สตีเฟ่นยิ้ม “ลูกพี่ลูกน้องที่รัก ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว ทำไมคุณไม่ทำใจสบาย ๆ สักสองสามวันล่ะ? บางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่สามารถรีบร้อนได้” คริสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับอย่างช้า ๆ “สตีเฟ่น นายก็รู้ว่าฉันมาที่นี่ทำไม” “ถ้าเราล้มเหลว ทั้งนายและฉันจะต้องลำบากเป็นอย่างมาก” "แน่นอน" สตีเฟ่นยิ้มอีกครั้ง “ในกรณีนี้ ฉันจะส่งคนไปเชิญพวกซาเวียร์” "ดี" “ฉันจะจัดการทุกอย่าง นายแค่ต้องแสดงตัวเท่านั้น” สตีเฟ่นหัวเราะคิกคัก คริสไม่ได้พูดอะไรอีก และออกจากสนามบินไปอย่างสุขุมท่ามกลางฝูงชนมากมาย แม้ว่าเขาจะเป็นบุคคลที่ทรงพลังอำนาจมาก แต่เขาก็รู้ว่าถ้าหากเขาล้มเหลวในภารกิจ เขาจะจบไม่สวยแน่ ๆ … ณ ทะเลสาบสีมรกตในบัควู้ด ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลซาเวียร์ ตระกูลซาเวียร์ไม่ใช่ตระกูลดั้งเดิมของบัควู้ด พวกเขามาจากโวลซิ่ง หลังจากที่เชลดอน ซาเวียร์กลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ ครอบครัวของเขาก็อพยพจากโวลซิ่งมาที่นี่ แต่เชลดอนเป็นคนสุขุม นั่นเป็นสาเหตุที่ตระกูลซาเวียร์ไม่ได้โด่งดังมากนักในเซาท์ไลท์ ผู้คนที่มาชุมนุมกันที่สถานที่พบปะของตระกูลซาเวียร์อันเงียบสงบในวัน
อดัมยิ้มเมื่อเห็นอีวอนน์ “อีวอนน์ มาทันเวลาพอดีเลย! ทุกคนกำลังพูดถึงเธออยู่” “ในที่สุด สาวน้อยก็เติบโตเป็นหญิงสาวที่พร้อมจะมีครอบครัว!” “นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วที่ชายหนุ่มรูปงามส่งการ์ดคำเชิญดูตัวมาให้เธอ!” ขณะที่เขาพูด อดัมก็ถ่ายรูปสองสามภาพแล้ววางมันลงบนโต๊ะน้ำชา “มา มา มา มาดูนี่สิ! นี่คือเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอ คริส ลีโอ นี่คือชายจากตระกูลดังอย่างตระกูลเซอร์เรย์ ลุค เซอร์เรย์ นี่คือชายที่รูปงามแห่งตระกูลร็อบบินส์ ออสการ์ ร็อบบินส์ คนนี้คือชายที่เพรียบพร้อมแห่งตระกูลคลาวด์ เดคแลน คลาวด์ และนี่คือชายจากตระกูลที่มั่งคั่งฟินน์ เยตส์…” “พวกเขาทั้งหมดเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและมีความสามารถมากมาย ไม่ว่าเธอจะเลือกใครก็จะเป็นการดีสำหรับตระกูลของเรา” อย่างไรก็ตาม อีวอนน์ไม่ได้ละสายตาจากภาพถ่ายนั้นเลย เธอกลับมุ่งหน้าไปหาเชลดอนและพูดขึ้นว่า “คุณปู่ คุณควรรู้เอาไว้ว่าหนูจะไม่ยอมแต่งงานกับใครทั้งนั้น” เชลดอนถอนหายใจออกมา “ทำไมปู่จะไม่เข้าใจความรู้สึกของหลานรักล่ะ? แต่หลาย ๆ ตระกูลที่อยากจะมาขอหลานแต่งงาน แม้แต่คนอย่างปู่เองก็ยากที่จะสามารถปฏิเสธทุกคนได้” “เราได้ทำให้ตระกูลอื่น ๆ
“แล้วไง?” “เจ้าชายยอร์กไม่แม้แต่จะมองมาที่เธอ! เธอติดตามเขามานานหลายปีแล้ว แต่เธอกลับยังไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอีก!” “ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากเจ้าชายลีโอสงสารและหันความสนใจมาที่เธอ เธอควรรักษาโอกาสนี้เอาไว้นะ!” “เธอควรขอบคุณสวรรค์ที่เขาไม่ได้เห็นเธอเป็นเพียงแค่ของเล่น กล้าดียังไงจะไปปฏิเสธข้อเสนอดูตัวพร้อมแต่งงานของคนอย่างเขา!” “เธอหน้าด้านหน้าทนขนาดนั้นเลยเหรอ?!” เมื่อได้ยินคำพูดของอีวาน เหล่าตระกูลซาเวียร์ที่เหลือต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขามองไปที่อีวอนน์ราวกับว่าเธอเป็นเหมืองทองคำ หากเธอตกลงที่จะแต่งงานกับคริส ลีโอ ผลประโยชน์ที่เหล่าตระกูลซาเวียร์จะได้รับนั้นจะเกินกว่ากว่าจินตนาการของคนทั่ว ๆ ไปอย่างแน่นอน “โอ้ อีวอนน์ ฉันจะเตือนเธอด้วยความหวังดีนะ เป็นผู้หญิงก็หัดรักตัวเองบ้าง…” “พูดถึงเจ้าชายยอร์กที่ไม่เคยชายตามองเธอเลย เขาเพิ่งถูกปฏิเสธต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในขณะที่ขอแต่งงานนังผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?” “แม้ว่าเขาจะถูกปฏิเสธ แต่เขาก็ยังไม่เคยนึกถึงเธอเลย” “อีวอนน์ แม้ว่าเธอจะไม่คิดอะไรเกี่ยวกับตระกูลของเรา แต่ก็ขอให้คิดถึงตัวเธอเองบ้าง”
ณ โรงเรียนมัธยมบัควู้ด หัวของซีนเธียร์ ซิมเมอร์ก้มต่ำขณะที่เธอก้าวเท้าอย่างเร่งรีบราวกับว่าเธอกำลังหนีจากบางสิ่งอยู่ เมื่อเธอไปถึงทางเข้าโรงเรียน ก็มีเด็กผู้หญิงสองสามคนยืนขวางทางเธออยู่ “เธอวิ่งทำไมเหรอ ซีนเธียร์? จะรีบไปไหน! ตอนนี้เธอไม่ได้ไปพบปะกับเหล่าชายชราเพื่อแลกกับเงินแล้วใช่ไหม หรือว่ายังทำอยู่?” “ฉันล่ะไม่อยากที่จะเชื่อเลย! เธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ว่านอนสอนง่าย อีกทั้งเธอยังไม่ยอมรับคำสารภาพรักของใครเลย แต่กลับมาหาเงินด้วยวิธีแบบนี้ ฉันไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ นะว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่สกปรกแบบนี้!” “เธอสามารถบอกพวกเราได้นะถ้าหากว่าเธอขาดแคลนเงิน เราสามารถช่วยบรรเทาความเครียดของเธอได้ ไม่จำเป็นต้องลดระดับตัวเองให้มาถึงจุดนี้!” ผู้หญิงเหล่านี้มีความสัมพันธ์ที่แย่มาก ๆ กับซีนเธียร์ ซีนเธียร์ไม่เคยสนใจเด็ก ๆ ในชั้นเรียนของเธอเลย โดยเฉพาะหลังจากงาน KTV มีเพียงพี่เขยของเธอเท่านั้นที่อยู่ในใจของเธอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงปฏิเสธเด็กผู้ชายสองสามคนที่ถือว่ายอดเยี่ยมมากในโรงเรียน ด้วยเหตุนี้ เด็กสาวสองสามคนจึงอิจฉาริษยาซีนเธียร์เป็นอย่างมาก หากพวกเขามีโอกาส พ
ซีนเธียร์ เธอไม่ใช่คนที่โง่ เธอรู้ดีว่าถ้าเมื่อไหร่ที่คลิปวิดีโอถูกแพร่ออกไปจะทำให้ข่าวลือและคำนินทาไม่มีวันจบสิ้น“เราไม่มีอะไรบาดหมางกันหนิ ทำไมเธอต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย?!”ซีนเธียร์ไม่เข้าใจ“เธอรู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงอย่างเธอก็ไม่ต่างอะไรจากหนูสกปรกข้างถนน? เธอสมควรจะถูกทุกคนประณาม!”“ตั้งแต่ที่เธอมีชายแก่คอยอุปถัมภ์เธอ เธอก็ได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงเรียน! ฉันจะลงโทษเธอแทนเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเอง ฉันจะต้องมีเหตุผลอื่นอีกด้วยเหรอ?”เยเลน่า เซอร์เรย์จ้องมองซีนเธียร์ด้วยใบหน้าที่แสนรังเกียจ เธอไม่มีทางที่จะเปิดเผยความตั้งใจของเธอให้รู้แน่นอนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกำลังสนุกกับเรื่องทั้งหมดอยู่ใบหน้าของซีนเธียร์มัวหมองลง ไม่มีใครที่คอยช่วยเธอและเธอก็ไม่สามารถที่จะแย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเซเลน่ามาได้ยอมรับว่าเงื่อนไขของเยเลน่า เซอร์เรย์นั้นเป็นสิ่งที่เทียบเท่ากับการมีอำนาจใหม่กับตัวเธอเองเมื่อไหร่ก็ตามที่คลิปถูกแพร่ออกไปซีนเธียร์ก็คงจะรู้สึกเหงามากกว่าเดิมเธอควรจะต้องทำอย่างไรดี?ซีนเธียร์หยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองออกมาและคิดจะโทรออกไปยังเบอร์ที่เธอคุ้นเคยที่สุดแ
เมื่อฮาร์วีย์และซีนเธียร์เข้ามาด้านในของรถ เขายังไม่สตาร์ทรถทันทีแต่หันไปขมวดคิ้วใส่เธอแทน“ซีนเธียร์ บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเด็กผู้หญิงพวกนั้นถึงแกล้งคุณ?”คำถามของเขาทำให้ซีนเธียร์รู้สึกผิด“พี่เขยจำเหตุการ์ที่เคทีวีได้ไหม? หลังจากเหตุการณ์นั้นฉันก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนของฉันอีก”“แต่หลังจากวันนั้นผู้ชายที่ชื่อว่าเชนก็ยังคงตามตื้อฉันอยู่ เขาสารภาพกับฉันต่อหน้าคนมากมายประมาณสองสามครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งฉันก็ปฏิเสธเขา”“เพราะอย่างนี้เยเลน่าถึงเริ่มเกลียดฉัน ฉันได้ยินมาว่าเธอชอบเชน”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วของเขาและพูดไม่ออกหลังจากที่ได้ยินเรื่องทุกอย่างเขาใช้เวลาสักพักถึงจะนึกออกว่าเชน ชอว์คือใคร‘เขาเป็นเด็กที่ฉันบังเอิญเจอตอนที่ฉันกำลังไปรับเธอจากเคทีวีเพื่อกลับบ้านเหรอ?’‘และเยเลน่า...’‘อะไรกันเนี่ย?’‘ละครน้ำเน่าระหว่างเพื่อนเหรอ?’“ทำไมเรื่องธรรมดา ๆ ถึงบานปลายได้ขนาดนี้?”ฮาร์วีย์คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากการกระทำของเยเลน่าที่เขาเห็นวันนี้ เรื่องเล็ก ๆ ของเด็กมัธยมเหล่านี้ไม่ควรจะมาถึงจุดที่รุนแรงอย่างนี้ซีนเธียร์ตอบกลับพร้อมกับกัดฟัน “เพราะว่าเยเลน่า! เธอเอาแต่พ
ครูประจำชั้นแสดงท่าทีแน่วแน่ เธอรู้ว่าซีนเธียร์เป็นนักเรียนที่ถูกโอนย้ายมาและซีนเธียร์ยังเป็นลูกศิษย์ที่ขยันกับตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก เพราะเหตุนี้เธอจึงคัดค้านความคิดที่จะไล่ซีนเธียร์ออก“อาจารย์ใหญ่คะ! เหตุการณ์นี้เป็นแค่ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนนะคะ อาจารย์ไม่ควรไล่นักเรียนดี ๆ ออกเพราะเหตุผลเล็ก ๆ นะคะ!”หลังจากที่ฟังสิ่งที่ครูประจำชั้นได้พูดออกมาทำให้แม่ของเชน ชอว์ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ“เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ? คุณเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการเข้าใจผิดได้ยังไง?!”“เชนเป็นนักเรียนโดดเด่น! ฉันเลี้ยงดูเขามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันเอง!”“มันเป็นเกียรติให้กับเขาและพวกเราที่เลดี้เซอร์เรย์ชื่นชอบเขา!”“แม้แต่ผู้เป็นพ่อและแม่ก็ยังรู้ว่าเขาเหมาะสมกับเธอ!”“แต่แล้วนังเด็กสำส่อนต่ำช้าอย่างซีนเธียร์ ซิมเมอร์ก็อยากที่จะครอบครองเงินทั้งหมดของตระกูลชอว์เพื่อขยับขึ้นมามีลำดับในสังคม!”“เพราะอย่างนี้เธอถึงต้องการจะทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองคน!”“นักเรียนแย่ ๆ อย่างเธอควรถูกไล่ออก!”เหตุผลของเธอมีความลำเอียงอย่างเห็นได้ชัดเรื่องเล็กน้อยระหว่างนักเรียนทั้งสองกำลังบานปลายจนถึงขั้นที
คำกล่าวหาที่แม่ของเชนพูดทำให้ให้มิสยูนาผู้งดงามและมีเสน่ห์สั่นสะท้านด้วยความโกรธเพราะความใจดีที่มาพร้อมกับดวงตาที่สวยและร่างกายที่เย้ายวนของเธอทำให้เกิดการนินทาเธออยู่ทุกที่เป็นประจำแต่มิสยูนาเป็นคนที่มีคุณธรรมที่ดี ผู้หญิงเช่นนี้จะถูกซื้ออย่างนั้นได้อย่างไรในเมื่อเธอยังไม่ได้ตกหลุมรักเลย?มิสยูนาไม่สามารถอดกลั้นความโกรธของเธอไว้ได้อีกต่อไป“ระวังคำพูดของพูดด้วยค่ะ มิสซิสชอว์!”“หยุดพูดเรื่องไร้สาระสักทีค่ะ!”“ถ้าคุณไม่มีหลักฐานอะไร ฉันจะฟ้องคุณด้วยข้อหาหมิ่นประมาทค่ะ!”“ฟ้องฉันอย่างนั้นเหรอ? เอาเลยสิ!”แม่ของเชนทำตัวไร้ยางอายอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงสำส่อนแล้วทำไมเธอถึงต้องปกป้องนังเด็กสำส่อนซีนเธียร์ ซิมเมอร์ด้วย?”“ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าครูสกปรก ๆ อย่างเธอที่ทำให้ลูกศิษย์แบบลูกชายของฉันได้มีโอกาสเกิดมายังไงล่ะ!”“เธอกล้ามาฟ้องฉันได้ยังไง? เธอไม่มียางอายบ้างเลยเหรอ?!”มิสยูนาโกรธมากจนเธอสามารถระบุเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ได้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความอิจฉาริษยาของเด็กนักเรียนและไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงอะไรแต่แม่ของเชนทำให้ซีนเธียร์ ซิมเมอร์กลายเป็นหญิงสำส
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข