แสนซน!
“ไอ้เต็มไปพาเธอขึ้นไปเจอกูในห้องวีไอพี4 กูจะไปรอที่นั่น” บรูคลินหันไปสั่งเต็มที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นกระดก ทำให้เต็มชะงักค้างกับคำสั่งของเจ้านาย ที่เขาไม่คิดว่าเจ้านายจะเริ่มปฏิบัติการเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่แปลกใจมากนัก เพราะเขารู้นิสัยเจ้านายคนนี้ดี ถ้าอยากได้ก็ต้องได้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้! “ตอนนี้เลยเหรอนาย” เต็มถามออกไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว “ตอนนี้แหละ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะได้ตอนไหน” บรูคลินหันกลับมาตอบเต็ม “บรูค...คนนี้อารักเหมือนลูกของอานะ อย่าทำอะไรที่มันเป็นการทำร้ายจิตใจเธอไปมากกว่านี้ ถ้าเราไม่คิดจริงจังก็อย่าทำเรื่องแบบนั้น แค่ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ อาก็สงสารเธอมากพอแล้ว” คีย์เอ่ยบอกกับบณุคลิน คนหนึ่งก็รักเหมือนลูก อีกคนก็รักเหมือนหลานที่เลี้ยงมาตั้งแต่คลอด “ครับอาคีย์...ผมทำอะไรผมรู้ตัวดี และถ้าผมจะทำอะไรแล้วล่ะก็ นั่นแสดงว่าผมคิดดีแล้ว มั่นใจแล้วครับ” พูดจบบรูคลินก็หันมาส่งยิ้มหวานแบบเท่ๆ ให้กับผู้เป็นอาทั้งสอง ก่อนเดินออกจากโต๊ะ มุ่งหน้าไปยังห้องวีไอพี ห้องที่ 4 ทันที “ไอ้เต็ม! เจ้านายมึงไปแล้ว เขาสั่งอะไรมึงไม่รีบไปทำอีก มัวแต่ห่วงกินเหล้า ระวังเจ้านายมึงจะพิโรธนะ ดูท่าคนนี้เจ้านายมึงจะสนใจมากด้วย” เบย์เอ่ยบอกกับลูกน้องของหลานชายที่ยังคงนั่งกระดกเหล้าต่ออย่างสบายใจ ทั้งๆ ที่บรูคลินออกไปรอที่ห้องวีไอพีได้สักพักแล้ว “เจ้านายรีบ ผมไม่รีบครับ” เต็มหันมาตอบ ก่อนจะมองลงไปที่เวทีด้านล่าง เห็นว่าหญิงสาวที่เป็นเป้าหมายของเจ้านายยังยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีเหมือนเดิม “มึงรออะไรวะ เดี๋ยวเจ้านายมึงก็หงุดหงิด” เบย์ยังถามต่อ “ก็รอผู้หญิงคนนั้นลงจากเวทีไงครับ นายจะให้ผมไปลากเธอลงจากเวทีโต้งๆ เลยเหรอ เดี๋ยวก็ได้มีคนเรียกตำรวจมาจับผมพอดี” เต็มพูดออกมาทั้งๆ ที่สายตายังไม่ละออกจากเวที “เออว่ะ กูลืมไป เดี๋ยวตำรวจมาเรื่องจะวุ่นวาย กูขี้เกียจไปรับหน้า” เบย์พูดแบบเอือมระอา ก่อนจะหยิบยกแก้วขึ้นมาดื่มอีกครั้ง เวลาผ่านไปไม่นาน เต็มก็ลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งดื่มเหล้ายืนขึ้นจนเต็มความสูง ทำให้เบย์หันไปมองด้านล่างเวที ก็เห็นว่าแสนซนเดินลงจากเวทีแล้ว เขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่า ถึงเวลาที่เต็มต้องไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้ว “โชคดีนะไอ้เต็ม แล้วก็ฝากเตือน ฝากห้ามเจ้านายมึงด้วยหากทำอะไรที่มันไม่ควร เพราะกูไม่ปล่อยไว้นะ นั่นลูกกู” เบย์หันไปพูดกับเต็มด้วยใบหที่นิ่งเฉย “ทำไมนายไม่บอกกับเจ้านายผมเองตั้งแต่แรกล่ะครับ มาบอกผมตอนนี้ คิดว่าผมห้ามเจ้านายตัวเองได้เหรอ” เต็มตอบออกไป ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่างและมุ่งตรงไปหาเป้าหมายในทันที “เอ่อ...ขอโทษนะครับคุณแสนซน” เต็มเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงตัวเป้าหมายที่กำลังจะเดินสวนเขาไป “คะ? เรียกซนเหรอคะ?” แสนซนเอ่ยถามพร้อมกับใบหน้าแปลกใจ ที่ผู้ชายคนนี้รู้จักชื่อของเธอ เพราะชื่อจริงของเธอมีแค่ครอบครัวเท่านั้นที่รู้จัก เวลาเธอทำงานหรืออยู่บนเวทีเธอจะใช้ฉายา ‘Rose Black’ เท่านั้น ทุกคนจะเรียกเธอว่า Rose สั้นๆ ก็มี “ใช่ครับ ผมเรียกเอง” เต็มตอบกลับไป “คุณรู้ชื่อจริงของซนได้ยังไงกัน คุณเป็นใคร?” แสนซนเอ่ยถามออกไป พร้อมกับขยับตัวออกห่างจากชายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อยด้วยท่าทางระวังตัว “ผมไม่ใช่คนน่ากลัวอะไรหรอกครับ คนที่น่ากลัวคือคนที่คุณจะต้องขึ้นไปหาต่างหาก” เต็มตอบออกไปแต่ท้ายประโยคเขาพูดเพียงเบาๆ ให้ตัวเองได้ยินแค่คนเดียว “แล้วคุณมีธุระอะไรกับซนหรือเปล่า” แสนซนรีบถามธุระทันที เพื่อจะได้ออกไปจากชายแปลกหน้าคนนี้ “คุณคีย์ให้ผมพาคุณไปพบแขกคนหนึ่งครับ แขกคนนั้นมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เต็มเอาชื่อของคีย์มาอ้าง หากเขาไม่เอามาอ้างคิดว่าผู้หญิงตรงหน้าคงไม่ไปกับเขาง่ายๆ แน่ “แขก? คุณโกหกหรือเปล่า เพราะคุณแม่คีย์ไม่เคยให้ซนไปดูแลแขกเลย” แสนซนยังไม่เชื่อที่เต็มบอก “ไม่เชื่อก็มองขึ้นไปบนชั้นวีไอพีสิครับ” พูดจบเต็มก็ชี้ขึ้นไปไปชั้นวีไอพีที่เป็นด้านกระจก โต๊ะที่เบย์และคีย์นั่งอยู่ คีย์ที่กำลังมองมาทางทั้งคู่อย่างไม่รู้เรื่องอะไร เห็นทั้งสองชี้มาที่เขาพร้อมกับแสนซนที่มองมา คีย์ก็รีบยกมือโบกหยอยๆ ส่งให้ทั้งคู่พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง แสนซนเห็นคีย์ยิ้มและยกมือโบกให้ก็เข้าใจว่า เขาเป็นเชิงบอกว่าที่ชายคนนี้พูดมาคือความจริง เธอจึงหันมามองเขาที่ยืนยิ้มส่งให้เหมือนกำลังจะบอกว่า ‘เห็นไหมล่ะ เขาพูดจริง’ “แล้วแขกคนนั้นอยู่ที่ไหนคะ เขาคือใคร” แสนซนเอ่ยถาม “ตามผมมาเลยครับ ท่านอยู่ที่ห้องวีไอพี4” เต็มผายมือให้หญิงสาว เป็นเชิงให้เดินก่อนตามมารยาทสุภาพบุรุษ “ท่าน? แสดงว่าแขกคนนี้เป็นคนใหญ่คนโตหรอกหรือคะ ถึงขั้นคุณแม่คีย์จะให้ซนไปดูแล” “เขาเป็นประธานบริษัท อีแวนสันกรุ๊ป ครับ” เต็มเอ่ยบอกสั้นๆ ก่อนจะเดินนำหญิงสาวไป เมื่อเห็นว่าเขาผายมือให้ตั้งนานแล้วแต่หญิงสาวยังไม่ขยับไปไหน “ประธาน...งั้นก็แก่แล้วสินะ อ้วนๆ อวบๆ ทรงเจ้าชู้แน่ๆ” แสนซนเอ่ยพึมพำขณะที่กำลังเดินตามหลังเต็มไป แต่เต็มกลับได้ยินเต็มสองหูชัดเจนทำให้เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมากับความคิดของหญิงสาว “ประธานบริษัทนะครับ ไม่ใช่เสี่ยที่ชอบเลี้ยงพวกอีหนู 55555” เต็มบอกหญิงสาว แสนซนได้ยินเต็มหัวเราะและบอกเธอแบบนั้น ก็ทำหน้าแหยๆ เหมือนจะรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอคิดไปเองนั้นมันไม่ใช่ “ถึงแล้วครับ แขกทรงเสี่ยอ้วนๆ ที่คุณต้องเข้าไปพบอยู่ในห้องนี้นะครับ เข้าไปได้เลย” พูดจบเตมก็เปิดประตูพร้อมกับผายมือเชิญแสนซนเข้าไปในห้อง แต่ตัวเองยืนอยู่หน้าห้อง “แล้วคุณไม่เข้าไปเหรอคะ” แสนซนหันมาถาม ก่อนจะทำท่าเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าเข้า “ไม่ล่ะครับ หมดหน้าที่ผมแล้ว เดี๋ยวผมไปดื่มต่อ โชคดีครับคุณผู้หญิง” เต็มพูดตอบ ส่งยิ้มให้เธอ แสนซนเดินเข้าห้องอย่างช้าๆ พอเธอเดินเข้ามาพ้นประตู เต็มก็ปิดประตูทันที แสนซนหันมาทางประตูอย่างตกใ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิดเพื่อเปิดออก แต่มือบางยังไม่ทันได้ถึงลูกบิด เสียงทุ้มนิ่งก็ดังขึ้นด้านหลังภายในห้องนั้น “เข้ามาแล้ว ก็เดินมานี่!” แสนซนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ หันหลังไปมองทางต้นเสียง ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมเข้มดำเทา ผิวขาวใส คิ้วเข้ม เส้นผมสีดำถูกเสยขึ้นอย่างลวกๆ ไม่ได้จัดเซ็ตจัดทรงจนเรียบร้อยเกินไป รูปร่างสูง หุ่นสมาร์ทสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมออกสองสามเม็ดจนแหวกเห็นอกแกร่งขาวตัดกับสีเสื้อ กางเกงสีดำยาวตามความยาวของขาทั้งสองข้างนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา แขนทั้งสองข้างพาดกับพนักพิงหลังของโซฟาด้วยท่าสบายๆ แสนซนมองชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะหลบสายตาเล็กน้อย เพราะชายหนุ่มหล่อเหลาคนนี้ไม่เหมือนกับที่เธอจินตนาการเอาไว้เลย ตรงหน้าชายหนุ่มมีโต๊ะวางเครื่องดื่มที่ถูกดื่มไปแล้ววางอยู่ ด้านหลังโซฟามีเตียงสีดำตั้งอยู่ด้วยเช่นกันความจริงแล้วห้องวีไอพีจะมีเตียงอยู่ทุกห้องอยู่แลเอาไว้บริการสำหรับแขกที่ต้องการมาพัก แสนซนไม่ค่อยอยากเข้ามาในห้องวีไอพีเท่าไรนัก เพราะเธอไม่ชอบบรรยากาศที่มีเตียงอยู่แล้วคิดไปเองว่า บนเตียงต้องมีไว้ทำกิจกรรมอย่างว่าแน่ๆ คิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็หน้าแดงขึ้นมาทันที “มานั่ง...” เสียงทุ้มออกคำสั่ง พร้อมกับมองไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเขา เป็นเชิงบอกให้เธอนั่งลงตรงนั้น แสนซนเข้าใจและยอมนั่งลงแต่โดยดี “เอ่อ...คุณเรียกฉันมาทำไมคะ” แสนซนเอ่ยขึ้นถามตรงๆ เพราะเธออยากรู้ให้แน่ใจว่า เขาเรียกเธอมาแค่คุยหรือเรียกมาเพราะจุดประสงค์อื่น “หน้าแดง...เมา?” เขาเอ่ยถาม “ปะ...เปล่าค่ะ ซน...เอ่อฉันไม่ได้ดื่มค่ะ” แสนซนแก้ตัวอย่างระล่ำระลัก “แล้วทำไมหน้าแดง” เขายังถามต่อ เหมือนกับอยากรู้คำตอบจริงๆ “เปล่าค่ะ สะ...สงสัยอากาศจะร้อน” เธอโกหกออกไปแบบนั้น จะให้บอกความจริงได้ยังไงว่าเธอเขินเขา ที่หล่อขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเขาจะต้องอ้วนลงพุง และทรงเสียพุงพุ้ยๆ “แอร์ฉ่ำขนาดนี้ร้อนเหรอ” บรูคลินพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเครื่องปรับอากาศที่เปิดไว้อย่างเย็นฉ่ำ “เอ่อ...คุณไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ คุณคุยธุระมาเลย” แสนซนรีบตัดบท “เธอชื่ออะไร?” บรูคลินเอ่ยถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว “แสน...เอ่อ โรสแบล็คค่ะ เรียกโรสเฉยๆ ก็ได้” แสนซนไม่ยอมบอกชื่อจงออกไป ทำให้บรูคลินทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย “เอาชื่อจริง!” เขาบอกเสียงเรียบ หน้านิ่ง ทำให้แสนซนรู้สึกเกรงกลัวกับสายตาคมดุนั้นทันที “แสนซนค่ะ” สุดท้ายเธอต้องยอมบอกชื่อจริงตัวเองออกไป สายตาคมนั้นเกินที่เธอจะต้านไว้แล้วโกหกต่อไปไม่ได้จริงๆ “อาคีย์ไม่ได้บอกเหรอ ว่าให้เธอมาทำอะไรที่นี่” บรูคลินเอ่ยถามหยั่งเชิงเล็กน้อยว่าเธอจะรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน “คะ...คุณแม่คีย์ไม่ได้บอกซน...เอ้ย ฉันไว้ค่ะ” แสนซนเผลอหลุดปากแทนตัวเองด้วยชื่อออกไปทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับเขา “แทนตัวเองด้วยชื่อตามที่ถนัดเถอะ แบบนั้นน่ารักดี” เขาพูดออกไป สายตาคมจ้องมาที่หญิงสาวตรงหน้า ทำเอาแสนซนต้องหลบสายตานั้นอีกครั้ง เธอไม่เคยสบตาเขาได้นานเลย “คุณมีธุระอะไรกับซนหรือเปล่าคะ” แสนซนตัดสินใจถามออกไปอีกครั้ง เพราะไม่ว่าเธอจะถามกี่ครั้งก็ไม่ได้คำตอบสักที “หางานอยู่ใช่ไหม ที่บริษัทฉันขาดเลขา สนใจหรือเปล่า” บรูคลินเอ่ยถามเธอออกไปตรงๆ แต่แอบแฝงด้วยบางสิ่งบางอย่าง “จะให้ซนไปทำงานเป็นเลขาเหรอคะ ซนไม่ได้เดือดร้อนอะไรเรื่องเงิน ร้องเพลงที่นี่ก็ได้เงินพอใช้แล้วค่ะ” แสนซนปฏิเสธอย่างนุ่มนวล “เดือนละล้าน สนใจหรือเปล่า ถ้าทำงานกับฉันมีเงินใช้ตลอดแน่นอนโดยไม่ต้องเดือดร้อนอาคีย์อีก แถมยังได้เงินไปให้อาคีย์ตอบแทนที่ผ่านๆ มาด้วย” บรูคลินยื่นข้อเสนอเป็นเงินเดือนที่สูงลิบลิ่ว ซึ่งก็ทำให้แสนซนสนใจขึ้นมาบ้าง เมื่อได้ยินว่าจะได้เอาเงินไปตอบแทนบุญคุณคีย์ที่เลี้ยงเธอมา “แล้ว...ถ้าซนรับงานต้องทำงานอะไรบ้างคะ” แสนซนถามขึ้น ทำให้บรูคลินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวร่างบางตรงหน้าเริ่มสนใจข้อเสนอเขาบ้างแล้ว “ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้ฉัน ทำงานที่บริษัท มีออกต่างจังหวัด ต่างประเทศบ้างเป็นบางครั้ง และ...งานที่เธอต้องทำนอกเหนือจากเลขาก็....” เขาเว้นวรรคหยุดไว้แค่นั้น ไม่รู้จะพูดหรือไม่พูดดี “งานอะไรคะ” แสนซนถามย้ำ “ทำงานให้ฉันบนเตียง!” เขาตัดสินใจบอก “ห๊ะ!!อะไรนะคะ ให้ทำงานบนเตียงนี่หมายความว่ายังไง หมายถึงเรื่องอย่างว่าเหรอคะ” “ก็ตามนั้นแหละ” บรูคลินพูดแบบไม่ยี่หระต่อความตกใจของแสนซน “ไม่ค่ะ!! ซนไม่รับงานแบบนี้ ต่อให้เงินเดือนสิบๆ ล้านซนก็ไม่รับ” แสนซนรีบปฏิเสธ บรูคลินจึงมองหน้าคนตัวเล็กนิ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร เหมือนกำลังใช้ความคิดที่จะหาวิธีให้เธอไม่ต้องปฏิเสธเขา บรูคลินรู้ว่าแสนซนนับถือคีย์เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเขาต้องใช้อาคีย์ให้เป็นประโยชน์ แสนซนไม่มีทางปฏิเสธแน่ถ้าเป็นเรื่องที่เธอต้องรับผิดชอบ “ไม่รับ...งั้นคืนนี้ก็บริการฉัน ชงเหล้า และนั่งดื่มกับฉัน หากฉันพอใจจะเลิกตามตื้อเธอ แต่ถ้าฉันไม่พอใจในบริการของเธอ เธอต้องไปทำงานกับฉัน ถ้าเธอไม่ไปก็ต้องให้อาคีย์เป็นผู้รับผิดชอบ” บรูคลินยื่นข้อเสนออีกรอบ ซึ่งข้อเสนอพวกนี้มันอยู่ในแผนการของเขา เขามีวิธี และแผนการบางอย่างที่เธอคนนี้จะปฏิเสธไม่ได้แน่ๆแสน...ต้องรับผิดชอบ “นี่ซนต้องบริการคุณเหรอ ซนไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งนะคะ” แสนซนรีบปฏิเสธข้อเสนอของชายหนุ่มตรงหน้าทันที “ไม่ทำก็ได้ งั้นให้อาคีย์มารับผิดชอบ” บรูคลินเอาคีย์มาอ้าง เพื่อให้แสนซนปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอไม่ต้องการให้ผู้มีพระคุณเดือดร้อนแน่นอน “ทำไมต้องให้คุณแม่คีย์มารับผิดชอบด้วย คุณอยากได้เด็กนั่งดริ๊ง คุณก็ไปเรียกเด็กสวยๆ มาสิ” “ไม่!! ฉันชอบเธอ ต้องเป็นเธอเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เธอ อาคีย์ก็ต้องรับผิดชอบ” บรูคลินพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับหยิบแก้วเหล้ายกดื่ม “เอาแต่ใจ!!” แสนซนพูดพร้อมกับทำหน้าตาบูดบึ้ง “ตกลงจะบริการฉันไหม” บรูคลินถามย้ำอีกรอบ “แค่ชงเหล้าใช่ไหม” “ดื่มด้วย” บรูคลินตอบ “ต้องดื่มด้วยเหรอ ซนคออ่อน” “งั้นก็ดื่มแก้วเดียว ฉันชงให้!” บรูคลินยิ้มมุมปาก “แก้วเดียวจริงๆ นะคะ” “อือ แก้วเดียว นอกนั้นเป็นคนชงให้ฉันก็พอ” พูดจบบรูคลินก็ลุกจากพนักผิงโซฟาแล้วมาชงเหล้าใส่แก้วที่ว่างเปล่าเพื่อให้แสนซนกินเป็นเพื่อนเขา “แล้วคุณ...เอ่อ จะให้ซนเรียกคุณว่าอะไรคะคืนนี้” แสนซนเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เขากำลังชงเหล้าให้เธอ เพื่อจะได้รู้จักเขาและเรียกชื่อเขาได้ถูกในระหว่างทำงานบร
แปลกใหม่ (nc) มือหนาทั้งสองข้างที่ประคองใบหน้าหวานเอาไว้ ค่อยๆ รั้งเข้ามาใกล้ๆ หลังจากพูดจบ ริมฝีปากหยักได้รูปประกบเข้ากับริมฝีปากบางทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ปากบางได้เอ่ยถามหรือปฏิเสธอะไรเลย มือสากข้างหนึ่งของเขาค่อยๆ ละจากใบหน้าหวานลงมา แกะจุกนมออกให้พ้นจากการบดบังเม็ดอกสีชมพูระเรื่อ ทั้งๆ ที่ปากยังคงจูบอย่างดูดดื่ม มืออีกข้างค่อยๆ ลูบไล้เอวคอด ลากขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงราวนม ก่อนจะกอบกุมเต้ากลมโตนั้นไว้อย่างเต็มไม้เต็มมือ ยอดเม็ดถันแข็งขืนสู้มือหนาทันที ร่างบางถึงกับบิดเร้าจากความเสียวซ่าน แผ่นหลังบางเริ่มแอ่นเข้าหาจนอกกลมชิดบดเบียดสู้กับมือหนา จนชนชิดเข้ากับอกแกร่งของชายหนุ่ม ปากหยักถอนริมฝีปากออกจากปากบางอย่างอ้อยอิ่ง ใบหน้าคมเข้มค่อยๆ ก้มต่ำลง ริมฝีปากหนาได้รูปอ้าครอบยอดอกกลม เมื่อลิ้นอุ่นสากสัมผัสเข้ากับยอดอกของคนตัวเล็ก ร่างเล็กก็เด้งอกรับสัมผัสนั้นโดยอัตโนมัติ ยิ่งตอนที่เขาใช้เรียวลิ้นอุ่นกวาดวนไปรอบๆ เม็ดอก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านรัญจวนให้กับร่างเล็กเป็นอย่างมาก ระหว่างที่เขากำลังเล่นกับยอดอกอยู่นั้น มืออีกข้างที่ลูบไล้อยู่ที่เอวคอด ลากลามต่ำลงใช้นิ้วแข็งปลดตะขอกางเกงเพ
เข้าแผน (nc) “กรี๊ดดดดดด” เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดที่ได้รับ แม้ว่าเขาจะใช้น้ำหวานเยิ้มเป็นตัวช่วยหล่อลื่นในการช่วยลดการเสียดสีแล้วก็ตาม แต่ความเจ็บกับครั้งแรกที่ถูกรุกล้ำเข้าไปบาดเยื่อพรหมจรรย์ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย แสนซนหลับตาแน่น เม้มปากเป็นเส้นตรงอย่างเผลอไผล ร่างกายเล็กสั่นสะท้าน กระตุกเบาๆ จากความเจ็บปวด ร่องสวาทก็ยิ่งผลิตน้ำหวานให้ออกมามากยิ่งขึ้นเพื่อบรรเทาความเสียดสี ความฝืดของร่องสวาท แม้ว่าบรูคลินจะรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของคนตัวเล็กใต้ร่าง เขาก็ยังเลือกที่จะใส่เข้ามาจนสุดลำในครั้งเดียว แล้วปล่อยแช่อยู่แบบนั้นสักพักให้ร่องสวาทที่คับแน่นได้ปรับสภาพยืดหยุ่นรับกับท่อนเอ็นแกร่งของเขา “อื้ออ จะ...เจ็บ” แสนซนครวญครางออกมาเบาๆ น้ำตาใสๆ ไหลเอ่อเต็มเบ้าตา เกาะอยู่ตรงแพขนตาหนานั้น บรูคลินใช้ริมฝีปากจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน “เจ็บมากไหม? ให้หยุดก่อนไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “มะ...ไม่ค่ะ ซนยังไม่หายร้อนเลย” แสนซนบอกออกมาตามตรง เจ็บก็เจ็บ แต่ส่วนหนึ่งก็ทรมานจากความร้อนรุ่มภายในร่างกาย เขาค่อยๆ ยกสะโพกออกช้าๆ แล้วกดเข้าหาเธออย่างหนักหน่วง และเนิบนาบเชื่องช้าจนร่างเล็กออก
ครั้งแรกของพี่... ครืดดดด ครืดดดดด เสียงเครื่องสื่อสารสมาร์ทโฟน สีดำขลับ สั่นสะเทือนครืดไปมาอยู่บนโต๊ะเล็กหัวเตียงภายในห้องสีขาวสะอาดของห้องวีไอพีใน BK CLUB ห้องทั้งห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ และเสียงของการทำงานของเครื่องปรับอากาศเท่านั้น มือใหญ่ของร่างที่นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ภายใต้ผ้าห่มหนานุ่มยื่นออกมาจากใต้ผ้าห่ม ปัดป่ายควานหาสิ่งที่เป็นต้นเสียงการสั่นที่ทำให้เขาต้องตื่นจากการหลับพักผ่อน หลังจากที่ทำกิจกรรมสวาทมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืน บรูคลินกดรับสายโทรศัพท์โดยไม่ได้สนใจว่าปลายสายนั้นจะเป็นใคร “ใคร!” บรูคลินกรอกเสียงใส่ปลายสายทั้งๆ ที่ยังปิดเปลือกตา “โอ้โหเจ้านายบังเกิดเกล้า ยังไม่ตื่นหรือครับ จะเที่ยงแล้ว” เต็มพูดใส่เจ้านายของเขาที่กดรับสายแล้วกรอกเสียงกลับมาด้วยคำสั้นๆ ตามสไตล์ของบรูคลิน “อือ ทำไม คลับปิดแล้วเหรอ” เขาถามกลับไปอีกครั้งๆ “มันจะเปิดอีกรอบแล้วครับเจ้านาย ผมโทรไปเพื่อจะถามว่า นายจะกลับบ้านไหมครับ” เต็มถามเจ้านายของเขา เหมือนกับว่าเจ้านายของเขาเป็นเด็กมีปัญหา หนีออกจากบ้านยังไงอย่างนั้นแหละ “ไม่กลับ! กูจะเข้าบริษัทเลย แต่...ยังไม่ใช
เกือบแล้ว... “แสน...ไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อยไป เดี๋ยวไปบริษัทกับพี่” บรูคลินบอกกับคนตัวเล็กที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนที่นอนเดียวกับเขา “เมื่อกี๊พี่เรียกซนว่าอะไรนะคะ” แสนซนถามด้วยความงุนงง เมื่อได้ยินเขาเรียกเธอด้วยชื่อที่ไม่มีใครเคยเรียกมาก่อน “แสน... ทำไมเหรอ” บรูคลินหันมาถาม “ไม่เคยมีใครเรียกซนแบบนี้” แสนซนตอบเขา “ดีแล้ว พี่จะได้เรียกคนเดียว” บรูคลินตอบพร้อมกับรอยยิ้มเท่ๆ “ซนต้องเริ่มทำงานวันนี้เลยเหรอคะ” คนตัวเล็กถามอีกครั้ง “ยังไม่ต้องทำงานวันนี้ก็ได้ แต่ต้องไปกับพี่วันนี้ ไปดูพี่ทำงานก่อน” “แต่ซนทำงานบริษัทไม่เป็นนะ ไม่เคยทำ ยังจะจ้างซนอีกเหรอ” “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้เต็มมันสอน” บรูคลินบอกกับแสนซนแบบนั้น เขาคงจะลืมไปแล้วว่า เคยบอกกับเต็มไว้ว่า ถ้าหาเลขาต้องหาคนที่ทำงานเป็นแล้วเท่านั้น เขาไม่อยากมานั่งสอนงานใหม่ แต่สำหรับแสนซนคงเป็นข้อยกเว้นไว้หนึ่งคน “ซนต้องกลับคอนโดค่ะ กลับไปเปลี่ยนชุด และต้องกลับไปนอนที่คอนโด” “ใครบอกจะให้กลับไปนอนที่คอนโด ข้อตกลงของงานคือ ต้องทำงานอยู่กับพี่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะพี่ไปดูงานต่างประเทศกะทันหันบ่อย” บรูคลินหาข้ออ้าง “ซนต้องไป
หวงชื่อ... “คุณแสนจะต้องจดตารางงานของเจ้านาย และนัดลูกค้าเวลาไปดูงานหรือไปต่างประเทศครับ” เต็มอธิบายงานคร่าวๆ ให้กับแสนซน ที่นั่งฟังอยู่ที่โซฟาอย่างใจจดใจจ่อ “ไอ้เต็ม เมื่อกี๊มึงเรียกแสนซนว่ายังไงนะ!!” บรูคลินที่นั่งมองทั้งคู่อยู่ที่โต๊ะทำงานสีดำภายในห้องนี้ด้วย รีบตะโกนถามเต็มทันทีที่ได้ยินเต็มเรียกแสนซนด้วยคำที่เขาเอาไว้เรียกคนเดียว เหมือนสนิทสนมมาก เขาจึงรู้สึกไม่พอใจ “ผมก็เรียกสั้นว่าคุณแสน ไงครับ ก็ชื่อคุณแสนซน ผมไม่อยากเรียกยาวๆ เต็มๆ” เต็มบอกเจ้านายตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปสอนงานให้แสนซนต่อโดยไม่สนใจคนถาม “ห้ามเรียก! มึงเรียกว่าแสนซนเต็มๆ เดี๋ยวนี้” บรูคลินร้องสั่ง “เอ้า! มันยาวอ่ะครับเจ้านาย” “เออ กูบอกให้เรียกก็ต้องเรียก ต่อไปนี้ห้ามเรียกว่าแสนห้วนๆ แบบนี้อีก” บรูคลินออกคำสั่ง เต็มได้ยินก็ทำหน้าเหวอ งงกับเจ้านายว่าเพราะอะไร ทำไมต้องสั่งจริงจังขนาดนี้ “ครับๆ” เต็มรับคำสั่ง ก่อนจะหันกลับไปสอนงานแสนซนต่อ แสนซนที่ก้มหน้าก้มตาดูเอกสารงานที่เธอจะต้องทำอย่างตั้งใจ จนบางครั้งก็เผลอใกล้กับเต็มมากเกินไปจนคนที่มองมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน “ไ
คอทองแดง! “ไอ้เต็ม!! มึงหาชุดเหี้ยไรมาให้แสนวะเนี่ย แม่ง!!” บรูคลิน สบถกร้าวใส่เต็ม ด้วยความโกรธและหงุดหงิด เมื่อเห็นชุดที่แสนซนใส่ขึ้นรถคันเดียวกับเขา ไปคลับในคืนนี้ “ก็นายบอกเองนะ ว่าชุดอะไรก็เอามา” เต็มตอบ “กูพูดแบบนั้น?” บรูคลินหันมาถามเสียงอ่อนลงนิดหนึ่ง เมื่อรู้ว่าตัวเองดูจะเป็นคนผิด “ทีไอตอนหึงเขา หวงเขา นี่ลืมหมดเลยนะว่าพูดอะไรไว้” เต็มแอบหลอกด่าปนแซวเจ้านายของเขา “แล้วมึงไม่ดูดีดีวะ เอาชุดแบบนี้มาให้ดูดิ๊ แม่งแหวกลึกลงมาจนจะเห็นสะดืออยู่แล้ว” บรูคลินยังบ่นอุบพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ เมื่อชำเรืองไปมองชุดที่แสนซนใส่แล้วนั่งอยู่ตรงเบาะข้างๆ เขาด้านหลังคนขับ เต็มที่ขับรถอยู่มองกระจกมองหลังเพียงนิด แล้วหันกลับไปสนใจเบื้องหน้าท้องถนนต่อ แล้วไม่ได้เอ่ยอะไรตอบเจ้านาย นี่เจ้านายของเขายังไม่ทันได้เห็นตอนที่หญิงสาวลุกขึ้นยืนนะ ยังไม่ทันได้เห็นว่ากระโปรงที่เธอใส่อยู่นั้นมันแหวกขึ้นมาสูงกว่าด้านบนที่แหวกลงมาลึกอีกหลายเท่า “อย่าเพิ่งบ่นตอนนี้ครับนาย รอให้ถึงคลับก่อน” เต็มบอก เพราะว่าถ้าถึงจุดหมายเมื่อไร เมื่อนั้นแหละเจ้านายเขาจะเห็นทุกอย่าง แล้วค่อยบ่นทีเดียว “ทำไม? ถึงคลับแ
ช่วยพี่เถอะ... รถสปอร์ตสีดำสนิทเงาวาววับแล่นมาจอดที่หน้าตึกที่เป็นที่ตั้งของเพ้นท์เฮ้าส์ส่วนตัวของบรูคลิน เต็มพยุงเจ้านายของเขาออกจากรถอย่างทุลักทุเล แล้วส่งกุญแจรถให้กับ รปภ ผู้ดูแลตึกส่วนตัวของเขา เพื่อเอารถไปเก็บที่ลานจอดรถ “คุณแสนซน ผมมาส่งเจ้านายแค่นี้ครับ ที่เหลือฝากคุณแสนซนดูแลต่อด้วย ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เจ้านายสั่งให้ผมหามาไว้ให้แล้วนะครับ อยู่ในห้องด้านในติดกับห้องนอนของเจ้านาย เป็นห้องส่วนของคุณแสนซนครับ” เต็มพูดอธิบายบอกเธอ เมื่อพยุงแบกเจ้านายของตัวเองที่เมาไม่ได้สติเข้ามาในห้องนอนของเขาที่เพ้นท์เฮ้าส์ “เอ่อ...นี่คงเป็นหน้าที่ของเลขาด้วยใช่ไหมคะ” แสนซนเอ่ยถามเต็มด้วยใบหน้าที่กระอักกระอ่วนที่ต้องมาอยู่บ้านเดียวกับผู้ชาย และตอนนี้ยังต้องมาดูแลผู้ชาย ที่เธอไม่เคยดูแลมาก่อนด้วย “เอิ่ม...จะว่าแบบนั้นก็ใช่ หรือจะไม่ใช่ก็ได้ครับ แต่ที่คุณแสนซนต้องดูแลเจ้านายก็เพราะว่า ที่เจ้านายเมาแบบนี้เป็นเพราะคุณแสนซนนะครับ” เต็มบอกแสนซนออกไปแบบนั้น ให้เธอรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเธอเป็นต้นเหตุ เธอจึงต้องรับผิดชอบดูแลเขา “หน้าที่แหละเนอะ” แสนซนตอบเต็มด้วยรอยยิ้มแหยๆ เ
ตอนจบและตอนเริ่มต้น...(จบ) “พ่อแม่ของแสนซนคือฉันเองแหละ” เสียงทุ้มแหบ ดังขึ้นจากด้านหลังของทุกคน ทุกคนที่อยู่ในห้องอาหารต่างหันไปตามต้นเสียงเป็นตาเดียว สร้างความตกใจให้กับแสนซนและความแปลกใจให้กับคนอื่นๆ ยกเว้นบรูคลินและเต็ม “อาเบย์ อาคีย์!” เลดี้และลิลลี่วิ่งเข้าไปกอดแขกผู้มาใหม่ด้วยความดีใจ “ว่าไงสองสาว” เบย์และคีย์กอดตอบ “ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะคะ ไม่มาหาหลานๆ เลย” เลดี้บอกผู้เป็นอา “ถึงมาก็ไม่เจอ เราทั้งเรียน ทั้งเที่ยวกันบ่อย” เบย์บอก “ไม่ได้ไปแล้วค่ะ หลังจากนี้ ต้องทำงานจริงจังแล้ว” ลิลลี่บอกในขณะที่ยังกอดอาคีย์ของพวกเขาอยู่ “หมายความว่ายังไงพี่เบย์ ที่พูดเมื่อกี๊” เฟร์ย่าถามเบย์ พี่ชายคนสนิทที่เป็นฝาแฝดกับสามีของตัวเอง “ก็หมายความว่า ถ้าเธออยากจะคุยกับผู้ปกครองของแสนซนเรื่องพวกเขาทั้งสอง จะมาขอแสนซนก็มาคุยกับฉันได้เลย” เบย์พูดกับเฟร์ย่า “เพราะพวกเราคือพ่อกับแม่ของแสนซน คนที่เลี้ยงแสนซนมาตั้งแต่แบเบาะ” คีย์พูดสมทบ “พวกเราไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย จะได้ช่วยกันเลี้ยง” เฟร์ย่าพูดต่อ “พ่อและแม่ของแสนซนเป็นคนของพี่เอง ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่แสนซนยังเด็กมากๆ
ทางออกที่ดี... “เจ้านายว่ายังไงนะ” เต็มถามย้ำอีกครั้ง เขาไม่ค่อยแน่ใจเรื่องที่เขาได้ยิน “มึงอยากมีเมียไหม” บรูคลินถามเต็มอีกรอบ เขาอยากหาทางออกให้เรื่องนี้ แต่ก็อยากให้ดีกับทั้งสองฝ่าย รวมถึงผู้ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย ด้วยความสมัครใจ “หมายความว่า...” เต็มถามบรูคลิน อย่าบอกนะว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ “มึงช่วยกูได้ไหม” “นายจะให้ผมแต่งงานกับยัยเจ้าหญิงเอาแต่ใจนั่นเหรอ” เต็มถามออกไปตรงๆ “เธอยังซิง เธอไม่ได้เป็นคนเลว ไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้ายถึงขนาดฆ่าคน แกก็รู้” บรูคลินเริ่มสาธยายข้อดีของชีร่าห์ให้เต็มฟัง เพื่อจะให้เต็มเคลิ้มและช่วยเขา แต่ความจริงแล้ว เต็มไม่ได้รังเกียจอะไรชีร่าห์ เขามองเธอน่ารักเอาแต่ใจด้วยซ้ำ บางครั้งเขาก็อยากจะปราบพยศของเธอให้อยู่ด้วยมือของเขา “ผมจะช่วยก็ได้ แต่...ผมไม่ได้จะช่วยเจ้านายกับคุณแสนซนหรอกนะ อย่ายิ้ม ผมช่วยเพราะผมรู้สึกว่าผมชอบยัยเจ้าหญิงนั่นขึ้นมาแล้ว และผมก็กลัวว่าจะไม่มีคนเอาเธอ เสียของ” เต็มบอกเจ้านาย พร้อมกับหันไปทางชีร่าห์ที่ยืนร้องไห้สำนึกผิดอยู่ข้างพ่อและแม่ของตัวเอง ชีร่าห์ต้องยอมรับกับชะตากรรมของตัวเอง ที่ต่อจากนี้เธอจ
มึงอยากมีเมียไหม? จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ ซ่าาา ซ่าาาา เสียงนกร้องและเสียงน้ำตกดังผสานเสียงกันในยามเช้าตรู่ ร่างบางเปลือยเปล่า แผ่นหลังขาว กอดร่างหนาที่เปลือยเหมือนกันอยู่ใต้ผ้าห่มนุ่มภายในห้องนอนของแสนซน “อืมมม” ร่างหนาเริ่มรู้สึกตัว เมื่อมีแสงจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างด้านหลังห้อง ด้านหน้าก็มีน้ำตก เสียงน้ำตกที่ดังตลอดทั้งวัน ทั้งคืนไม่มีวันหยุด ทั้งสองกลับจากแท่นดูดาวเมื่อคืน มาบรรเลงเพลงรักกันต่อที่ห้องอีกสองสามรอบ ผสานเสียงครางแข่งกับเสียงน้ำตก จนพอใจทั้งคู่ และก็ผล็อยหลับไปจนเช้า ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูด้านนอก และเสียงขออนุญาตดังขึ้นตามมา “ท่านบรูคครับ ท่านพ่อเฒ่าเชิญไปพบครับ” เสียงชายคนหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นชาวบ้านในเผ่า “อืม เดี๋ยวออกไป” เขาตอบออกไปเสียงดัง บรูคลินปลุกแสนซนที่นอนหลับพริ้มสนิทหนุนแขนแกร่งของเขา ก่อนจะรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่ที่มีคนมาตามเขา เรียกชื่อเขาให้ไปพบกับท่านผู้เฒ่า ทั้งๆ ที่เขานอนอยู่ในห้องแสนซนแท้ๆ ทำไมพวกนั้นถึงรู้ได้ และที่ท่านผู้เฒ่าเรียกเขาไปพบ ก็คงไม่แคล้วว่าจะเป็นเรื่องนี้แน่ๆ “ใครมาหรอคะเมื่อกี๊” แสนซนงัวเงียถามเขา
คำมั่น สารภาพรัก (NC) “อ๊าาาาา” ปึก ปึก ปึก เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้น ผสมปนกับเสียงครางเล็กหวานเซ็กซี่ เขาผลักร่างคนตัวเล็กให้ล้มตัวลงนอนราบ แผ่นหลังนาบไปกับแท่นแผ่นหิน ที่เอาไว้นั่งดูดาว เขาโน้มตัวตามมา มือหนาจับข้อเท้าเล็กให้อ้าออกกว้าง พร้อมกับยกขึ้นสูงพาดบ่าแกร่ง ออกแรงกระแทกเข้าช่องรักอย่างหนักหน่วง โดยไม่อดกลั้นอีกต่อไป ตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อจากแรงกระแทกของสะโพกสอบ ที่กระแทกกระทั้นเข้ามาเต็มแรงตามจังหวะความปรารถนาของเขา แรงขึ้น แรงขึ้น ทวีเพิ่มมากขึ้น “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊าาาพี่จ๋า ดะ...เดี๋ยว มะ...มีคนมาเห็น อ๊ะ...” แสนซนเสียงกระเส่าทั้งคราง ทั้งบอกเขา “ก็ช่าง พี่ทนไม่ไหวแล้ว” เขาบอก ทั้งๆ ที่ยังกระแทกช่วงล่างไม่ยอมหยุด “อ๊ะ...อ๊าาาพี่บรูค แสนเสียว อ๊าาา” เสียงครางของแสนซนกระเส่าเซ็กซี่ ทำเอาความต้องการของเขาเพิ่มทวีมากขึ้นไปอีก ทั้งจากฤทธิ์ยา ทั้งจากอารมณ์ดิบของเขาเอง ตับ ตับ ตับ “โคตรดีเลยที่รัก พี่รักแสนนะ อ๊าาาส” เขาบอกรักในเวลานี้ ทำเอาคนได้ยินที่อยู่ใต้ร่าง หัวใจพองโต จนอยากให้เขาเพิ่มความแรงมากขึ้นตามใจเขา “อ๊าาา อ๊ะ... พะ.
ช่วยพี่หน่อยนะ(nc) ผลัก!!! เสียงของบรูคลินผลักร่างของลินซาให้ล้มลงนอนราบบนที่นอนหนานุ่ม โดยมีร่างหนาของบรูคลินที่ตอนนี้ใบหน้าคมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พลิกขึ้นคร่อมร่างลินซา แล้วตรึงข้อมือเล็กขึ้นเหนือศีรษะนั้นทันที ชายหนุ่มจ้องลึกดวงตาดุกร้าว ก่อนกดเสียงทุ้มต่ำร้องถาม อย่างสะกดกลั้นทั้งความโกรธและอารมณ์ต้องการดิบเถื่อนของตัวเองไว้ แม้ว่าจิตใจจะปฏิเสธอย่างหนักหน่วง แต่ร่างกายเจ้ากรรมที่โดนยาสมุนไพรของชาวทะเลทราย เป็นยาปลุกกำหนัด อย่างเช่นเดียวกับที่ชีร่าห์เคยเอาให้เขากิน “เธอวางยาฉัน เพื่ออะไร?” บรูคลินถามอย่างสะกดกลั้น “ขะ...ข้า ต้องการท่าน ข้ายังไม่มีสามี ท่านเองก็ยังไม่มีเมีย แต่งงานกับข้าเถิด” ลินซาเอ่ยความรู้สึกให้บรูคลินฟัง “บอกคนอื่นห้ามผิดผี แต่ตัวเองจะทำเสียเอง” บรูคลินพูด คล้ายเป็นการต่อว่าหญิงสาว “ถ้าผิดผีกันแล้ว ก็ต้องแต่งงานนี่เจ้าคะ ท่านก็ต้องแต่งงานกับข้า” ลินซายังไม่ลดละความพยายาม “คงจะเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก แม้ว่าฉันจะยังไม่แต่งงาน แต่ฉันก็มีเมียแล้ว หากผิดผีกับเธอ เธอที่เป็นคนของเผ่านี้จะรู้ดีว่าการผิดลูก ผิดผัวคนอื่น มันร้ายแรงกว่าผิดผีขนาดไหน!” บรูคล
อิจฉา ซ่า....ซ่า.... เสียงซ่าของน้ำตกที่ตกกระทบลงสู่พื้นในยามเช้า จริงๆ แล้วมันก็ตกดังตลอดเวลา ทั้งคืน ทั้งวันนั่นล่ะ เพียงแต่คนที่อยู่ที่พักนี้ได้ยินจนชินหู เวลานอนก็ใช้เสียงน้ำเป็นเสียงกล่อมให้หลับแทน ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของคนเดินบนพื้นบ้านที่ทำจากไม้ทำให้ถึงแม้จะเดินเบาและเดินนิ่มแค่ไหน ก็มีเสียงอยู่ดี ก๊อก ก๊อก ก๊อก มือบางของลินซาเคาะประตูห้อง เป็นมารยาท ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเบาๆ ลินซามาพร้อมกับอาหาร และยาแก้ปวด แก้อักเสบต่างๆ เอามาให้ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องนี้ เปิดประตูเข้ามา ลินซากลับแต่ความว่างเปล่า ลินซาก้าวเข้ามาในห้อง พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลย เธอจึงวางถาดอาหารและยากับโต๊ะที่อยู่ข้างเตียง เตรียมจะเดินไปดูในห้องน้ำ หากว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องน้ำ แสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้ และก็ไม่รู้ว่าไม่อยู่ตั้งแต่ตอนไหน หรือตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก่อนที่ลินซาจะได้เปิดประตูห้องน้ำ เสียงหนึ่งก็ดังขัดขึ้น “เข้ามาทำไม” เสียงทุ้มถาม ดังขึ้นจากด้านหลัง ลินซาหันไปตามต้นเสียง พบว่าชายหนุ่มที่น่าจะนอนป่วยอยู่ในห้องนี้ ยืนเกาะขอบประตูถามหญิงสาวที่เข้ามาในห้องที่เขาพักอยู่ “อะ...
เธอคงยังไม่เคยตายสินะ? “พะ...พี่บรูค อย่าเป็นอะไรนะ ฮือออ” เสียงเล็กของแสนซนพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าคนบนหลังม้าเดียวกับเธอ ที่นั่งอยู่ด้านหลังทิ้งน้ำหนักมาทับตัวเธอ เหมือนไม่ได้สติ แสนซนเอื้อมมือไปจับมือแกร่งทั้งสองข้างที่ทิ้งข้างลำตัวไปแล้ว จับมากอดรั้งเอวเธอไว้ เพื่อไม่ให้เขาตกลงไปจากหลังม้า บรูคลินไข้ขึ้นเพราะว่าบาดแผลของเขานั้นมีเลือดไหลออกมามาก เขาอดทนนั่งบนหลังมา พาแสนซนมาถึงยังหมู่บ้านเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ที่โอเอซิส พอเข้าเขตโอเอซิสเขาก็สลบเพราะพิษไข้ทันที “ช่วยด้วยยย ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ ฮือออ” แสนซนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมกับร้องไห้เป็นห่วงเขาไปด้วย ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นได้ยินเสียงของแสนซนก็มองมาด้วยความแปลกใจ ว่าผู้มาใหม่พูดภาษาอะไรที่ไม่ใช่ภาษาโมทีธ พอเห็นว่ามีคนบาดเจ็บจึงรู้ได้ทันทีว่า เธอขอความช่วยเหลือ แต่ก็ลังเลที่จะช่วยเหลือ ด้วยเพราะคนบนหลังม้าคือคนแปลกหน้านอกหมู่บ้าน และแต่งตัวแปลกไปจากชาวทะเลทราย หรือชนเผ่าเร่ร่อน “ช่วยพวกเขา” เสียงแหบของชายชรา ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ ออกคำสั่ง ให้ช่วยเหลือผู้มาใหม่ “ท่านผู้เฒ่า...” ชายหนุ่มคนหนึ่
ออกตามหา “นายครับ ให้ผมขับไปให้ไหม” เต็มตะโกนถามเจ้านาย เสียงของลมพัดแรงจากใบพัดของเฮลิคอร์ปเตอร์ที่ตอนนี้บรูคลินนั่งอยู่ประจำที่คนขับ เตรียมที่จะบินขึ้นฟ้าเพื่อตามหาแสนซน เลขาส่วนตัวของเขาและว่าที่ภรรยา จากตอนแรกตั้งใจจะเอามาเป็นแค่นางบำเรอ พอเบื่อจ่ายเงินก็ปล่อยไป แต่...ยิ่งได้นอนกับเธอ อยู่กับเธอตลอดเวลา กลับห่างจากเธอไม่ได้ แม้แต่ไม่ได้นอนคืนเดียวก็แทบจะทนไม่ไหว “ไม่ต้อง! กูไปเอง มึงอยู่ที่นี่ เดี๋ยวกูติดต่อมา เผื่อช่วยอะไรกูได้” เขาสั่ง “ครับนาย” เต็มรับคำ บรูคลินเริ่มออกขึ้นบิน เฮลิคอร์ปเตอร์เริ่มบินสูงขึ้นฟ้า ทยานออกไปทางทิศเหนือ บินเหนือทะเลทรายอันร้อนระอุ เขาลงทุนขับเฮลิคอร์ปเตอร์ด้วยตัวเอง เพื่อออกตามหาแสนซนด้วยตัวเอง โดยให้เต็มรออยู่ที่พระราชวังเผื่อว่าหากเขามีเรื่องให้ช่วย เต็มจะได้ติดต่อช่วยทัน แต่ชีคฟาเอลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เขาเองก็สั่งให้ทหารขี่ม้าเร็วออกตามหาทั่วผืนทรายด้วยเช่นกัน บรูคลินบินไม่สูงมากนัก ไล่บินไปช้าๆ ตามแนวไหล่ทะเลทราย เรื่อยๆ ห่างจากพระราชวังประมาณเกือบสิบกิโลเมตรมุ่งไปทางทิศเหนือของพระราชวัง อีกไม่กี่กิโลก็จะถึงโอเอซิสที่พักของพ่อเขา ท
ผมรับคู่หมั้นไว้ไม่ได้ครับ! บรูคลิน แสนซน และพวกของชีร่าห์เดินก้าวเข้ามาในตัวของพระราชวังโมทีธพร้อมกัน หลังจากเครื่องลงจอดได้ไม่ถึงชั่วโมง คนขับรถและทหารคุ้มกันของโมทีธไปรับพวกเขาที่สนามบินแล้วกลับเข้าพระราชวังพบกับชีคฟาเอลพร้อมกันทั้งหมด “มาถึงกันแล้วเหรอทุกๆ คน” ชีคฟาเอลเอ่ยต้อนรับบรูคลินและคนอื่นๆ ในขณะที่นั่งรออยู่ที่โซฟาตัวหรู ภายในห้องโถงรับแขกหรูหราขนาดกลาง เพราะตรงนี้เป็นส่วนที่พักส่วนตัวของชีคและชีคคา ไม่ใช่ห้องโถงใหญ่ของพระราชวังสำหรับทำพิธีต่างๆ “ท่านพ่อ พี่บรูคลินมาที่นี่ด่วนกะทันหัน เพราะอยากมาคุยเรื่องการหมั้นหมายเจ้าค่ะ” ชีร่าห์รีบชิงพูดบอกพ่อของตัวเองอย่างดีใจ จนลืมตัวเผลอทำตัวมารยาทเกินงาม “ชีร่าห์ ไปบอกกล่าวท่านแม่ก่อนไป ว่ากลับมาแล้ว เดี๋ยวแม่เจ้าจะเป็นห่วง” ชีคฟาเอลบอกชีร่าห์ลูกสาวของตัวเอง “ก็ได้เจ้าค่ะ” ชีร่าห์รับคำอย่างเสียดาย เพราะความจริงแล้วเธออยากที่จะอยู่รอฟังบรูคลินคุยกับพ่อของเธอเรื่องงานแต่งของพวกเขา “พาแขกคุณผู้หญิงไปรับรองดูแล ในฐานะเจ้าบ้านด้วย” ชีคฟาเอลสั่ง พร้อมกับมองไปที่แสนซนเป็นเชิงบอกว่าแขกที่เขาพูดถึง หมายถึงแสนซนนั่นเอง “เจ้าค่