โจวี่และเวียนนาฝืนยิ้มให้ดูสดใสในขณะยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนแน่นอนว่าพวกเธอรู้เรื่องพฤติกรรมเจ้าเล่ห์ของไอดริสเป็นอย่างดีคนที่พยายามจะหยุดยั้งไม่ให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ มีแต่จะตายอย่างน่าสยดสยองเท่านั้นถึงแม้ว่าไอดริสจะเป็นนักต่อสู้ผู้มีความเชี่ยวชาญ แต่กลุ่มผู้ชายสวมสูทที่ยืนอยู่ด้านหลังเขานั้น ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวได้แล้วมีแต่คนที่อยากจะตายเท่านั้นที่กล้าส่งเสียงคัดค้านอยู่ตรงหน้าเขาแมนดี้พะยุงโธมัสลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับตะโกนใส่ไอดริสว่า "คุณบ้าไปแล้ว!”“ฉันจะโทรเรียกตำรวจมาจับคุณ!”“โทรเรียกตำรวจเหรอ?”ผู้ชายที่ไว้ผมทรงโมฮอว์กที่ยืนอยู่ข้างหลังไอดริสหัวเราะดังลั่นอย่างเย็นชา“ในสถานีตำรวจมีแต่คนของนายน้อยซาบันอยู่เต็มไปหมด! ถ้าเธอทำอะไรกับตำรวจพวกนั้นได้ ฉันจะกลืนโต๊ะตัวนี้เข้าไปเลย!”“เฮ้อ อย่าพูดแบบนั้นสิ เดี๋ยวสาวสวยคนนี้จะกลัวเปล่า ๆ!”ไอดริสกระเดาะลิ้นก่อนจะส่งยิ้มจาง ๆ ให้แมนดี้“ฉันรู้ว่าเธอมีอำนาจนะแมนดี้ แต่ฉันก็ขอยืนยันคำเดิมว่าในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ เธอต้องคุกเข่าให้ฉันไม่ว่าเธอจะเป็นใครหรือมาจากไหนก็ตาม!“ฉันจะทำแบบนี้แหละ ซึ่งเธอก็ไม่สามารถทำ
แมนดี้ต้องรับมือกับปัญหาต่าง ๆ มากมายนับตั้งแต่เธอมาถึงยังโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้เธอต้องจัดการกับเรื่องหุ้นของสาขาที่เก้า รวมทั้งปัญหาทางการเงินอีกหลายอย่างแต่ด้วยความโด่งดังของตระกูลฌอง เธอจึงทำผลงานในเมืองนี้ได้ค่อนข้างดีเธอมักเจอะเจอกับผู้คนที่ดูสุภาพมาก ๆ ในขณะที่ใช้อิทธิพลอยู่เบื้องหลังไม่ว่าการต่อสู้จะดุเดือดขนาดไหนในความมืดนั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากันทุกคนก็ยังให้ความเคารพกันและกันแต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าไอดริสจะก้าวข้ามเส้นนี้ไปอย่างไม่ลังเลอะไรเลย เขาก็เป็นเพียงพวกยกตนข่มท่านเมื่อมาถึงตรงจุดนี้“ละอายเหรอ?”ไอดริสส่งยิ้มที่ดูอวดเบ่งให้เธอพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยัน“สำหรับเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปแล้ว คนที่ไม่เชื่อฟังเราต้องตาย!”ริมฝีปากของไอดริสโค้งงอเป็นรอยยิ้มที่ดูเย็นชา แล้วเชยคางของแมนดี้ขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นไอดริสได้ทำอะไรได้ตามใจชอบในเมืองนี้ โดยมีเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ป และตระกูลแจ็คสันคอยหนุนหลังแม้แต่คนจากตระกูลพาเทลและตระกูลจอห์นยังต้องแสดงความเคารพเขาเลยนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกล้าทำตัวหยิ่งผยองได้ถึงขนา
เปรี้ยง!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือฟาดเข้าที่หน้าของไอดริส ส่งผลให้เขาล้มกลิ้งลงไปบนพื้นจนกระทั่งเสียงกรีดร้องนั้นเงียบลงร่างของเขาหยุดกึกเมื่อกระแทกเข้ากับร่างคนอื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไปสองสามฟุตมือขวาของไอดริสดูบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด เขาเจ็บปวดมากจนไม่สามารถแม้แต่จะเปล่งเสียงร้องออกมาได้ มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขาอย่างต่อเนื่องด้วยฮาร์วีย์ช่างว่องไวเหลือเกินพูดได้เลยว่าไม่มีใครสามารถตอบโต้การเคลื่อนไหวของเขาได้เลยมีสายตามากมายจับจ้องฮาร์วีย์อยู่ แต่ไม่มีใครบอกได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่โจวี่และเวียนนาเอามือปิดปากเพื่อกลั้นเสียงกรีดร้องเอาไว้อย่างสุดกำลังพวกเธอกลัวว่าฮาร์วีย์จะคิดบัญชีกับพวกเธอด้วยฮาร์วีย์ดึงกระดาษทิชชูออกมาเช็ดนิ้ว ก่อนจะเดินไปหาไอดริสที่กำลังตัวสั่นไม่หยุดจากนั้นเขาก็เหยียบขาไอดริสพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“ขอโทษออกมาให้ดี ๆ ไม่งั้นฉันจะหักขาแกเดี๋ยวนี้"“อ๊ากกก!“ไอ้สารเลว! ไอ้สารเลว!“แกกล้าแตะต้องตัวฉันเหรอ?!“ฉันมาจากเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปนะ!“แกจะต้องตายอย่างสยดสยอง!!!”แต่เสียงกรีดร้องด้วยความกลัวยังดังขึ้นอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ไอดริสกำลังพู
ดูเหมือนทั่วทั้งสถานที่แห่งนั้นจะมีความเย็นยะเยือกขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับอุณหภูมิลดลงอย่างฉับพลันทุกคนต่างปิดปากเงียบโดยไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว“แกมาจากไหนเหรอไอ้สารเลว?“แกไม่กลัวผลที่ตามมาจากการทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างนี้เลยเหรอ?!“ถึงแม้ว่าฉันจะตัดสินใจปล่อยแกไป...“แต่หอการค้านิวเกตจะไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่!”“พวกเขาเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ“น่าสนใจนี่ แกหมายความว่ายังไง?”“แกมันก็แค่ไอ้บ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น!“สถานที่ทั้งหมดนี้เป็นของพวกเขา! แกไม่รู้เรื่องนั้นแล้วยังมีหน้ามาก่อปัญหาขึ้นที่นี่เหรอ?!“เจ้าของสถานที่แห่งนี้คือคุณลี ซึ่งเป็นคนโปรดของซีอีโอรุยซ์!“ถ้าแกไปดูหมิ่นเธอเข้าล่ะก็ แสดงว่าแกไม่ให้ความเคารพซีอีโอรุยซ์!“พวกแกทุกคนจะต้องตายอย่างน่าสยดสยอง!”ไอดริสกัดฟันกรอดในขณะส่งเสียงเตือนฮาร์วีย์และคนอื่น ๆหลังจากได้ยินชื่อของหอการค้านิวเกต ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็มองหน้ากันเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปนั้นมีความน่าประทับใจอยู่เหมือนกัน แต่เป็นอย่างนั้นได้ก็เพราะเงินของพวกเขานั่นแหละแต่หอการค้านิวเกตนั้นต่างออกไปพูดตรง ๆ ก็คือพวกเขาเป็นแก๊งอันธพาลจากโลกใต
แต่แมนดี้ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเดียวในเมื่อฮาร์วีย์ลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อเธอ เธอก็ย่อมจะอยู่ข้างเดียวกับเขาเป็นธรรมดาส่วนในเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น เธอก็พร้อมจะเผชิญกับมันร่วมกับฮาร์วีย์แล้ว!กร็อบ กร็อบ กร็อบ!มีเสียงย่ำพื้นด้วยรองเท้าส้นสูงดังขึ้นตรงทางเข้าแล้วเห็นบอดี้การ์ดมากมายเดินห้อมล้อมสาวสวยที่แต่งหน้ามาอย่างงดงามสัมผัสได้ถึงรังสีออร่าอันเย้ายวนที่เปล่งออกมาจากผู้หญิงคนนั้น มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องก่อนที่เธอจะเก้าเท้าเข้ามาในห้องนั้นด้วยซ้ำไป“โอ้โห! นี่นายน้อยซาบันใช่ไหมเนี่ย?“เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอ?“ไอ้สารเลวคนไหนมาทำอย่างนี้กับคุณ?”ผู้หญิงคนนั้นคือคุณลีซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลสถานที่แห่งนั้นเธอหัวเราะหึ ๆ ก่อนจะกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาทะลุทะลวง“ใครกันที่มาทำอย่างนี้กับนายน้อยซาบัน?! จงก้าวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้นเธอก็เบนสายตาไปที่ฮาร์วีย์ราวกับเธอรู้คำตอบนั้นอยู่แล้วแน่นอนว่าเธอกำลังรอให้ฮาร์วีย์ยอมรับความผิดของเขาฮาร์วีย์หรี่ตาจ้องมองคุณลีไม่วางตา“เมื่อดูจากท่าทีของคุณแล้วคุณต้องมาจากหอการค้านิวเกตแน่ ๆ"“ก็ไม่เชิงนะ แต่โดยพื้
"เลิกทำอวดดีต่อหน้าฉันได้แล้วไอ้เด็กเหลือขอ!”ไอดริสกัดฟันกรอดในขณะที่เขานอนชักกระตุกอยู่บนพื้น เขามีสีหน้าที่ดูแย่มาก“แกเสร็จแน่!“แกต่อต้านฉัน คุณลี และหอการค้านิวเกต!“ฉันจะทำให้ชีวิตของแกเหมือนตกอยู่ในนรกเลย!“แกเหลือทางรอดเดียวเท่านั้น!”โจวี่ เวียนนา และคนอื่น ๆ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากในขณะที่รอคอยอย่างอดทนให้ฮาร์วีย์คุกเข่าลงแกร๊ก!ในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวในกดหมายเลขบนโทรศัพท์ จากนั้นเขาก็โยนให้กับคุณลีด้วยท่าทีที่ดูสบาย ๆ“ในเมื่อเคลแลนชอบคุณ ผมก็จะให้เวลาคุณได้ปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างสักพักหนึ่งก่อน“หลังจากนั้นคุณก็ตัดสินใจเอาแล้วกัน ว่าคุณจะคุกเข่าลงหรือจะต่อสู้กับผมจนตาย"คุณลีคว้าโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ขึ้นมาพร้อมกับยิ้มอย่างหยิ่งผยอง“ทำอวดดีต่อไปเถอะ!“คุณคิดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรในตอนนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์นั่งบนเก้าอี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ แล้วรินชาให้ตัวเอง โดยไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับคำดูถูกของเธอเลย“คุณมีเวลาห้าสิบวินาที"ทันใดนั้นคุณลีและไอดริสก็ตัวแข็งทื่อ'ผู้ชายคนนี้คือใครกัน?''น้ำเสียงและท่าทีของเขาดูน่ากลัวมาก...'โจวี่และ
คุณลีไม่กล้าหันกลับมามองด้วยซ้ำไปเธอนั่งคุกเข่าหลังตรงและยังมีเหงื่อไหลหยดลงมาไม่ยอมหยุด“เกิดอะไรขึ้น?”ดวงตาของโจวี่และเวียนนาเบิกกว้าง พร้อม ๆ กับเกิดอาการกระตุกบนใบหน้า พวกเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นนั้นเลย 'ทำไมคุณลีถึงนั่งคุกเข่าอย่างนั้นล่ะ?''เธอนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าไอ้โสโครกและทุก ๆ คน...'แมนดี้และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่'เธอนั่งคุกเข่าทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอทำท่าทีสูงส่งและทรงอำนาจอย่างนั้นเหรอ?'โครม!ประตูถูกเตะให้เปิดออกอีกครั้งหลังจากถูกเตะให้เปิดออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดประตูที่น่าสงสารบานนั้นก็ล้มครืนลงกับพื้นเสียงดังกึกก้องหลังจากนั้นกลุ่มชายท่าทีดุดันในชุดสูทก็กรูกันเข้ามาในห้องนั้นใบหน้าของพวกเขาดูดุดันและทรงอำนาจ ในขณะที่เตะเหล่าบอดี้การ์ดของไอดริสล้มลงไปอย่างไม่ปรานีช่างเป็นภาพที่ดูน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง!ผู้คนที่จับกลุ่มเฝ้าดูตรงทางเข้าต่างตัวสั่นโดยสัญชาตญาณเหล่าคนงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต่างไม่กล้าปล่อยลมหายใจออกมาแม้แต่นิดเดียวจากนั้นชายที่มีผ้าพันที่หัวอย่างกับมัมมี่ และมีมือห้อ
“คุณอยากให้ผมออกไปจากที่นี่เหรอ?”ฮาร์วีย์จิบชาพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะช่วยคุณนะซีอีโอรุยซ์...“แต่ผมออกไปตอนนี้ไม่ได้“ผู้ชายคนนี้...ไอดริส ซาบัน“เขาไม่เพียงแต่มาหาประโยชน์จากภรรยาของผมเท่านั้น แต่เขายังเริ่มทำร้ายผู้คนที่นี่ด้วย“ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเขาบอกว่าหอการค้านิวเกตได้หนุนหลังเขาอยู่ และเขาจะพาคนจากองค์กรแห่งนั้นมาเล่นงานผมด้วย“ตอนนี้ผมไม่สามารถออกไปไหนได้ถึงแม้ว่าผมจะอยากออกไปก็ตาม“ถึงแม้ว่าคุณจะบอกให้ผมออกไปได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของผมล่ะ?“ตอนนี้ผมปล่อยให้นายน้อยซาบันหาประโยชน์จากเธอไม่ได้หรอกใช่ไหม?“ผมมีเรื่องต้องจัดการ"ฮาร์วีย์เล่าสถานการณ์ทั้งหมดด้วยท่าทีสบาย ๆ ไอดริสรู้สึกเสียวสันหลังวาบ“องค์กรของผมคอยหนุนหลังเขาอยู่เหรอ?” เคลแลนพูดซ้ำช้า ๆจากนั้นเขาก็หันไปจ้องมองไอดริสอย่างเย็นชา ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น“แกเป็นใคร?“ผะ-ผมชื่อไอดริส ซาบันครับซีอีโอรุยซ์...” ไอดริสตอบด้วยเสียงที่สั่นเทา“ฉันไม่รู้จักแก"เคลแลนพูดตัดบทไอดริสอย่างไม่ลังเลอะไรเลย“องค์กรของฉันไม่ได้ให้การสนับสนุนแก และเราจะไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับคุณย
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข