“จริงเหรอ? เจ้าชายยอร์กผู้มีเกียรติไร้เดียงสาขนาดที่มีผู้หญิงเพียงแค่คนเดียวเหรอ?”แมนดี้ดูสงสัยฮาร์วีย์พูดอย่างครุ่นคิด “เป็นเพราะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับเขา”“ฟังดูเหมือนว่าคุณรู้จักเจ้าชายยอร์กเลย” แมนดี้เม้มปาก“ยังไงก็แล้วแต่ อย่าพูดเรื่องไร้สาระอีก อย่าพูดว่าคุณคือเจ้าชายยอร์กและฉันเป็นผู้หญิงคนนั้น ฉันไม่เชื่อเรื่องโม้อย่างนั้นหรอก”“แต่ในเมื่อคุณสนใจเจ้าชายยอร์ก คุณไปเข้าร่วมพิธีที่สกาย คอร์ปอเรชั่นกำลังจะจัดขึ้นในอีกสามวันสิ”แมนดี้หยิบเอาบัตรเชิญออกมาและยื่นให้กับฮาร์วีย์บัตรเชิญใบนี้ส่งมาจากสกาย คอร์ปอเรชั่นเพื่อมอบให้แก่บริษัทในเครือของพวกเขา เพื่อเชิญให้พวกเขามาเข้าร่วมในพิธีร่วมทุนของสกาย คอร์ปอเรชั่นตอนแรกแมนดี้อยากจะไปแต่เธอยุ่งเกี่ยวกับการวางแผนที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างตระกูลซิมเมอร์เร็ว ๆ นี้ เธอยุ่งมากจนเธอไม่มีเวลาแต่เธอจะต้องเข้าร่วมพิธีนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องการให้ฮาร์วีย์ไปงานแทนเธอ“ได้ ผมจะไปและดูสิ่งที่เกิดขึ้นก็แล้วกัน”ฮาร์วีย์พยักหน้าความจริงแล้ว แม้ว่าแมนดี้ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนแรก เขาจะต้องเข้าร่วมพิธีนี้อยู่แล้ว
ณ รอยัลวิว การ์เดน ฮาร์วีย์กดโทรศัพท์เพื่อโทรออกและพูดอย่างใจเย็น “ฉันจะเดินทางไปยังฮาล์ฟมูนเบย์ในวันพรุ่งนี้”“เป็นเกียรติของผมครับหัวหน้าผู้ฝึกสอน คุณอยากให้ผมไปรับไหมครับ?” ความตื่นเต้นที่พรั่งพรูออกมาจากอีกด้านของปลายสายฮาร์วีย์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้“ไม่ต้องหรอก อีกไม่นานเดี๋ยวฉันจะโทรหา”“ผมจะเตรียมตัวทันทีครับ!”บุคคลที่อยู่ปลายสายชื่อว่าเรย์ ฮาท เขาเป็นหนึ่งในการ์ดส่วนตัวของฮาร์วีย์ในค่ายศัสตราวุธตอนนั้น แต่เขาได้เกษียณไปแล้วหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นครอบครัวของเรย์ ฮาทถือว่าเป็นผู้ที่ปกครองบริเวณโดยรอบของฮาล์ฟมูนเบย์ เขามีอำนาจที่ยิ่งใหญ่และเป็นการดีที่จะติดต่อกับเขาถ้าหากว่าฮาร์วีย์ต้องการที่จะพาใครบางคนไปที่นั่นเพื่อพักผ่อนในวันถัดมาฮาร์วีย์ไม่ได้ขอให้อีวอนน์ ซาเวียร์ส่งรถมารับในตอนเช้า แต่เข้าขับรถของแมนดี้ ซิมเมอร์แทนและรีบเดินทางไปที่ฮาล์ฟมูนเบย์ฮาล์ฟมูนเบย์เป็นหนึ่งในพื้นที่อ่าวของบัควู้ด สถานที่แห่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนักท่องเที่ยว คาดว่าญาติของลิเลียนกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อมาพักผ่อนสองถึงสามวันที่นี่ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็ได้เจอกันหลังจากที่เดินทางมาถ
