คำกล่าวหาที่แม่ของเชนพูดทำให้ให้มิสยูนาผู้งดงามและมีเสน่ห์สั่นสะท้านด้วยความโกรธเพราะความใจดีที่มาพร้อมกับดวงตาที่สวยและร่างกายที่เย้ายวนของเธอทำให้เกิดการนินทาเธออยู่ทุกที่เป็นประจำแต่มิสยูนาเป็นคนที่มีคุณธรรมที่ดี ผู้หญิงเช่นนี้จะถูกซื้ออย่างนั้นได้อย่างไรในเมื่อเธอยังไม่ได้ตกหลุมรักเลย?มิสยูนาไม่สามารถอดกลั้นความโกรธของเธอไว้ได้อีกต่อไป“ระวังคำพูดของพูดด้วยค่ะ มิสซิสชอว์!”“หยุดพูดเรื่องไร้สาระสักทีค่ะ!”“ถ้าคุณไม่มีหลักฐานอะไร ฉันจะฟ้องคุณด้วยข้อหาหมิ่นประมาทค่ะ!”“ฟ้องฉันอย่างนั้นเหรอ? เอาเลยสิ!”แม่ของเชนทำตัวไร้ยางอายอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงสำส่อนแล้วทำไมเธอถึงต้องปกป้องนังเด็กสำส่อนซีนเธียร์ ซิมเมอร์ด้วย?”“ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าครูสกปรก ๆ อย่างเธอที่ทำให้ลูกศิษย์แบบลูกชายของฉันได้มีโอกาสเกิดมายังไงล่ะ!”“เธอกล้ามาฟ้องฉันได้ยังไง? เธอไม่มียางอายบ้างเลยเหรอ?!”มิสยูนาโกรธมากจนเธอสามารถระบุเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ได้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความอิจฉาริษยาของเด็กนักเรียนและไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงอะไรแต่แม่ของเชนทำให้ซีนเธียร์ ซิมเมอร์กลายเป็นหญิงสำส
“ใครเป็นอาจารย์ใหญ่ของที่นี่?!”ฮาร์วีย์จ้องมองหญิงขี้โมโหผู้เป็นแม่ของเชนด้วยสายตาที่เย็นชา เขาเคยเห็นผู้หญิงแบบเธอมามากมายและผู้หญิงแบบนี้ทำให้เขารู้สึกรำคาญไม่ได้“ฉันเอง! นายเป็นใครถึงกล้าเข้ามาทำอวดดีในห้องประชุมของโรงเรียนอย่างนี้?!”อาจารย์ใหญ่ยืนขึ้นและจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ก่อนที่จะไล่ซีนเธียร์ออก คุณได้ลองสืบสวนเหตุการณ์นี้อย่างทั่วถึงหรือยัง?” ฮาร์วีย์ ยอร์กเรียกร้องอย่างเย็นชา“สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเท่านั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย!”อาจารย์ใหญ่สวนกลับอย่างน่ารังเกียจ‘ชายหนุ่มคนนี้มาจากที่ไหน? เขากล้ามาตั้งคำถามกับฉันได้ยังไง? ตลกจริง ๆ !’“ผมเป็นญาติกับเธอ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับผมอยู่แล้วถ้าเธอกำลังจะถูกไล่ออก”“ใครที่ใส่ร้ายเธอต่อหน้าผมจะต้องตายแน่”ท่าทางของฮาร์วีย์เยือกเย็นราวกับมหาสมุทรอาร์กติก เขาไม่พอใจที่อาจารย์ใหญ่ธรรมดา ๆ มาวางท่าหยิ่งผยองต่อหน้าเขา“ไอ้หนุ่ม!”ในตอนนั้นพ่อของเชนยืนขึ้น กลิ่นเหม็นของอาหารทะเลโชยออกมาจากร่างกายของเขาเขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาดูถูกและดุด่า “ในเมื่อนายเป็
