จุดเริ่มต้น สี่ปีก่อน
อีธานแหงนดวงหน้าหล่อคมสันอย่างชายไทยแท้ที่เติบโตในอเมริกามองอาคารไม่สูงมากนักตรงหน้า ในย่านนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังรัฐแคลิฟอร์เนีย
กริ๊งงง!!
เสียงโทรศัพท์ทำให้เขาชะงักหยุดรับสายขณะกำลังก้าวขึ้นบันได
“มีอะไรอลัน”
“อยู่ไหน นายแม่ให้โทรถาม”
“แถวมหาวิทยาลัย ย่าน ... อย่ารู้เลย มีอะไร”
“ส่งวิจัยแล้วนี่ ทำไมไม่กลับบ้าน อันนี้คำถามจากนายแม่นะ ไม่ใช่ฉัน”
อีธานยิ้มมุมปากเอื้อมมือกดลิฟต์
“จะกลับแล้ว อีกไม่กี่วัน” ลากเสียงยานคาง
“ก็ดี”
“แค่นี้ก่อน”
อีธานวางสายทันทีแล้วพลิกมือถือกดปิดเครื่อง จับยัดใส่ในกางเกงยีนส์สีเข้ม ก้าวเข้าไปในลิฟต์ขึ้นสู่ชั้นสี่ อพาร์ตเมนท์ขนาดย่อมของนักศึกษาคนหนึ่งซึ่งเขาไม่รู้จัก ทว่าเพื่อนร่วมชั้นปริญญาโทดึงดันให้มาปาร์ตี้จบการศึกษานี้ให้ได้
ติ๊ง!!
เขาพาร่างสูงใหญ่ในชุดธรรมดาทั่วไปเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมสองเม็ดและพับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอกตามความเคยชิน สะโพกสอบเพรียวในกางเกงยีนส์ขยับยามเขาก้าวอย่างคนมั่นใจในตนเองไปทางห้องต้นเสียง
เพียงเปิดประตูแทบผงะเมื่อเพลงอาร์แอนด์บีดังกระหึ่มกระแทกหู ไม่ใช่รสนิยมของเขาแม้แต่น้อย เขามักเที่ยวผับกึ่งร้านขายเครื่องดื่มมากกว่า นั่งฟังเพลง ชมบรรยากาศ ไม่ใช่เสียงอึกทึกอย่างเด็กวัยรุ่นพวกนี้
“เฮ้ย! อีธาน”
“แจ็ค”
“มา ๆ รู้จักเจ้าของงาน ลูกสาวห้างเพชร เธอให้ชวนนายมาโดยเฉพาะเลย”
อีธานมองไปยังสาวสวยผมบลอนด์อ่อน ดวงตาสีฟ้าส่งรอยยิ้มหวานมาให้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาคึกคักมาได้ยกเว้นหุ่นเพรียวบางแต่ทรวงอกอวบอิ่ม
“อีธาน นี่ มอลลี่”
“ไฮ! ทำไมผมถึงไม่เคยเจอคุณมาก่อน”
“นั่นเพราะ...คุณไม่เคยมองใครเลยต่างหากละคะ นอกจากเวลลอรี่”
อีธานยิ้มกว้างก่อนส่ายหน้า
“ผมว่าไม่ใช่หรอก นั่นเพราะพรหมลิขิตต่างหาก”
“ฮ่า ฮ่า เป็นไงมอลลี่ อยากเจอตัวจริง คารมหมอนี่มันไม่ธรรมดา”
“ใช่ค่ะแจ็ค เอาล่ะ ตามสบายนะคะอีธาน ฉันต้องเดินไปรอบ ๆ ห้องเพื่อทักทายเพื่อน ๆ ก่อน แล้วค่อยกลับมาหาคุณอีกครั้งตาม...พรหมลิขิต”
อีธานมองร่างงดงามเดินลับหายไปท่ามกลางฝูงชนก่อนหยิบขวดเบียร์ยกดื่ม เดินลัดคนไปยังมุมห้องที่แสงไฟส่องไม่ถึง พิงกระจกหน้าต่างแล้วเพ่งมองลงยังด้านล่างจนมองเห็นหญิงสาวสองคนกำลังเดินมาทางอาคารนี้
จากมุมสูงทำให้มองดวงหน้าของสองสาวไม่ชัดเจน หากแต่บางอย่างในตัวของผู้หญิงร่างระหงกว่า ผมดำยาวลอนใหญ่สยายกลางหลัง ได้ปลุกบางอย่างในตัวเขาขึ้นมา
อาจเป็นเพราะความอยากรู้ อยากเห็นหน้า
อาจเป็นเพราะความเปลี่ยวเหงาจากการคร่ำเคร่งงานวิจัย
หรือ อาจ เพราะ ....
อีธานมองจนพวกเธอลับหายเข้ามาในอาคารจึงได้หมุนตัวกลับหันหน้าไปทางประตูอพาร์ตเมนท์
รอคอย
“โบนิตา ฉันบอกแล้วว่าอย่ามา”
ซินเดียส่งเสียงขุ่นเคืองเมื่อมองห้องพักของเพื่อนมหาวิทยาลัยคราคร่ำด้วยผู้คนจนแน่นขนัด เธอเบียดร่างในชุดแสนธรรมดากางเกงยีนส์เสื้อยืดพอดีตัวสีขาว ปล่อยผมยาวสีดำแต่งหน้าเพียงเล็กน้อย
“เออ ไหน ๆ ก็มาแล้ว ทำตัวให้สนุกสิเพื่อน” โบนิตาคว้ามือเพื่อนลากเข้าไปในห้อง ส่งยิ้มปนหัวเราะเมื่อเห็นหน้าคนคุ้นเคยหลายคน
“แล้วนี่คนมาจากไหนกันเยอะขนาดนี้”
โบนิตาหยุดลงที่โต๊ะเครื่องดื่มแล้วหยิบขวดเบียร์ยัดใส่มือเพื่อนหนึ่งขวด ของตัวเองหนึ่งขวดแล้วชน - - กริ๊ก
“สงสัยมอลลี่เชิญมาเกือบชั้นปีเลยล่ะมั้ง”
“อืม..เบียร์รสชาติดี ฉันว่ายิ่งกว่า ดูหน้าบางคนแล้วคงรุ่นพี่”
“คนสังคมจัดก็แบบนี้ ไปนั่งมุมโน้นแล้วกัน”
ซินเดียขยับร่างเดินลึกเข้าไปยังซอกห้อง มุมดีที่ทำให้มองเห็นทุกอย่าง เสียงเพลงอาร์แอนด์บีเร้าใจจนทำให้ทั้งเธอและโบนิตาเริ่มขยับเท้า
“เดียร์ เราจะกลับเมืองไทยเมื่อไรดี”
“เก็บของคืนห้องกว่าจะเรียบร้อยคงอีกสองอาทิตย์”
“ก็ดี นั่น...เดียร์ คนอะไรหล่อชะมัด”
ซินเดียชะเง้อคอมองตามมือเพื่อนสนิทที่ชี้ไปทางมุมห้องอีกด้าน แสงไฟสลัวทำให้ซินเดียมองเห็นไม่ถนัดนัก
“ไหน ๆ ไม่มีใครหล่อเลย”
“เออ หายไปแล้ว”
“ตาฝาดหรือเปล่า เอาของกินอะไรไหม เดี๋ยวไปหยิบให้ที่ห้องครัว”
“ขอมันฝรั่งทอดแล้วกัน”
“ได้ รอเดี๋ยวนะ”
ทั้งเธอและโบนิตาเคยมาปาร์ตี้ที่ห้องมอลลี่สองสามครั้ง จึงคุ้นชินทางเป็นอย่างดี ซินเดียพาร่างของตัวเองแหวกฝูงชนค่อยเดินแทรกไปเรื่อยกระทั่งถึงห้องครัว ที่ซึ่งเธอคาดว่าจะมีของกิน แต่กลับว่างเปล่ามีเพียงคนไม่กี่คนที่หลบความวุ่นวายหามุมสงบยืนคุยกันอยู่
ซินเดียถอนหายใจยกมือลูบท้องด้วยความหิว ขยับตัวถอยหลังตั้งใจเดินออกพลันกระแทกเข้ากับผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
รอยยิ้มหวานค้างไปชั่วขณะเมื่อแหงนศีรษะขึ้นแล้วพบว่า ชายคนที่เธอชนเข้าหน้าตาดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา - - หรืออาจเพราะฤทธิ์เบียร์ที่ดื่มไปหลายแก้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดเธอมั่นใจว่าเขาเองก็มองเห็นว่าเธอสวยเช่นกัน
นัยน์ตาสีนิลจับจ้องมองคล้ายเข้มข้นขึ้นก่อนเจิดจ้าแล้วค่อยคลี่รอยยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ทำหัวใจเธอหล่นวูบ
“คุณไม่เป็นอะไรนะครับ ผมชื่ออีธาน”
“ค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร ฉัน..เดียร์ค่ะ” เธอลังเลใจชั่วครู่ก่อนบอกเพียงชื่อเล่น
“แล้วคุณมาทำอะไรที่ครัว”
“ฉันมาหาของกิน แต่ดูเหมือนว่าในครัวมีแต่ความว่างเปล่า”
“เราลองเปิดตู้เย็นดูดีไหม”
ซินเดียมองร่างสูงใหญ่เดินนำไปยังตู้เย็นขนาดใหญ่ แล้วเปิดออกอย่างไม่เกรงใจเจ้าของบ้าน และนั่นทำให้เธอหัวเราะออกมาขยับร่างระหงเข้าไปใกล้ชะโงกมองหาของกิน
“ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านของเราไร้รสนิยม”
เสียงอีธานเอ่ยขึ้นเมื่อเธอขยับดวงหน้าแทรกมองเข้าไปในตู้เย็นแล้วพบแต่ขวดเบียร์และวอดก้า จึงคลี่ยิ้ม
“ไม่สักทีเดียว อย่างน้อยเธอก็มีช็อกโกแลตสองแท่ง”
มือเรียวเล็กเอื้อมหยิบออกมาทั้งสองแท่งชูตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าเดิม จนอีธานเผลอมองก่อนเบือนกลับไปยังขวดวอดก้าเพราะชีพจรโลดแรงขึ้น เขาหยิบวอดก้าออกมา แม้ว่าไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไรแต่ยังดีกว่าเบียร์
“ในเมื่อผมเป็นคนพาคุณมาเจอขุมทรัพย์ ฉะนั้นอีกแท่งต้องเป็นของผม”
“ของคุณ? ฮ่า ฮ่า ในเมื่อมันอยู่ในมือฉันแล้ว ฉะนั้นทั้งสองแท่งเป็นของฉัน”
อีธานมองสาวสวยตรงหน้าแกะห่อกระดาษหุ้มช็อกโกแลตลงแล้วส่งเข้าปากพร้อมรอยยิ้มยั่ว โก่งคิ้วซ้ายขึ้นข้างหนึ่ง ชีพจรตรงอกซ้ายรัวแรงยิ่งกว่าเดิม หลุบตามองริมฝีปากบางสีพีชอ่อนขยับเคี้ยวช็อกโกแลตพออกพอใจ ซ้ำทำเสียงครางในลำคอ
ยากจะห้ามใจ ใช่แล้ว คงเป็นคำนี้
เขาวางขวดวอดก้าลงโต๊ะครัวด้านหลังก่อนส่งมือขึ้นทาบมือใหญ่บนมือเรียวเล็ก กำแท่งช็อกโกแลตแน่นเข้า สบดวงตาคมรีที่ตอนนี้เบิกกว้างมองศีรษะของชายร่างโตเช่นเขาโน้มลงกัดแท่งช็อกโกแลตเข้าปาก
กลิ่นน้ำหอมอ่อนจางและกลิ่นบางอย่างทำเขาหลุดลอยชั่วขณะ อีกมือรั้งแผ่นหลังเธอมาด้านหน้าเคลื่อนริมฝีปากหนาลงเข้าหาปากกระจับ ส่งช็อกโกแลตเข้าสู่โพลงปากอ่อนนุ่มด้วยลิ้นดุนเพียงครั้งเดียวแต่กวาดไล้หนึ่งรอบก่อนคลายออก
“น่าเสียดาย ที่ช็อกโกแลตนี้เป็นของคุณ”
คนร่างเล็กกว่าใจเต้นรัวกระหน่ำ มืออ่อนแรงจนเกือบทำขนมหลุดมือยามเขาถอยหลังออกพร้อมหยิบขวดวอดก้าขึ้นมา
“พวกคุณทั้งสองคนรู้จักกันเหรอ”
เสียงห้วนของมอลลี่ทำให้ทั้งคู่หลุดจากภวังค์ หันมองต้นเสียง ซินเดียทันเห็นแววอิจฉาปนความโกรธขึ้นมาแวบหนึ่ง จึงรู้ตัวถอยหลังออกห่าง แล้วรีบพูดขึ้น
“เพิ่งรู้จัก ขอตัวก่อนนะมอลลี่ โบรออยู่ ยินดีที่ได้รู้จักคุณค่ะอีธาน”
ซินเดียรีบพาตัวเองออกมาจากห้องครัว แล้วผ่อนลมหายใจเมื่อมองเห็นเพื่อนสนิทยังยืนอยู่ที่เดิม แต่ที่เพิ่มคงเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีกหลายคน
“หายไปนานเลยเดียร์”
“อ๋อ หาของกิน แต่ไม่มีเลยนอกจากช็อกโกแลต”
ซินเดียวางขนมลงมือเพื่อนแล้วหยิบเบียร์ขึ้นดื่ม หางตามองเห็นร่างสูงใหญ่ของอีธานเดินออกมาจากห้องครัวแล้ว เพียงคนเดียวไร้วี่แววเจ้าของงาน เขายังมองตรงมาทางเธอก่อนแวะคุยกับเพื่อน
“รู้จักไหมโบ”
“คนนั้น สูง ๆ”
“อ๋อ นี่ไงที่ฉันบอกหล่อ แต่..มีอะไรหรือเปล่า ฉันไม่รู้จักหรอกนะ”
“ฉันรู้จัก” ทิฟฟานี่พูดแทรกเสียงเพลงอาร์แอนด์บีที่ยังกระหึ่ม ทำให้ทั้งสองสาวหันไปตั้งใจฟัง
“ชื่ออีธาน จบปริญญาตรีวิศวเคมี แต่เลือกเรียนโทบริหาร จบแล้วล่ะ นี่คงเพิ่งส่งเล่มวิจัย เป็นนักเรียนทุน”
“นักเรียนทุน งั้นแสดงว่าเรียนดีหรือไม่ก็บ้านฐานะไม่ดี” ซินเดียพึมพำแต่เพื่อนยังได้ยิน
“ไม่รู้สิเดียร์ อาจทั้งสองอย่างก็ได้”
“เขาเป็นคนเอเชีย” เสียงใสของโบนิตาแทรกขึ้น หางตายังชำเลืองมองไปทางมุมห้องอีกด้าน
“ใช่โบ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน แต่ฟังจากสำเนียงเขาคงเกิดที่นี่ หรืออาจอยู่มานานตั้งแต่เด็ก”
ซินเดียพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าไม่ได้พูดออกมา
“แล้วมอลลี่ล่ะ”
“ถามทำไมเดียร์”
“ตอนอยู่ในครัว ฉันฟังเหมือนว่า คล้ายมอลลี่จะ .. หึง”
“โอ้ย เดียร์ เอาอะไรกับมอลลี่ ที่แน่ ๆ ไม่มีใครเห็นเขาควงใคร”
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิ นี่ถามทำไม อย่าบอกนะว่าชอบ”
“ก็ไม่แปลกอะไรนี่นา ผู้ชายหล่อหน้าตาดี ผู้หญิงชอบก็ปกติ”
“แปลกสิ ก็เธอคือซินเดีย ไม่มีแฟน ไม่สนใจออกเดท”
“ฮ่า ฮ่า ทิฟฟานี่ แต่ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ ยังไงก็ชอบผู้ชาย”
“งั้นลองสิ จีบเลย คืนนี้พาเขากลับห้อง”
“ทิฟฟานี่!!”
“เดียร์ ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ล่ะก็ โน้น เห็นอะไรไหม ผู้หญิงแทบทั้งห้อง ทั้งที่มีแฟน ไม่มีแฟน จ้องอีธานทุกคน ซ้ำไม่เก็บอาการ น้ำลายจะหกออกมากันแล้ว”
“ทิฟฟานี่!!”
“ไม่ต้องร้องเสียงหลง เอ้านี่! ดื่มเบียร์ย้อมใจ”
ซินเดียรับขวดเบียร์มาจากมือเพื่อนกระดกดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วรับมาอีกขวด กระดกอีกครั้งครึ่งขวด จนคล้ายเริ่มมึนจึงได้ส่งขวดเบียร์คืน
“เอาล่ะ ฉันพร้อมแล้ว”
“สู้ ๆ เดียร์”
เสียงหวานใสของโบนิตาส่งแรงใจให้ซินเดีย ทว่าเหตุใดเธอจึงไม่รู้สึกมีพลังใจเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคมรีทรงเสน่ห์จ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนนิ่งมุมห้อง และเขาจับจ้องมาทางเธอเช่นกันพร้อมส่งรอยยิ้มอย่างรู้ทัน พลางเคลื่อนตัวออกจากผนังห้อง
กระทั่งเธอเดินไปถึงตัวอีธาน เขาถึงได้วางขวดวอดก้าลงกับตู้เก็บของด้านข้าง ตวัดเธอเข้าสู่อ้อมแขน
จากนั้นเธอก็ไม่แน่ใจแล้วว่า เป็นเธอหรือเขากันแน่ที่โดนหิ้วกลับออกไปจากงานปาร์ตี้
- 1 - ซินเดียสี่ปีต่อมา“ปัดโธ่เว้ย!”ร่างระหงในชุดเสื้อเชิ้ตทับด้วยสูทสั้นตัวนอกสีน้ำตาลอ่อน กระโปรงสั้นอย่างสาวทำงานออฟฟิศ บ่นพึมขณะวาดท่อนขาฟาดเท้าเข้าตรงล้อยางด้านหน้าแล้วพลันกระโดดหย่ง“โอ๊ย! อะไรกันนี่ ทำไมเช้านี้ถึงได้ซวยแบบนี้”มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อเม็ดโตที่ผลุดตามไรผมบนหน้าผาก เหลียวมองหาคนช่วยแต่ดูเหมือนคนเมืองกรุงช่างแล้งน้ำใจ เธอก้มศีรษะมองรถหรูคันสวยอีกครั้งด้วยดวงตารีคมฉุนเฉียวซินเดีย ทรงโอสถ หรือ เดียร์ ที่เพื่อนคนสนิทใช้เรียกกำลังหัวเสียขนาดหนัก เธอมุดเข้าไปในคว้ากระเป๋าหรูสีดำทำจากหนังแกะ ล้วงโทรศัพท์รุ่นใหม่เอี่ยมราคาครึ่งแสนปัดหารายชื่อที่ต้องการ“พ่อคะ เดียร์รถเสีย ค่ะ ยางแตก ไม่ค่ะ ไม่ค่ะ เดียร์ว่าน่าจะโดนตะปูหรืออะไรสักอย่าง พ่อให้ลุงภพมารับหน่อยได้ไหมคะ เดียร์ต้องรีบไปเข้างาน ค่ะ ขอบคุณค่ะพ่อ เดียร์ส่งพิกัดให้นะคะ”เธอปัดวางสายพ่อ หรือ นายอานนท์ ทรงโอสถ เจ้าของธุรกิจผลิตยาและนำเข้ายักษ์ใหญ่ระดับประเทศ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเคาะเท้ากับพื้นคอนกรีตแล้วมองหาที่ร่มหลบแดด เหลียวมองเห็นร้านแม่ค้าขายไก่ย่างข้างทางใกล้กับศาลารอรถ“ป้าคะ ขอไก่ย่างสองไม้ ข้าวเหนียวห่อ”ป
-2- จัดฉากเป็นลมติ๊ง!!ประตูลิฟต์เปิดกว้างในชั้นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เธอพาร่างระหงไร้เสื้อสูทก้าวเดินไปยังห้องประชุมเล็ก โชคยังเข้าข้างที่ห้องนี้ใหญ่พอสมควร คงทำให้ท่านประธานคนใหม่ไม่สนใจเธอมากนักซินเดียหยุดยืนหน้าห้องมองลอดกระจกเล็กตรงประตู ลอบมองภายในห้อง เช้านี้มีคนมาประชุมราวเกือบยี่สิบคนล้วนแต่เป็นระดับผู้บริหาร ขยับร่างถอยหลังแล้วสูดลมหายใจ เอื้อมมือยังลูกบิดเปิดประตูก้าวเข้าไปดวงตาคมรีเพ่งมองร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มชาวเอเชีย มองยังไงก็ไม่ใช่ชาวต่างชาติอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ใบหน้าคมสัน จมูกโด่งขึ้นสัน ริมฝีปากบนบางกว่าริมฝีปากล่าง กรอบหน้าแกร่งเหลี่ยมชัดเจน ผมสีดำสนิทหวีเรียบลงน้ำมัน นั่งเอนกายพิงพนักไขว่ห้าง มือยกขึ้นลูบคางแผ่วเบาขณะที่ดวงตาสีนิลเข้มจัดจับจ้องไปยังรองผู้อำนวยการสาวฝ่ายประชาสัมพันธ์กำลังยืนรายงานผลงานไตรมาสล่าสุดเธอชะงักงันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วยกมือทาบอกไม่รู้ตัว ไม่อาจระงับชีพจรที่กำลังเต้นรัวกระหน่ำได้ซินเดียจ้องชายคนนั้น ประธานบริษัทคนใหม่ ชายหนุ่มรูปหล่อที่สุดที่เธอเคยเห็นมา และเธอไม่มีวันลืมคืนนั้นคืนที่เขาและเธอนัวเนียกันอยู่บนเตียงร่างระหงน
-3- อีธานอีธานเอนกายกับเบาะเก้าอี้ทำงานนั่งไขว่ห้างหมุนตัวไปทางหน้าต่างบานใหญ่ของห้องทำงานประธานกรรมการบริหาร ในมือคือปากการาคาแพง ด้ามที่เขามักพกติดตัวแล้วนำขึ้นมาหมุนเล่นเวลาต้องใช้ความคิดทอดสายตาลงยังเบื้องล่างเมืองหลวงแสนวุ่นวาย หรี่ดวงตาแคบลงหวนนึกถึงอดีตเมื่อสี่ปีก่อน พลันมุมปากยกขึ้นคล้ายพึงพอใจก๊อก ก๊อกคนสนิทบอสใหญ่ไม่รอให้เอ่ยอนุญาต ผลักประตูบานใหญ่สาวเท้าด้วยรูปร่างสูงใหญ่เช่นกันกับบอส เพียงแต่ติดผอมบางกว่า เขาขยับแว่นดันขึ้นขณะนั่งลงตรงข้ามยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่แล้ววางแฟ้มเลื่อนไปด้านหน้า“แฟ้มครับบอส”อีธานหมุนเก้าอี้กลับมาชำเลืองมองใบหน้าแกร่งชาวอเมริกันมองสบตาเขาพร้อมรอยยิ้มรู้ทัน“ยิ้มอะไร”“เปล่าครับบอส”“เห็นอยู่ว่ายิ้ม”ยิ่งพูดดูเหมือนว่าคนสนิท อลัน ยิ่งคลี่ยิ้มกว้างออกมา“บอสเรียกดูแฟ้มประวัติเธอทำไมครับ”“อยากรู้ไปทำไม”มือแกร่งเรียวอย่างผู้ชายหยิบแฟ้มกระดาษประวัติส่วนบุคคลขึ้นเปิด กวาดตามองคร่าว ๆ ก่อนตั้งใจอ่าน“ผมอ่านมาแล้ว ชื่อซินเดีย ทรงโอสถ อายุยี่สิบเจ็ดปี จบจากแคลิฟอร์เนียเมื่อสี่ปีก่อน ถ้าผมจำไม่ผิด ช่วงที่บอสไปดูงานพอดิบพอดี”เขาตวัดตาคมชั่วแวบมองอลันที่
-4- ประวัติซินเดียตัดสินใจลุกขึ้นล้วงมือหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเลขานุการส่วนตัว ลลิตลลิต พี่ขอประวัติเจ้านายคนใหม่หน่อยซินเดียเธอจับจ้องหน้าจออยู่เป็นครู่แล้วค่อยเห็นว่าเลขานุการอ่านข้อความแล้วเจ้านายคนใหม่? คุณเดียร์หมายถึงประธานคนใหม่ คุณอีธานเหรอคะลลิตจะใครเสียอีก ซินเดียเธอคว่ำหน้าจอแล้วลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าฆ่าเวลาระหว่างที่รอแฟ้มประวัติติ๊ง!!เลขานุการทรงประสิทธิภาพ เพียงไม่นานนักซินเดียยังไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยด้วยซ้ำ เสียงข้อความพลันดังขึ้น เธอรีบเขย่งเท้าไปด้วยสวมกางเกงขาสั้นไปด้วยกลับไปยังเตียงนอน หยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดดูคุณเดียร์ค่า เท่าที่หามาได้นะคะ ว่าแต่ว่า เอาไปทำอะไรเอ่ย???ลลิตซินเดียยิ้มมุมปากแล้วเปิดไฟล์แนบแฟ้มประวัติของประธานบริษัท ซึ่งอันที่จริงมันไม่ใช่แฟ้มประวัติสักทีเดียว คงเป็นแม่เลขานุการไปหาเอาตามข่าวแล้วรวมรวบมาแปะบนเวิร์ดเท่านั้นอีธาน สมิท อายุสามสิบสอง อืม...ก็ยังไม่แก่นะ สี่ปีก่อนอายุคงยี่สิบแปดถึงว่าแรงดีเป็นบ้า เดี๋ยวหยุด!! ไอ้เดียร์ อย่านอกเรื่องซินเดียสลัดศีรษะไล่ภาพไม่พึงประสงค์หรืออันที่จริงพึงประสงค์ ภาพหุ่นทรมานใจเปี่ยมมัดกล
- 5 – จัดฉากซินเดียคว้าไปเพียงโทรศัพท์และกุญแจรถ เมื่อจอดรถยังลานหน้าผับชื่อดังเมืองกรุง มองกระจกหลังสำรวจความเรียบร้อย ปัดลูกผมออกจากกรอบหน้า เพียงชั่วเวลาไม่นานนักตั้งแต่เมื่อเย็น เธอสลัดคราบพนักงานออฟฟิศมาดนางพญากลายเป็นสาวท่องราตรี ด้วยชุดที่มักมีติดรถไว้เสมอสาวสวยจัดพาร่างระหงลงจากรถ ชุดรัดรึงสีดำตัวสั้นสายเดี่ยวประดับมุก เนื้อผ้าซาตินมันเงา คอเสื้อย้อยเป็นชั้นตรงกลางหน้าอก หากแต่ด้านหลังกลับย้อยต่ำกว่าโชว์แผ่นหลังขาวเนียนไร้สายเสื้อชั้นใน“เดียร์” น้ำเสียงหวานของเพื่อนรักดังขึ้นพร้อมร่างเล็กโบกไม้โบกมือ“โบ นี่มากันหมดบริษัทเลยหรือเปล่า”“จะเหลือรึ มาหมดยกเว้นพวกลุง ๆ ป้า ๆ อายุแก่เกินขอบาย”“แล้วเห็นเขามาหรือยัง”“เขา..เขาไหน”“อย่ามาทำไขสือ ฉันจะหมายถึงใครได้ถ้าไม่ใช่ประธานน่ะสิ”“ฮ่า ฮ่า ยังไม่มา ไป ๆ เข้าไปหาอะไรดื่มก่อน ย้อมใจไง”ซินเดียถูกเพื่อนรักฉุดมือเดินเข้าในผับดังซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว นี่เพิ่งจะสองทุ่มเท่านั้นแต่พนักงานทุกคนดูเหมือนจะเริ่มเมาแล้ว“ไม่ ๆ โบ นั่งที่บาร์”“อ้าว ทำไมล่ะ โน้นเจ้าลลิตเต้นอยู่โน้น”เธอเห็นโบนิตาโบกมือทักทายทำท่าจะเดินเข้าไปจึงร
- 6 - สี่ปีก่อน ต่อเนื่อง ncสี่ปีก่อนปัง!!เสียงกระแทกประตูโรงแรมราคาไม่แพงมากนักในย่านนักศึกษาทำซินเดียสะดุ้ง หากแต่อ้อมแขนแข็งแรงพลันเกี่ยวร่างเธอไว้ยกลอยสูงพาเดินไปทางเตียงโดยไม่ละริมฝีปากออกจากการครอบครองลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้นจากอาการขาดอากาศ ยามเขาปล่อยริมฝีปากออกจากความเย้ายวนอ่อนหวาน แผ่นหลังของซินเดีย กระทบฟูก เธอกวาดตามองนัยน์ตาเข้มข้นด้านบน รอยยิ้มบางเบาแต้มบนริมฝีปากหนาที่ฉ่ำชื้นด้วยแรงจุมพิตของเธอ“อีธาน ฉะ ฉัน อันที่จริงฉันมีเรื่องจะบอก”ชายร่างโตด้านบนทาบตัวลงโน้มหน้าลงซอกคอ สูดดมกลิ่นหอมหวานพร้อมลากลิ้นทั่วลำคอขณะเลื่อนมือดึงเสื้อยืดคนร่างเล็กกว่าขึ้นสูงแล้วถอดออกจนได้ในที่สุด โอบแผ่นหลังนวลเนียนแล้วกระเถิบร่างไปตรงกลางเตียงเท่าที่ทำได้“ผมว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรมีเรื่องอะไรให้พูดคุยกันแล้ว เดียร์”ซินเดียเบี่ยงหน้าไปอีกทางยามหน้าคมเข้มโน้มลงเข้าหาอีกครั้งตรงซอกคอ ซุกจมูกสูดดมก่อนเลื่อนลงจนถึงลาดไหล่กลมมน พร้อมรั้งสายเสื้อชั้นในเคลื่อนออกจากที่ทางลงไปยังต้นแขน พาลมหายใจอุ่นร้อนลวกตามติด รวบมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะเพื่อเปิดลำแขนจนร่างระหงแอ่นโค้ง“ผิ
- 7- ประกาศกรรมสิทธิ์บ้าแน่ บ้าไปแล้ว เดียร์เสียงเล็กในหัวกำลังต่อสู้ขนาดหนัก อีธานกำลังทำเธอเร่าร้อนเพียงเขาจ้องมองผ่านโต๊ะกลมจนเธอต้องหันหลังหนี แล้วปล่อยให้ภีมโอ้โลมด้วยการกางมือบนแผ่นหลังหางตาเธอเห็นโบนิตาเพื่อนสนิทกำลังตาเบิกโพลง จึงส่งสัญญาณบุ้ยใบ้ให้เพื่อนรักรีบเดินมาแต่ยังไม่ทันคนร่างโตอยู่ดี เมื่อสัมผัสถึงไอร้อนด้านหลังพร้อมมืออุ่นจัดอีกมือที่ดึงมือของภีมออก พร้อมอ้อมลำแขนมาด้านหน้ารัดหน้าท้องไว้ดันจนแผ่นหลังเธอชิดอกแกร่ง“ขอโทษด้วยภีม แต่เดียร์มีเจ้าของแล้ว”ซินเดียถึงกับสะดุ้งตกใจรีบมองเพื่อนร่วมงาน สีหน้าของทุกคนในโต๊ะตื่นตะลึงเช่นเดียวกันกับเธอ โดยเฉพาะมิลินท์และภีมแย่แน่ พรุ่งนี้ฉันคงกลายเป็นหัวข้อหลักวงนินทา“โอ๊ย!! อะไรกันเดียร์”อีธานร้องปนสบถเมื่อเท้าเล็กกระทืบลงด้านหลังบนรองเท้าหนังของเขาอย่างแรง ส้นรองเท้าแม้ไม่แหลมมากแต่ทำให้คนร่างโตร้องลั่น คลายมือออก ซินเดียถอยห่างทันทีก่อนหันกลับไปมองส่งสายตาขุ่นเขียว“ฉันไม่ใช่ของของใคร แล้วอีกอย่าง เราไม่รู้จักกัน”ซินเดียถอยหลังสองก้าวเยื้องไปด้านหลังภีม ใช้มือคล้องแขนชายอีกคนไว้กำแน่นเป็นหลักยึด อย่างน้อยเธอรู้สึกปลอดภั
-8- ขึ้นห้อง nc“หยุด อา หยุดก่อน ไม่ได้”เธอคว้ามือเขาไว้บีบแน่นเบี่ยงหน้าออกเป็นผลให้ริมฝีปากอีธานไถลลงซอกคอ ขบเม้มดูดเนื้อนิ่มขืนแรงคนร่างเล็ก ขยับปลายนิ้วสอดเข้าจนพบสิ่งที่ต้องการ“อ่อนนุ่ม และ เปียก”เสียงทุ้มกระเส่าแรง อีธานสูดดมกลิ่นหอมหวาน เนื้อสาว แล้วจูบสัมผัสลาดไหล่เลื่อนจนถึงสายเสื้อเส้นเล็กประดับด้วยมุก ลูบนิ้วผ่านรอยแยกก่อนปล่อยร่างของเธอฉับพลัน ถอยห่าง แล้วหอบหายใจ“ขึ้นห้อง”“อะไรนะ ท่านประธาน อย่าเพิ่ง”ซินเดียตัวปลิวตามแรงดึงจากคนร่างสูงใหญ่ตรงหน้า เขาคว้าข้อแขนดึงกึ่งลากผ่านหน้าเคาน์เตอร์บาร์ แทรกคนด้วยความเร็วทั้งใช้มือปัดแหวกทางไม่สนใครหน้าไหนอาการรีบเร่งของอีธานยิ่งทำให้ซินเดียประหวั่นใจ เอี้ยวหน้ากลับไปหาตัวช่วยแต่ดูเหมือนว่าเพื่อนรักที่ชะเง้อคอมองตามจะค่อยลับหายไกลออกไปทุกที กระทั่งหลุดพ้นประตูทางออก“คุณจะพาฉันไปไหน ไม่นะ ฉันจะไม่นอนกับคุณ”“ทำไมล่ะ เดียร์ติดหนี้ผมอยู่”“หนี้? หนี้อะไรกัน”เสียงหวานร้อนรนเอ่ยถามแล้วพลันหยุดชะงักเมื่อมองเห็นผู้ชายอีกคน ที่เธอคาดว่าเป็นผู้ช่วย วางคีย์การ์ดบนมือสีเข้มของอีธานแล้วร่างของเธอก็ปลิวลอยอีกครั้งตามแรงฉุดเข้าไปในลิฟต์
-25-nc จบบริบูรณ์อีธานกดศีรษะคนร่างเล็กลงจมฟูกแทนแล้วคว้าโทรศัพท์มาจากมือเล็กปัดรับสาย“ครับแม่ อีธานครับ เดียร์อยู่กับผมครับ ครับแม่ คงราวสามวันถึงจะได้กลับบ้านนะครับ ครับผมรับปากจะดูแลอย่างดีเลยครับแม่ สวัสดีครับ” พูดทั้ง ๆ ที่หอบหายใจหนักหน่วงซินเดียตาเบิกกว้างอยู่กับที่ ตัวดิ้นหนีแต่ได้แค่อึกอักดั่งปลาถูกกด เพราะมือแกร่งจับแน่นบนศีรษะ ท่อนล่างเสียบเสย หางตามองเห็นโทรศัพท์ถูกโยนตกมาตรงหน้า เขาวางสายแม่จันทร์นิลไปแล้ว“อีธาน คุณจะบ้าหรือไง นั่นคุณบอกอะไรแม่!”“อ่า แคบ หืมม์ แค่บอกเดียร์อยู่กับผมไง”“แต่ อ่า หยุดนะ อ่า อย่าเพิ่งกระแทกสิ อีธาน...”เสียงหวานขาดหายทันควันยามลำแกร่งเนื้ออุ่นสอดใส่เต็มลำรักกดแน่นคลึงเน้นก่อนกระทั้นถี่แรงขึ้น เขายืนบนพื้นให้หัวเข่าทาบขอบเตียงเป็นหลักขณะเสือกกายนำท่อนมังกรยักษ์สอดใส่ไม่ผ่อนปรนตับ ตับ ตับร่างระหงสั่นสะเทือนตามแรงตอกใส่ อีธานกระหนำลงร่องรักด้วยเรี่ยวแรงชายเต็มเปี่ยมไฟพิศวาสท่วมท้นทรวงอกอัดแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่พัดพากระพือภายในมาหลายวัน เขากำเส้นผมดกหนาไว้ในมือกดแน่นเพื่อส่งแรงให้ร่างเล็กใต้ตัวสั่นไหวไปพร้อมกับเขา ใกล้แตะจุดสุดยอดแล้วช
- 24 ncอีธานรัดคนร่างเล็กกว่าไว้แน่นขณะจับเอวคอดให้เคลื่อนไหวดั่งใจต้องการ อีกมือรั้งชุดเดรสลงอีกกองบั้นเอวก่อนบีบเคล้นคลึงเนินนมกระเพื่อมไหวตรงหน้า ปากล้วงลึกเสาะหาความหวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน หรือเป็นเพราะใจของเขาเองต่างหากที่กำลังพองโตลำแกร่งทะลวงขึ้นแทรกกลีบอ่อนนุ่มบอบบาง ต้องการส่งให้สาวด้านบนถึงฝั่งฝันอย่างรุนแรงและรวดเร็ว“เดียร์ อ่า คนดี อ่า แคบ รัด ซี้ดด”เขาผละปากออกส่งเสียงครางแล้วเลื่อนลงหายอดหัวชูชันเต่งตึง ดูดกลืนและขบกัด วนหาเต้างามอีกข้างทำเช่นเดียวกันแล้วค่อยปาดเลีย คลุกหน้าลงกลางทรวงอกเบี่ยงปากครอบเนื้ออ่อนนุ่มดูดดึงเขารู้ว่าทำเช่นนี้จะทำให้เนินทรวงเป็นรอยช้ำเขียว แต่มันช่างให้ความรู้สึกที่ดียามมองเนื้อนวลขาวตรงหน้าขึ้นสีจากฝีมือตัวเอง อีกมือบีบขยำเสียวร้าวทั่วหน้าท้อง - - และยังไม่ทันได้ถอดกางเกง“ใกล้หรือยังเดียร์ อ่า ใกล้เสร็จหรือยัง”อีธานละมือออกจากทรวงงามเลื่อนลงหน้าท้องบีบคลึงก่อนหงายมือลงซอกหลืบเปียกฉ่ำหวาน“อีธาน อ่า”ร่างระหงคุกเข่าขยับถี่เคลื่อนขึ้นลงรูดท่อนเนื้ออุ่นร้อนเร่งเร้าดั่งเช่นคนใต้ร่าง มือแกร่งกุมเนื้อสวาทนิ่มอูมลงแรงบีบก่อนเลื่อนนิ
-23-ncอีธานล้วงนิ้วเข้าถุงน่องคลึงเนื้อนิ่มโคนต้นขาใกล้จุดลี้ลับก่อนดีดเพียะ!!คราวนี้เป็นซินเดียที่สะดุ้งสุดตัวยามถุงน่องดีดลงเนื้อโคนขา“ดึงเสื้อลง แล้วผมจะปราณีอย่างที่สุด”ซินเดียพวงแก้มแดงซ่านสะท้านไปทั่วร่างยามสันจมูกจดลงหัวเข่าแล้วเลื่อนไต่ขึ้นจากนั้นจึงหยุดเงยหน้าขึ้น“ไม่กล้า?”ริมฝีปากกระจับสาดสีแดงเต็มอิ่มเม้มคว่ำทันที เอื้อมมือขึ้นตั้งใจดึงลงพลันมือแกร่งรั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน“ช้า ๆ เดียร์ ค่อย ๆ เปิด” ว่าพลางยืดกายกลับไปที่เดิมนั่งเอนกายเท้าแขนลงฟูก มองภาพงดงามตรงหน้าด้วยสีหน้าคนเหนือกว่าพร้อมรอยยิ้มมุมปาก“อ่า เอาลงอีก” น้ำเสียงกระเส่าอีธานใจเต้นแรงจับจ้องเนินเนื้อนมขาวผ่องกำลังถูกเปิดเปลือยออกทีละน้อย นิ้วเรียวทาสีแดงเช่นกันเกี่ยวขอบชุดเกาะอกไว้ขยับกระทั่งเต้าซ้ายหลุดออกผัวะ! เฮือก!“ชอบแบบนี้เหรออีธาน”“ใช่ ชอบมาก อ่า ลองลูบนมตัวเอง ไม่ ไม่ ทำแบบวันนั้น บีบหัว ขยี้น้อย ๆ”ซินเดียปากสั่นยามเลื่อนนิ้วลงหัวนมสีชมพู ส่งนิ้วชี้และหัวแม่มือบี้ปลายเล็กน้อยคลึงวน“อา เดียร์ ผมแย่แน่ ๆ”เธอยกแชมเปญกระดกอมไว้ในปากแล้วปล่อยให้มันไหลลงผ่านลำคอ ลากนิ้วพาน้ำรสแรงลงเข้าหาปลายยอ
- 22 - ncแอ๊ด...คลิก...อีธานเดินนำเข้าห้องชุดที่เขามาเปิดไว้ก่อนเข้าไปในผับเมื่อหัวค่ำ ตรงไปยังโซฟาหยิบขวดแชมเปญแช่น้ำไว้แล้วอย่างดีขึ้นมาเปิดป๊อก!!มือรินแชมเปญราคาแพงลงแก้วสองใบ ตาลอบสังเกตคนร่างเล็กกว่า จากนั้นจึงเดินไปยังหน้าต่าง รูดม่านออกพลางจิบน้ำสีเหลืองรสแรงไปด้วย ก่อนหันกลับมามองซินเดียตรง ๆ ที่ดูเหมือนยังยืนสับสนอยู่กลางห้อง“ส่วนตัวแล้วเดียร์” อีธานยกแก้วขึ้น อีกมือผายออกดวงตาคมกล้ายังจดจ้องมองร่างระหงกำลังขยับเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงหยิบแก้วแชมเปญยกดื่มรวดเดียวหมดก่อนรินอีกแก้วยกดื่ม“ระวังจะเมาแล้วพลาดของดีนะ”“คะ แค่ก ๆ ๆ”ด้วยความรีบร้อนยกดื่มทำให้ซินเดียสำลักเล็กน้อย เธอวางแก้วลงแล้วเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่กระทั่งห่างกันราวสามก้าว - - นี่เธอไม่ได้นับทุกครั้งหรอก แต่บังเอิญว่าสังเกตเห็นอีธานยกแก้วขึ้นจิบเอียงร่างพิงกระจก กวาดสายตาขึ้นลงเชื่องช้ามองร่างตรงหน้าใกล้หมดความอดทนเต็มทน โดยเฉพาะเจ้าตาข่ายสีแดงสานตลอดทั้งท่อนขางาม ทำเอาเขาอยากจะรู้ว่าส่วนบนมันไปสิ้นสุดที่ตรงไหน“ฉันพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไร”“พูดไม่ค่อยเก่ง..อ่า นั่นคงไม่จริง เมื่อครู่ตอนอยู่ในผับปากคุณค่อนข้าง
-21- ต่างระเบิดอารมณ์เขาดันร่างเธอไปด้านหลังใช้ร่างตัวเองบังไว้ พลางยืดกายตัวเองข่มคู่ต่อสู้ที่ร่างเล็กกว่า แต่ดูเหมือนว่าไอ้หมอนี่เองก็ไม่ยอม ทำท่าลุกขึ้นยืนแล้วจึงผงะถอยฉากเนื่องจากสูงเลยหัวไหล่อีธานมาเล็กน้อยเท่านั้นอีธานไม่พูดมากอะไรอีก หลุบตาลงมองผู้ชายร่างเตี้ยกว่าเย็นชาพิฆาตแล้วดึงข้อมือซินเดียออกเดินไปยังโต๊ะ“อีธานคะ เกิดอะไรขึ้น”เสียงหวานอ่อนนุ่มของนางแบบสาวทำให้ซินเดียชำเลืองมอง พลันโดนอีธานดันผลักออกให้ไปยืนข้างโบนิตา“ไม่มีอะไรหรอกลิซ สนุกต่อเถอะ คุณเฉินด้วยครับ ขอโทษด้วย”“แล้วนี่ใครกันครับ คุณอีธานไม่เห็นแนะนำให้รู้จัก”คิ้วเข้มกระตุกเบาแล้วค่อยเบือนหน้ากลับไปมองตัวต้นเหตุ ตัวปัญหาใหญ่ที่มาพร้อมชุดยั่วใจ เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ“แค่..พนักงานในบริษัท” เสียงเย็นชา“ฉันชื่อซินเดียค่ะ เรียกเดียร์ก็ได้ค่ะ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย”“ยินดีอย่างยิ่งครับ มาครับ ชนแก้ว”ซินเดียมองหาแก้วของตัวเองแต่ไม่มีเลยแย่งเอาแก้วจากมือเพื่อนรักโบนิตามาก่อน ยื่นไปตรงหน้าแกร้ง!!“ค่ะ ชนค่ะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ”อีธานคิ้วกระตุกอีกครั้ง ดูมาดสาวสังคมจัดชุดยั่วยวนยิ้มหัวร่อต่อกระชิกกับผู้ร่วมทุ
-20- ไม่รู้จะง้อยังไงแล้ว“อีธาน”ซินเดียเอ่ยเรียกทันทีขณะที่ประธานบริษัทหนุ่มกำลังเดินผ่านร่างเธอไป แต่ดูท่าท่านประธานจะยังงอนเพราะทำเพียงตวัดหางตาใส่จากนั้นเชิดหน้ากลับเดินออกห่าง - - ทำเป็นผู้หญิงไปได้ร่างระหงรีบโผออกจากมุมเสาออกเดินแกมวิ่งตามร่างสูงใหญ่ตรงหน้าแล้ววิ่งไปขวางทางยกมือกางออกทั้งสอง แหงนศีรษะขึ้นจ้องตา“ฉัน ฉันขอโทษ”เธอยื่นกล่องช็อกโกแลตขนาดเล็กให้แต่อีธานไม่รับ ยังคงหลุบตาก้มมองก่อนออกเดินเบี่ยงไปด้านซ้าย แต่ซินเดียก้าวเท้าขวางหน้าอีกครั้ง“อีธาน ฉันขอโทษที่พูดไม่ดี”คิ้วเข้มเริ่มขมวดแล้วก้าวไปด้านขวาพลันซินเดียก้าวขวางไว้อีกเช่นเดิม“ฉันพูดจากใจจริงนะ อีธาน คุณจะยกโทษให้ฉันได้ไหม”คราวนี้เขาก้มลงมองส่งสายตาเย็นชาให้แล้วจึงค่อยเปล่งเสียงทุ้มต่ำ“คุณไม่กลัวคนในบริษัทนินทาแล้วหรือเดียร์”“ไม่ ฉันไม่กลัวแล้ว อีธาน คุณหายโกรธฉันแล้วใช่ไหม”“ฮึ ผมจะไปมีสิทธิ์โกรธอะไรคุณกันเดียร์ ผมมันแค่ผู้ชายที่คุณเคยวันไนท์ด้วยเท่านั้น อ๋อ อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่ได้เปิดซิง”พวงแก้มทั้งสองข้างของซินเดียแดงซ่านระเรื่อลามถึงลำคอรีบหันมองซ้ายขวาก่อนผ่อนลมหายใจเมื่อไม่เห็นใคร“เห็นไหม คุณยังก
