คำว่าโรคทางสมอง ทำให้คนในตระกูลจี้คิดถึงพี่ชายใหญ่จี้สืออวี้ ตอนนั้นเขาก็เสียชีวิตไปด้วยโรคทางสมองไม่คิดเลยว่าเวลาผ่านไปหลายปี จี้ซือหานก็เป็นโรคทางสมองเหมือนกัน มิหนำซ้ำยังเป็นเนื้องอกในกะโหลกศีรษะเป็นก็ว่าแย่แล้ว เขายังเลือกปิดบังเอาไว้ ไม่ยอมทำการรักษาด้วยการผ่าตัดหากไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุในครั้งนี้ คนในตระกูลจี้ก็ยังคงถูกปิดบังไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้อะไรเลยจี้รั่วซีที่มีความเป็นผู้ใหญ่และอารมณ์มั่นคงมาตลอด ได้ยินเรื่องนี้ ก็โมโหอย่างมาก"นี่มันไร้สาระชัดๆ!"เธอขมวดคิ้ว ถามรองผู้อำนวยการ "คุณกำลังจะบอกว่า เพราะมีเนื้องอกในกะโหลกศีรษะ แล้วยังได้รับการกระทบกระเทือนจากภายนอก เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ฟื้นงั้นสิ?"รองผู้อำนวยการก้มหน้า ตอบด้วยความสัตย์ "ตามที่หมอวินิจฉัย หากไม่ฟื้นขึ้นมาภายในสี่สิบแปดชั่วโมง มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ต่างอะไรกับคนตาย ยกเว้นแต่จะมีปาฏิหารย์ นอกจากนี้แม้จะฟื้นขึ้นมาแล้ว โอกาสที่อาการจะกำเริบ ก็มีเปอร์เซ็นสูงครับ..."จี้รั่วซีหยุดหายใจไปชั่วขณะ ใบหน้างดงามประณีต ค่อยๆถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำ แต่ไม่นานก็ทำจิตใจให้สงบ "นายน้อยรองของฉันถูกทำร้ายมาตั้งแต่
ตอนที่จี้เหลียงชวนรีบมาถึง ก็เป็นรุ่งสางของอีกวัน หลังจากได้รู้เรื่องราวทุกอย่างจากปากของจี้รั่วซี ก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้า"ไอ้หนิงรุ่ยเฉิงมันคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้าลงมือกับพี่รอง รอดูเถอะผมจะถลกหนัง หักกระดูกมันให้ตายไปข้าง!"จี้เหลียงชวนกัดฟันคำราม จากนั้นหมุนตัวเตรียมจะไปแก้แค้นหนิงรุ่ยเฉิง แต่กลับถูกจี้รั่วซีขวางเอาไว้"รออยู่เฉยๆ อย่าทำวุ่นวาย!"ตั้งแต่เด็กจนโตคนที่จี้เหลียงชวนกลัวที่สุด ก็คือพี่ใหญ่ พอถูกเขาตะเบ็งเสียงใส่ อารมณ์คุกรุ่นก็ค่อยๆเย็นลงจี้รั่วซีแผ่ออร่าสง่างามสูงศักดิ์ไปทั้งตัว มองจี้เหลียงชวนด้วยความสงบ "น้องเจ็ด นายเคยนั่งตำแหน่งท่านประธานแทนแล้ว ระยะนี้ ยังไงก็ต้องให้นายมาบริหารกลุ่มบริษัทจี้ก่อน จำไว้ว่า ห้ามเปิดเผยอาการของนายน้อยรองให้ใครรู้เด็ดขาด"ตอนนี้พี่รองยังนอนไม่ได้สติอยู่ในICU จี้เหลียงชวนจะมีกระจิตกระใจบริหารกลุ่มบริษัทจี้ได้ยังไง จึงอยากจะปฏิเสธทันทีแต่เห็นสายตาของจี้รั่วซีหันเห แววตาคมกริบมองซานซานตั้งแต่หัวจรดเท้า "เธอคือ?"ซานซานยังตกอยู่ในความคิดเรื่องที่หว่านหว่านถูกลักพาตัว เมื่อได้ยินคำถามของจี้รั่วซี ก็มึนงงเล็กน้อย...จี้เหลียง