แน่นอนว่าอาจารย์ใหญ่ไม่รู้ว่าฮาร์วีย์คือใครแต่เขายังรู้ดีอีกว่าไม่ได้มีเพียงแค่เชน ชอว์เท่านั้นที่ทำการบริจาคให้กับทางโรงเรียน แต่เขายังรู้จักกับประธานใหญ่ของโรงเรียนอีกด้วยอีกอย่าง ประธานใหญ่มาจากตระกูลเซอร์เรย์ด้วย จึงทำให้ผลสรุปของเรื่องนี้ถูกจัดการไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในขณะนั้น อาจารย์ใหญ่พูดขึ้นอย่างเฉยชา “ฉันไม่สนใจหรอกนะว่านายเป็นใคร แต่ไม่ว่ายังไงแต่ข้อสรุปวันนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง”“ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ได้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วและว่าด้วยเรื่องที่คุณได้บุกรุกพื้นที่ของโรงเรียน ผมก็มีอำนาจที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบทางกฎหมายจากคุณ!”“และคุณควรจะจัดการเรื่องปัญหาด้านการเงินเกี่ยวกับเชน ชอว์ด้วย”ใบหน้าของฮาร์วีย์ค่อย ๆ เย็นชาลงในระหว่างที่เขามองสอดส่องผ่านใบหน้าของเหล่าสมาชิกของคณะกรรมการผู้บริหารโรงเรียน “แล้วพวกคุณทั้งหมดคิดเหมือนที่เขาคิดด้วยหรือเปล่า?”“ไอ้กระจอก นายคิดว่านายจะเปลี่ยนการตัดสินใจของพวกเราได้ด้วยการบุกรุกห้องประชุมของเราเหรอ?”“ถ้านายยังไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใครนายก็ควรไปถามคนอื่นดูนะ ไม่ว่านายจะเป็นใครแต่
ฮาร์วีย์วางสายหลังจากเวลาผ่านไปสักพัก พร้อมกับมีความโกลาหลเกิดขึ้นที่หน้าประตูของโรงเรียน“วันนี้เป็นวันอะไรกันเนี่ย? ทำไมประธานใหญ่ของโรงเรียนถึงมาที่นี่เหมือนกันล่ะ? มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเหรอ?”“หรือว่าเกี่ยวกับเรื่องของซีนเธียร์ ซิมเมอร์?”“เป็นไปได้ยังไง? ซีนเธียร์มีความสามารถพอที่จะสร้างปัญหาให้กับประธานใหญ่เหรอ?”แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ประธานใหญ่เท่านั้นที่มา ส่วนสำคัญที่สุดคือเมื่อตอนที่รถออดี้ เอ6 ค่อย ๆ ขับมาจอดที่หน้าประตูโรงเรียน“นั่นมัน… ยารอน ควิก จากกระทรวงศึกษาธิการของบัควู้ด เขาเป็นรองศึกษาธิการบัควู้ด!”“โอ้พระเจ้า ทำไมทิม เซเปดา ศึกษาธิการถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”“เกิดอะไรขึ้น? อะไรทำให้ผู้มีอิทธิพลของระบบการศึกษาทั้งสองคนถึงมาที่นี่?”“แล้วทำไมประธานใหญ่และคนอื่น ๆ ถึงดูตื่นตระหนกนักล่ะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ในตอนนี้พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ประตูรั้วของโรงเรียนกำลังเกิดความโกลาหลขึ้นพร้อมกับใบหน้าของทุกคนที่ดูเหลือเชื่อและเกรงกลัวโรงเรียนมัธยมบัควู้ดได้เป็นโรงเรียนที่สงวนไว้ให้ลูกหลานของผู้มีอำนาจและร่ำรวยมาโดยตลลอดนักลงทุนจากตระกูลเซอร์เรย์ยังทำให้โรงเรียนมัธยมบั
ผู้ที่เดินทางมาถึงคือสตีวี่ เซอร์เรย์ เขาเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเซอร์เรย์และเป็นประธานใหญ่ของโรงเรียนมัธยมบัควู้ดหลังจากที่เห็นการมาของชายผู้นี้ ทำให้พ่อของเชนเกิดความสับสนถ้าอย่างนั้นจริง ๆ แล้วแผนสำรองของไอ้กระจอกนี้ก็คือสตีวี่ เซอร์เรย์สินะ?ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ เรื่องนี้คงจะมีความซับซ้อนเล็กน้อยแน่!ในขณะเดียวกัน อาจารย์ใหญ่และคณะกรรมการโรงเรียนคนอื่น ๆ ยืนขึ้นตรงอย่างอัตโนมัติพร้อมด้วยแสดงสีหน้าตกใจออกมาแม้แต่อาจารย์ใหญ่ก็ยังหัวเราะขึ้นมา “อย่างนี้เราก็กำลังจะมีการสุมไฟที่เป็นมิตรท่ามกลางคนในตระกูลเดียวกันสินะ…”แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยคก็มีร่างของคนสองคนที่รีบเข้ามา ซึ่งได้สร้างประหลาดใจและตะลึงจนเขาไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวทิม เซเปดา ศึกษาธิการบัควู้ด!ยารอน ควิก รองศึกษาธิการบัควู้ด!ถ้ามีเพียงแค่สตีฟ เซอร์เรย์มันก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะตราบใดพวกเขาก็ยังอยู่ข้างเดียวกันแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีศึกษาธิการและรองศึกษาธิการบัควู้ดอยู่ที่นี่ด้วย มันต้องไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ จะทำได้อย่างแน่นอน!“เป็นวันที่ดีจริง ๆ ที่หัวหน้าของเราทั้งคู่อยู่ที่นี่ ทำไ
ใบหน้าของสตีวี่ เซอร์เรย์เข้มงวดและเย็นชา “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พูดความจริงออกมาให้หมด!”เขาได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ตอนนี้เขาจะต้องทำอะไรเพื่อควบคุมความเสียหายเพื่อที่มันจะไม่ส่งผลต่อตระกูลเซอร์เรย์เพราะว่าตอนนี้ศึกษาธิการและรองศึกษาธิการบัควู้ดอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับตระกูลเซอร์เรย์แต่เขาก็อาจจะต้องลาออกถ้าเขาไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ให้อย่างถูกต้องได้“มัน...มันเป็นความผิดของเราเอง!” พ่อของเชน ชอว์ทรุดลงคุกเข่ากับพื้นทันทีเขาเป็นนักธุรกิจดังนั้นเขาจึงรู้วิธีการที่ดีที่สุดที่จะตอบสนองกับสถานการณ์เหล่านี้เพียงแค่สายเดียว เขาก็สามารถที่จะเรียกศึกษาธิการและรองศึกษาธิการบัควู้ดให้มาที่นี่ได้ ถ้าพ่อของเชนยังเดาไม่ออกว่าพื้นหลังของชายคนนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็คงเสียเวลาทั้งชีวิตของเขาในการทำงานในอุตสาหกรรมนี้“ซีนเธียร์ไม่ได้ยั่วยวนลูกชายของผมเลย มันเป็นเพราะลูกชายของผมเองที่ไปหลงรักเธอ เขาเลยใช้เงินจำนวนมากเพื่อตามตื้อเธอแต่เธอก็ไม่ได้ตอบรับความรู้สึกของเขา มันเลยเป็นเหตุผลที่เขาทำลายชื่อเสียงของเธอ!”“วันนี้ก่อนที่จะมาที่นี่ ผมได้ให้ซิการ์กับอาจารย์
แต่ถ้าไม่ใช่ท่าทีของฮาร์วีย์ ยอร์ก อาจารย์ใหญ่รู้ชัดเจนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเร่งเรื่องนี้และผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ว่าทิม เซเปดาอยู่ที่นี่แล้วอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาไม่เห็นเหรอว่าทิมไม่กล้าที่จะนั่งลงและยืนอยู่ตั้งแต่เริ่ม?เพียะ!เมื่อเห็นว่าประธานใหญ่ยังคงลังเลอยู่ ยารอน ควิก รองศึกษาธิการบัควู้ด อยู่ ๆ ก็เดินตรงไปหาประธานใหญ่และเหวี่ยงมือตบเข้าที่หน้าของเขาและพูดอย่างเย็นชา “นายไม่ได้ยินที่ผู้อำนวยการทิมพูดเหรอ? อย่าทำให้มิสเตอร์ยอร์กเสียเวลาไม่อย่างนั้นอีกไม่นานตำแหน่งประธานใหญ่ของนายได้จบลงเร็ว ๆ นี้แน่!”“ครับ ครับ ครับ!”หลังของประธานใหญ่เต็มไปด้วยเหงื่อโชก ในตอนนั้นเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่ฮาร์วีย์และโค้งให้เขาแทน ก่อนที่จะเขาพูดด้วยสติ “หรือบางทีเราอาจจะให้เชนกล่าวขอโทษซีนเธียร์ล่ะครับ?”หลังจากที่ได้ยินอย่างนี้ ทำให้ฮาร์วีย์หัวเราะออกมาสั้น ๆ และรู้สึกขี้เกียจพูดไปมากกว่านี้แล้วเมื่อยารอน ควิกเห็นอย่างนี้เขาก็เดินมุ่งหน้าไปตบหน้าของประธานใหญ่อีกครั้งและพูดอย่างเยือกเย็น “นี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดที่นายจะคิดได้เหรอ?”“ขอโทษเหรอ? นายคิดว่านายจะจบเรื่องนี
ครูและนักเรียนทุกคนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอกหอประชุมพร้อมกับซุบซิบกัน“เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?”“หรือจะประกาศเรื่องการลาออกของซีนเธียร์ ซิมเมอร์! ยังไงแล้วเธอก็ทำให้โรงเรียนของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง!”“มากไปกว่านั้น ป๋าของเธอยังขับเข้ามาในโรงเรียนของเราอีกด้วยนะ เธอคงจะไปยุให้เขามาแน่!”“ฉันได้ยินมาว่ายัยนั่นสวยนะ แต่ฉันไม่คิดยัยนั่นจะเป็นผู้หญิงเลวขนาดนี้!”เยเลน่า เซอร์เรย์และคนอื่น ๆ เป็นกลุ่มแรกที่มาถึง พวกเธอมุ่งหน้าเดินตรงไปที่แถวหน้าสุดเพราะพวกเธอหวังมากว่าซีนเธียร์จะมีจุดจบอย่างนี้เยเลน่ายังขอให้ใครบางคนรีบส่งโทรศัพท์เครื่องใหม่มาให้เธอโดยเร็ว เพราะเธอวางแผนที่จะถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อที่จะเอากลับไปดูที่บ้านอย่างเพลิดเพลิน!“นังสารเลวซีนเธียร์! เธอคิดว่าเธอจะแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการหาเสี่ยมาเลี้ยงเธออย่างนั้นเหรอ? เธอไม่รู้หรอกว่าในโรงเรียนมัธยมบัควู้ดแห่งนี้ พวกเรา ตระกูลเซอร์เรย์เป็นผู้ที่มีคำสั่งเด็ดขาดที่สุด!”“ตั้งแต่ก้าวแรกของพวกเราเธอก็ถูกลิขิตไว้ให้พังพินาศ!”“คนโง่นั่นอวดดีมากเลยว่าไหม? เขาถึงขั้นพังโทรศัพท์ของนายหญิงและยังขับรถพัง ๆ มือสองมาที่โรงเรียนอีก ตอนน
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข