“พวกเขาเป็นเด็กที่มีความสามารถซึ่งกำลังไปท้าทายชาวอินเดียในนามของหลงเหมินเหรอ?” โคเอนพูดด้วยริมฝีปากแห้งผากราวกับนึกอะไรบางอย่างได้"อะไรนะ? พวกเขากำลังจะต่อสู้กับชาวอินเดียเหรอ?”“นายน้อยเหล่านี้มาทำภารกิจที่นี่เหรอ?”“มีคนจากโกลด์เด้น พาเลซกำลังบังคับให้คนเหล่านี้ไปเป็นผู้สอนส่วนตัว เพื่อผลประโยชน์ของตนเองเหรอ?”ฝูงชนเริ่มแสดงความสงสัยมากขึ้นสาวกของโกลด์เด้น พาเลซรู้สึกเฉื่อยชามากในขณะจับหน้าไม้ในฐานะที่เป็นสถานที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์เพียงแห่งเดียวในฟลัตเวลล์ โกลด์เด้น พาเลซย่อมรู้ดีว่าชาวอินเดียได้นำผู้ที่มีความสามารถชั้นยอดของตนเองมาท้าทายหลงเหมินพวกเขารู้ว่าหลงเหมินมีผู้ที่มีความสามารถชั้นยอดสามคนที่จะต่อสู้กลับด้วยเช่นกันเด็กเหล่านี้ถูกคนรอบข้างเอาอกเอาใจอยู่ตลอดเวลา!พวกเขาได้รับมอบหมายให้ต่อสู้กับชาวอินเดียในนามของหลงเหมิน!นี่คือสงคราม!ถ้าใครกล้าแตะต้องเด็กเหล่านี้ก่อนหน้านั้น ไม่ใช่แค่สาวกวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซเท่านั้น แม้แต่นายท่านก็ยังต้องชดใจด้วย!โคเอนตัวสั่นเทาก่อนที่เขาจะอุทานออกมาตามสัญชาตญาณว่า “คุ..คุณคือแชมเปี้ยนสาขาฟลัตเวลล์ของ หลงเหมินที
ดวงตาและปากของโคเอนไม่สามารถหยุดกระตุกได้เลยเขาไม่รู้ว่าจะพูดกับฮาร์วีย์ยังไงดีเขาอาจจะท้าทายอำนาจของหลงเหมินได้ แต่ถ้าเขาบอกว่าเขาไม่เคารพองค์กรนี้ตั้งแต่แรก นี่ไม่ใช่สิ่งที่สาวกวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซจะสามารถทำได้แต่เขาจะแสดงให้เห็นว่าไม่ให้ความเคารพตัวเอง ถ้าเขายอมรับหลงเหมินและตัวตนของผู้คนที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ดังนั้นโคเอนจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขาทำได้แค่มองลงไปในความเงียบ ใบหน้าของเขาช่างดูแย่เหลือเกินหลายครั้งที่ความเงียบงันก็เป็นรูปแบบหนึ่งของข้อตกลงเช่นกันปฏิกิริยาของโคเอนทำให้ฝูงชนทั้งหมดตกใจพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าฮาร์วีย์จะมีอำนาจเหนือโคเอนอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่แสดงตัวตนออกมาเท่านั้นสาวกคนอื่น ๆ ของโกลด์เด้น พาเลซต่างมองหน้ากันด้วยสายตาเคอะเขิน พวกเขาถูกบังคับให้เข้ามุมอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยงได้เลย“ดูเหมือนว่าหลงเหมินยังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง”หลังจากที่เห็นโคเอนยังคงเงียบกริบ ฮาร์วีย์ก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะมองกลับไปยังเด็กที่มีความสามารถสามคนซึ่งกำลังตกตะลึงอย่างหนัก“พวกเธอได้เรียนรู้อะไรหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้บ้าง?“ให้ฉันสอนบทเรี
"โอ้?"“นายกำลังขู่ฉันเหรอ?”“เหนี่ยวไกเลยถ้านายกล้า!”“ถ้าฉันกะพริบตา ฉันจะเลียรองเท้าบู๊ตของนาย!” ฮาร์วีย์ประกาศก้องดวงตาของผู้ติดตามกระตุกอย่างบ้าคลั่ง และเหงื่อหยดลงมาบนแผ่นหลังของเขาเขาไม่เคยคิดเลยว่าฮาร์วีย์จะหัวแข็งขนาดนี้เขารู้ดีว่าตัวเองจะต้องเจออะไรถ้าเหนี่ยวไกปืนออกไปไม่เพียงแต่เขาจะถูกผู้คนสาปแช่งเท่านั้น แต่หลงเหมินและโกลด์เด้น พาเลซก็น่าจะทำสงครามกันด้วยไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถเหนี่ยวไกได้"อะไร? ทำไม่ได้เหรอ?!“ช่างใจเสาะเหลือเกิน!”ฮาร์วีย์ตบสาวกคนนั้นกระเด็นไปเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างสงบนิ่งก่อนที่จะเดินไปหาผู้ติดตามที่เหลือเสียงตบก็ได้ยินก้องไปทั่วห้องในช่วงเวลาเดียวกัน สาวกที่หยิ่งผยองและชอบใช้อำนาจของโกลด์เด้น พาเลซ ต่างถูกตบลงไปกองกับพื้น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวในขณะที่ใช้มือกุมใบหน้าเอาไว้ถ้าเป็นวันอื่นพวกเขาคงไม่กลัวตัวตนของฮาร์วีย์หรอก...แต่อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์นับเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศก่อนที่จะไปต่อสู้กับชาวอินเดียใครก็ตามที่แตะต้องตัวเขาแม้แต่นิดเดียวก็จะต้องตายอย่างน่าสยดสยอง!ราเชลหัวเราะอย่างเย็
โครม โครม โครม!ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดอะไรออกมาอีก ผู้คนที่หยิ่งผยองต่างก็คุกเข่าลงกับพื้นทันทีแอมเบอร์และคนอื่น ๆ ยืดหลังตรงเมื่อเห็นภาพนั้น พวกเขารู้สึกสดชื่นมาก…“ไอ้สารเลว! ไอ้สารเลวนั่น!”หลังจากนั้นครู่ใหญ่ ผู้คนที่คุกเข่าอยู่นานจนขาชาก็ได้คลานกลับไปที่รถผู้หญิงใจร้ายคนนั้นนั่งอยู่ข้างหน้าโคเอนด้วยสีหน้าที่ดูบิดเบี้ยว“เราปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามทางของเขาไม่ได้นะ นายน้อยเบียร์สตัดท์!“ชื่อเสียงของพวกเราจะมัวหมองไปหมด!“ถ้าเราไม่ทำอะไรเพื่อหยุดยั้งฮาร์วีย์จากการเป็นนายใหญ่ของหลงเหมิน เราก็จะไม่มีโอกาสได้แก้แค้นอีก!”เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่รู้สึกขอบคุณในความเมตตาของฮาร์วีย์เลย พวกเขาไม่สนใจที่จะพิจารณาตัวเองแม้แต่น้อยทันทีที่พวกเขาจากไป พวกเขาก็คิดที่จะแก้แค้นแล้วโคเอนหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้นหลังจากนั้นครู่ใหญ่"ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไม่ปล่อยให้มันจบลงแบบนี้แน่!“เขาคิดว่าเขาสามารถเป็นหัวหน้าคนใหม่ของหลงเหมินได้ในการต่อสู้ครั้งนี้เหรอ? ช่างฝันอะไรลม ๆ แล้ง ๆ !“ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาได้ไปตามทางของเขา!“ถ้าเขาขึ้นครองบัลลังก์ เขาก็จะเหยียบย่ำฉันทุกครั้งที่เขาต้
“ใครบอกเธอว่าฉันสู้ไม่ได้!“ฉันไม่จำเป็นต้องกินอะไรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งหรอกนะ!”ฮาร์วีย์ไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำอะไรมาพูดได้ในขณะที่เอามือลูบขมับ“ก่อนอื่นเลย…ที่ฉันไม่ได้ต่อสู้ก็เพราะมีคนล้อมรอบตัวฉันอยู่มากเกินไป!“ถ้ามีศัตรูซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน หลงเหมินและโกลด์เด้น พาเลซก็คงจะต้องทำสงครามกันจริง ๆ เมื่อพวกนั้นตัดสินใจที่จะยั่วยุเรา!“ประการที่สอง…ฉันกำลังพยายามทำให้เธอเข้าใจอะไรบางอย่าง!“นี่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้เลย! ความสัมพันธ์ก็มีความสำคัญเหมือนกัน!“ก่อนที่ผู้คนจะทะเลาะกันในหนัง เธอคิดไหมว่าทำไมตัวละครหลักถึงต้องถามชื่อคนอื่นก่อนเสมอ?“คำตอบนั้นง่ายมาก ก็เพราะพวกเขาต้องการรู้ว่าพวกเขาสามารถสู้กับคู่ต่อสู้ได้ไหม!“ถ้าคู่ต่อสู้มีภูมิหลังและการสนับสนุนมากมาย ถึงแม้ตัวละครหลักจะชนะได้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!"ลองคิดดูสิ ตัวละครหลักมักจะมาจากองค์กรที่มีชื่อเสียงเสมอ! ใคร ๆ ต่างก็ให้ความเคารพยำเกรงพวกเขา!“เราไม่สามารถใช้หมัดพูดแทนเราได้เสมอไปหรอกใช่ไหม?“ถ้าเป็นแบบนั้น คงจะเหนื่อยน่าดู!”เด็กทั้งสามคนทำหน้าเหมือนกับว่าพวกเขาตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ แต่พวกเขายังคงไม่เชื่อเ
แอ็กเซล การ์เซียแสดงสายตาพิฆาตและความมีศักดิ์ศรีที่น่าสะพรึงกลัวชาวอินเดียที่อยู่ที่นั่นต่างก้มหน้าลงโดยสัญชาตญาณ พวกเขาไม่กล้าสบตากับแอ็กเซลด้วยซ้ำไป“ไม่มีใครตอบคำถามของฉันเลยเหรอ?“หรือเธอกำลังบอกว่าเธอไม่มั่นใจเลย?“นี่ไม่เหมือนกับตอนที่เธอทำการท้าทายแชมเปี้ยนระดับจังหวัดเหล่านั้นนะ” แอ็กเซลกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มและแหบแห้ง”“เธอบอกว่าในประเทศ H นั้น ไม่มีใครแข่งขันกับเราได้ และอินเดียก็สามารถบดขยี้คนรุ่นใหม่ได้โดยไม่ต้องให้ผู้มีความสามารถชั้นยอดของเราต้องลงมืออะไรเลย"อะไรกัน? ตอนนี้เธอยอมแพ้กันแล้วเหรอ?”ชาวอินเดียต่างมองหน้ากัน ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งคำนับ“เราอ่อนแอเกินไปแล้วครับ ท่านหัวหน้า!”แอ็กเซลทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ฉันไม่อยากได้ยินอะไรแบบนั้น”“เธอไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ?”“เธอมั่นใจแค่ไหนในการจัดการกับเด็กที่มีความสามารถสามคนนั้น?!”"ไม่มั่นใจเลยครับ!" ชายคนหนึ่งตอบด้วยสีหน้าเศร้าหมอง“แต่เนื่องจากนี่คือสงคราม เราจะต่อสู้อย่างสุดกำลัง ถึงแม้ว่าเราจะสู้พวกเขาไม่ได้ก็ตาม! เราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศของเรา!”“เราจะสู้! เราจะสู้!”
หลังจากได้ยินคำพูดของแดนนี่ เบอร์ตันแล้ว ไรแลนด์ เบอร์โลว์ก็พูดขึ้นมาข้าง ๆ เขา“ท่านอาจารย์การ์เซีย เมื่อพิจารณาดูจากภาพแล้ว แอมเบอร์ เลอวีนและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะมีความรู้จริง ๆ ในจุดนี้! พวกเขาจะต้องมีความสามารถทัดเทียมกับราชาแห่งอาวุธด้วย...“และไม่ใช่แค่ราชาแห่งอาวุธมือใหม่ด้วย พวกเขาอาจจะอยู่ห่างจากการเป็นเทพสงครามเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น“ผู้คนที่นี่ยอดเยี่ยมมาก พวกเขาอยู่ในกลุ่มที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน แต่พวกเขาเป็นเพียงราชาแห่งอาวุธที่ดีที่สุดเท่านั้น!“พวกเขาไม่มีโอกาสชนะแอมเบอร์และคนอื่น ๆ เลย!“ถึงแม้ว่าเด็กที่มีความสามารถทั้งสามคนจะไม่มีประสบการณ์ในโลกภายนอก แต่ทักษะของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะชดเชยสิ่งนั้นได้!“ผู้คนที่นี่จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ถ้าพวกเขาสู้กับสามคนนั้น!”โซอี้อวดรอยยิ้มจาง ๆ“ท่านอาจารย์การ์เซีย ทำไมต้องบีบบังคับให้คนเหล่านี้ต้องได้รับความอับอายในเมื่อเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีทักษะเลย” โซอี้พูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย“สิ่งที่เราต้องแสดงให้โลกเห็นในตอนนี้ก็คือความแข็งแกร่งและการมีอำนาจเหนือผู้อื่นของเรา!”
“แต่ยังไงก็ตามท่านพูดถึงเรื่องนี้กับเราในยามที่เราเราถูกเรียกตัวมา!“ท่านบอกว่าเรามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้กับโคดี้ การ์เซีย!“เราไม่เพียงแต่พยายามทวงคืนชื่อเสียงของเราเท่านั้น แต่เรายังจะบดขยี้ไอ้สารเลวที่ทำให้ชื่อเสียงของเรามัวหมองและทำให้พวกเราอับอายอีกด้วย!“เราจะบีบบังคับให้เขาต้องได้รับความอับอายไปตลอดเวลาที่เหลืออยู่!“แต่ท่านไม่เคยเอ่ยถึงเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!“เขาจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งต่อไปเหรอครับ?”“ฉันได้ยินมาว่าเขาเรียกเราไปที่จุดสูงสุดของฟลัตเวลล์ในอีกหนึ่งสัปดาห์ เขาอ้างว่าเขาจะเอาชนะเราทุกคนด้วยตัวของเขาเองใช่ไหม?”ไรแลนด์ เบอร์โลว์และโซอี้ การ์เซียทำสีหน้าที่ดูจริงจังหลังจากได้ยินเรื่องเกี่ยวกับฮาร์วีย์ท้ายที่สุดแล้วชายคนนั้นคือคนที่สามารถเอาชนะหนึ่งในสามนักบวชปีศาจได้ถึงแม้ว่าผู้คนจะแพร่กระจายข่าวลือโดยบอกว่าฮาร์วีย์ชนะการแข่งขันด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยม...ผู้มีความสามารถชั้นยอดทั้งสามคนนั้นรู้ดีว่าชัยชนะก็ยังคงเป็นชัยชนะวันยันค่ำ แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความเก่งกาจของฮาร์วีย์ได้แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับแอมเบอร์ เลอวีนและคนอื่