ทันทีที่ฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ เดินออกไป ในที่สุดทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าตามความรู้สึกของตัวเองออกมาแขกเหรื่อในงานเผยให้เห็นสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม เมื่อพวกเขามองเห็นใบหน้าที่ดูธรรมดา ๆ ของฮาร์วีย์ในตอนแรกพวกเขาเชื่อว่าผู้ก่อความวุ่นวายเหล่านั้นถ้าไม่บ้าก็ต้องทรงอำนาจอย่างมาก'เขาไม่รู้เหรอว่าเรือไดมอนด์ ครูซเป็นของตระกูลจอห์น?''ที่สำคัญกว่านั้นก็คือวันนี้เป็นงานหมั้นของนายน้อยจอห์นกับคุณโมเรโน่!''เขาต้องอยากจะตายแน่ ๆ ถึงได้ทำอะไรแบบนี้!'โครม!ในขณะที่แขกเหรื่อพวกนั้นต่างจ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยาม ก็มีกลุ่มผู้ชายหลายคนพร้อมอาวุธปืนก้าวเข้ามาข้างในพวกเขาปลดล็อคไกปืนทันที แล้วปิดล้อมสถานที่แห่งนั้นไว้อย่างแน่นหนาบรรดาสุภาพสตรีผู้ร่ำรวยต่างกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะซวนเซไปข้างหลังท้ายที่สุดแล้วคนพวกนี้ก็ดูเหมือนพวกโจรสลัดที่พยายามจะแย่งชิงเรืองสำราญลำนี้แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเป็นโจรสลัดในอ่าววิคตอเรียคุณย่าคอบบ์เผยให้เห็นสีหน้าเศร้าหมองก่อนจะพึมพำว่า "ฮาร์วีย์เหรอ?”สีหน้าของอีเดนและวาเลรี่ก็เปลี่ยนไปทันทีเช่นกันพวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะไล่ล่
"อย่างนั้นเหรอ? ผมกลัวจังเลย" ฮาร์วีย์ตอบ“แกก็ควรจะต้องกลัวอยู่หรอกนะ!”คุณย่าคอบบ์ดูออกเลยว่าฮาร์วีย์ก็แค่ล้อเลียนเธอ แต่เธอก็ยังรู้สึกมั่นใจอยู่ดี“ที่สำคัญกว่านั้นก็คือวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของนายน้อยจอห์นด้วย!“ถึงแม้ว่าแกกำลังจะก่อปัญหาใหญ่หลวงขึ้นมา แต่อย่างน้อยก็ควรรู้ขีดจำกัดของตนเองนะ!“แกรู้ไหมว่าจะต้องรับผลยังไงในการกระทำแบบนี้!”คุณย่าคอบบ์ชี้ไปที่อีเดนและวาเลรี่“อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสแกนะฮาร์วีย์“ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาที! ปล่อยหลาน ๆ ของฉันเดี๋ยวนี้!“ไม่อย่างนั้นแกจะแย่แน่ถ้าทำให้นายน้อยจอห์นโกรธขึ้นมา!“ถูกต้องแล้วฮาร์วีย์! แกกล้าดียังไง?!” อีเดนอุทานอย่างเกรี้ยวกราดถึงแม้ความกลัวจะแวบเข้ามาให้หัวเขา“นายน้อยจอห์นจะไม่มีวันปล่อยแกจากเรื่องนี้แน่!”“คุณเป็นคนที่จ้างคนมาฆ่าผม ถ้าผมไม่มีทักษะในการต่อสู้แล้วล่ะก็ ผมก็คงตายไปแล้วใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ตอบพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“คุณคิดว่าคุณสามารถรอดพ้นความผิดได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเหรอ?”“แกบุกเข้ามาในเรือไดมอนด์ ครูซ แล้วมามีเรื่องกับตระกูลจอห์น! นี่ยังไม่พูดถึงเรืองที่แกกำลังทำผิดกฎหมายด้วยนะ!”ชายวัยกลางคนพุงใหญ่ก้า
แค่น้ำเสียงของฮาร์วีย์ก็ทำให้ทุก ๆ คนเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยได้แล้วแต่ก่อนที่ใครจะทันได้พูดอะไรออกมา จูเลียนก็ก้าวออกไปพร้อมกับลูกน้องที่อยู่ทางด้านหลัง ใบหน้าของเขาดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งมีผู้ชายสองสามคนก้าวไปข้างหน้าเพื่อแสดงความกล้าหาญ แต่พวกเขาก็ถูกเตะล้มลงกับพื้นทันทีโดยที่ยังไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว มีบางคนพยายามจะต่อสู้กลับ แต่ก็มีอาวุธปืนจ่อเล็งไปที่หัวเขาทันที ช่างเป็นภาพที่ดูน่ากลัวซะเหลือเกินสีหน้าของคุณย่าคอบบ์ดูเปลี่ยนไปในขณะที่เธอเหวี่ยงไม้เท้าไปข้างหน้า โดยพยายามทำให้จูเลียนต้องพิกลพิการจูเลียนคว้าไม้เท้าอันนั้นไว้ด้วยท่าทีเย็นชา แล้วหักครึ่งก่อนจะตบหน้าเธอเต็มแรงในเวลานี้เขาไม่สนใจที่จะให้ความเคารพผู้อาวุโสเลยเพราะท้ายที่สุดแล้วเขารู้ดีว่านางแม่มดคนนี้มีความชั่วร้ายขนาดไหนหลังจากนั้นก็มีชนชั้นสูงจากวังมังกรสองคนมาพยุงคุณย่าคอบบ์ให้ลุกขึ้นเธอดิ้นกระเสือกกระสนอยู่บนพื้นไม่หยุด แต่สิ่งที่เธอทำได้ก็คือโดนตบหน้าอีกสองสามที“พวกแกบ้าไปแล้ว!”ชายวัยกลางคนพุงใหญ่เผยให้เห็นสีหน้าเย็นชาในขณะที่เฝ้ามองดู“ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณมีความแค้นเคืองอะไรกับคนพวกนี้ แต่คุณจ
แน่นอนว่าเอลเลนไม่คิดว่าเธอจะได้เห็นฮาร์วีย์ที่นี่สีหน้าที่ดูงดงามของเธอดูเปลี่ยนไป และเธอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย...แต่อย่างไรก็ตามเธอรีบหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนเอามือคล้องแขนไซลาสไว้ในขณะที่เดินออกมาฮาร์วีย์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเอลเลน'โลกช่างกลมซะเหลือเกิน...'เขาไม่คิดว่าจะได้เจอะเจอศัตรูมากมายอยู่บนเรืองสำราญลำนี้เขามองอีเดนอย่างสงสัย โดยอีเดนก็ทำสีหน้าเศร้าหมองโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์กับเอลเลนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันในตอนนี้แล้ว แต่จะบอกว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วก็คงจะไม่ได้จากนั้นเขาก็เหลือบมองชายที่สวมชุดสูทของจิวองชี่ผู้ชายคนนั้นดูหล่อเหลา เขามีรูปร่างกำยำแต่มีการแสดงอารมณ์แบบผู้หญิง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนายน้อยที่ถูกเลี้ยงดูมาในตระกูลที่ร่ำรวยชายคนนั้นคงจะเป็นนายน้อยจอห์น ไซลาส จอห์นนั่นเองเขาไม่ใช่ทายาทสายตรง แต่เป็นเพียงเด็กที่บ้านใหญ่ของตระกูลรับมาเลี้ยงเท่านั้น...แต่อย่างไรก็ตามเขามีสถานะสูงสุดในบรรดาผู้คนที่อยู่ที่นี่ทุกคนไซลาสเดินไปข้างหน้าอย่างใจเย็น โดยมีผู้คนมากมายเดินตามหลังเขาไปเขาเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะถามว่า "เกิดอ
"น่าประทับใจจังเลยนะไอ้หนู!“ฉันไม่คิดไม่ฝันนะว่าจะมีใครกล้ามาก่อปัญหาขึ้นที่นี่!“มานี่! เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาที่นี่ให้หมด! แล้วนำบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันมาด้วย!“แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ! บอกคุณพาเทลให้มาทำหน้าที่พิธีกรในพิธีหมั้นเดี๋ยวนี้!“ระวังให้ดีด้วย อย่าให้เธอได้รับผลกระทบอะไรจากการกระทำของคนโง่เง่าเข้าล่ะ!”ไซลาสหยิบซิการ์มวนเรียวยาวออกมา แล้วพ่นควันออกมาอย่างรวดเร็วในขณะที่ทำสีหน้าเย็นชาท้ายที่สุดแล้วผู้คนที่ไม่ได้มาจากสิบตระกูลชั้นนำหรือห้าตระกูลลี้ลับ...ก็ไม่สมควรได้รับความสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิหลังหรือความโกรธแค้นของพวกเขา...เขารู้ตัวว่าจะสามารถบดขยี้ทุกคนแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย!ท้ายที่สุดแล้วเมื่อพิจารณาจากอำนาจของตระกูลจอห์นในฐานะหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำ ก็นับเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะทรงอำนาจได้ถึงขนาดนี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันที่ทำพิธีหมั้นล่ะก็ เขาคงจะสั่งให้ลูกน้องยิงทุกคนให้ตายไปแล้วเมื่อมาถึงจุดนี้“บอกทุกคนให้มารวมตัวกันที่นี่! พาผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนนั้นมาที่นี่ด้วย!”ชายหนุ่มผมสั้นพยักหน้าก่อนจะส่งเสียงคำรามเข้าไปในเครื่องวิทยุสื่อสารคนที
ฮาร์วีย์เหลือบมองเอลเลนพร้อมกับยิ้ม“ถ้าผมมาอวดเบ่งที่นี่แล้วจะยังไงเหรอ?”เห็นได้ชัดว่าเขากำลังท้าทายเอลเลนอยู่ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่ด้านหลังไซลาสต่างเปลี่ยนสีหน้าทันที พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าแสดงตัวที่ดูสูงส่งและทรงพลังได้ถึงขนาดนี้'เขาต้องอยากตายแน่ ๆ!'ลูกน้องของไซลาสต่างทำท่าพร้อมที่จะให้บทเรียนกับฮาร์วีย์ แต่เอลเลนยกมือขึ้นมาห้ามพวกเขาเอาไว้จากนั้นเธอก็ยิ้มให้ไซลาสแล้วพูดว่า "นายน้อยจอห์น เขาคนนั้นชื่อฮารวีย์ ยอร์กค่ะ“เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง“เขาเคยช่วยเราเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็มาหาเรื่องเรา“แต่ถึงกระนั้นฉันกับแม่ก็ตอบโต้ความโกรธแค้นนั้นด้วยความเมตตาเสมอ!”“ให้ผมเป็นคนจัดการเรื่องนี้เองก็แล้วกัน ดีไหมครับ?“ผมจะได้ตอบแทนความช่วยเหลือให้เขาได้ในที่สุด"ไซลาสเริ่มทำสีหน้าเย้าแหย่หลังจากได้ยินคำพูดของเอลเลนเขาหรี่ตามองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสงสัย“คุณแน่ใจเหรอว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณ?”“ใช่แล้วค่ะ คุณจะปล่อยเขาไปถ้าเขาคุกเข่าให้คุณและคนพวกนั้นใช่ไหมคะ?เอลเลนต้องการแสดงอำนาจในฐานะเมียน้อย แต่เธอมองไม่เห็นสายตาซาบซึ้งใจของไซลาส“อีกอย่างหนึ่งคือวันนี้ยั
“ผมขอบอกคุณเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งไม่ให้ผมพาคนพวกนี้ออกไปได้“ผมขอบอกตรง ๆ“แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้"เอลเลนมีสีหน้าขมขื่น“คุณเป็นอะไรไปแล้วเหรอฮารวีย์?“คุณฟังฉันสักครั้งไม่ได้เหรอ?!“ฉันทำแบบนี้ก็เพราะเห็นแกคุณนะ! ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่เคยเห็นอำนาจของตระกูลจอห์น แต่อย่างน้อยคุณก็ได้เห็นมันแล้ว!“คุณอาจจะไม่เข้าใจพลังอำนาจอย่างนี้! คุณไม่สามารถเอาชนะได้หรอก!“ตื่นได้แล้ว!”เอเลนเดินกระทืบเท้าในขณะใส่ส้นสูงเข้าไปหาฮาร์วีย์ในความคิดของเธอนั้นเธอกำลังจะกลายร่างเป็นผีเสื้อแล้วเธอเชื่อว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะดูถูกฮาร์วีย์ในจุดนี้เธอหรี่ตามองฮาร์วีย์ก่อนจะตัวสั่นสะท้านขึ้นมาราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้“ฉันเข้าใจแล้ว!” เธออุทานออกมา“ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงได้ทำตัวบุ่มบ่ามเช่นนี้!“คุณรู้ว่าฉันกำลังจะเข้าพิธีหมั้น คุณรู้ว่าฉันได้พบเนื้อคู่ของฉันแล้ว! นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่สบายอกสบายใจนัก!“ฉันรู้ว่าฉันยังอยู่ในใจคุณ!“คุณต่อต้านฉันก่อนหน้านี้ก็เพราะคุณต้องการให้ฉันยอมจำนนต่ออำนาจของคุณ!“น่าเสียดายที่คุณหลงลืมไปอย่างหนึ่ง คนน่าสงสารอย่างคุณนั้นไม
'นี่มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย?!'ทุกคนต่างเงียบกริบพวกเขาอ้าปากค้างทันที!การกระทำของฮาร์วีย์ช่างเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างมาก ทุกคนต่างมีความรู้สึกไม่เชื่อสายตาเมื่อมองภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่มีใครคิดว่าฮาร์วีย์จะหยิ่งผยองได้ถึงขนาดที่ตบไซลาสจนลอยกระเด็นไปเพราะไซลาสเป็นถึงนายน้อยของตระกูลจอห์นเลยนะ!ถึงแม้เขาจะเป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงของบ้านใหญ่ แต่สายเลือดบางส่วนของตระกูลจอห์นก็ยังไหลเวียนอยู่ในตัวเขา!ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปได้ แต่เขาก็ยังเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ของนายน้อยคนโตของตระกูลจอห์นนะ!สถานะ ตัวตน และอำนาจของเขานั้นช่างสูงส่งเกินกว่าใครจะจิตนาการได้!ผู้คนที่ร่ำรวยและทรงอำนาจมากมายนับไม่ถ้วนมักจะคอยเอาอกเอาใจคนอย่างไซลาส!เขามีความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน!นอกจากนายน้อยและเจ้าชายในตระกูลชั้นนำแล้ว จะมีใครกล้าดูหมิ่นคนอย่างไซลาสได้อีกล่ะ?แต่ถึงกระนั้นบุคคลสำคัญคนนี้ก็ถูกตบหน้าบนเรือสำราญของเขาเอง...ไม่มีใครยอมรับเรื่องแบบนั้นได้คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตกใจมากมีเหงื่อไหลหยดจนเปียกชุ่มแผ่นหลังของเธอ เธอไม่อยากจะเชื่อในความบุ่มบ่ามของฮาร์วี