- 19 - ดอกไม้ง้อคนขี้น้อยใจแอ๊ด..คลิก..“อ้าว กลับมาตั้งแต่เมื่อไร”อลันจ้องไปทางโต๊ะทำงานตัวใหญ่ในเช้าวันจันทร์หลังจากที่บอสใหญ่หายตัวไปภูเก็ตหลายวัน“เห็นอยู่ว่ากลับมาแล้วจะถามไปทำไม”“แค่อยากรู้ อะไรกันตอนไปดูทีท่ามั่นอกมั่นใจ ขากลับไหงดูคล้ายหมาหงอย”ปึก!สันแฟ้มขนาดใหญ่พอสมควรกระแทกเข้าหน้าอกอลันเมื่ออีธาน คว้าได้ใกล้ตัวแล้วขว้างออกไป อารมณ์ยังหงุดหงิดคุกรุ่นยามคิดถึงวันก่อน“ทำเป็นอารมณ์เสีย แล้วนี่ซินเดียล่ะ ไม่กลับมาด้วยกัน”อีธานตวัดตาขุ่นเขียวมองเพื่อนที่ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวไปด้วย แล้วก้มหน้ามองตัวเลขที่ไม่เข้าหัวต่อไปกระทั่ง ...ก๊อก ก๊อกอลันหมุนเก้าอี้ไปทั้งตัวมองร่างเล็กของโบนิตาที่เดินเอียงอายเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ในมือ อลันรีบลุกขึ้นไปรับทันที“โบ คุณซื้อดอกไม้มาให้ผมเหรอครับ”“เปล่าค่ะ”“อ้าว..แล้วของใครกันครับ”โบนิตายิ้มน้อย ๆ แล้วส่งสายตาไปทางประธานบริษัทที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ“โฮ้.. นี่ของอีธานหรอกหรือ สาวที่ไหนกันนะซื้อดอกไม้มาให้ช่อใหญ่ขนาดนี้”อลันช่วยรับดอกไม้แล้วนำไปวางบนโต๊ะทำงานตรงหน้าอีธานก่อนจะหยิบการ์ดออกมาอ่านออกเสียง“ขอโทษนะคะ เดียร์”อลัน
-18- คำพูดเจ็บแสบ“สิบดอลลาร์ มันน้อยเกินไปสำหรับค่าแรงช่วยคุณเปิดซิง คุณมันตัวแสบเดียร์ อย่าคิดนะว่าหลังจากนี้ผมจะยอมให้คุณเที่ยวไปวันไนท์กับผู้ชายคนอื่นอีก”“อีธาน .. ใจเย็น ๆ เดียร์ โอ๊ย! อย่านะอีธาน พ่อกับแม่ อืออ”ภายในใจเขาร้อนรุ่มผิดปกติ อาจเพราะเธอน่ารัก เพราะความแสบ หรือเพราะหึงหวงทำให้เขาทำสิ่งนี้ลงไปต่อหน้าพ่อกับแม่ของซินเดีย - - ใช่แล้ว เขาคงบ้าไปแล้วมือแกร่งกระชากคนร่างเล็กกว่าจนปลิวกระแทกแผ่นอกแล้วโอบรัดเอวเล็กเธอไว้ โน้มใบหน้าลงประกบปากที่พ่นพูดคำเสียดแทงหัวใจ จ้องตอบดวงตาหวานคมกลมโตเบิกกว้าง มือตรึงท้ายทอยกดแน่นให้ซินเดียได้รับรสชาติเจ็บแปลบเช่นเดียวกันกับเขา“อืออ ตาบ้า อืออ หยุดนะ”อีธานกดแน่นกว่าเดิม ไม่ให้ปากกระจับเล็ดลอดเสียงใดได้นอกจากเสียงคราง สอดลิ้นชอนไชควานหาโหมแรงเสน่หาขึ้น รั้งร่างเล็กจนแอ่นโค้ง ไร้สติ - - คงเป็นคำนี้ อีธานคิดในใจทั้งสองหอบหายใจยามอีธานยอมปล่อยซินเดียในที่สุด ค่อยผละห่างทีละน้อย หันไปทางข้างในบ้านแล้วเอ่ยขึ้น“พวกท่านไม่อยู่แล้ว”“อื้อ อีธาน คุณมัน”เพียะ!!ตอนที่ฝ่ามือเล็กกระทบใบหน้าแกร่งกร้าว เธอสะเทือนร้าวไปทั้งตัวรวมถึงหัวใจ นัยน์ตารื
- 17 – พ่อกับแม่มา!!ซ่า ....เสียงฝนภายในยังตกพรำไม่หยุดแม้ว่าเวลาผ่านไปแล้วสามวัน ซินเดียตะแคงนอนขวางกลางเตียงหันหน้าออกไปทางระเบียง รอบเอวคือท่อนแขนสีเข้มพาดรัดไว้ ซุกหน้าเข้าหลังท้ายทอยปล่อยให้ลมหายใจอุ่นรินรดเธอเป็นจังหวะสม่ำเสมอ - - และทั้งเธอ เขาไร้เสื้อผ้าติดกายติ๊ดดด…ซินเดียขยับตัวเมื่อได้ยินเสียงสั่นของโทรศัพท์ดังมาจากพื้นห้องข้างเตียง เลื่อนตัวออกไปรับแต่ลำแขนกระชับดึงกลับ“อืมม ไม่ต้องรับ”“จะบ้าเหรออีธาน”“ไว้อีกสักสองสามวันค่อยรับ”ซินเดียไม่สนใจเสียงสั่งยังขยับร่างจนพ้นลำแขนพาร่างอ่อนเปลี้ยหมดแรงก้มลงมองหมายเลขโทรเข้า แล้วถึงกลับทะลึ่งตัวลุกพรวดนั่งหลังตรง“แย่แล้ว พ่อโทรมา”“ทำไมต้องแย่ด้วย โทรมาก็รับ”ซินเดียตวัดหางตามองร่างแกร่งที่บัดนี้นอนหงายแล้ว โชว์รูปร่างของตัวเองบนล่างเปลือยทั้งตัวหน้าไม่อาย ส่วนเธอดึงชายผ้าห่มลากติดมือไปด้วยขณะเดินไปรับสายที่ระเบียงด้านนอก“สวัสดีค่ะพ่อ”“หนูอยู่ไหนกันลูก”“หนูมาภูเก็ตไงคะพ่อ ลืมแล้วเหรอคะ”“แต่นี่มันหลายวันแล้ว พ่อเห็นหนูหายไปเลยโทรตาม”“หนูก็ ก็สบายดีค่ะ นอนเล่นอยู่ห้อง ไม่ได้ออกไปไหน”“พอดีเลย ถึงว่าหาไม่เจอ”“ฮะ ห๊า! อะไ