“คุณ…”เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดแสดงความโกรธที่อยู่ในตาของเขา‘ไอ้คนสกปรกกล้ามาหยุดฉันได้ยังไง?’ออถัมน์ เรเยสดูจะรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและรีบขัดจังหวะพวกเขา“นี่เป็นครั้งแรกของนายที่จะได้เจอกับญาติคนอื่น ๆ ให้ฉันแนะนำทุกคนให้รู้จักนะ”“เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดเป็นผู้จัดการแผนกของสกาย คอร์ปอเรชั่น ฉันแน่ใจว่านายคงเคยได้ยินมาก่อนใช่ไหม? มันคือบริษัทที่เจ้าชายยอร์กที่เป็นตำนานก่อตั้งขึ้น!”“เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อรับโอกาสจากต่างประเทศเพื่อให้ได้รับเลือกโดยบริษัท ความสำเร็จของเขาในสกาย คอร์ปอเรชั่นจะต้องยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า!”“และในตอนนี้พวกเราได้กลับมาประเทศนี้อีกครั้ง เรายังเตรียมตัวที่จะพัฒนาต่อไปในบัควู้ด มาเยี่ยมพวกเราบ่อย ๆ นะ!”ในขณะที่ได้ยินออถัมน์ เรเยสแนะนำเฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดอย่างสุภาพ จากนั้นเขาจึงจงใจมองไปที่แมนดี้ ซิมเมอร์“แมนดี้ ผมได้ยินว่าบริษัทของคุณทำงานอยู่ภายใต้สกาย คอร์ปอเรชั่น ตอนนี้เราเป็นเหมือนครอบครัว ผมจะดูแลบริษัทของคุณเป็นอย่างดีครับ”แมนดี้ ซิมเมอร์ยิ้ม“ขอบคุณค่ะสำหรับความใจกว้างของคุณ”“ยังไงมันก็เป็นงานของผมอยู่แล้วและผมก็รู้จักกับบุคคลระดับสูงในสกาย คอร์ปอ
“ลักษณะของเขาเป็นยังไงอย่างนั้นเหรอ…?” ใบหน้าของเฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดมีความภาคภูมิใจปรากฎอยู่“ครั้งแรกที่ผมเห็นเจ้าชายยอร์ก มันเป็นความบังเอิญราวกับว่ามีแสงแผ่ออกมาเป็นวงกลมอยู่ด้านหลังของเขาทำให้เขาดูเหมือนกับพระเจ้า!”“ชายผู้สูงส่งคนนี้ไม่ได้มีไว้ตั้งประดับเท่านั้น!”“แล้วไม่ใช่แค่นั้น รถของเขาจะต้องเป็นรถที่ทำขึ้นเองอย่างโรลส์รอยซ์แน่ ภายนอกตัวรถของเขามีเพชรฝังอยู่เต็มไปหมด ราวกับว่ามันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อตัวเจ้าชายยอร์กเอง!”“สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือมีการ์ดมากมายหลายพันคนติดตามเจ้าชายยอร์ก ทำให้คนธรรมดา ๆ ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้!”หึหึฮาร์วีย์ ยอร์กไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเขาไว้ได้ทำให้เฟลิกซ์อุทานออกมาทันทีด้วยความโกรธ “ทำไมนายยังหัวเราะอยู่อีกไอ้คนสกปรก? นายกำลังเยาะเย้ยฉันหรือว่านายกำลังเยาะเย้ยเจ้าชายยอร์กอยู่?!”คนอื่น ๆ เริ่มขมวดคิ้วหลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นในเซาท์ไลท์ โดยเฉพาะกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในบัควู้ดจะรู้ถึงอำนาจที่แท้จริงของเจ้าชายยอร์กเป็นอย่างดีและฮาร์วีย์ยังกล้าเยาะเย้ยเจ้าชายยอร์กอีก? เขารนหาที่ตายของตัวเองอยู่เหรอ?ฮาร์วีย์ ยอร์กตอบกลับอย่างเค
สายตาของทุกคนต่างหันมาจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นอมีเลีย การ์ซาพูดอย่างเย็นชาพร้อมกับหัวเราะเยาะ “แมนดี้ สามีของเธอเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ เขาพูดราวกับว่าเขาคือเจ้าชายยอร์กยังไงอย่างนั้นเลย!”ออถัมน์ เยเรสหัวเราะด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและพูด “ฉันยังได้ยินมาว่าในบางครั้งเขายังเรียกตัวเองว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนแห่งค่ายศัสตราวุธและตอนนี้เขาคือเจ้าชายยอร์กเหรอ?”“เขาโง่หรือเปล่า? ทำไมเขาถึงจินตนาการในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทุกวัน?”แมนดี้ ซิมเมอร์มองไปฮาร์วีย์อย่างเคียดแค้นและพูด “ฉันคิดไว้แล้วว่าฉันไม่ควรพาคุณมาด้วย พูดจาไร้สาระต่อหน้าอมีเลีย การ์ซาและคนอื่น ๆ น่าอายที่สุด”ฮาร์วีย์พูดไม่ออก ‘ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าฉันกำลังจะขอใครแต่งงานหนิ!’‘ข่าวทั้งหมดนี้มาจากไหนกัน?’เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความเยาะเย้ยและพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจต่อมา “แมนดี้ คุณแม่ครับ อมีเลีย สิ่งที่ผมพูดไม่ใช่แค่ข่าวลือนะครับ แต่มีหลักฐานที่แน่นอนและผู้คนที่ทำงานในบริษัทต่างเริ่มเตรียมการเพราะเหตุนี้”“ถ้าอย่างนั้น นายรู้จักผู้หญิงที่เจ้าชายยอร์กจะขอแต่งงานด้วยหรือเปล่า
ณ คฤหาสน์ของตระกูลซิมเมอร์ในบัควู้ดผู้อาวุโสซิมเมอร์กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล็กของเขาพร้อมกับร้องโอดครวญอย่างขมขื่น“พระเจ้าได้คุ้มครองเราแล้ว! ฉันนึกว่าไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียน เยตส์กำลังใช้ตระกูลเยตส์เพื่อก้าวขึ้นไปยังระดับนั้นและตระกูลซิมเมอร์ก็จะถูกเหยียบย่ำ!”“ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะมีโอกาสที่จะโต้กลับ!”เมื่อสมาชิกในตระกูลคนอื่น ๆ ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มทะเลาะกันดังสนั่น“คุณปู่ครับมีข่าวดีอะไรเหรอครับ?!” แซ็ค ซิมเมอร์ถามอย่างกังวลเพราะเขายังไม่ได้ยินข่าวผู้อาวุโสซิมเมอร์รีบฉายสิ่งที่อยู่บนโทรศัพท์ของเขาให้ขึ้นไปยังโทรทัศน์ในห้องโถง ทุกคนต่างตกตะลึงหลังจากที่พวกเขามองไปที่ข่าวเจ้าชายยอร์กแห่งสกาย คอร์ปอเรชั่นจะขอผู้หญิงของเขาแต่งงานในพิธีรวมทรัพย์สินในอีกสามวัน!และผู้หญิงคนนั้นมาจากตระกูลซิมเมอร์!แซ็ค ซิมเมอร์เริ่มตัวสั่นหลังจากที่เห็นข่าว“คุณปู่พวกเขากำลังพูดถึงตระกูลซิมเมอร์ พวกเขากำลังพูดถึงพวกเราเหรอครับ?”“แน่นอน! ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ?”“ลืมไปแล้วเหรอ?! ครั้งแรกที่พวกเรามายังบัควู้ด แม้แต่คฤหาสน์ที่พวกเราอาศัยอยู่ในตอนนี้ก็เป็นของขวัญจากตระกูลยอร์กที่มอบให้กับพวกเ
ณ ฮาล์ฟมูนเบย์เมื่อฮาร์วีย์คุยโทรศัพท์เสร็จพอดีกับแมนดี้เช็คอินเสร็จแล้วฮาร์วีย์ไม่พูดอะไรเพียงแค่มองลึกเข้าไปในดวงตาของแมนดี้ในอีกสามวันข้างหน้านี้เขาจะเซอร์ไพรส์เธอ***ภายในห้องพักออทัมน์ เรเยสนั่งขมวดคิ้วอยู่“อมีเลีย, เฟลิกซ์ ก่อนหน้านี้ตอนที่ป้าลิเลียนมอบงานนี้ให้แม่ แม่ก็ยังสงสัยว่ามันจะดูโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า!“แต่ดูเหมือนว่าเธอจะทำถูกแล้ว ลูกเขยของเธอช่างสกปรกจริง ๆ !”“ทางเดียวที่แมนดี้จะมีความสุขได้คือบีบให้ฮาร์วีย์ออกไปจากตระกูลซิมเมอร์!”“โอ้ เฟลิกซ์ ตามแผนที่วางไว้ ลูกต้องไปก่อกวนไอ้ขยะนั่น จะได้ทดสอบและทำให้ฮาร์วีย์ไม่มีสมาธิที่จะลงมือทำอะไร!”เฟลิกซ์ยิ้มออกมากว้าง ๆ แล้วพูดว่า“แม่ไม่ต้องห่วง งานนี้เป็นแผนของคุณย่าเยตส์”“เราค่อนข้างสนิทสนมกับเธอ ผมจะใช้โอกาสนี้ทำดีกับเธอ!”“แต่ฮาร์วีย์เป็นแค่คนน่าขยะแขยงจริง ๆ ! คงไม่เป็นไรถ้าเขาจะไม่มีพรสวรรค์อะไร แต่เขากลับยังเห็นแก่ตัวมากและพูดเอาดีเข้าตัว! ผมไม่รู้ว่าผู้ชายแบบนี้มีดีอะไร ทำไมแมนดี้ยังลังเลที่จะทิ้งเขา!”เฟลิกซ์รู้สึกขมขื่นใจทุกครั้งที่เขาเริ่มพูดถึงเรื่องนี้แมนดี้ดูสวยงดงามยิ่งกว่าดารา รูปร่าง
“เป็นใครกัน? เรย์ ฮาร์ทถึงต้องเปิดประตูให้เขา!”“เขายังดูไม่แก่เท่าไหร่ ดูเหมือนจะแค่อายุประมาณยี่สิบ เขาเป็นคนสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ??”“ดูเหมือนว่าเขาอาจจะเป็นบุคคลชนชั้นสูงในบัควู้ด! น่าเกรงขามที่สุด!”“...”ผู้คนโรงแรมเริ่มเนืองแน่น ทุกคนเริ่มจับกลุ่มนินทา บางคนถึงกับถ่ายรูปและอัพโหลดลงบนอินเทอร์เน็ต***ภายในรถ เรย์ ฮาทกำลังโค้งคำนับให้กับใครคนหนึ่ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความชื่นชมคนที่เป็นตำนานนั่งอยู่ในรถของเขา มันช่างเหมือนเป็นพรสำหรับตระกูลเขาแล้วแม้แต่คนขับรถก็ตกใจเกินกว่าจะเชื่อผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนมากที่มาที่ฮาล์ฟมูนเบย์ไม่สามารถแม้แต่จะเข้าพบกับเรย์ ฮาทได้แม้ว่าพวกเขาอยากจะเข้าใกล้เขามากแค่ไหนก็ตาม พวกเขาให้เกียรติเรย์มาก ไม่กล้าทำตามใจตัวเองตามต้องการแต่ต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้ เรย์ ฮาร์ทกลับถ่อมตัวอย่างไม่น่าเชื่อคนขับรถไม่สามารถจินตนาการถึงตัวตนของชายคนนั้นได้เลย“อะแฮ่ม…” เรย์ ฮาร์ทกระแอมไอในลำคอก่อนที่เขาจะพูด“นายท่านยอร์ก”เรย์ ฮาร์ทเอ่ยพูดอย่างรวดเร็ว และเขาพูดต่อไปอย่างสุภาพ“เกือบปีแล้วที่ผมไม่ได้พบกับท่านตัวต่อตัวแบ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข