“ใครบอกเธอว่าฉันสู้ไม่ได้!“ฉันไม่จำเป็นต้องกินอะไรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งหรอกนะ!”ฮาร์วีย์ไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำอะไรมาพูดได้ในขณะที่เอามือลูบขมับ“ก่อนอื่นเลย…ที่ฉันไม่ได้ต่อสู้ก็เพราะมีคนล้อมรอบตัวฉันอยู่มากเกินไป!“ถ้ามีศัตรูซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน หลงเหมินและโกลด์เด้น พาเลซก็คงจะต้องทำสงครามกันจริง ๆ เมื่อพวกนั้นตัดสินใจที่จะยั่วยุเรา!“ประการที่สอง…ฉันกำลังพยายามทำให้เธอเข้าใจอะไรบางอย่าง!“นี่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้เลย! ความสัมพันธ์ก็มีความสำคัญเหมือนกัน!“ก่อนที่ผู้คนจะทะเลาะกันในหนัง เธอคิดไหมว่าทำไมตัวละครหลักถึงต้องถามชื่อคนอื่นก่อนเสมอ?“คำตอบนั้นง่ายมาก ก็เพราะพวกเขาต้องการรู้ว่าพวกเขาสามารถสู้กับคู่ต่อสู้ได้ไหม!“ถ้าคู่ต่อสู้มีภูมิหลังและการสนับสนุนมากมาย ถึงแม้ตัวละครหลักจะชนะได้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!"ลองคิดดูสิ ตัวละครหลักมักจะมาจากองค์กรที่มีชื่อเสียงเสมอ! ใคร ๆ ต่างก็ให้ความเคารพยำเกรงพวกเขา!“เราไม่สามารถใช้หมัดพูดแทนเราได้เสมอไปหรอกใช่ไหม?“ถ้าเป็นแบบนั้น คงจะเหนื่อยน่าดู!”เด็กทั้งสามคนทำหน้าเหมือนกับว่าพวกเขาตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ แต่พวกเขายังคงไม่เชื่อเ
แอ็กเซล การ์เซียแสดงสายตาพิฆาตและความมีศักดิ์ศรีที่น่าสะพรึงกลัวชาวอินเดียที่อยู่ที่นั่นต่างก้มหน้าลงโดยสัญชาตญาณ พวกเขาไม่กล้าสบตากับแอ็กเซลด้วยซ้ำไป“ไม่มีใครตอบคำถามของฉันเลยเหรอ?“หรือเธอกำลังบอกว่าเธอไม่มั่นใจเลย?“นี่ไม่เหมือนกับตอนที่เธอทำการท้าทายแชมเปี้ยนระดับจังหวัดเหล่านั้นนะ” แอ็กเซลกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มและแหบแห้ง”“เธอบอกว่าในประเทศ H นั้น ไม่มีใครแข่งขันกับเราได้ และอินเดียก็สามารถบดขยี้คนรุ่นใหม่ได้โดยไม่ต้องให้ผู้มีความสามารถชั้นยอดของเราต้องลงมืออะไรเลย"อะไรกัน? ตอนนี้เธอยอมแพ้กันแล้วเหรอ?”ชาวอินเดียต่างมองหน้ากัน ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งคำนับ“เราอ่อนแอเกินไปแล้วครับ ท่านหัวหน้า!”แอ็กเซลทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ฉันไม่อยากได้ยินอะไรแบบนั้น”“เธอไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ?”“เธอมั่นใจแค่ไหนในการจัดการกับเด็กที่มีความสามารถสามคนนั้น?!”"ไม่มั่นใจเลยครับ!" ชายคนหนึ่งตอบด้วยสีหน้าเศร้าหมอง“แต่เนื่องจากนี่คือสงคราม เราจะต่อสู้อย่างสุดกำลัง ถึงแม้ว่าเราจะสู้พวกเขาไม่ได้ก็ตาม! เราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศของเรา!”“เราจะสู้! เราจะสู้!”
หลังจากได้ยินคำพูดของแดนนี่ เบอร์ตันแล้ว ไรแลนด์ เบอร์โลว์ก็พูดขึ้นมาข้าง ๆ เขา“ท่านอาจารย์การ์เซีย เมื่อพิจารณาดูจากภาพแล้ว แอมเบอร์ เลอวีนและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะมีความรู้จริง ๆ ในจุดนี้! พวกเขาจะต้องมีความสามารถทัดเทียมกับราชาแห่งอาวุธด้วย...“และไม่ใช่แค่ราชาแห่งอาวุธมือใหม่ด้วย พวกเขาอาจจะอยู่ห่างจากการเป็นเทพสงครามเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น“ผู้คนที่นี่ยอดเยี่ยมมาก พวกเขาอยู่ในกลุ่มที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน แต่พวกเขาเป็นเพียงราชาแห่งอาวุธที่ดีที่สุดเท่านั้น!“พวกเขาไม่มีโอกาสชนะแอมเบอร์และคนอื่น ๆ เลย!“ถึงแม้ว่าเด็กที่มีความสามารถทั้งสามคนจะไม่มีประสบการณ์ในโลกภายนอก แต่ทักษะของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะชดเชยสิ่งนั้นได้!“ผู้คนที่นี่จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ถ้าพวกเขาสู้กับสามคนนั้น!”โซอี้อวดรอยยิ้มจาง ๆ“ท่านอาจารย์การ์เซีย ทำไมต้องบีบบังคับให้คนเหล่านี้ต้องได้รับความอับอายในเมื่อเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีทักษะเลย” โซอี้พูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย“สิ่งที่เราต้องแสดงให้โลกเห็นในตอนนี้ก็คือความแข็งแกร่งและการมีอำนาจเหนือผู้อื่นของเรา!”
“แต่ยังไงก็ตามท่านพูดถึงเรื่องนี้กับเราในยามที่เราเราถูกเรียกตัวมา!“ท่านบอกว่าเรามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้กับโคดี้ การ์เซีย!“เราไม่เพียงแต่พยายามทวงคืนชื่อเสียงของเราเท่านั้น แต่เรายังจะบดขยี้ไอ้สารเลวที่ทำให้ชื่อเสียงของเรามัวหมองและทำให้พวกเราอับอายอีกด้วย!“เราจะบีบบังคับให้เขาต้องได้รับความอับอายไปตลอดเวลาที่เหลืออยู่!“แต่ท่านไม่เคยเอ่ยถึงเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!“เขาจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งต่อไปเหรอครับ?”“ฉันได้ยินมาว่าเขาเรียกเราไปที่จุดสูงสุดของฟลัตเวลล์ในอีกหนึ่งสัปดาห์ เขาอ้างว่าเขาจะเอาชนะเราทุกคนด้วยตัวของเขาเองใช่ไหม?”ไรแลนด์ เบอร์โลว์และโซอี้ การ์เซียทำสีหน้าที่ดูจริงจังหลังจากได้ยินเรื่องเกี่ยวกับฮาร์วีย์ท้ายที่สุดแล้วชายคนนั้นคือคนที่สามารถเอาชนะหนึ่งในสามนักบวชปีศาจได้ถึงแม้ว่าผู้คนจะแพร่กระจายข่าวลือโดยบอกว่าฮาร์วีย์ชนะการแข่งขันด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยม...ผู้มีความสามารถชั้นยอดทั้งสามคนนั้นรู้ดีว่าชัยชนะก็ยังคงเป็นชัยชนะวันยันค่ำ แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความเก่งกาจของฮาร์วีย์ได้แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับแอมเบอร์ เลอวีนและคนอื่
วันเวลาผ่านไปสองสามวันอย่างรวดเร็วแมนดี้ ซิมเมอร์ไม่เพียงแต่ออกจากโรงพยาบาลเท่านั้น แต่เธอยังกลับมาทำงานแล้วด้วยฮาร์วีย์ ยอร์กอยากไปเยี่ยม แต่ลิเลียน เยตส์รู้สึกโกรธมากหลังหายจากอาการบาดเจ็บฮาร์วีย์ตัดสินใจไม่ไปหลังจากคิดว่าลิเลียนจะส่งผลต่ออารมณ์ของเขาอย่างแน่นอนหลังจากบอกให้เคย์เดน บัลเมอร์คอยดูแลกิจการของบริษัทฮาร์ทสโตนแล้ว ฮาร์วีย์ก็รอคอยอย่างเงียบ ๆ อยู่ในหอฝึกยุทธ เพื่อรอเวลาต่อสู้กับชายอินเดียพวกนั้นในขณะที่เหุตการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้น แอมเบอร์ เลอวีน, ฟิลิป สตีล และอัลบัส ร็อบบินส์ ต่างก็ถามคำถามเขามากมายในสายตาของพวกเขานั้น ฮาร์วีย์เป็นเพียงมือใหม่ พวกเขาเชื่อจริง ๆ ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดการกับผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดนั้นด้วยตัวเองฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรเพื่อเคลียร์ปัญหาความเข้าใจผิดนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้าเด็กทั้งสามคนนั้นสามารถจัดการกับชาวอินเดียได้ท้ายที่สุดแล้วจะมีเพียงผู้มีความสามารถคนใหม่ ๆ เท่านั้น ถ้าคนรุ่นใหม่แซงหน้าคนรุ่นเก่าไปทั่วทั้งฟลัตเวลล์ต่างเงียบกริบ ราวกับว่าทุกคนกำลังรอการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มอย่างเงียบ ๆ ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเลยใ
“อาจารย์ยอร์ก? ฉันได้ยินเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับคุณมาเยอะเลย”ในขณะที่ฮาร์วีย์กำลังเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านตะวันออกซึ่งมีนักสู้ของประเทศ H อยู่ที่นั่น เขาก็บังเอิญเจอแอ็กเซล การ์เซีย, แดนนี่ เบอร์ตัน และคนอื่น ๆแอ็กเซลอวดรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปอย่างกระตือรือร้น“ฉันได้ยินชื่อของคุณมาหลายครั้งหลายหนในอินเดียจนหูแทบแตกเมื่อมาถึงจุดนี้!“แต่พูดตามตรงนะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน!“คุณดูเหมือนกับเสียงร่ำลือที่ใคร ๆ กล่าวถึงคุณเลย คุณไม่เพียงแต่เป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังเป็นเสาหลักของประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของหลงเหมินด้วย“ถึงแม้ว่าจะมีคำพูดหนึ่งที่ฉันแน่ใจว่าคุณก็รู้ว่า 'ยิ่งคุณมีความยิ่งใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งล้มลงได้แรงมากขึ้นเท่านั้น!“คุณเป็นคนที่มีชื่อเสียง…แต่ก็เหมือนกับนายพลที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณนั่นแหละ คุณอาจไม่สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวได้! "โอ๊ย! ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับคุณเลย…”แอ็กเซลอวดรอยยิ้มปลอม ๆแดนนี่และคนอื่น ๆ มองสำรวจฮาร์วีย์ พวกเขาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขามามากมาย แต่ก็อดจะรู้สึกหนักใจไม่ได้ถ้าพวกเขาไม่แ
“พูดตามตรงนะคุณโซอี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีความสามารถชั้นยอดมากมายจากอินเดีย ผมชื่นชมคุณมากที่สุด!”ฮาร์วีย์แสดงความชื่นชมในตัวโซอี้อย่างออกนอกหน้าในเวลานั้น“ตำนานไม่เพียงแต่บอกว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดของอินเดียเท่านั้น แต่คุณยังมีความแข็งแกร่งที่สุดด้วย!“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณในที่สุด!“ผมมีบูโดกันหลายสิบแห่งที่อยู่ภายใต้ชื่อของผม…“คุณสนใจที่จะเป็นหนึ่งในทีมผู้สอนของผมไหม?"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ! คุณสามารถเป็นผู้สอนแต่เพียงในนามก็ได้ถ้าคุณต้องการ!“และถ้าคุณเข้ามาร่วมทีม ผมจะมอบหุ้นบูโดกันให้คุณสามสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย! ผมจะจ่ายเงินเดือนรายปีให้คุณสิบห้าล้านดอลลาร์เลย!“ผมรับประกันได้เลยว่าชาวอินเดียพวกนั้นจะไม่มาสร้างปัญหาให้คุณในเรื่องนี้แน่!“ถ้าคุณส่งสัญญาณว่าอยากจะทำ เราก็สามารถมาแชร์ความสุขทั้งหมดนี้ด้วยกันได้!“คุณสามารถสร้างรายได้กับผมได้อย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบล้านต่อปี! คุณสามารถมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อบูโดกันพวกนั้นเข้าจดทะเบียนในตลาด!”ฮาร์วีย์แสดงท่าทีจริงใจราวกับว่าเขาพยายามจะดึงโซอี้มาอยู่ข้างเขาจริง ๆแดนนี่ เบอร์ตันและไรแลนด์ เบอร์โล
ฮาร์วีย์แสดงท่าทางที่เอาใจใส่เมื่อเขาจ้องมองแผ่นหลังของโซอี้“เรายังคงสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อีกนะถ้าคุณต้องการ คุณโซอี้!“ผมจะจ่ายให้คุณมากเท่าที่คุณต้องการ!“ถ้าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านยังไม่เพียงพอ ผมสามารถจ่ายให้คุณถึง 1.5 พันล้านได้!“ตราบใดที่คุณให้โอกาสผม ผมก็ยินดีที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีในฟลัตเวลล์ให้กับคุณ!”โซอี้วิ่งตุปัดตุเป๋ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอรู้สึกตื่นตระหนกในขณะที่วิ่งหนีออกมา…เธอรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นจะทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายกับผู้คนในฝั่งของเธอถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าฮาร์วีย์ตั้งใจจะทำการต่อสู้แบบประชิดตัว แต่ผู้มีความสามารถชั้นยอดเหล่านั้นก็ยังคงส่งสายตาแปลก ๆ เมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่โซอี้ในด้านหนึ่งฮาร์วีย์ก็ให้ความชื่นชมโซอี้มากพอ ๆ กับที่เขาดูถูกคนอื่นถึงแม้ว่าพวกเขาจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้จริง ๆ ชื่อของโซอี้ก็จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในทางกลับกันราคาที่ฮาร์วีย์เสนอให้นั้นก็สูงเกินไปคนอื่น ๆ จะต้องรับเงินจำนวนนั้นอย่างไม่ลังเลอะไรเลยพวกเขาแค่สงสัยว่าโซอี้จะรู้สึกหนักใจขนาดไหนในเวลานั้น“แกมันไอ้สารเลวไร้ยางอาย!”แอ็กเซลเป