ซูหว่านฟื้นขึ้นมาจากอาการเวียนหัว วินาทีที่ลืมตาขึ้น ก็พบว่าสถานที่ที่ตัวเองอยู่นั้นค่อนข้างคุ้นตาโคมไฟระย้าขนาดใหญ่หรูหรา สไตล์การตกแต่งแบบฝรั่งเศส หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน เป็นคฤหาสน์แถวสไตล์อังกฤษ และทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่นี่คือ...ประเทศอังกฤษ!วิลล่าของจิเหยียนโจวกับชูยี!ซูหว่านหยุดหายใจไปชั่วขณะ รีบยันร่างให่ลุกขึ้น หวังจากลงจากเตียง แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดกับความเหนื่อยล้า กลับทำให้เธอล้มลงกับเตียงทันควันเธอยกมือขาวนวลขึ้น นวดหน้าผากที่ตึงเครียด แล้วนึกย้อนอย่างละเอียดว่ามาที่อังกฤษได้ยังไง แต่นึกยังไงก็นึงไม่ออกจิเหยียนโจวที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ราวกับได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านใน ก็ลุกขึ้นจากโซฟา ยกแก้วน้ำบนโต๊ะ ยกฝีเท้าผละกประตูเข้าไปซูหว่านที่กำลังกุมหน้าผากอยู่ เห็นจิเหยียนโจวเดินเข้ามา คิ้วเรียวสวยก็ขมวดขึ้นทันที "คุณให้ฉันกินยาไปใช่ไหม?"เธอเวียนหัว สติไม่เข้าที่ ร่างกายอ่อนเพลียไปทั้งตัว มีแต่กินยาเท่านั้นที่จะทำให้เป็นแบบนี้ได้จิเหยียนโจวก็พูดอย่างไม่ละอาย "ฉันป้อนยานอนหลับให้เธอเป็นระยะๆ เป็นยังไง หลับสบายดีใช่ไหมล่ะ?"เขายืดอกยอมรับ
"เธอยังไม่รู้สินะ จี้ซือหานมีโรคทางสมอง เป็นเนื้องอกในกะโหลก..."เลือดสดๆบนหน้าผากของจิเหยียนโจว สาดลงบนระหว่างหน้าผากที่ซีดไร้สีเลือดของซูหว่าน เหมือนกับสีของดอกไม้เธอไม่แม้แต่กระพริบตา จ้องจิเหยียนโจวอย่างคนไร้ชีวิต เหมือนกับหุ่นกระบอกที่นิ่งอึ้งไม่มีลมหายใจ"เธอว่า เขาที่มีโรคทางสมองอยู่ แล้วยังถูกฟาดเข้าไปอย่างแรงตั้งหลายครั้ง ยังจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหรอ?"น้ำเสียงของจิเหยียนโจวที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นหรือตาย ดังสนั่นอยู่ในโสตประสาทหูเหมือนกับนาฬิกาโบราณ โหดเหี้ยมเจียนตายซูหว่านกำผ้าปูที่นอนด้านล่าง ความเย็นเฉียบจากศีรษะจรดเท้า ค่อยๆโจมตีเข้าสู่หัวใจ ทำให้เธอหนาวสะท้านไปทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้"สิ่งที่คุณพูด ฉันไม่มีทางเชื่อแม้แต่คำเดียว..."เขาเคยบอกแล้วว่าก็แค่ปวดไมเกรนเท่านั้น จะเป็นเนื้องอกได้ยังไง จิเหยียนโจวกำลังโกหกเธออยู่แน่"ไม่เชื่อ?"คิ้วเรียวของจิเหยียนโจวเลิกขึ้น แค่นหัวเราะเสียงเย็น"เธอไปสืบดูเอาก็ได้ ว่าฉายาเศรษฐีที่ร่ำรวยมีทรัพย์สินมากที่สุดในตอนนี้ของเธอมาจากไหน?"ซูหว่านมองจิเหยียนโจวอึ้ง ราวกับไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไรจิเหยียนโจวดึงรอยยิ้มที่
จิเหยียนโจวยืนอยู่หน้าประตู มองเธอจากไกลๆ เห็นในแววตาซื่อๆของเธอ ค่อยๆสูญเสียความหวังไปเรื่อยๆ สีหน้าก็หนักอึ้งเขาเดินเข้าไปตรงหน้าซูหว่านอีกครั้ง แล้วจับใบหน้าเล็กๆเท่าฝ่ามือเอาไว้ สายตาเย็นชามองต่ำไปที่เธอ "เธออยากไปตายเป็นเพื่อนเขา?"ซูหว่านช้อนดวงตาที่ถูกน้ำตาเคลือบเอาไว้ ไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับใช้ความเงียบแสดงออกถึงความยินดีของเธอจิเหยียนโจวอ่านความคิดของเธอออก จากนั้นก็ทำลายความหวังของเธออย่างย่อยยับ "อย่าฝันว่าจะได้ไปตายกับเขา เธอตายหนึ่งครั้ง ฉันก็จะช่วยเธอหนึ่งครั้ง!"ซูหว่านเงยหน้ามองเขา ในแววตาที่เคลือบน้ำตาอยู่ เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "ทำไม?"ทำไมแม้กระทั่งสิทธิที่จะไปตายกับเขา ก็ต้องมาชิงไป?!จิเหยียนโจวโน้มตัวลง เข้าใกล้ใบหน้าของซูหว่าน "ชาตินี้ของเธอต้องมีชีวิตอยู่เพื่อพี่สาวเท่านั้น!"ซูหว่านได้ยินประโยคนี้ ทันใดนั้นก็ยกมุมปากที่ซีดขาว หัวเราะออกมาจางๆ หัวเราะจนน้ำไหลหลั่งไหลไม่หยุดท่าทางของเธอที่ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้อย่างกับคนบ้า อยู่ในสายตาของจิเหยียนโจว ทำให้เขาสะงักไปชั่วขณะ "เธอหัวเราะอะไร?"ซูหว่านไม่ตอบ แต่คุกเข่าอยู่กับพื้น งอตัวม้วน เดี๋ยวร้องไห้
เพื่อป้องกันไม่ให้ซูหว่านฆ่าตัวตาย จิเหยียนโจวสั่งให้คนเอาโซ่มาล่ามมือกับเท้าทั้งสองข้างไว้กับเตียงหญิงสาวซึ่งนิ่งบนฟูกเตียง ราวกับไม่มีชีวิต ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแค่หันข้างไปมองทะเลกว้างใหญ่นอกหน้าต่างคนรับใช้ที่คอยรับใช้และเฝ้าไม่ให้เธอฆ่าตัวตาย ต่างก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นก็แต่ดวงตาของเธอมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด...เธอเอาแต่ร้องไห้ ทว่าไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา เงียบสงัดจนกระทั่งไม่มีเสียงหายใจอย่างคนมีชีวิตเป็นแบบนี้ติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์ เธอไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมกินน้ำ ราวกับหวังจะให้ตัวเองอดอาหารจนตายทั้งเป็น...จิเหยียนโจวไม่ยอมให้เธอตาย ให้สารอาหารเกลือแร่เข้าร่างกายเธอไม่หยุด เพื่อให้เธอที่ร่างกายเหี่ยวแห้ง ยังหายใจได้อยู่...ตอนที่จอร์จถอดถุงน้ำเกลือออก สัมผัสไปถึงดวงตาที่ว่างเปล่าคู่นั้นของซูหว่าน หัวใจก็กระตุกอย่างรุนแรงเขายกมือขึ้นโบกไปมาตรงหน้าเธอ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบสนอง ก็รู้ว่าดวงตาของเธอสูญเสียแสงสว่างไปแล้วจอร์จรีบหยิบยาสำหรับใช้รักษาดวงตาออกมาจากกล่องปฐมพยาบาล ยัดเข้าใส่ปากของเธอ แต่เธอไม่ยอมกลืม ถึงขนาดคายออกมาจอร์จอยากจะตำหนิเพื่อโน้มน้าวเธอ ก
สายตาของจิเหยียนโจว จับจ้องไปที่ร่างเล็กอรชรนั่น "เธอคิดถึงเขาขนาดนี้เลยหรอ?"ซูหว่านยังคงไม่ตอบ ใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกสักนิด เธอไม่ได้เห็นคนที่อยู่เบื้องหลังในสายตาจิเหยียนโจวเองก็ไม่ได้รำคาญอะไร ขาเรียวยาวนั่งประสานกัน เอียงศีรษะมองแผ่นหลังนั่น "ก่อนหน้านี้ฉันเคยถามเธอว่ารักจี้ซือหานไหม เธอบอกว่าไม่รัก ทำไมไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือน เธอถึงรักเขารักซะจนจะเป็นจะตายได้ขนาดนี้?"ราวกับรู้ว่าเธอจะรับมือด้วยความเงียบ ครั้งนี้จิเหยียนโจวไม่ได้รอ แต่ถามเองตอบเอง "เพราะเธอปากไม่ตรงกับใจ ทั้งๆที่ในใจของเธอรักเขา แต่ก็ไม่ยอมรับ ตอนนี้พลาดไปแล้ว แต่กลับอยากจะตายไปกับเขา แปลกคนจริงๆ..."เขาตำหนิซูหว่านในมุมมองบุคคลที่สามราวกับพระเจ้า จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างสงสัยอีก "แต่ก็มีเรื่องนึง ที่ฉันคิดยังไงก็คิดไม่ตก..."เขาคลายขาที่ไขว่ห้างออก ยืดตัวลุกจากโซฟสอีกครั้ง เข่าข้างนึงชันนั่งลงบนเตียง พลิกตัวของซูหว่านให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา"ฉันสืบเรื่องในอดีตระหว่างเธอกับจี้ซือหาน เขาให้เธอเป็นคนรักลับๆอยู่ห้าปี ตอนที่อยู่กับเธอ เขาก็ไม่ได้หวงแหนอะไรเธอ พอเลิกกันแล้วยังตบเธอครั้งนึง เป็นเหตุให
คนบนเตียงเริ่มอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ มาจนถึงขั้นที่ไม่รับสารอาหารอะไรแล้วจอร์จใช้เกลือแร่นานาชนิด เพื่อหวังจะยืดชีวิตของเธอออกไป แต่เธอไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตต่อแล้วตอนที่จอร์จสัมผัสเข้ากับดวงตามืดหมนไร้แสงสว่าง มือที่ช่วยจับสายน้ำเกลือให้ ทันใดนั้นก็ชะงักเขาดึงสายน้ำเกลือออก หมุนตัวไปหาจิเหยียนโจวที่เวลานี้กำลังเฝ้ามองเขา เพราะกลัวว่าเขาจะหลุดพูดอะไรออกไป"จิ เธอใกล้จะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว นายปล่อยเธอไปเถอะ..."จิเหยียนโจวที่นั่งพิงอยู่บนโซฟา กวาดตามองซูหว่านที่ไร้ซึ่งชีวิตด้วยความเฉยเมย"ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ต้องทำให้เธอมีหายใจต่อไป!""ทั้งๆที่นายก็รู้ว่าทางเดียวที่จะทำให้เธอยืนหยัดที่จะมีชีวิตอยู่ ก็มีแค่บอกเธอถึงความจริงที่ว่าจี้ซือหานยังไม่ตาย"ประเทศอังกฤษให้ความสำคัญกับความเป็นสุภาพบุรุษ จิเหยียนโจวทรมานผู้หญิงแบบนี้ จอร์จรับไม่ได้อยู่แล้ว แล้วก็ไม่อาจเข้าใจการกระทำของจิเหยียนโจวได้"นายต้องเข้าใจนะ ถ้าเธอตาย หัวใจของชูยีก็ต้องตายไปด้วย..."จิเหยียนโจวคลายขาที่ไขว่ห้างลง โน้มตัวลงเล็กน้อย ข้อศอกวางลงบนหัวเข่า มองใบหน้าที่ได้มาตราฐานตามฉบับชาวตะวันตกของจอร์จตรงๆ"เพ