ฮาร์วีย์ทำหน้านิ่งมองสารวัตรสาวหน้ากลมคนนั้น“ถ้าผู้หญิงสองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณช่วยรับประกันได้ไหมว่าจะไม่มีใครทำลายหลักฐานนั้น"สารวัตรสาวหน้ากลมคนนั้นยืนตัวแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็มองไปที่สารวัตรหัวล้านโดยสัญชาตญาณสารวัตรหัวโล้นจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดแล้วก้มหัวลงหลังจากฮาร์วีย์แสดงหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของเขาอย่างชัดเจน พร้อมด้วยการสนับสนุนจากตระกูลโมเรโน่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพวกนั้นจึงไม่สามารถกักตัวเขาได้อีกต่อไป ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์ก็จากไปโดยไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อยฮาร์วีย์ออกจากสถานที่แห่งนั้นได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ความช่วยเหลือจากแม่ลูกคู่นั้นเลย แต่เขาก็ยังแสดงสีหน้าจริงใจเพื่อแสดงความขอบคุณพวกเขาด้วย “คุณคอบบ์ เอลเลน ขอบคุณนะครับ"“ผมจะจดจำความช่วยเหลือของคุณเอาไว้ ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ผมขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนะครับ!”เอเลนส่งยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น“ต่อจากนี้ไปผมจะทำหน้าที่เป็นโล่ห์คอยปกป้องให้คุณในแบล็คเบิร์น ซิตี้!”“แม่ของฉันเป็นสุภาพสตรีหมายเลขสองของตระกูลโมเรโน่ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ เมื่อมีเธออยู่ข้าง ๆ
ฮาร์วีย์รู้ได้เลยว่าโนเอมิคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยท้ายที่สุดแล้วก็เป็นธรรมดาที่แม่จะต้องปกป้องลูกสาวเขารับนามบัตรมาและเก็บไว้ในกระเป๋าของเขาทันใดนั้นจู่ ๆ โนเอมิก็ไอขึ้นมาฮาร์วีย์จึงมองที่หน้าอกของเธอโดยสัญชาตญาณโนเอมิรู้สึกเดือดดาลมากเมือเห็นฮาร์วีย์กำลังมองมาที่ไหน'เด็กน้อยอย่างเขากล้าดียังไงมาทำแบบนี้?! เขาคิดว่าฉันเป็นใครเหรอ?'ถ้าฮาร์วีย์ไม่เคยช่วยลูกสาวของเธอไว้ เธอคงตบหน้าเข้าไปแล้วที่มาแสดงความหยาบคายกับเธอ“ในเมื่อคุณใจดีกับผมมากคุณโมเรโน่ ผมจึงขอบอกอะไรกับคุณหน่อยนะครับ"ฮาร์วีย์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบไหนอยู่ แต่การฝึกฝนของคุณเต็มไปด้วยข้อบกพร่องอย่างมาก“ผมคิดว่าคุณควรหยุดการฝึกซ้อมหรือปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยฝึกฝนมา เพราะถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้นคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน"“ฮาร์วีย์!”เอลเลนตัวแข็งทื่อ จากนั้นเธอก็นึกถึงความสำเร็จของเขาที่ช่วยชีวิตดีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ“คุณพูดจริงหรือเปล่า?“ฮาร์วีย์เก่งมากค่ะแม่! แม่ควรฟังเขานะคะ!”โนเอมิหรี่ตามอง แล้วในที่สุดก็เปิดเผยความกลัดกลุ้มของ
"ขอบคุณนะที่อุตส่าห์ใส่ใจในเรื่องสุขภาพของฉัน ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ฉันจะรีบไปตรวจสุขภาพทันที“แต่เราต้องยุติเรื่องที่นี่เอาไว้ก่อน ฉันกับเอลเลนต้องไปแล้ว!โนเอมิแสดงสีหน้าซาบซึ้ง“ขอให้โชคดี"ฮาร์วีย์บอกได้เลยว่าโนเอมิไม่เชื่อที่เขาพูดเลย หลังจากเห็นสีหน้าที่ดูไม่ไว้วางใจของเธอ“ทำไมไม่หาเวลาให้ผมหน่อยล่ะครับ? ผมจะได้ตรวจดูอาการให้...”“พอเถอะฮาร์วีย์! ฉันกำลังพยายามรักษาหน้าของคุณไว้เพื่อเห็นแก่เอลเลน!“หยุดทำอะไรล้ำเส้นซะเถอะ!”โนเอมิก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดกับฮาร์วีย์ด้วยระดับเสียงที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยินฮาร์วีย์ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีกเลยโนเอมิยิ้มเยาะอย่างเย็นชาก่อนจะพาลูกสาวเข้าไปในรถโตโยต้า อัลพาร์ดเอลเลนมีท่าทีลังเล เธออยากจะพูดอะไรออกไป แต่เธอไม่สามารถต่อต้านแม่ของตัวเองได้“จริงอยู่ที่ผู้ชายคนนั้นช่วยชีวิตลูกไว้ แล้วยังทำร้ายอีเดนและตระกูลคอบบ์ด้วย...“แต่ลูกแน่ใจแล้วเหรอว่าเขาไม่ได้ร่วมมือกับคนพวกนั้นเพื่อหลอกลวงลูก!“อีเดนเคยเป็นแฟนเก่าของลูกและเกือบโดนเขาหลอกใช้ แล้วนับประสาอะไรกับผู้ชายที่เพิ่งพบกันล่ะ!“แม่ไม่อนุญาตให้ไปพูดคุยกั
ในเวลาเดียวกันฮาร์วีย์ไม่รู้เรื่องเลยว่าโนเอมิได้ไปตรวจสุขภาพจริง ๆหลังจากออกจากสถานีตำรวจแล้วเขาก็โทรหาเคทีจากนั้นเขาก็เรียกรถแท็กซี่แล้วมุ่งหน้าไปยังวิลล่าของตระกูลคอบบ์เคทีมั่นใจว่าเขาจะต้องออกมาได้ เธอรีบสั่งให้พ่อครัวเตรียมทำอาหารมื้อใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของเขา“คุณมีแผนจะทำอะไรต่อไปคะ?”เคทีเทไวน์แดงให้ฮาร์วีย์หนึ่งแก้วพร้อมกับยิ้มเธอให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งกับคำสัญญาของเขาที่จะสร้างตระกูลให้เธอนี่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับเธออยู่แล้วในด้านดีคือเธอจะไม่ต้องถูกคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ในตระกูลคอบบ์บังคับแต่ในทางกลับกันเธอก็จะไม่มีโอกาสได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคนในตระกูลอีกเลย“ง่ายมาก! ในเมื่อตระกูลคอบบ์ต้องการเกาะสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ขนาดนั้น เราก็จะแยกพวกเขาออกจากกัน“ผมจะทำให้องค์กรแห่งนั้นต่อต้านพวกเขา แล้วหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ต้องมารับใช้เรา“ตราบใดที่องค์กรแห่งนั้นยังอยู่ข้างเรา ธุรกิจของตระกูลคอบบ์ก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณทั้งหมด“ในอนาคตตระกูลเดียวในทะเลใต้ที่ชื่อคอบบ์ก็จะเป็นของคุณ"ความเกลียดชังที่ฮาร์วีย์มีต่อ
ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นท่าทีประหลาดใจของเคทีนี่ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆแต่นี่จะทำให้เคทีสามารถใช้สูตรยานี้เริ่มดำเนินธุรกิจของตระกูลได้อีกครั้งเธอจะสามารถฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ในอดีตของตระกูลได้ในเวลาอันรวดเร็วในขณะที่ทั้งสองคนกำลังถกเถียงกันเรื่องการนำสูตรยานี้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อยู่นั้น โทรศัพท์ของเคทีก็ดังขึ้นทันทีที่เธอรับสายโทรศัพท์นั้นใบหน้าของเธอก็ดูมืดมนลงทันที“ฉันเกรงว่าจะทำให้คุณต้องผิดหวังเสียแล้วล่ะค่ะคุณยอร์ก" เธอพูดพร้อมกับก้มศีรษะลง“กาเอลได้ทำการฟ้องร้องฉันแล้วอายัดทรัพย์สินทุกอย่างที่ฉันมีในทะเลใต้“ถ้าไม่มีทรัพย์สินพวกนั้น...”เคทีหัวเราะอย่างขมขื่น เธอไม่คิดว่าตระกูลคอบบ์จะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้"ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลคอบบ์คาบข่าวไปบอกกาเอลล่ะก็ เขาคงไม่ยื่นฟ้องฉันได้เร็วขนาดนี้หรอก"“กาเอลและสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้...”ฮาร์วีย์ยิ้มแล้วแตะมืออันอ่อนนุ่มของเคทีเบา ๆ หลังจากนั้นเขาก็กดหมายเลขโทรศัพท์“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง“ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะช่วยคุณ ผมเป็นคนที่รักษาคำพูดครับ!”…บรืน!ในเวลาสี่ทุ่ม
ไอรีนไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อเห็นจูเลียนแสดงท่าทีเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ฮาร์วีย์สั่งให้พวกเขาพากาเอลกลับมาเพื่อพูดคุยกันถ้าพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม ฮาร์วีย์ก็อาจจะเริ่มสงสัยในความสามารถของพวกเขาได้ในไม่ช้าคนทั้งห้าคนก็นั่งอยู่ในห้องพิเศษนั้นห้องพิเศษนี้มีขนาดไม่ใหญ่นักแต่ดูสวยงามทีเดียว จากตรงนั้นก็สามารถมองเห็นฟลอร์เต้นรำได้อย่างชัดเจน ผู้คนที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างมีขนาดเท่ามดเท่านั้นการจิบไวน์ชั้นดีในขณะที่นั่งดูสาวสวยสนุกสุดเหวี่ยงนั้นจะทำให้ใครก็ตามรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพระราชา นับเป็นความสนุกสนานสุดยิ่งใหญ่ในชีวิตเลยจริง ๆ“แขกที่รักของฉันคุณอยากได้อะไรดีคะ?”จูเลียนและคนอื่น ๆ นั่งได้ไม่นานก็มีพนักงานเสิร์ฟในชุดพยาบาลปรากฏตัวขึ้น ถุงน่องตาข่ายที่ห่อหุ้มเรียวขาเพรียวบางของเธอไว้นั้นช่างดูเย้ายวนเหลือเกิน“ถ้าผมสั่งเซ็ตมังกร คุณจะอยู่กับผมที่นี่ทั้งคืนเลยใช่ไหม?”จูเลียนทำสีหน้าหื่นกระหายให้กับพยาบาลคนนั้นเห็นในขณะที่เขาเริ่มจ้องมองขาของเธออย่างหน้ามืดตามัวเขาเอื้อมมือออกไปแล้วควบคุมความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ โดยแกล้งทำเป็นเพลย์บอยตัวฉกาจ“แน่นอนค่ะ!”พนักงานเสิร์ฟย
มีผู้ชายในชุดสูทหลายสิบคนรีบวิ่งเข้ามาห้อมล้อมอยู่ในห้องพิเศษนั้นผู้ชายที่กวัดแกว่งไม้กอล์ฟคือหัวหน้ากลุ่ม เขาช่างดูชั่วร้ายเหลือเกิน และความอาฆาตแค้นก็ได้แผ่กระจายออกมาจากตัวเขาใบหน้าของจูเลียนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา“นี่เรายังดื่มกันอยู่นะไอ้บ้าเอ๊ย!“แกกำลังพยายามจะทำอะไรอยู่วะเนี่ย?“แกคิดอะไรอยู่?!”ชายที่อยู่ด้านหน้าโบกมือ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“เรามาเพื่อฆ่าแกไง!”พวกผู้ชายกระโจนไปข้างหน้าโดยเหวี่ยงไม้กอล์ฟขึ้นไปในอากาศ สถานที่แห่งนั้นตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายเป็นอย่างยิ่งร่างกายของจูเลียนเริ่มอ่อนแอลงเล็กน้อยหลังจากดื่มมากไปหน่อย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถโต้ตอบกับเรื่องนี้ได้ทันเวลาในทางกลับกันไอรีนใช้เรียวขาอันเพรียวบางของเธอเตะโต๊ะกาแฟที่อยู่ตรงหน้าเธอ ทำให้ผู้ชายสองสามคนล้มไปกองกับพื้นเธอรู้ได้ทันทีว่าแผนของพวกเขาล้มเหลวแล้ว“เราออกไปกันเถอะ!”โครม!ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าพุ่งตัวไปข้างหน้า แล้วเตะเธอลงไปกองกับพื้นแน่นอนว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ไอรีนเป็นนักสู้ที่เก่งกาจแต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ชายคนนั้น เธอถูกเตะ
ผัวะ ผัวะ ผัวะ!หลังจากได้ยินคำสั่งของพวกเขา ผู้ชายทั้งหมดนั้นก็เริ่มฟาดขวดเบียร์ไปที่จูเลียนจูเลียนสามารถสกัดกั้นการโจมตีได้สองสามครั้ง แต่ก็ยังโดนฟาดจนล้มลงหลังจากนั้นผัวะจากนั้นชายที่เป็นหัวหน้าก็ฟาดไม้กอล์ฟเข้าที่หลังของจูเลียนมีเลือดพุ่งออกมาจากปากของเขา ก่อนที่เขาจะลงไปนอนชักกระตุกอยู่บนพื้น“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”ไอรีนดูสบสนวุ่นวายไปหมด“แกจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้แน่"เพียะ!ชายที่เป็นหัวหน้าตบหน้าไอรีน“เสียใจเหรอ?!“ฉันต้องเสียใจแน่เหรอ! “ฉันจะบอกอะไรให้นะ! คนจากประเทศ H ไม่มีสิทธิ์มาอวดเบ่งต่อหน้าเรา!“แกคิดว่าแกสามารถมาอวดเบ่งที่นี่เพียงเพราะแกมีเงินอยู่เพียงเล็กน้อยอย่างนั้นเหรอ?!“แกอยากให้นายน้อยแพดโลว์มาดื่มอวยพรให้แกเหรอ?!“แกอยากจะจับตัวเขาไว้ตอนที่เขามาที่นี่ใช่ไหม? เขาบอกเราก่อนหน้านี้ให้กำจัดคนจากประเทศ H ทุกคน!“ไป! ไปโจมตีพวกมันทุกคน!”ผู้ชายหลายสิบคนที่อยู่ข้างหลังเขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย ก่อนจะเข้าไปโจมตีอย่างรีบเร่งและไร้ความปรานีมากขึ้นแม้แต่ผู้หญิงสวยอย่างไอรีนก็ยังไม่ละเว้นเลย เสื้อผ้าของเธอถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ในขณะที่เธอถูกตบซ้ำแล้วซ้ำอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข