ฮาร์วีย์เผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะใช้มือทุบโทรศัพท์เครื่องนั้นจนแหลกละเอียดจากนั้นเขาก็ดึงโทรศัพท์ของเขาออกมาก่อนจะกดหมายเลขออกไป“เธอมีงานต้องทำนะจูเลียน“ถ้าเธอมีกำลังคนไม่พอก็ให้พาเทรย์ไปด้วย“เขารอคอยโอกาสที่จะได้แสดงความสามารถออกมาอยู่แล้ว...“รีบคว้าโอกาสนั้นไว้ซะ"ในขณะที่ฮาร์วีย์คุยโทรศัพท์อยู่นั้น เคทีก็อุ้มดีนไปนั่งรถเข็นคันใหม่ ดีนยิ้มให้เธอเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรเขาเข้าไปหาฮาร์วีย์แล้วกระซิบบอกว่า "เป็นยังไงบ้างครับคุณยอร์ก? เราต้องพาคุณไปส่งโรงพยาบาลหรือเปล่า?”ฮาร์วีย์ยิ้มแล้วส่ายหัว“ผมไม่เป็นไร แต่คนพวกนี้อาการหนัก…"ฮาร์วีย์นึกถึงเรื่องอื่นขึ้นมาได้“ผมได้จัดการกับกลุ่มเจ็ดนักฆ่าไร้เทียมทานไปแล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณและเคทีที่จะจัดการส่วนที่เหลือให้เสร็จ"“คุณไม่ต้องรีบนะครับ“ผมจะจัดการกับตระกูลคอบบ์ด้วย“เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็จ่ายเงินเพิ่มเพื่อฆ่าผม"ดีนถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงดูเด็ดเดี่ยวได้ถึงขนาดนี้ถ้าเป็นดีนล่ะก็ เขาคงจะปล่อยภรรยาตัวเองไปเพื่อเห็นแก่การที่ได้แต่งงานกันมาแต่ยังไงก็ตามเมื่
"ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ฮ่องกงใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ“พวกเขาไม่รู้เหรอว่าในฮ่องกงและลาสเวกัสนั้น เราสามารถใช้ความแข็งแกร่งของเราบดขยี้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย?”จูเลียนตอบด้วยเสียงเคร่งเครียด "พวกเขาไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกครับคุณยอร์ก"“พวกเขาจ่ายเงินก้อนโตเพื่อล่องเรือสำราญ และจดทะเบียนชื่อของพวกเขาจากต่างประเทศด้วย เรือสำราญนี้มีทหารรับจ้างพร้อมอาวุธจากดาร์ก ไอส์แลนด์อยู่เป็นจำนวนมาก!“นอกจากนั้นยังมีบุคคลสำคัญอีกนับร้อยคนที่ไปเยือนอเมริกาด้วยการล่องเรืองสำราญ!“ไม่มีทางที่จะเข้าไปได้ง่าย ๆ เลยครับ“นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการจัดการกับคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ จึงกลายเป็นเรื่องยากอยู่นิดหน่อย"“ตระกูลจอห์นเหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“หนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำน่ะเหรอ?”“ใช่แล้วครับ" จูเลียนตอบ“โอเชี่ยนนิค คอร์ปอเรชั่นเป็นบริษัททำเงินให้กับตระกูลจอห์นอย่างมาก พวกเขาดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อบริษัทนี้ด้วยความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก“ผมได้ยินมาว่าแม้แต่ตระกูลพาเทลยังดำเนินธุรกิจการขนส่งได้ด้อยกว่าตระกูลนี้ด้วย“นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อพิจารณาจากเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว ก็พอจะรู้แล้
หลังจากวางสายแล้วคุณยายคอบบ์ก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายถ้าเขายังไม่ตาย...เธอรู้ว่าเขาจะไล่ล่าเธอไปจนสุดขอบโลกอย่างแน่นอนเธอดีใจที่ได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้าเธอได้เตรียมการสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว เรือสำราญไดมอนด์ ครูซกำลังจะออกเดินทางแล้ว...เธอจะทำอะไรก็ได้หลังไปถึงอเมริกาแล้ว'ถึงแม้ว่าเขาจะทรงพลังขนาดนั้น แต่ไม่มีทางที่เขาจะไล่ล่าฉันไปจนถึงที่นั่นเหรอก!'“ทำไมเราต้องวิ่งหนีด้วยล่ะคุณย่าคอบบ์? เราดูเหมือนคนทำความผิดจากแค่การทำสิ่งนี้เหรอ?“นอกจากนี้ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน ฮาร์วีย์ก็ไม่สามารถฆ่าพวกเราในแบล็คเบิร์นซิตี้ได้ ถึงแม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะล้มเหลวก็ตาม" วาเลรี่ร้องบอกพร้อมกับขมวดคิ้ว“แบล็คเบิร์น ซิตี้เป็นของทะเลใต้! ผู้ชายจากประเทศ H คงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามขนาดนี้หรอก!”วาเลรี่ไม่อยากจะตั้งข้อสงสัยในการคาดเดาของคุณย่าคอบบ์...แต่ยังไงก็ตามทรัพย์สินของตระกูลคอบบ์เป็นของบ้านหลังที่สองเท่านั้นเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณย่าคอบบ์จึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างขาดสติหญิงชราใช้เงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตเพียงเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินเ
วาเลรี่และอีเดนสบตากันหลังจากได้ยินคำพูดของคุณย่าคอบบ์ พวกเขาคิดว่าเธอกำลังเคร่งเครียดไปนิดหน่อย...คุณย่าคอบบ์ถอนหายใจ“นอกจากนี้ เราก็ยังมีเวลาเสมอ ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่!“ความเจริญรุ่งเรืองจะไม่คงอยู่ตลอดไปหรอก!“ตอนนี้เคทีกำลังรุ่งโรจน์เนื่องจากมีไอ้ฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ อีกมากมายมาช่วย!“เราไม่สามารถเอาชนะเธอในตอนนี้ได้!“แต่ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ในอเมริกาและเกาะมหาเศรษฐีพวกนั้นเอาไว้ เราก็จะมีโอกาสลุกขึ้นได้อีกครั้งเสมอ"ท้ายที่สุดแล้วชาวอเมริกันพยายามสร้างที่มั่นขึ้นในทะเลใต้ เพื่อใช้ต่อสู้กับประเทศ H!“ถ้าเราแสดงความภักดีต่อพวกเขา พวกเขาก็จะให้การสนับสนุนภารกิจของเราอย่างแน่นอน!“ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราที่จะฟื้นคืนกลับมาอย่างแข็งแกร่ง!”หลังจากได้ยินแผนการสำหรับอนาคตของคุณย่าคอบบ์ ทั้งอีเดนและวาเลรี่ต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน ราวกับว่าพวกเขามีความมั่นใจเต็มที่ในอีกด้านหนึ่งนั้นพวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะเอาชีวิตมาเสี่ยงในตอนนี้ในทางกลับกันพวกเขามีโอกาสที่จะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง ตราบใดที่พวกเขาคอยประจบประแจงพวกอเมริกันเอาไว้ตู๊ด ตู๊ด
"ถึงแม้ว่าคุณย่าจะเตรียมการในเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว แต่ฮาร์วีย์ก็สามารถแกะรอยเราได้ง่าย ๆ อยู่ดี เมื่อเขาจ่ายเงินก้อนโตขนาดนั้น!“เขาจะตามล่าเราหรือเปล่าครับคุณย่าคอบบ์?”อีเดนรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก“เราน่าจะขื้นเครื่องบินไปอเมริกาแทนนะครับ!“ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะขนกองทัพมา แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดเครื่องบินไม่ให้บินได้หรอก!“เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน? ซุปเปอร์แมนเหรอ?!”“ไอ้งั่งเอ๊ย!”คุณย่าคอบบ์มีสีหน้าขมขื่นราวกับว่าเธอกำลังให้บทเรียบกับอีเดนอยู่“นั่นเป็นวิธีที่เราจะทิ้งร่องรอยไว้ได้ง่ายที่สุด! ฮาร์วีย์สามารถแกะรอยว่าเราลงเครื่องบินที่ไหนได้แบบเป๊ะ ๆ เลยถ้าเราทำอย่างนั้น!“แต่จะต่างกันถ้าเราล่องเรือสำราญแทน เราจะผ่านเมืองต่าง ๆ ในต่างประเทศเป็นสิบ ๆ เมือง เพียงเพื่อจะไปอเมริกาเท่านั้นเอง!“ไม่ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางที่จะรู้ว่าเราจะไปลงจากเรือที่ไหนหรอก“นอกจากนี้เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจด้วยซ้ำไปว่าเราจะลงกันที่ไหนตั้งแต่แรก!“เขาคงจะไม่มีทางรู้เลยถ้าเราตัดสินใจลงจากเรือในจุดแวะจอดที่แรกน่ะ!”อีเดนและวาเลรี่พยักหน้าพร้อมกันหลังจากได้ยินคำอธิบายของคุณย่าคอบบ์
"ใช่แล้ว ผมเคยได้ยินเรื่องนี้มากก่อน"“ว่ากันว่าไซลาส จอห์น นายน้อยคนที่สามของตระกูล เป็นคนควบคุมดูแลเรือสำราญลำนี้เพื่อเป็นการทดสอบ“นอกจากนี้ไรลี พาเทล หนึ่งในสามสตรีผู้มั่งคั่งจากตระกูลพาเทลก็อยู่ที่นี่ด้วย! “พูดง่าย ๆ ก็คือถึงแม้เรือลำนี้จะมีขนาดเล็ก แต่พลังของผู้คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นช่างยิ่งใหญ่นัก!“ไม่ว่าฮาร์วีย์จะน่าประทับใจขนาดไหน เขาก็คงไม่กล้าต่อสู้กับตระกูลจอห์นและตระกูลพาเทลที่นี่แน่"คุณย่าคอบบ์แสดงสีหน้าภาคภูมิใจราวกับว่าเธอได้คำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้วอีเดนและวาเลรี่พยักหน้าพร้อมกันหลังจากได้ยินน้ำเสียงสบาย ๆ ของเธอแน่นอนว่าไม่ว่าพวกเขาจะไม่ประสีประสาอะไร พวกเขาก็ยังรู้อย่างแน่ชัดว่าสิบตระกูลชั้นนำและห้าตระกูลลึกลับนั้นหมายถึงอะไรแม้แต่สามตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ก็ยังด้อยกว่าตระกูลพวกนี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมตระกูลคอบบ์จึงถูกบดขยี้ได้ง่าย ๆอีเดนถอนหายใจเฮือกใหญ่ โดยพยายามอย่างเหลือเกินที่จะขจัดความโกรธและความคับข้องใจออกไปเขาเชื่อว่าถ้าเขาสามารถไปถึงอเมริกาได้ เขาจะสามารถบดขยี้ฮาร์วีย์ได้ตามใจชอบ เมื่อพิจารณาจากความสามารถของเขาแล้วนี่เป็นความหวังสุดท้
ในเวลาเดียวกันที่ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท มีสาวสวยสวมเดรสกำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้ยาวรูปร่างของเธอดูเพรียวบางมาก การมีอายุเพิ่มขึ้นทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แค่ออร่าของสาวใหญ่อย่างเธอก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวเธอหลงใหลได้แม้แต่เจ้านายและนักธุรกิจใหญ่ผู้มากประสบการณ์ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลงเสน่ห์ความเย้ายวนของเธอแสงแดดอ่อน ๆ ทอดตัวลงบนเรียวขาขาว ๆ ของเธอ ทำให้ดูเหมือนงาช้างคู่สวยที่มีกลิ่นหอมชวนดมเธอเขย่าแก้วไวน์แดงในมือพร้อมกับกระซิบบอกเอลเลนซึ่งสวมชุดคลุมสีขาวราวกับกับหิมะ“แม่ไม่คิดว่าลูกสาวของแม่จะตามหาหัวใจอีกครึ่งหนึ่งได้ในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้“เขาเป็นถึงนายน้อยของหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำของประเทศ H เลยนะ!“ฟ้าลิขิตให้ลูกพบกับความรุ่งโรจน์แล้วล่ะเอลเลน!”สาวใหญ่แสนสวยคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโนเอมินั่นเองเธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่เธออยู่ในแบล็คเบิร์น ซิตี้“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว นายน้อยจอห์นช่างมีบุญจริง ๆ ที่ได้ผู้หญิงดี ๆ อย่างลูกสาวของแม่...”เอลเลนแต่งหน้าจัดมาก ใบหน้าของเธอช่างดูงดงาม แต่ความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์
"แม่อยากให้ไอ้สารเลวนั่นเสียใจที่มาดูหมิ่นแม่! แม่อยากให้เขาเสียใจที่ไม่ได้เป็นลูกน้องของแม่!“แม่จะเอาคืนเขาเป็นสิบเท่า!“เขาไม่มีสิทธิ์เป็นลูกน้องของแม่ด้วยซ้ำไป เมื่อแม่เอือมระอากับเขาแล้ว!”แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแบล็คเบิร์น ซิตี้ไม่ได้ทำให้เอลเลนรู้สึกเสียใจหรือเศร้าโศกเลย...แต่หัวใจของเธอมืดบอดไปหมดนับตั้งแต่นั้นมาเธอไม่ยอมปล่อยวางถึงแม้ว่าจะได้พบกับเจ้าชายรูปงามของเธอแล้วความโกรธแค้นได้กลืนกินเธอจนหมดสิ้น“คุณดูถูกฉันมาตลอดเลยนะฮาร์วีย์! คุณจะต้องชดใช้กับการกระทำนั้น!“ฉันอยากให้คุณเห็นความเจริญรุ่งเรืองของฉัน! ฉันอยากให้คุณเห็นฉันมีความสุขในความรุ่งโรจน์นั้น!“แค่รอเวลาเท่านั้นแหละ!“คุณจะต้องเสียใจในไม่ช้านี้!”เอลเลนเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นสีหน้าที่ดูภาคภูมิใจโนเอมิยิ้มจาง ๆ“นับจากนี้ไปลูกจะทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้นะเอลเลน ลูกจะต้องใช้สมองกับเรื่องนี้หน่อย!“โดยปกติหลังเสร็จพิธีหมั้นแล้วเราก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลจอห์น!“ชื่อของพวกเขาจะทำให้ฮาร์วีย์ต้องให้ความเคารพเราในทุกที่ที่เราไปในประเทศ H!”โนเอมิลุกขึ้นยืนในขณะยังเขย่าแก้วไวน์พร้อม ๆ ก