ไซม่อน ซิมเมอร์ขมวดคิ้วอย่างหนักแน่นเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น “มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ตาเฒ่าคนนั้นไม่ปล่อยให้เราไปหรอก!”“โดยเฉพาะเมื่อเราเอาทรัพยากรและโครงการต่าง ๆ ไปด้วย!”“ของอย่างนี้มันซับซ้อนเกินไป!”แมนดี้ค่อย ๆ ขมวดคิ้วและพูด “เห็นด้วยว่าการออกจากตระกูลซิมเมอร์เป็นทางเลือกที่ดีแต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย!”แมนดี้รู้จักตระกูลซิมเมอร์เป็นอย่างดีในตอนแรกตระกูลนี้ไม่ได้มีศักยภาพมากในตอนแรก พวกเขาเพียงแค่เป็นปลิงดูดเลือดที่เก่งกว่าคนอื่น ๆ ก็เท่านั้นถ้าเธอต้องการที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างพวกเขา อย่างน้อยเธอก็ต้องทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ไม่อย่างนั้นมันคงจะเป็นเรื่องยากกว่าเดิมทันใดนั้นฮาร์วีย์ก็พูดขึ้น “แมนดี้ คุณทำในสิ่งที่คุณต้องการเถอะ ทำอย่างกล้าหาญผมจะคอยสนับสนุนคุณเอง!”แมนดี้ยิ้มให้ฮาร์วีย์หลังจากที่ได้ยินคำพูดสนับสนุนจากเขา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอชอบเกี่ยวกับฮาร์วีย์ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจทำอะไร ฮาร์วีย์จะคอยสนับสนุนเธอเสมอแต่ท่าทางของไซม่อนและลิเลียนกลับแปลกไปพวกเขาสงสัยว่าฮาร์วีย์โง่จริง ๆ หรือว่าแกล้งทำ‘ถ้าแมนดี้อยากที่จะเป็นอิสระจากภาระอย่างตระกูลซิมเมอร์ สิ่งต่
ตามข่าวลือ เจ้าชายยอร์กรู้อยู่แล้วว่าก่อนหน้านี้ตระกูลเยตส์ ตระกูลร็อบบินส์ ตระกูลเซอร์เรย์และตระกูลคลาวด์ทั้งหมดได้เริ่มลงมือลับหลังเขาแล้วตอนนี้เจ้าชายยอร์กได้กลับมาอย่างแข็งแกร่งและมันอาจส่งผลให้ทั้งตระกูลชนชั้นสูงทั้งสี่ตระกูลนอนไม่หลับ***ณ ทะเลสาบมูนในบัควู้ด ที่นี่เป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์ระดับห้าดาวแต่เมื่อหลายปีที่แล้วพื้นที่หลักของจุดชมวิวในสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นคลับส่วนตัวในตอนนี้พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยการ์ดหลายร้อยคนยืนกระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ถึงกับมีพลซุ่มิงซุ่มอยู่ในเงามืด พร้อมกับที่มีจุดแดง ๆ กวาดไปมาอยู่ทั่วพื้นที่เป็นครั้งคราววันนี้จุดชมวิวแห่งนี้ถูกปิด มีการประกาศสู่สาธารณะว่าสถานที่แห่งนี้กำลังอยู่ในระหว่างการบำรุงรักษา แต่แท้จริงแล้วมันถูกปิดเพราะการเหมาสถานที่มีการติดตั้งสัญญาณรบกวนมากมายบริเวณรอบ ๆ จุดชมวิว เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการใช้โทรศัพท์ในสถานที่แห่งนี้ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจะหยุดทำงานเมื่ออยู่ที่นี่ในขณะนี้ บนเกาะเล็ก ๆ ใจกลางจุดชมวิวมีชายสี่คนกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกันมีคนวัยหนุ่มหลายคนยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาคุณย่าเ
ตอนนี้อยู่ ๆ เหยื่อตกปลาของสตีเฟ่น ยอร์กก็ขยับอย่างช้า ๆทันทีที่เขาเหวี่ยงแขนของเขาขึ้นมา เขาได้เห็นปลาอะโรวานาสีเงินตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาเข้าและตกลงบนฝั่งเมื่อเห็นว่าปลาอะโรวานาสีเงินกำลังดิ้น ใบหน้าของผู้นำทั้งสี่ดูงงงวยสตีเฟ่นที่กำลังมองภาพตรงหน้าด้วยความสนใจอย่างสูง เขาแค่วางคันเบ็ดของเขาลงหลังจากที่เห็นว่าปลาอะโรวานาสีเงินตาย หลังจากนั้นเขาปรบมือของเขา หันมาและส่งยิ้ม เขากล่าว “ผู้นำทุกคน คิดเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในบัควู้ดเมื่อเร็ว ๆ นี้?”คุณย่าเยตส์ที่มึนงงเล็กน้อย เธอเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา “พูดถึงเรื่องนี้ ฉันมีคำถามที่อยากจะถามนายน้อยยอร์กเหมือนกัน ทำไมข่าวลือภายนอกระบุว่าตระกูลยอร์กไม่มีอำนาจคงเหลืออยู่อีกต่อไปและทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลยอร์กถูกสกาย คอร์ปอเรชั่นยึดไป?”สตีเฟ่นยิ้มอย่างมีนัยและพูด “แค่เพราะว่าเราแพ้เกมก็เท่านั้นและคืนบางอย่างให้กับพี่ชายคนโตของผม แต่การเสียทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับการที่ได้รู้เรื่องจริงบางอย่างก็ไม่เลว”คุณย่าเยตส์ขมวดคิ้วและพูด “นายน้อยสตีเฟ่น เมื่อสามปีที่แล้วเจ้าชายยอร์กอาจจะโดดเด่นจริง ๆ !”“แต่ในวัน
เมื่อมองไปยังผู้นำทั้งสี่ สีหน้าของพวกเขาดูเคร่งเครียดอย่างมากแต่ทันใดนั้นสตีเฟ่น ยอร์กก็เผยรอยยิ้มออกมาและพูด “มันค่อนข้างน่าสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณแสดงท่าทีจริงจังขนาดนี้ในรอบหลายปี”“ดูเหมือนว่าครั้งนี้ คน ๆ นั้นได้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับพวกคุณ!”เอริคหัวเราะหลังจากที่ฟังถ้อยคำของสตีเฟ่น “นายน้อยสตีเฟ่น พวกเรารู้สึกกดดัน พวกเรากลัวว่าพวกเราจะไม่สามารถจัดการกับคน ๆ นี้ได้ภายในระยะเวลาที่จำกัด”เจมส์ เซอร์เรย์ยิ้ม “ไม่ต้องกังวลหรอกครับนายน้อยสตีเฟ่น พวกเราอยู่ในเซาท์ไลท์มานานหลายปี”“อย่าว่าแต่ไอ้เด็กอวดดีนั่นเลย แม้แต่จักรพรรดิก็ไม่สามารถทำให้ผมสั่นคลอนได้!”“มากไปกว่านั้นพวกเราไม่รู้สึกกังวลเลย ในเมื่อเรามีนายน้อยสตีเฟ่นที่คอยวางกลยุทธ์อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง!”คัลลัม ร็อบบินส์เผยรอยยิ้มและพูด “ใช่แล้วครับ ถ้าคน ๆ นั้นเคลื่อนไหวเพื่อจัดการกับใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มพวกเรา พวกเราอาจถูกโค่นลงโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น”“แต่ในตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเขาต้องการที่จะโค่นล้มพวกเราทั้งหมดลงด้วยกัน มันจะเป็นไปได้ยังไง?”เห็นได้ชัดว่าคัลลัมและคนอื่น ๆ มีความมั่นใจในตัวเองสูงตระกูลชน
คัลลัม ร็อบบินส์และคนอื่นแสร้งว่าพวกเขาไม่ได้ยินในสิ่งที่คุณย่าเยตส์พูดในขณะเดียวกัน เอริค คลาวด์เปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยและพูดอย่างขมขื่น “ผมได้ยินมาว่าไม่กี่วันหัวหน้าผู้ฝึกสอนแห่งค่ายศัสตราวุธได้ปรากฏตัวขึ้นที่พิธีการประเมินที่ค่ายศัสตราวุธ”“ทำไมพวกเราถึงไม่ได้ไปเยี่ยมเขาวันนั้นล่ะ? ผมเสียดายจริง ๆ !”คัลลัมพยักหน้าและพูด “ใช่! ตอนนี้เมลลิสซาได้ออกจากเซาท์ไลท์ไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคต แน่นอนว่าทั้งสี่ตระกูลจะต้องคิดหาแผนอื่นอีก”“ถ้าเราสามารถเอาตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอนมาเป็นผู้อุปถัมภ์คนใหม่ของพวกเราได้ ต่อไปเราจะหวาดกลัวเจ้าชายยอร์กไปทำไมอีก?”เจมส์ เซอร์เรย์คร่ำครวญ “ใช่ ไม่ว่าเจ้าชายยอร์กจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เขาก็เป็นได้เพียงแค่คนที่มีศักยภาพในโลกของธุรกิจ ส่วนหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นตำนานที่มีชีวิต!”“ผมได้ยินมาว่าคน ๆ นี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งกองทัพประเทศ H เขาจะกลายเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศ H อนาคตของเขานั้นไม่มีขอบเขต!”พวกเขาคร่ำครวญมากกว่าเดิมหลังจากฟังสิ่งที่เจมส์พูด“น่าเสียดาย พวกเราไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกับคน ๆ นี้!
ผู้นำต่างถกเถียงกันอยู่สักพัก แต่พวกเขาทุกคนต่างมีรอยยิ้ม แสดงท่าทีว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังล้อเล่นส่วนตอนนี้พวกเขาจะทำตามแผนหลังจากที่กลับไปซึ่งไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านั้นล้วนมีไหวพริบราวกับสุนัขจิ้งจอก พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้คนนอกรู้ทันแผนการของพวกเขาได้ง่าย ๆหลังจากพูด คัลลัม ร็อบบินส์โบกมือของเขาเพื่อส่งสัญญาณให้ลูกน้องของเขาส่งกองเอกสารมาให้เขา จากนั้นเขาก็ยื่นให้คนอื่น ๆ ตามลำดับสิ่งนี้เป็นสำเนาของสัญญา บนเอกสารถูกระบุไว้อย่างชัดเจนว่าหลังจากสามวันทรัพย์สินและโครงการต่าง ๆ ของตระกูลยอร์กจะตกเป็นของสกาย คอร์ปอเรชั่นในวันนั้นคงจะมีพิธีที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน“ทุกคนเข้าเรื่องธุรกิจเถอะ การยึดทรัพย์สินตระกูลยอร์กของสกายคอร์ปอเรชั่นเป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้ว เราควรทำยังไงกันดี?” คัลลัมหัวเราะเอริค คลาวด์พูดอย่างเมินเฉย “พวกเราจะทำอะไรได้อีก? ในเมื่อเจ้าชายยอร์กของเขาเป็นผู้สูงส่ง เราไปพบเขากันเถอะ”“ถ้าพลังของเขายังเหมือนสามปีที่แล้ว เราจะจัดการเขาตรงนั้นเลย!”“แม้ว่าพลังของเขาจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ เราก็สามารถรู้เท่าทันสถานการณ์จร
“จริงเหรอ? เจ้าชายยอร์กผู้มีเกียรติไร้เดียงสาขนาดที่มีผู้หญิงเพียงแค่คนเดียวเหรอ?”แมนดี้ดูสงสัยฮาร์วีย์พูดอย่างครุ่นคิด “เป็นเพราะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับเขา”“ฟังดูเหมือนว่าคุณรู้จักเจ้าชายยอร์กเลย” แมนดี้เม้มปาก“ยังไงก็แล้วแต่ อย่าพูดเรื่องไร้สาระอีก อย่าพูดว่าคุณคือเจ้าชายยอร์กและฉันเป็นผู้หญิงคนนั้น ฉันไม่เชื่อเรื่องโม้อย่างนั้นหรอก”“แต่ในเมื่อคุณสนใจเจ้าชายยอร์ก คุณไปเข้าร่วมพิธีที่สกาย คอร์ปอเรชั่นกำลังจะจัดขึ้นในอีกสามวันสิ”แมนดี้หยิบเอาบัตรเชิญออกมาและยื่นให้กับฮาร์วีย์บัตรเชิญใบนี้ส่งมาจากสกาย คอร์ปอเรชั่นเพื่อมอบให้แก่บริษัทในเครือของพวกเขา เพื่อเชิญให้พวกเขามาเข้าร่วมในพิธีร่วมทุนของสกาย คอร์ปอเรชั่นตอนแรกแมนดี้อยากจะไปแต่เธอยุ่งเกี่ยวกับการวางแผนที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างตระกูลซิมเมอร์เร็ว ๆ นี้ เธอยุ่งมากจนเธอไม่มีเวลาแต่เธอจะต้องเข้าร่วมพิธีนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องการให้ฮาร์วีย์ไปงานแทนเธอ“ได้ ผมจะไปและดูสิ่งที่เกิดขึ้นก็แล้วกัน”ฮาร์วีย์พยักหน้าความจริงแล้ว แม้ว่าแมนดี้ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนแรก เขาจะต้องเข้าร่วมพิธีนี้อยู่แล้ว
ณ รอยัลวิว การ์เดน ฮาร์วีย์กดโทรศัพท์เพื่อโทรออกและพูดอย่างใจเย็น “ฉันจะเดินทางไปยังฮาล์ฟมูนเบย์ในวันพรุ่งนี้”“เป็นเกียรติของผมครับหัวหน้าผู้ฝึกสอน คุณอยากให้ผมไปรับไหมครับ?” ความตื่นเต้นที่พรั่งพรูออกมาจากอีกด้านของปลายสายฮาร์วีย์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้“ไม่ต้องหรอก อีกไม่นานเดี๋ยวฉันจะโทรหา”“ผมจะเตรียมตัวทันทีครับ!”บุคคลที่อยู่ปลายสายชื่อว่าเรย์ ฮาท เขาเป็นหนึ่งในการ์ดส่วนตัวของฮาร์วีย์ในค่ายศัสตราวุธตอนนั้น แต่เขาได้เกษียณไปแล้วหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นครอบครัวของเรย์ ฮาทถือว่าเป็นผู้ที่ปกครองบริเวณโดยรอบของฮาล์ฟมูนเบย์ เขามีอำนาจที่ยิ่งใหญ่และเป็นการดีที่จะติดต่อกับเขาถ้าหากว่าฮาร์วีย์ต้องการที่จะพาใครบางคนไปที่นั่นเพื่อพักผ่อนในวันถัดมาฮาร์วีย์ไม่ได้ขอให้อีวอนน์ ซาเวียร์ส่งรถมารับในตอนเช้า แต่เข้าขับรถของแมนดี้ ซิมเมอร์แทนและรีบเดินทางไปที่ฮาล์ฟมูนเบย์ฮาล์ฟมูนเบย์เป็นหนึ่งในพื้นที่อ่าวของบัควู้ด สถานที่แห่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนักท่องเที่ยว คาดว่าญาติของลิเลียนกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อมาพักผ่อนสองถึงสามวันที่นี่ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็ได้เจอกันหลังจากที่เดินทางมาถ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข