นทั้งความโกรธและอารมณ์ต้องการดิบเถื่อนของตัวเองไว้ แม้ว่าจิตใจจะปฏิเสธอย่างหนักหน่วง แต่ร่างกายเจ้ากรรมที่โดนยาสมุนไพรของชาวทะเลทราย เป็นยาปลุกกำหนัด อย่างเช่นเดียวกับที่ชีร่าห์เคยเอาให้เขากิน “เธอวางยาฉัน เพื่ออะไร?” บรูคลินถามอย่างสะกดกลั้น “ขะ...ข้า ต้องการท่าน ข้ายังไม่มีสามี ท่านเองก็ยังไม่มีเมีย แต่งงานกับข้าเถิด” ลินซาเอ่ยความรู้สึกให้บรูคลินฟัง “บอกคนอื่นห้ามผิดผี แต่ตัวเองจะทำเสียเอง” บรูคลินพูด คล้ายเป็นการต่อว่าหญิงสาว “ถ้าผิดผีกันแล้ว ก็ต้องแต่งงานนี่เจ้าคะ ท่านก็ต้องแต่งงานกับข้า” ลินซายังไม่ลดละความพยายาม “คงจะเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก แม้ว่าฉันจะยังไม่แต่งงาน แต่ฉันก็มีเมียแล้ว หากผิดผีกับเธอ เธอที่เป็นคนของเผ่านี้จะรู้ดีว่าการผิดลูก ผิดผัวคนอื่น มันร้ายแรงกว่าผิดผีขนาดไหน!” บรูคล
อิจฉา ซ่า....ซ่า.... เสียงซ่าของน้ำตกที่ตกกระทบลงสู่พื้นในยามเช้า จริงๆ แล้วมันก็ตกดังตลอดเวลา ทั้งคืน ทั้งวันนั่นล่ะ เพียงแต่คนที่อยู่ที่พักนี้ได้ยินจนชินหู เวลานอนก็ใช้เสียงน้ำเป็นเสียงกล่อมให้หลับแทน ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของคนเดินบนพื้นบ้านที่ทำจากไม้ทำให้ถึงแม้จะเดินเบาและเดินนิ่มแค่ไหน ก็มีเสียงอยู่ดี ก๊อก ก๊อก ก๊อก มือบางของลินซาเคาะประตูห้อง เป็นมารยาท ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเบาๆ ลินซามาพร้อมกับอาหาร และยาแก้ปวด แก้อักเสบต่างๆ เอามาให้ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องนี้ เปิดประตูเข้ามา ลินซากลับแต่ความว่างเปล่า ลินซาก้าวเข้ามาในห้อง พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลย เธอจึงวางถาดอาหารและยากับโต๊ะที่อยู่ข้างเตียง เตรียมจะเดินไปดูในห้องน้ำ หากว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องน้ำ แสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้ และก็ไม่รู้ว่าไม่อยู่ตั้งแต่ตอนไหน หรือตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก่อนที่ลินซาจะได้เปิดประตูห้องน้ำ เสียงหนึ่งก็ดังขัดขึ้น “เข้ามาทำไม” เสียงทุ้มถาม ดังขึ้นจากด้านหลัง ลินซาหันไปตามต้นเสียง พบว่าชายหนุ่มที่น่าจะนอนป่วยอยู่ในห้องนี้ ยืนเกาะขอบประตูถามหญิงสาวที่เข้ามาในห้องที่เขาพักอยู่ “อะ...
เธอคงยังไม่เคยตายสินะ? “พะ...พี่บรูค อย่าเป็นอะไรนะ ฮือออ” เสียงเล็กของแสนซนพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าคนบนหลังม้าเดียวกับเธอ ที่นั่งอยู่ด้านหลังทิ้งน้ำหนักมาทับตัวเธอ เหมือนไม่ได้สติ แสนซนเอื้อมมือไปจับมือแกร่งทั้งสองข้างที่ทิ้งข้างลำตัวไปแล้ว จับมากอดรั้งเอวเธอไว้ เพื่อไม่ให้เขาตกลงไปจากหลังม้า บรูคลินไข้ขึ้นเพราะว่าบาดแผลของเขานั้นมีเลือดไหลออกมามาก เขาอดทนนั่งบนหลังมา พาแสนซนมาถึงยังหมู่บ้านเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ที่โอเอซิส พอเข้าเขตโอเอซิสเขาก็สลบเพราะพิษไข้ทันที “ช่วยด้วยยย ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ ฮือออ” แสนซนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมกับร้องไห้เป็นห่วงเขาไปด้วย ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นได้ยินเสียงของแสนซนก็มองมาด้วยความแปลกใจ ว่าผู้มาใหม่พูดภาษาอะไรที่ไม่ใช่ภาษาโมทีธ พอเห็นว่ามีคนบาดเจ็บจึงรู้ได้ทันทีว่า เธอขอความช่วยเหลือ แต่ก็ลังเลที่จะช่วยเหลือ ด้วยเพราะคนบนหลังม้าคือคนแปลกหน้านอกหมู่บ้าน และแต่งตัวแปลกไปจากชาวทะเลทราย หรือชนเผ่าเร่ร่อน “ช่วยพวกเขา” เสียงแหบของชายชรา ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ ออกคำสั่ง ให้ช่วยเหลือผู้มาใหม่ “ท่านผู้เฒ่า...” ชายหนุ่มคนหนึ่
ออกตามหา “นายครับ ให้ผมขับไปให้ไหม” เต็มตะโกนถามเจ้านาย เสียงของลมพัดแรงจากใบพัดของเฮลิคอร์ปเตอร์ที่ตอนนี้บรูคลินนั่งอยู่ประจำที่คนขับ เตรียมที่จะบินขึ้นฟ้าเพื่อตามหาแสนซน เลขาส่วนตัวของเขาและว่าที่ภรรยา จากตอนแรกตั้งใจจะเอามาเป็นแค่นางบำเรอ พอเบื่อจ่ายเงินก็ปล่อยไป แต่...ยิ่งได้นอนกับเธอ อยู่กับเธอตลอดเวลา กลับห่างจากเธอไม่ได้ แม้แต่ไม่ได้นอนคืนเดียวก็แทบจะทนไม่ไหว “ไม่ต้อง! กูไปเอง มึงอยู่ที่นี่ เดี๋ยวกูติดต่อมา เผื่อช่วยอะไรกูได้” เขาสั่ง “ครับนาย” เต็มรับคำ บรูคลินเริ่มออกขึ้นบิน เฮลิคอร์ปเตอร์เริ่มบินสูงขึ้นฟ้า ทยานออกไปทางทิศเหนือ บินเหนือทะเลทรายอันร้อนระอุ เขาลงทุนขับเฮลิคอร์ปเตอร์ด้วยตัวเอง เพื่อออกตามหาแสนซนด้วยตัวเอง โดยให้เต็มรออยู่ที่พระราชวังเผื่อว่าหากเขามีเรื่องให้ช่วย เต็มจะได้ติดต่อช่วยทัน แต่ชีคฟาเอลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เขาเองก็สั่งให้ทหารขี่ม้าเร็วออกตามหาทั่วผืนทรายด้วยเช่นกัน บรูคลินบินไม่สูงมากนัก ไล่บินไปช้าๆ ตามแนวไหล่ทะเลทราย เรื่อยๆ ห่างจากพระราชวังประมาณเกือบสิบกิโลเมตรมุ่งไปทางทิศเหนือของพระราชวัง อีกไม่กี่กิโลก็จะถึงโอเอซิสที่พักของพ่อเขา ท
ผมรับคู่หมั้นไว้ไม่ได้ครับ! บรูคลิน แสนซน และพวกของชีร่าห์เดินก้าวเข้ามาในตัวของพระราชวังโมทีธพร้อมกัน หลังจากเครื่องลงจอดได้ไม่ถึงชั่วโมง คนขับรถและทหารคุ้มกันของโมทีธไปรับพวกเขาที่สนามบินแล้วกลับเข้าพระราชวังพบกับชีคฟาเอลพร้อมกันทั้งหมด “มาถึงกันแล้วเหรอทุกๆ คน” ชีคฟาเอลเอ่ยต้อนรับบรูคลินและคนอื่นๆ ในขณะที่นั่งรออยู่ที่โซฟาตัวหรู ภายในห้องโถงรับแขกหรูหราขนาดกลาง เพราะตรงนี้เป็นส่วนที่พักส่วนตัวของชีคและชีคคา ไม่ใช่ห้องโถงใหญ่ของพระราชวังสำหรับทำพิธีต่างๆ “ท่านพ่อ พี่บรูคลินมาที่นี่ด่วนกะทันหัน เพราะอยากมาคุยเรื่องการหมั้นหมายเจ้าค่ะ” ชีร่าห์รีบชิงพูดบอกพ่อของตัวเองอย่างดีใจ จนลืมตัวเผลอทำตัวมารยาทเกินงาม “ชีร่าห์ ไปบอกกล่าวท่านแม่ก่อนไป ว่ากลับมาแล้ว เดี๋ยวแม่เจ้าจะเป็นห่วง” ชีคฟาเอลบอกชีร่าห์ลูกสาวของตัวเอง “ก็ได้เจ้าค่ะ” ชีร่าห์รับคำอย่างเสียดาย เพราะความจริงแล้วเธออยากที่จะอยู่รอฟังบรูคลินคุยกับพ่อของเธอเรื่องงานแต่งของพวกเขา “พาแขกคุณผู้หญิงไปรับรองดูแล ในฐานะเจ้าบ้านด้วย” ชีคฟาเอลสั่ง พร้อมกับมองไปที่แสนซนเป็นเชิงบอกว่าแขกที่เขาพูดถึง หมายถึงแสนซนนั่นเอง “เจ้าค่