ท้ายที่สุดแล้วฮาลซีย์ก็ยอมแพ้ในการกิน เธอได้แต่สั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและเริ่มดื่มมัน“คุณอิ่มแล้วเหรอ?”ฮาร์วีย์สงสัยฮาลซีย์พยักหน้าที่มืดมนของเธอเธอเห็นฮาร์วีย์ทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าของเขาและเคี้ยวอย่างหยาบคายเมื่อฮาร์วีย์กำลังจะทานอาหารเสร็จ ฮาลซีย์ก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์ บรรพบุรุษของเราได้กล่าวไว้ว่า มารยาทบนโต๊ะอาหารสามารถบ่งบอกบุคลิกของคน ๆ นั้นได้”“ฉันไม่ต้องเห็นการกระทำอื่น ๆ ของนายก็รู้แล้วว่านายเป็นคนเห็นแก่ตัวและนายมันไม่มียางอายแน่นอน!”“ถ้าฉันเดา แมนดี้จ่ายค่าเช่าบ้านที่พวกนายสองคนกำลังอยู่ด้วยใช่ไหม?”ฮาลซีย์รู้เกี่ยวกับเรื่องที่แมนดี้อาศัยอยู่ที่เดอะ การ์เด้น เรสซิเด้นท์อยู่แล้วฮาร์วีย์พยักหน้า“ใช่ เธอจ่ายค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินด้วย!”“นาย! ผู้ชายอย่างนายจะหน้าด้านได้ขนาดนี้เลยเหรอ?! คนอย่างนายเหมาะสมกับแมนดี้ได้ยังไง?!”ตอนนี้ร่างกายของฮาลซีย์กำลังสั่นด้วยความโกรธ“งั้น คุณคิดว่าผู้ชายแบบไหนที่คู่ควรกับเธอล่ะ?” ฮาร์วีย์ถามฮาลซียเปล่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจตอนที่ฮาร์วีย์ถามคำถามสำคัญกับเธอ“เขาก็ต้องมีที่ดินราคาอย่างน้อยร้อยล้าน ถ้าไม่เขาก็ไม่ค
หลังจากที่ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักพัก ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจหยุดวิธีคิดของฮาลซีย์จนได้แล้วเขาก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง “ฮาลซีย์ จากที่ผมรู้มา เจ้าชายยอร์กไม่ใช่คนเจ้าชู้อย่างนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก แม้กระทั่งถ้าคุณเข้าใกล้เขา”“อีกอย่าง เขาก็มีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว”“ในเมื่อคุณได้งานแล้ว ก็ตั้งใจทำงานซะ”“อย่าคิดเรื่องไร้สาระเลย”ฮาลซีย์เกือบจะสำลักกาแฟของเธอหลังจากที่ได้ยินฮาร์วีย์พูดทั้งหมดนั้นด้วยท่าทางจริงจัง‘ผู้ชายคนนี้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกเหรอ?’‘เขาไม่ได้แค่ไร้ค่า แต่เขายังดูถูกความโชคดีของคนอื่นอีก!’ฮาลซีย์ตอบกลับด้วยความโกรธอย่างไม่ลังเล “ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายยอร์กและฉันไม่ใช่เรื่องของนาย!”ฮาร์วีย์ถอนหายใจ“ฮาลซีย์ นี่คุณอยากให้ผมพูดตรง ๆ เหรอ?”“ผมไม่ได้ชอบคุณ”พรืดด!ฮาลซีย์เกือบสำลักออกในตรงนั้น เธอกัดฟันและตัวสั่นไปด้วยความโกรธ“นี่นายกำลังบอกว่านายเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและเจ้าชายยอร์กเหรอ?”“ทั้งคู่” ฮาร์วีย์พูดอย่างจริงจัง“นาย!”ตอนนี้ฮาลซีย์หมดคำพูดผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายมาก! ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาละอายใจได้บ้างเลยเขายังอ้างเพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูดีว
อีกด้านหนึ่งของปลายสาย แมนดี้ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะก่อนที่จะปฏิเสธข้อเสนอของฮาลซีย์ “ฮาลซีย์ ฉันรู้ว่าเธอกำลังทำเพื่อฉัน แต่ฉันแต่งงานกับฮาร์วีย์มามากกว่าสามปีแล้ว ตอนนี้ฉันตกหลุมรักเขาและไม่ต้องการหย่าแล้ว”“เธอ…”ตอนนี้ฮาลซีย์ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่ออีก เพื่อนรักของเธอคงจะถูกฮาร์วีย์ล้างสมองไปแล้วใช่ไหม?ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ฮาลซีย์จะต้องหาทางยุให้ฮาร์วีย์ขอหย่าฮาลซีย์ทำได้เพียงแค่กัดฟันของเธอพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในร้านอาหารเพื่อหาฮาร์วีย์แต่เขาได้ออกไปแล้ว…มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกหนึ่งในสิบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศ ว่ากันว่าจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัยที่นี่ยอดเยี่ยมมาก นักศึกษาที่นี่ต่างเป็นบุคคลทั่วไปจากมอร์ดูและซานฟรานซิสโกในระหว่างที่ฮาร์วีย์เดินเล่นอยู่ด้านใน เขาไม่ได้เห็นอะไรน่าสะดุดตาสักเท่าไหร่ เขากลับรู้สึกว่าที่นี่คนน้อยและยังมียุงเต็มไปหมดแต่สภาพแวดล้อมอย่างนี้ทำให้ฮาร์วีย์รู้สึกมีสมาธิและนึกถึงเรื่องบางอย่างถึงแม้ว่าบัควู้ดจะไม่ได้ดูเป็นรัฐที่ดีสักเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกว่ามีกระแสบางอย่างที่แรงกล้าที่เขาไม่สามารถมองเห็น ก่อนหน้านี้เขายุ่งเกี่ยวกั
“นาย…”“กล้าดียังไง!”ฮาลซีย์เกือบจะกัดลิ้นของตัวเอง เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีผู้ชายที่ไร้ยางขนาดนี้อยู่ด้วย!และคิดว่าเขากล้าคิดกับเพื่อนสนิทภรรยาของเขาอย่างนี้ได้อย่างไร!ผู้ชายแบบนี้ไม่ควรมีอยู่บนโลก!ต่อมาฮาร์วีย์ก็พูดเสริม “เห็นไหมว่าคุณยังไม่สามารถสนองเงื่อนไขง่าย ๆ แบบนี้ได้เลย ผมไม่คิดว่าเราจะพูดเรื่องนี้ได้อีกต่อไปอีกแล้ว”ฮาร์วีย์ไม่ได้กำลังแกล้งฮาลซีย์ แต่เขาต้องการที่จะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแมนดี้จะสนิทกันขนาดไหนหน้าของฮาลซีย์ถอดสีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา เธอกัดฟันของเธอ“ได้! ฉันยอมก็ได้!”“แต่นายต้องสัญญาว่านายจะหย่ากับแมนดี้หลังจากนั้นทันทีและนายก็ห้ามไปตอแยเธออีก!”“แล้วก็ นายจะต้องทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเรา!”“ฉันจะให้เงินนายอีกร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์เพื่อเป็นค่าตอบแทน!”ฮาลซีย์พูดราวกับเธอเป็นซีอีโอที่ดุร้ายฮาร์วีย์นิ่งไปหลังจากที่เขาได้ยินเธอพูดถ้อยคำเหล่านั้นด้วยท่าทีที่ไม่ยอมแพ้!ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับแมนดี้ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างดีทีเดียวเธอยังกล้ารับเงื่อนไขแบบนี้เพื่อแมนดี้แต่ในสายตาของเธอฮาร์วีย์ดูน่าเหลือ
“คุณเรย์วางใจเถอะค่ะ ฉันต้องการเพียงแค่สามวันที่จะเตรียมการเบื้องต้นให้เสร็จสิ้นค่ะ” ฮาลซีย์พูดเด้วยน้ำเสียงจริงจังเธอได้ยินเรย์พูดว่าเจ้าชายยอร์กจะดูแลโครงการของเธอจึงทำให้เธอดีใจและตื่นเต้นในที่สุดเธออาจจะได้เจอกับเจ้าชายยอร์กก็ได้!“ฮึ่ม! ฮาร์วีย์ นายบอกเองนะว่าเจ้าชายยอร์กไม่สนใจฉันและบอกว่าเขามีผู้หญิงที่เขาชอบอยู่แล้ว!”“แต่ถ้าเขายอมที่จะดูแลฉันนั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาชอบฉันจริง ๆ ก็ได้!”จากนั้นฮาลซีย์ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณเรย์คะ เจ้าชายจะมาซานฟรานซิสโกเมื่อไหร่เหรอคะ? ฉันเจอเขาได้ไหม?”เรย์หัวเราะ“ทำไมถึงรีบนักล่ะครับ? ช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่ง แต่เขาต้องให้รางวัลคุณด้วยตัวเองแน่ถ้าคุณจัดการกับโครงการนี้อย่างดี”“ถ้าตอนนั้นมาถึง มันจะไม่มีการประชุมใด ๆ เกิดขึ้น”หลังจากได้ยินคำพูดของเรย์ ฮาลซีย์ก็ให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบ ๆ ‘นี่ฮาลซีย์! นี่เป็นโอกาสที่จะคว้าผู้ชายในฝันของเธอนะ!’ฮาลซีย์เริ่มลงมือในการหาไซต์งานก่อสร้างและการจัดตั้งโครงการผู้บริหารระดับสูงในบริษัทแห่งนี้ยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีศักยภาพจริง ๆ ในฐานะผู้เรียน เพื่อนหรือผู้ใหญ่ในสถานที่อย่าซาน
ควินนี่ ยอร์กหัวเราะออกมาเบา ๆ เธอค่อนข้างทัศนคติของแซม เบเกอร์เพราะเขาเข้าใจส่วนได้ส่วนเสียของตัวเองดีปกติแล้วคนแบบนี้มีศักยภาพและมีความทะเยอทะยานและเธอก็ชอบใช้งานคนแบบเขามากที่สุด“ฉันมั่นใจว่านายคงเคยได้ยินสกาย คอร์ปอเรชั่นมาบ้างใช่ไหม?”ควินนี่เก็บนิ้วของเธอพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนแซมยังไม่กล้าที่จะเปิดตาของเขาและพูดอย่างตั้งใจ “ผมเคยได้ยินครับ สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกของพวกเขากำลังวางแผนที่จะคืนทรัพย์สินในกังนัมและพวกเขาต้องการสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ใจกลางซานฟรานซิสโก”จากนั้นควินนี่ตอบกลับ “ฉันหวังว่าห้างสรรพสินค้าของพวกเขาจะไม่มีวันเกิดขึ้น ตลอดไป”“ได้ครับ!”แซม เบเกอร์ไม่ได้ตั้งคำถามกับเธอเลยและหัวของเขายังคงก้มลงในเวลาต่อมาเมื่อเสียงของฝีเท้าได้เดินห่างออกไป เขาก็ค่อย ๆ เปิดตาของเขาพร้อมกับมีสีหน้าที่มืดหมอง “พายุกำลังจะเกิดขึ้นกับซานฟรานซิสโก แต่นี่อาจเป็นโอกาสให้กับตระกูลเบเกอร์ สกาย คอร์ปอเรชั่นเหรอ...น่าสนใจดีนิ”แซม เบเกอร์พึมพำกับตัวเองในขณะที่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป…ที่ดินที่ฮาลซีย์เลือกเป็นห้างสรรพสินค้าเก่าที่ถูกทิ้งร้าง สถานที่แห่งนี้ถูกท
ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจจิมมี่และเริ่มพลิกหน้ากระดาษเพื่ออ่านรายละเอียดในสัญญาทันทีพรึบ!ลูกน้องของจิมมี่เดินไปตบสัญญาของฮาร์วีย์ลงกับพื้น พวกเขาตะโกนอย่างเดือดดาล “จะเซ็นหรือไม่เซ็น? ถ้าคุณไม่เซ็น คุณก็จะไม่มีทางได้มีชีวิตออกจากประตูนี้ได้!”ฮาร์วีย์หัวเราะ“นี่คุณพยายามบังคับให้ซื้อที่นี่อยู่เหรอ?”จิมมี่สูบซิการ์ของเขาและตอบกลับอย่างใจเย็น “นี่พี่ชาย คุณไม่ควรพูดจาไร้สาระยังไงก็ได้นะ ผมเป็นนักธุรกิจจริง ๆ ผมจะบังคับคุณได้ยังไง? ผมก็แค่ไม่ชอบที่ทำเป็นเล่นมากเกินไป”“เซ็นสัญญาตอนที่ผมยังอารมณ์ดีดีกว่า”ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจจิมมี่ เรย์หยิบสัญญาขึ้นมาและรีบอ่านอย่างรวดเร็ว ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันทีและค่อย ๆ กระซิบ “คุณยอร์กครับ สัญญาฉบับนี้ไม่ถูกต้องครับ”“ราคาที่เราตกลงกันคือเจ็ดร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ แต่นี่มันมีเลขศูนย์เพิ่มมาอีกตัวในสัญญา ตอนนี้มันเจ็ดพันห้าร้อยล้านแล้วครับ”ฝูงชนต่างอ้าปากค้างหลังจากที่ได้ยินราคาบังอาจมาก!ภายในพริบตาเดียว ราคาได้เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!เวนดี้ เซอร์เรลเอาสัญญามาอ่านอีกครั้งพร้อมกับขมวดคิ้ว“ประธานจอห์นคะ ฉันว่าสัญญาฉบับนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้องค่
จิมมี่ตอบกลับอย่างไร้เดียงสา “ทุกคน นี่ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ผมไม่ยอมคืนเงิน ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น!”“เมื่อวานผมไม่ได้คุยกับคุณเลยและไม่ได้เอาเงินของคุณไปด้วย!”“ทำไมคุณไม่ไปตามหาคนที่เอาเงินค่ามัดจำของคุณไปแทนล่ะ?”ฝูงชนตกใจหลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาหันไปมองด้านหลังของจิมมี่โดยไม่รู้ตัวคนที่พวกเขาเคยคุยด้วยไม่ได้อยู่ที่นี่ผู้อาวุโสระดับสูงต่างมองหน้ากัน จากนั้นเวนดี้ เซอร์เรลก็ได้หยิบเอาใบเสร็จของวันก่อนออกมาวางไว้บนโต๊ะและเปล่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา “ประธานจอห์นคะ บนใบเสร็จมีลายเซ็นและตราประทับของบริษัทอยู่ค่ะ”จิมมี่ตบหน้าผากของตัวเองและพูด “ผมจำได้แล้ว ไม่นานมานี้มีมิจฉาชีพปรากฏตัวขึ้นในซานฟรานซิสโก”“หน้าตาของตราประทับคล้ายกับของเราอย่างมาก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นของปลอม ผมไม่ได้เป็นคนเอาเงินของคุณไปนะ”“เราควรช่วยคุณแจ้งความกับเจ้าหาที่เพื่อตามหาพวกเขาหรือเปล่า?”จิมมี่ดูเหมือนว่าเขากำลังมีน้ำใจแต่คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของทุกคนดูย่ำแย่พวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขาไม่มีทางเชื่อคำโกหกแบบนี้อย่างแน่นอนไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีบางคนในอุตสาหกรรมธุรกิจจะยุ่งเกี่ยว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข