ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อสารวัตรหญิงคนนั้น แล้วเหลือบมองคุณย่าคอบบ์อย่างใจเย็น“รอไปก่อนเถอะครับคุณย่าคอบบ์“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมตั้งแต่แรกแล้ว แต่...“คุณบีบบังคับให้เพื่อนของผมแต่งงาน พยายามวางยาพิษผู้อาวุโสคอบบ์ แล้วจะจับผมเข้าไปอยู่ในคุกด้วย“ผมจะจดจำเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้"ฮาร์วีย์มีสีหน้าเคร่งขรึม“เมื่อผมได้ออกมาจากสถานีตำรวจเมื่อไหร่ ผมจะตอบแทนคุณเป็นร้อยเท่า“ผมจะทำให้ตระกูลของคุณต้องล่มสลาย และจะบังคับให้คุณหักขาอีเดนเป็นการขอโทษด้วย!”ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะจัดการกับคนโสโครกอย่างอีเดนด้วยตัวเขาเองฉะนั้นการใช้เวลาแก้แค้นตระกูลคอบบ์อย่างไม่รีบเร่งจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับฮาร์วีย์“แกอยากให้คุณย่าคอบบ์หักขาฉันเหรอ?! เมื่อกี๊แกพูดอะไรของแกวะ?”อีเดนทำเสียงเยาะเย้ยด้วยท่าทีหยิ่งผยอง“แกควรคิดหาวิธีออกจากคุกจะดีกว่านะ!“ในที่สุดแกก็จะได้รู้ซะทีว่าการมาปีนเกลียวกับตระกูลคอบบ์นั้นจะส่งผลยังไงหลังจากนั้น!”คุณย่าคอบบ์นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสงบ แล้วกระแทกไม้เท้าลงบนพื้น“แกจะต้องคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฉันในไม่ช้านี้...เคทีและฮาร์วีย์" เธอพูดหลังจากทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นช
ฮาร์วีย์อดที่จะทำเสียงเยาะเย้ยไม่ได้หลังจากเห็นสารวัตรหัวล้านคนนั้นทำสีหน้าจริงจังในที่สุดเขาก็รู้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เคารพกฎหมายเอาเสียเลย เขารู้ว่าความยุติธรรมและความถูกต้องก็ใช้ที่นี่ไม่ได้เช่นกันแต่ยังไงก็ตามเขาไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยถ้าเขาต้องใช้สายสัมพันธ์ของเขาบ้างในภายหลัง“คุณกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่รึไง?!”สารวัตรหัวโล้นคนนั้นรู้อับอายขายหน้าเมื่อเห็นฮาร์วีย์ทำสีหน้าเยาะเย้ยเขาเอามือทุบโต๊ะด้วยความโกรธเกรี้ยว“ฉันขอเตือนแกนะไอ้สารเลว! ที่นี่เป็นสถานที่แห่งความถูกต้องและยุติธรรม!“ฉันจะฟ้องแกในฐานหมิ่นประมาทถ้าแกยังทำปากเสียอยู่อีกล่ะก็!”ฮาร์วีย์ยิ้ม“ดี ฉันกำลังรอคำพูดนั้นอยู่เลยล่ะ“คุณจะเชื่อไหมถ้าผมจะบอกว่าผมจะต่อสู้กลับก็ต่อเมื่อตระกูลคอบบ์ลงมือก่อน?”เหล่าสารวัตรพวกนั้นมองหน้ากันแล้วทำเสียงเยาะเย้ย“ตระกูลคอบบ์เป็นหนึ่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ ตระกูลนี้มีแต่ผู้คนที่มีความโดดเด่นทั้งนั้นเลย!“แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องมาต่อกรกับคนนอกอย่างแกด้วยล่ะ?”“พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพื่อบีบบังคับให้เคทีแต่งงานกับกาเอลเท่านั้นแหละ" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“เธอกำลังถูกบังคั
เอลเลนเกือบโดนเจซลวนลามหลังจากบังคับให้เธอดื่มเหล้าจนเมามาย แต่ฮาร์วีย์ก็ช่วยเธอเอาไว้ได้ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกเลยถึงแม้ว่าเอลเลนจะตกอยู่ในสภาพเมามายในตอนนั้น แต่เธอรู้อย่างแน่นอนว่าฮาร์วีย์คือผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้สายตาที่เอลเลนจ้องมองฮาร์วีย์นั้นเป็นสายตาที่ดูต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก เธอไม่ได้ดูถูกเขาอีกต่อไปแล้วผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอสวมชุดที่ดูเป็นงานเป็นการพร้อมกับสวมแว่นกรอบทอง เธอดูเหมือนผู้หญิงที่อยู่ในวัยสี่สิบกว่า ๆ แต่รูปร่างเพรียวบางและใบหน้าอันงดงามของเธอช่างดูโดดเด่นมากแต่ยังไงก็ตามเธอดูไว้ตัวและเหินห่างเป็นอย่างยิ่ง ผู้ชายธรรมดา ๆ ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมามองเธอได้เลย“สวัสดีค่ะ"เอลเลนพยักหน้าให้สารวัตรทั้งสองคนนั้น ก่อนจะเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสับสน“คุณมาที่นี่ทำไมเหรอฮาร์วีย์?“นี่คือฮาร์วีย์ค่ะแม่ เขาเป็นคนที่จัดการทุก ๆ คนเพื่อช่วยหนูเอาไว้"เอลเลนไม่ได้ติดต่อเคทีเลยหลังถูกปลดออกจากงาน เธอจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตระกูลคอบบ์สีหน้าของสารวัตรสาวหน้ากลมดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงของเอลเลนแล้ว เธอตระหนักได้ว่าฮาร์วีย์ได้ให้ค
'แฟนเหรอ?''คู่หมั้นเหรอ?'ฮาร์วีย์แทบจะสำลักกาแฟหลังจากได้ยินคำพูดนั้นสารวัตรระดับสูงและทรงอำนาจสองคนนั้นมองฮาร์วีย์ด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดพวกเขากวาดตามองฮาร์วีย์แต่ไม่เห็นความพิเศษอะไรในตัวเขาเลยพวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมีสิทธิ์ไปเกาะผู้หญิงทั้งในตระกูลคอบบ์และตระกูลโมเรโน่โนเอมิตัวแข็งทื่อ วินาทีต่อมาใบหน้าของเธอก็ดูหมองหม่น“แม่ไม่สนหรอกนะว่าเขาจะเป็นแฟนหรือเพื่อนของลูก แต่ลูกไม่สามารถไปปกป้องคนที่ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมได้นะ!”แน่นอนว่าโนเอมิมีสถานะที่ค่อนข้างลำบากในตระกูลของเธอ ภายนอกเธอดูสูงส่งและทรงพลัง แต่เธอค่อนข้างเจ้าระเบียบในเรื่องต่าง ๆ เธอจะไม่ยอมให้ใครในตระกูลของเธอหาเรื่องมาวิพากษ์วิจาร์เธอได้เอลเลนมองแม่ของเธอด้วยสายตาเคืองขุ่น แล้วจากนั้นก็หันไปมองฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์! บอกพวกเขาไปสิว่าคุณถูกเข้าใจผิด! ผู้ชายที่ดีอย่างคุณจะไม่ทำร้ายใครตามอำเภอใจหรอก“ถึงแม้ว่าคุณจะทำแบบนั้น แต่ฉันมั่นใจว่าคุณต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน!”สารวัตรสาวหน้ากลมกระแอมกระไออย่างเคอะเขิน“คุณโมเรโน่ เราก็หวังเหมือนกันว่าเพื่อนหรือคู่หมั้นของคุณคนนี้จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่มีพยานหลา
ฮาร์วีย์ทำหน้านิ่งมองสารวัตรสาวหน้ากลมคนนั้น“ถ้าผู้หญิงสองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณช่วยรับประกันได้ไหมว่าจะไม่มีใครทำลายหลักฐานนั้น"สารวัตรสาวหน้ากลมคนนั้นยืนตัวแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็มองไปที่สารวัตรหัวล้านโดยสัญชาตญาณสารวัตรหัวโล้นจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดแล้วก้มหัวลงหลังจากฮาร์วีย์แสดงหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของเขาอย่างชัดเจน พร้อมด้วยการสนับสนุนจากตระกูลโมเรโน่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพวกนั้นจึงไม่สามารถกักตัวเขาได้อีกต่อไป ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์ก็จากไปโดยไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อยฮาร์วีย์ออกจากสถานที่แห่งนั้นได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ความช่วยเหลือจากแม่ลูกคู่นั้นเลย แต่เขาก็ยังแสดงสีหน้าจริงใจเพื่อแสดงความขอบคุณพวกเขาด้วย “คุณคอบบ์ เอลเลน ขอบคุณนะครับ"“ผมจะจดจำความช่วยเหลือของคุณเอาไว้ ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ผมขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนะครับ!”เอเลนส่งยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น“ต่อจากนี้ไปผมจะทำหน้าที่เป็นโล่ห์คอยปกป้องให้คุณในแบล็คเบิร์น ซิตี้!”“แม่ของฉันเป็นสุภาพสตรีหมายเลขสองของตระกูลโมเรโน่ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ เมื่อมีเธออยู่ข้าง ๆ
ฮาร์วีย์รู้ได้เลยว่าโนเอมิคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยท้ายที่สุดแล้วก็เป็นธรรมดาที่แม่จะต้องปกป้องลูกสาวเขารับนามบัตรมาและเก็บไว้ในกระเป๋าของเขาทันใดนั้นจู่ ๆ โนเอมิก็ไอขึ้นมาฮาร์วีย์จึงมองที่หน้าอกของเธอโดยสัญชาตญาณโนเอมิรู้สึกเดือดดาลมากเมือเห็นฮาร์วีย์กำลังมองมาที่ไหน'เด็กน้อยอย่างเขากล้าดียังไงมาทำแบบนี้?! เขาคิดว่าฉันเป็นใครเหรอ?'ถ้าฮาร์วีย์ไม่เคยช่วยลูกสาวของเธอไว้ เธอคงตบหน้าเข้าไปแล้วที่มาแสดงความหยาบคายกับเธอ“ในเมื่อคุณใจดีกับผมมากคุณโมเรโน่ ผมจึงขอบอกอะไรกับคุณหน่อยนะครับ"ฮาร์วีย์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบไหนอยู่ แต่การฝึกฝนของคุณเต็มไปด้วยข้อบกพร่องอย่างมาก“ผมคิดว่าคุณควรหยุดการฝึกซ้อมหรือปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยฝึกฝนมา เพราะถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้นคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน"“ฮาร์วีย์!”เอลเลนตัวแข็งทื่อ จากนั้นเธอก็นึกถึงความสำเร็จของเขาที่ช่วยชีวิตดีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ“คุณพูดจริงหรือเปล่า?“ฮาร์วีย์เก่งมากค่ะแม่! แม่ควรฟังเขานะคะ!”โนเอมิหรี่ตามอง แล้วในที่สุดก็เปิดเผยความกลัดกลุ้มของ
"ขอบคุณนะที่อุตส่าห์ใส่ใจในเรื่องสุขภาพของฉัน ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ฉันจะรีบไปตรวจสุขภาพทันที“แต่เราต้องยุติเรื่องที่นี่เอาไว้ก่อน ฉันกับเอลเลนต้องไปแล้ว!โนเอมิแสดงสีหน้าซาบซึ้ง“ขอให้โชคดี"ฮาร์วีย์บอกได้เลยว่าโนเอมิไม่เชื่อที่เขาพูดเลย หลังจากเห็นสีหน้าที่ดูไม่ไว้วางใจของเธอ“ทำไมไม่หาเวลาให้ผมหน่อยล่ะครับ? ผมจะได้ตรวจดูอาการให้...”“พอเถอะฮาร์วีย์! ฉันกำลังพยายามรักษาหน้าของคุณไว้เพื่อเห็นแก่เอลเลน!“หยุดทำอะไรล้ำเส้นซะเถอะ!”โนเอมิก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดกับฮาร์วีย์ด้วยระดับเสียงที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยินฮาร์วีย์ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีกเลยโนเอมิยิ้มเยาะอย่างเย็นชาก่อนจะพาลูกสาวเข้าไปในรถโตโยต้า อัลพาร์ดเอลเลนมีท่าทีลังเล เธออยากจะพูดอะไรออกไป แต่เธอไม่สามารถต่อต้านแม่ของตัวเองได้“จริงอยู่ที่ผู้ชายคนนั้นช่วยชีวิตลูกไว้ แล้วยังทำร้ายอีเดนและตระกูลคอบบ์ด้วย...“แต่ลูกแน่ใจแล้วเหรอว่าเขาไม่ได้ร่วมมือกับคนพวกนั้นเพื่อหลอกลวงลูก!“อีเดนเคยเป็นแฟนเก่าของลูกและเกือบโดนเขาหลอกใช้ แล้วนับประสาอะไรกับผู้ชายที่เพิ่งพบกันล่ะ!“แม่ไม่อนุญาตให้ไปพูดคุยกั
ในเวลาเดียวกันฮาร์วีย์ไม่รู้เรื่องเลยว่าโนเอมิได้ไปตรวจสุขภาพจริง ๆหลังจากออกจากสถานีตำรวจแล้วเขาก็โทรหาเคทีจากนั้นเขาก็เรียกรถแท็กซี่แล้วมุ่งหน้าไปยังวิลล่าของตระกูลคอบบ์เคทีมั่นใจว่าเขาจะต้องออกมาได้ เธอรีบสั่งให้พ่อครัวเตรียมทำอาหารมื้อใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของเขา“คุณมีแผนจะทำอะไรต่อไปคะ?”เคทีเทไวน์แดงให้ฮาร์วีย์หนึ่งแก้วพร้อมกับยิ้มเธอให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งกับคำสัญญาของเขาที่จะสร้างตระกูลให้เธอนี่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับเธออยู่แล้วในด้านดีคือเธอจะไม่ต้องถูกคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ในตระกูลคอบบ์บังคับแต่ในทางกลับกันเธอก็จะไม่มีโอกาสได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคนในตระกูลอีกเลย“ง่ายมาก! ในเมื่อตระกูลคอบบ์ต้องการเกาะสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ขนาดนั้น เราก็จะแยกพวกเขาออกจากกัน“ผมจะทำให้องค์กรแห่งนั้นต่อต้านพวกเขา แล้วหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ต้องมารับใช้เรา“ตราบใดที่องค์กรแห่งนั้นยังอยู่ข้างเรา ธุรกิจของตระกูลคอบบ์ก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณทั้งหมด“ในอนาคตตระกูลเดียวในทะเลใต้ที่ชื่อคอบบ์ก็จะเป็นของคุณ"ความเกลียดชังที่ฮาร์วีย์มีต่อ