"ฉันรู้ว่าเธอกำลังมองหารักแท้อยู่เคที“แต่ในฐานะทายาทของตระกูล เธอต้องลิ้มรสความรุ่งโรจน์และความร่ำรวย ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของตระกูล!“ฉันจะไม่ตำหนิเธอถึงสิ่งที่เธอเคยทำในอดีตอีกต่อไป...“ถึงแม้หลังจากที่เธอแต่งงานไปแล้ว ฉันก็ยังรับประกันตำแหน่งหัวหน้าบ้านหลังใหญ่ให้เธอได้!คุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าภาคภูมิใจราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจกว้างซะเหลือเกิน“ตราบใดที่เธอแต่งงานกับนายน้อยแพดโลว์ เราก็จะมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอยู่เคียงข้างเราเสมอ!“เธอคิดว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้รักเธอจริง ๆ เหรอ?“เขาก็แค่เกาะเธอเพื่อหวังจะได้ใช้ประโยชน์จากอำนาจและความร่ำรวยของตระกูลเท่านั้นแหละ!“ฉันจะจ่ายเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ให้ผู้ชายคนนี้ได้เผ่นกลับประเทศ H ไป“เราจะจัดการเรื่องทุกอย่างแบบนี้!“เธอมีอะไรขัดข้องกับข้อเสนอของฉันหรือเปล่า?”สีหน้าของเคทีเปลี่ยนไปในทันทีอีเดนหัวเราะอย่างเย็นชาและก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทีหยิ่งผยอง“เธอได้ยินไหมเคที?“คุณย่าคอบบ์ใจดีแค่ไหนที่จะทำให้เราเลิกทะเลาะกัน แล้วท่านยังไม่ทำให้ผู้ชายของเธอต้องลำบากมากขึ้นด้วย!“คุณย่าแค่ไล่เขาออกไปพร้อมกับให้
เคทีมองไปรอบ ๆ ตัวโดยสัญชาตญาณเหล่าสมาชิกของตระกูลนี้ต่างหัวเราะกันอย่างเย็นชา สีหน้าของพวกเขาดูชั่วร้ายและน่ากลัวมาก“หยุดมองได้แล้วเคที ไม่มีใครเชื่อไอ้โสโครกคนนั้นเหรอก...” อีเดนพูดช้า ๆ“มีแต่คนไร้เดียงสาอย่างเธอเท่านั้นแหละ ที่จะเชื่อว่าไอ้ผู้ชายไร้ประโยชน์อย่างมันจะทำอะไรแบบนี้ได้" วาเลรี่ร้องบอกด้วยท่าทีหยิ่งผยองผู้อาวุโสที่ไว้เคราคนนั้นถอนหายใจ“ตื่นได้แล้วเคที เลิกฝันเสียทีเถอะ"เคทีรู้สึกใจสลายเป็นอย่างมาก เธอพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อตระกูลนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่มีใครเลยที่จะยืนหยัดขึ้นมาอยู่เคียงข้างเธอ และไม่มีใครเชื่อว่าฮาร์วีย์จะมีความสามารถด้วยเธอโซซัดโซเซไปข้างหลังด้วยใบหน้าที่ดูซีดเผือดฮาร์วีย์รีบจับเคทีเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มลม แล้วกระซิบบอกด้วยความกังวลว่า "คุณโอเคไหม?”“ฉันไม่เป็นไรค่ะ"เคทีสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อตั้งสติ จากนั้นเธอก็มองดูคุณย่าคอบบ์ด้วยสีหน้าขมขื่น“คุณย่าคอบบ์ไม่เชื่อในตัวหลานสาวของตัวเองเลยเหรอคะ?”แน่นอนว่าเคทียังคงเชื่อใจในตระกูลของตัวเองอยู่“คุณย่ายังไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!”คุณย่าคอบทำเสียงเยาะเย้น เธอกระแทก
คนในตระกูลนี้ทั้งหมดต่างพูดเสียงดังขึ้นมาทันที พวกเขารู้ว่าตระกูลของตัวเองจะได้ประโยชน์อย่างมาก ถ้าเคทีเชื่อฟังและแต่งงานกับกาเอลความรู้สึกของเคทีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยคนในตระกูลต่างเชื่อว่าตราบใดที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเขา พวกเขาก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก ๆถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้เอาไว้ได้ แต่พวกเขาก็สามารถมีชีวิตแบบไม่ต้องกังวลอะไรไปได้อีกสองสามปีความรู้สึกของเคทีในตอนนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรต่อพวกเขาเลยพวกเขาไม่สนใจด้วยว่าชีวิตของเธอจะลงเอยยังไงพวกเขาเตรียมที่จะส่งเคทีไปถึงเตียงนอนของกาเอลเลย หลังจากนึกถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับเมื่อรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังของทุก ๆ คน อีเดนก็หัวเราะออกมาด้วยความหยิ่งผยอง“ตระกูลของเราคิดว่าเธอควรแต่งงานกับนายน้อยแพดโลว์ แล้วเธอจะพูดอะไรต่อหน้าตระกูลที่เลี้ยงดูเธอมาได้อีกล่ะ?”หลังจากมองเห็นสีหน้าอันชั่วร้ายของคนในตระกูลนี้ เคทีก็นึกถึงช่วงเวลาที่เธอถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย...ในเวลานี้เธอได้แต่หัวเราะอย่างเศร้าใจเธอตะหนัก
'เราไม่คู่ควรงั้นเหรอ?!'ฝูงชนต่างตัวแข็งทื่อ แล้วเสี้ยววินาทีต่อมาพวกเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมาพวกเขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยาม โดยคิดว่าฮาร์วีย์ช่างเป็นคนโง่เง่าที่พูดจาแบบนั้นออกมามีผู้คนหลายร้อยคนที่ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับตระกูลคอบบ์ ในขณะเคทียืนอยู่คนเดียว'เขากล้าเรียกเราว่าคนที่ไม่คู่ควรทั้ง ๆ ที่เขาอยู่ลำพังเพียงคนเดียวเนี่ยนะ?''เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?'ทุกคนมองดูฮาร์วีย์ราวกับว่าพวกเขากำลังมองคนปัญญาอ่อน คนสติดี ๆ จะไม่พูดอะไรออกมาแบบนั้นหรอกสาว ๆ ในตระกูลคอบบ์ต่างหรี่ตามองฮาร์วีย์ หลังจากนั้นพวกเธอก็ระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกับส่ายหัวนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเธอได้เห็นคนโง่เขลาเบาปัญญาเช่นนี้ฮาร์วีย์เป็นแค่ตัวตลกในสายตาของพวกเธอเท่านั้นเคทีตัวแข็งทื่อพร้อมกับมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าตกตะลึง เธอไม่รู้เลยว่าเขาหมายถึงอะไรฮาร์วีย์ยังคงยิ้มต่อไป“เคที การดำรงอยู่ของตระกูลไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวน แต่ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของแต่ละคนมากว่า“เนื่องจากไม่มีใครที่นี่มีสิทธิ์จะใช้นามสกุลคอบบ์เลย ผมจะให้คุณสร้างตระกูลของตัวเองขึ้นมาที่แบล็คเบิร์น ซิตี้แห่งนี้“ตระกูลขอ
ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อสารวัตรหญิงคนนั้น แล้วเหลือบมองคุณย่าคอบบ์อย่างใจเย็น“รอไปก่อนเถอะครับคุณย่าคอบบ์“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมตั้งแต่แรกแล้ว แต่...“คุณบีบบังคับให้เพื่อนของผมแต่งงาน พยายามวางยาพิษผู้อาวุโสคอบบ์ แล้วจะจับผมเข้าไปอยู่ในคุกด้วย“ผมจะจดจำเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้"ฮาร์วีย์มีสีหน้าเคร่งขรึม“เมื่อผมได้ออกมาจากสถานีตำรวจเมื่อไหร่ ผมจะตอบแทนคุณเป็นร้อยเท่า“ผมจะทำให้ตระกูลของคุณต้องล่มสลาย และจะบังคับให้คุณหักขาอีเดนเป็นการขอโทษด้วย!”ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะจัดการกับคนโสโครกอย่างอีเดนด้วยตัวเขาเองฉะนั้นการใช้เวลาแก้แค้นตระกูลคอบบ์อย่างไม่รีบเร่งจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับฮาร์วีย์“แกอยากให้คุณย่าคอบบ์หักขาฉันเหรอ?! เมื่อกี๊แกพูดอะไรของแกวะ?”อีเดนทำเสียงเยาะเย้ยด้วยท่าทีหยิ่งผยอง“แกควรคิดหาวิธีออกจากคุกจะดีกว่านะ!“ในที่สุดแกก็จะได้รู้ซะทีว่าการมาปีนเกลียวกับตระกูลคอบบ์นั้นจะส่งผลยังไงหลังจากนั้น!”คุณย่าคอบบ์นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสงบ แล้วกระแทกไม้เท้าลงบนพื้น“แกจะต้องคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฉันในไม่ช้านี้...เคทีและฮาร์วีย์" เธอพูดหลังจากทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นช
ฮาร์วีย์อดที่จะทำเสียงเยาะเย้ยไม่ได้หลังจากเห็นสารวัตรหัวล้านคนนั้นทำสีหน้าจริงจังในที่สุดเขาก็รู้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เคารพกฎหมายเอาเสียเลย เขารู้ว่าความยุติธรรมและความถูกต้องก็ใช้ที่นี่ไม่ได้เช่นกันแต่ยังไงก็ตามเขาไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยถ้าเขาต้องใช้สายสัมพันธ์ของเขาบ้างในภายหลัง“คุณกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่รึไง?!”สารวัตรหัวโล้นคนนั้นรู้อับอายขายหน้าเมื่อเห็นฮาร์วีย์ทำสีหน้าเยาะเย้ยเขาเอามือทุบโต๊ะด้วยความโกรธเกรี้ยว“ฉันขอเตือนแกนะไอ้สารเลว! ที่นี่เป็นสถานที่แห่งความถูกต้องและยุติธรรม!“ฉันจะฟ้องแกในฐานหมิ่นประมาทถ้าแกยังทำปากเสียอยู่อีกล่ะก็!”ฮาร์วีย์ยิ้ม“ดี ฉันกำลังรอคำพูดนั้นอยู่เลยล่ะ“คุณจะเชื่อไหมถ้าผมจะบอกว่าผมจะต่อสู้กลับก็ต่อเมื่อตระกูลคอบบ์ลงมือก่อน?”เหล่าสารวัตรพวกนั้นมองหน้ากันแล้วทำเสียงเยาะเย้ย“ตระกูลคอบบ์เป็นหนึ่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ ตระกูลนี้มีแต่ผู้คนที่มีความโดดเด่นทั้งนั้นเลย!“แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องมาต่อกรกับคนนอกอย่างแกด้วยล่ะ?”“พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพื่อบีบบังคับให้เคทีแต่งงานกับกาเอลเท่านั้นแหละ" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“เธอกำลังถูกบังคั
เอลเลนเกือบโดนเจซลวนลามหลังจากบังคับให้เธอดื่มเหล้าจนเมามาย แต่ฮาร์วีย์ก็ช่วยเธอเอาไว้ได้ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกเลยถึงแม้ว่าเอลเลนจะตกอยู่ในสภาพเมามายในตอนนั้น แต่เธอรู้อย่างแน่นอนว่าฮาร์วีย์คือผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้สายตาที่เอลเลนจ้องมองฮาร์วีย์นั้นเป็นสายตาที่ดูต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก เธอไม่ได้ดูถูกเขาอีกต่อไปแล้วผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอสวมชุดที่ดูเป็นงานเป็นการพร้อมกับสวมแว่นกรอบทอง เธอดูเหมือนผู้หญิงที่อยู่ในวัยสี่สิบกว่า ๆ แต่รูปร่างเพรียวบางและใบหน้าอันงดงามของเธอช่างดูโดดเด่นมากแต่ยังไงก็ตามเธอดูไว้ตัวและเหินห่างเป็นอย่างยิ่ง ผู้ชายธรรมดา ๆ ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมามองเธอได้เลย“สวัสดีค่ะ"เอลเลนพยักหน้าให้สารวัตรทั้งสองคนนั้น ก่อนจะเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสับสน“คุณมาที่นี่ทำไมเหรอฮาร์วีย์?“นี่คือฮาร์วีย์ค่ะแม่ เขาเป็นคนที่จัดการทุก ๆ คนเพื่อช่วยหนูเอาไว้"เอลเลนไม่ได้ติดต่อเคทีเลยหลังถูกปลดออกจากงาน เธอจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตระกูลคอบบ์สีหน้าของสารวัตรสาวหน้ากลมดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงของเอลเลนแล้ว เธอตระหนักได้ว่าฮาร์วีย์ได้ให้ค
'แฟนเหรอ?''คู่หมั้นเหรอ?'ฮาร์วีย์แทบจะสำลักกาแฟหลังจากได้ยินคำพูดนั้นสารวัตรระดับสูงและทรงอำนาจสองคนนั้นมองฮาร์วีย์ด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดพวกเขากวาดตามองฮาร์วีย์แต่ไม่เห็นความพิเศษอะไรในตัวเขาเลยพวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมีสิทธิ์ไปเกาะผู้หญิงทั้งในตระกูลคอบบ์และตระกูลโมเรโน่โนเอมิตัวแข็งทื่อ วินาทีต่อมาใบหน้าของเธอก็ดูหมองหม่น“แม่ไม่สนหรอกนะว่าเขาจะเป็นแฟนหรือเพื่อนของลูก แต่ลูกไม่สามารถไปปกป้องคนที่ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมได้นะ!”แน่นอนว่าโนเอมิมีสถานะที่ค่อนข้างลำบากในตระกูลของเธอ ภายนอกเธอดูสูงส่งและทรงพลัง แต่เธอค่อนข้างเจ้าระเบียบในเรื่องต่าง ๆ เธอจะไม่ยอมให้ใครในตระกูลของเธอหาเรื่องมาวิพากษ์วิจาร์เธอได้เอลเลนมองแม่ของเธอด้วยสายตาเคืองขุ่น แล้วจากนั้นก็หันไปมองฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์! บอกพวกเขาไปสิว่าคุณถูกเข้าใจผิด! ผู้ชายที่ดีอย่างคุณจะไม่ทำร้ายใครตามอำเภอใจหรอก“ถึงแม้ว่าคุณจะทำแบบนั้น แต่ฉันมั่นใจว่าคุณต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน!”สารวัตรสาวหน้ากลมกระแอมกระไออย่างเคอะเขิน“คุณโมเรโน่ เราก็หวังเหมือนกันว่าเพื่อนหรือคู่หมั้นของคุณคนนี้จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่มีพยานหลา