"ถึงแม้ว่าคุณย่าจะเตรียมการในเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว แต่ฮาร์วีย์ก็สามารถแกะรอยเราได้ง่าย ๆ อยู่ดี เมื่อเขาจ่ายเงินก้อนโตขนาดนั้น!“เขาจะตามล่าเราหรือเปล่าครับคุณย่าคอบบ์?”อีเดนรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก“เราน่าจะขื้นเครื่องบินไปอเมริกาแทนนะครับ!“ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะขนกองทัพมา แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดเครื่องบินไม่ให้บินได้หรอก!“เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน? ซุปเปอร์แมนเหรอ?!”“ไอ้งั่งเอ๊ย!”คุณย่าคอบบ์มีสีหน้าขมขื่นราวกับว่าเธอกำลังให้บทเรียบกับอีเดนอยู่“นั่นเป็นวิธีที่เราจะทิ้งร่องรอยไว้ได้ง่ายที่สุด! ฮาร์วีย์สามารถแกะรอยว่าเราลงเครื่องบินที่ไหนได้แบบเป๊ะ ๆ เลยถ้าเราทำอย่างนั้น!“แต่จะต่างกันถ้าเราล่องเรือสำราญแทน เราจะผ่านเมืองต่าง ๆ ในต่างประเทศเป็นสิบ ๆ เมือง เพียงเพื่อจะไปอเมริกาเท่านั้นเอง!“ไม่ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางที่จะรู้ว่าเราจะไปลงจากเรือที่ไหนหรอก“นอกจากนี้เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจด้วยซ้ำไปว่าเราจะลงกันที่ไหนตั้งแต่แรก!“เขาคงจะไม่มีทางรู้เลยถ้าเราตัดสินใจลงจากเรือในจุดแวะจอดที่แรกน่ะ!”อีเดนและวาเลรี่พยักหน้าพร้อมกันหลังจากได้ยินคำอธิบายของคุณย่าคอบบ์
"ใช่แล้ว ผมเคยได้ยินเรื่องนี้มากก่อน"“ว่ากันว่าไซลาส จอห์น นายน้อยคนที่สามของตระกูล เป็นคนควบคุมดูแลเรือสำราญลำนี้เพื่อเป็นการทดสอบ“นอกจากนี้ไรลี พาเทล หนึ่งในสามสตรีผู้มั่งคั่งจากตระกูลพาเทลก็อยู่ที่นี่ด้วย! “พูดง่าย ๆ ก็คือถึงแม้เรือลำนี้จะมีขนาดเล็ก แต่พลังของผู้คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นช่างยิ่งใหญ่นัก!“ไม่ว่าฮาร์วีย์จะน่าประทับใจขนาดไหน เขาก็คงไม่กล้าต่อสู้กับตระกูลจอห์นและตระกูลพาเทลที่นี่แน่"คุณย่าคอบบ์แสดงสีหน้าภาคภูมิใจราวกับว่าเธอได้คำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้วอีเดนและวาเลรี่พยักหน้าพร้อมกันหลังจากได้ยินน้ำเสียงสบาย ๆ ของเธอแน่นอนว่าไม่ว่าพวกเขาจะไม่ประสีประสาอะไร พวกเขาก็ยังรู้อย่างแน่ชัดว่าสิบตระกูลชั้นนำและห้าตระกูลลึกลับนั้นหมายถึงอะไรแม้แต่สามตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ก็ยังด้อยกว่าตระกูลพวกนี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมตระกูลคอบบ์จึงถูกบดขยี้ได้ง่าย ๆอีเดนถอนหายใจเฮือกใหญ่ โดยพยายามอย่างเหลือเกินที่จะขจัดความโกรธและความคับข้องใจออกไปเขาเชื่อว่าถ้าเขาสามารถไปถึงอเมริกาได้ เขาจะสามารถบดขยี้ฮาร์วีย์ได้ตามใจชอบ เมื่อพิจารณาจากความสามารถของเขาแล้วนี่เป็นความหวังสุดท้
ในเวลาเดียวกันที่ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท มีสาวสวยสวมเดรสกำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้ยาวรูปร่างของเธอดูเพรียวบางมาก การมีอายุเพิ่มขึ้นทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แค่ออร่าของสาวใหญ่อย่างเธอก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวเธอหลงใหลได้แม้แต่เจ้านายและนักธุรกิจใหญ่ผู้มากประสบการณ์ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลงเสน่ห์ความเย้ายวนของเธอแสงแดดอ่อน ๆ ทอดตัวลงบนเรียวขาขาว ๆ ของเธอ ทำให้ดูเหมือนงาช้างคู่สวยที่มีกลิ่นหอมชวนดมเธอเขย่าแก้วไวน์แดงในมือพร้อมกับกระซิบบอกเอลเลนซึ่งสวมชุดคลุมสีขาวราวกับกับหิมะ“แม่ไม่คิดว่าลูกสาวของแม่จะตามหาหัวใจอีกครึ่งหนึ่งได้ในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้“เขาเป็นถึงนายน้อยของหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำของประเทศ H เลยนะ!“ฟ้าลิขิตให้ลูกพบกับความรุ่งโรจน์แล้วล่ะเอลเลน!”สาวใหญ่แสนสวยคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโนเอมินั่นเองเธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่เธออยู่ในแบล็คเบิร์น ซิตี้“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว นายน้อยจอห์นช่างมีบุญจริง ๆ ที่ได้ผู้หญิงดี ๆ อย่างลูกสาวของแม่...”เอลเลนแต่งหน้าจัดมาก ใบหน้าของเธอช่างดูงดงาม แต่ความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์
"แม่อยากให้ไอ้สารเลวนั่นเสียใจที่มาดูหมิ่นแม่! แม่อยากให้เขาเสียใจที่ไม่ได้เป็นลูกน้องของแม่!“แม่จะเอาคืนเขาเป็นสิบเท่า!“เขาไม่มีสิทธิ์เป็นลูกน้องของแม่ด้วยซ้ำไป เมื่อแม่เอือมระอากับเขาแล้ว!”แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแบล็คเบิร์น ซิตี้ไม่ได้ทำให้เอลเลนรู้สึกเสียใจหรือเศร้าโศกเลย...แต่หัวใจของเธอมืดบอดไปหมดนับตั้งแต่นั้นมาเธอไม่ยอมปล่อยวางถึงแม้ว่าจะได้พบกับเจ้าชายรูปงามของเธอแล้วความโกรธแค้นได้กลืนกินเธอจนหมดสิ้น“คุณดูถูกฉันมาตลอดเลยนะฮาร์วีย์! คุณจะต้องชดใช้กับการกระทำนั้น!“ฉันอยากให้คุณเห็นความเจริญรุ่งเรืองของฉัน! ฉันอยากให้คุณเห็นฉันมีความสุขในความรุ่งโรจน์นั้น!“แค่รอเวลาเท่านั้นแหละ!“คุณจะต้องเสียใจในไม่ช้านี้!”เอลเลนเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นสีหน้าที่ดูภาคภูมิใจโนเอมิยิ้มจาง ๆ“นับจากนี้ไปลูกจะทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้นะเอลเลน ลูกจะต้องใช้สมองกับเรื่องนี้หน่อย!“โดยปกติหลังเสร็จพิธีหมั้นแล้วเราก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลจอห์น!“ชื่อของพวกเขาจะทำให้ฮาร์วีย์ต้องให้ความเคารพเราในทุกที่ที่เราไปในประเทศ H!”โนเอมิลุกขึ้นยืนในขณะยังเขย่าแก้วไวน์พร้อม ๆ ก
"พอแค่นี้เถอะค่ะแม่!”โนเอมิพยักหน้าลูกสาวของเธอเป็นบุคคลสำคัญ จึงเป็นเรื่องน่าอายสำหรับพวกเธอที่จะพูดถึงอีเดนอีกครั้งถึงแม้ว่าคนพวกนั้นจะไร้ยางอายเป็นอย่างมาก แต่ตระกูลจอห์นจะไม่ยอมทนต่อความอับอายขายหน้านี้แน่“หนูจะไปแล้วนะคะแม่ ใกล้ถึงเวลาไปตามหานายน้อยจอห์นแล้ว อย่าสายนะคะ!เอลเลนเปลี่ยนเรื่องก่อนจะลุกขึ้นยืนมีคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปรุมล้อมเธอทันทีที่เห็นเธอเดินออกจากห้องเธอเงยหน้าขึ้นราวกับนกยูงที่หยิ่งผยองก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องของไซลาส“ไม่เลว! ไม่เลวเลย!”โนเอมิรู้สึกพอใจเมื่อได้เห็นภาพนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะอาจจะกลายเป็นของเล่นสำหรับนายน้อยคนนี้ เธอก็จะไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรเลยเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่เธอจะได้รับจากการทำเช่นนี้ แล้วมันจะสำคัญอะไรล่ะถ้าเธอยอมสละเรือนร่างของเธอ?เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์และไร้เดียงสาแล้ว เธอจึงไม่ค่อยให้ความสนใจกับเรื่องแบบนี้!หลังจากเผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ แล้ว โนเอมิก็พร้อมจะสวมถุงน่องบาเลนเซียก้าสีดำ เมื่อรู้สึกได้ถึงลมเย็น ๆ จากท้องทะเลเธอตัวสั่นเทาขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นบางอย่างจากการมองด้วยหางตามีเรือยนต์หลายสิบลำปรากฏขึ้นที่ทางเข้า
โยอาน่าเดินออกมาจากฝูงชนแล้วมองภาพตรงหน้าเธออย่างสงบ“การครอบครองอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายถือเป็นความผิดอาญาร้ายแรง วังมังกรจะรับผิดชอบในเรื่องนี้เอง!”จากนั้นเธอก็เตะหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลงไปกองกับพื้น“ตระกูลคอบบ์อยู่ที่ไหน?!“บอกพวกเขาให้ออกมานี่!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด“แกรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?” เขาร้องถามในขณะที่เอามือกุมหน้าไว้“แกรู้ไหมว่าใครเป็นเจ้าของเรืองสำราญลำนี้“แกรู้ไหมว่าผลที่ตามมาจากการกระทำเช่นนี้จะเป็นอย่างไร?!”ปัง!โยอาน่าไม่ได้อยากจะคุยกับคนแบบเขาเลย เธอหยิบปืนขึ้นมาจากพื้นก่อนจะเหนี่ยวไกไปที่ต้นขาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นล้มกลิ้งอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเมื่อเขาเห็นโยอาน่ายกปืนขึ้นอีกครั้ง เขาก็รีบตอบพร้อมกับกัดฟันทันที "ห้องโถงใหญ่! พวกเขากำลังเฉลิมฉลองพิธีแต่งงานของนายน้อยจอห์นอยู่ในห้องโถงใหญ่!“แกตายแน่ถ้าไปรบกวนพวกเขาที่นั่น!โครม!จูเลียนเตะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นลงไปกองกับพื้น“หยุดพูดได้แล้ว!”ฮาร์วีย์ทำเ
ทันทีที่ฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ เดินออกไป ในที่สุดทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าตามความรู้สึกของตัวเองออกมาแขกเหรื่อในงานเผยให้เห็นสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม เมื่อพวกเขามองเห็นใบหน้าที่ดูธรรมดา ๆ ของฮาร์วีย์ในตอนแรกพวกเขาเชื่อว่าผู้ก่อความวุ่นวายเหล่านั้นถ้าไม่บ้าก็ต้องทรงอำนาจอย่างมาก'เขาไม่รู้เหรอว่าเรือไดมอนด์ ครูซเป็นของตระกูลจอห์น?''ที่สำคัญกว่านั้นก็คือวันนี้เป็นงานหมั้นของนายน้อยจอห์นกับคุณโมเรโน่!''เขาต้องอยากจะตายแน่ ๆ ถึงได้ทำอะไรแบบนี้!'โครม!ในขณะที่แขกเหรื่อพวกนั้นต่างจ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยาม ก็มีกลุ่มผู้ชายหลายคนพร้อมอาวุธปืนก้าวเข้ามาข้างในพวกเขาปลดล็อคไกปืนทันที แล้วปิดล้อมสถานที่แห่งนั้นไว้อย่างแน่นหนาบรรดาสุภาพสตรีผู้ร่ำรวยต่างกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะซวนเซไปข้างหลังท้ายที่สุดแล้วคนพวกนี้ก็ดูเหมือนพวกโจรสลัดที่พยายามจะแย่งชิงเรืองสำราญลำนี้แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเป็นโจรสลัดในอ่าววิคตอเรียคุณย่าคอบบ์เผยให้เห็นสีหน้าเศร้าหมองก่อนจะพึมพำว่า "ฮาร์วีย์เหรอ?”สีหน้าของอีเดนและวาเลรี่ก็เปลี่ยนไปทันทีเช่นกันพวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะไล่ล่
"อย่างนั้นเหรอ? ผมกลัวจังเลย" ฮาร์วีย์ตอบ“แกก็ควรจะต้องกลัวอยู่หรอกนะ!”คุณย่าคอบบ์ดูออกเลยว่าฮาร์วีย์ก็แค่ล้อเลียนเธอ แต่เธอก็ยังรู้สึกมั่นใจอยู่ดี“ที่สำคัญกว่านั้นก็คือวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของนายน้อยจอห์นด้วย!“ถึงแม้ว่าแกกำลังจะก่อปัญหาใหญ่หลวงขึ้นมา แต่อย่างน้อยก็ควรรู้ขีดจำกัดของตนเองนะ!“แกรู้ไหมว่าจะต้องรับผลยังไงในการกระทำแบบนี้!”คุณย่าคอบบ์ชี้ไปที่อีเดนและวาเลรี่“อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสแกนะฮาร์วีย์“ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาที! ปล่อยหลาน ๆ ของฉันเดี๋ยวนี้!“ไม่อย่างนั้นแกจะแย่แน่ถ้าทำให้นายน้อยจอห์นโกรธขึ้นมา!“ถูกต้องแล้วฮาร์วีย์! แกกล้าดียังไง?!” อีเดนอุทานอย่างเกรี้ยวกราดถึงแม้ความกลัวจะแวบเข้ามาให้หัวเขา“นายน้อยจอห์นจะไม่มีวันปล่อยแกจากเรื่องนี้แน่!”“คุณเป็นคนที่จ้างคนมาฆ่าผม ถ้าผมไม่มีทักษะในการต่อสู้แล้วล่ะก็ ผมก็คงตายไปแล้วใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ตอบพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“คุณคิดว่าคุณสามารถรอดพ้นความผิดได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเหรอ?”“แกบุกเข้ามาในเรือไดมอนด์ ครูซ แล้วมามีเรื่องกับตระกูลจอห์น! นี่ยังไม่พูดถึงเรืองที่แกกำลังทำผิดกฎหมายด้วยนะ!”ชายวัยกลางคนพุงใหญ่ก้า