นามบัตรนั้นมีตราประทับสีทองพร้อมกับระบุชื่อว่า "ซามูเอล บาวเออร์"!ทุกคนหันไปมองตามทันทีหลังจากเห็นตัวอักษรสวยหรูพิมพ์อยู่บนนามบัตรใบนั้นสีหน้าของโจเซฟ บาวเออร์ดูแย่ลงทันทีซามูเอล บาวเออร์เป็นหัวหน้าครอบครัวทั้งของตระกูลบาวเออร์และหลงเหมินเขาไม่ค่อยได้อยู่กับตระกูลนี้เท่าไหร่ ดังนั้นคุณยายบาวเออร์จึงมักเป็นคนคอยควบคุมเองนามบัตรนี้เขียนด้วยลายมือเพื่อแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของซามูเอลที่มีต่อผู้ถือนามบัตรใบนี้ นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นแขกคนสำคัญของซามูเอล!ท้ายที่สุดแล้ว นามบัตรก็มีอำนาจได้ดุจดั่งชายผู้นั้นเอง!ไม่ใช่แค่โจเซฟหรอก ทุกคนที่อยู่ในตระกูลบาวเออร์ก็แสดงสีหน้าที่ดูน่าสยดสยองเช่นกันพวกเขาไม่เข้าใจเลยว่านามบัตรใบนั้นไปอยู่กับฮาร์วีย์ได้ยังไงจริง ๆ แล้วซามูเอลได้มอบสิ่งนี้ให้กับฮาร์วีย์มานานแล้ว แต่เขาไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มันเลยเขาไม่คาดคิดว่าในที่สุดเขาจะดึงสิ่งนี้ออกมาหลังจากผ่านไปนานแล้วหลังจากเห็นสีหน้านิ่งอึ้งของลุกก้า บาวเออร์ ฮาร์วีย์ก็เอื้อมมือไปตบหน้าเขาเบา ๆ"อะไรกัน? แกจำนามบัตรใบนี้ไม่ได้เหรอ?” ฮาร์วีย์ส่งเสียงเย็นชาออกมา“ถึงแม้แกจะจ
เหตุการณ์พลิกผันขึ้นมาทันที ดูเหมือนลุกก้า บาวเออร์จะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้แล้ว แต่ฮาร์วีย์ ยอร์กก็รีบขจัดมันออกไปทันทีฮาร์วีย์มีสีหน้าเคร่งขรึมเขาคิดว่าลุกก้าคงจะแสดงความกลัวออกมาบ้าง หลังจากเห็นของที่ระลึกของซามูเอล บาวเออร์ ไม่ว่าเขาจะหยิ่งผยองสักแค่ไหนก็ตาม...แต่เขาไม่เคยคิดว่าว่าลุกก้าจะเริ่มโจมตีเขาอย่าไม่ลังเลอะไรเลยซึ่งก็มีเหตุผลอยู่เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือซามูเอลอยู่ในสภาพย่ำแย่และอาจจะกำลังจะตายการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ของตระกูลบาวเออร์ก็เกือบจะสิ้นสุดลงเช่นกันถ้าไม่อย่างนั้นลุกก้าก็จะไม่กระทำอะไรที่ไร้เหตุผลเป็นแน่ฮาร์วีย์รู้สึกถึงอันตรายในขณะนี้ เขาพบว่าลุกก้าเป็นคนของนายน้อยที่ไม่เคยแสดงตัวเลยตั้งแต่เริ่มแรก นั่นก็คือคือแฮโรลด์ บาวเออร์ถ้าไม่ใช่เพราะชายผู้มีอำนาจที่หนุนหลังลุกก้าอยู่ เขาคงไม่ออกมาเพียงเพื่อต่อต้านฮาร์วีย์ และทำลายแผนการของเจฟฟ์ บาวเออร์หรอกภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น คงเป็นการดีที่สุดที่ฮาร์วีย์จะต้องโค่นลุกก้าก่อนสิ่งอื่นใด“ปล่อยสจ๊วต บาวเออร์!”ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลบาวเออร์รุมล้อมฮาร์วีย์ทันทีหลังจากเห็นภาพนั้นพวกเขาทั้งหมดชั
ฮาร์วีย์ ยอร์กเขม้นมองด้วยสายตาอันเย็นเฉียบหลังจากได้ยินคำพูดของลุกก้า บาวเออร์เขาจ้องมองลุกก้าอย่างไม่ยินดียินร้ายแล้วบอกว่า “แกพูดอะไรของแก? ฉันฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ฉันจะพูดให้ฟังอีกทีนะ!”ลุกก้าหัวเราะอย่างเย็นชา“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ไม่เพียงแต่แกจะต้องตายเท่านั้น ภรรยา เพื่อน และครอบครัวของแกจะต้องตายตามไปด้วย! แถมบรรพบุรุษของแกก็จะถูกขุดขึ้นมาด้วย!“แล้วรับประกันว่าฉันจะเผาพวกเขาทั้งหมดให้ไหม้เกรียมแบบสุด ๆ เลย!"อะไรนะ? แกบ้าไปแล้วเหรอ? งั้นก็ฟาดฉันเลย!"เอาเลยสิ!"ลุกก้าเอนตัวไปทางฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าหยิ่งผยองเพียะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือไปบนใบหน้าของลุกก้าโดยไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ลุกก้าตะลึงงันเพียะ!“อันนี้สำหรับการไม่ให้ความเคารพยำเกรงนายท่านของแก!เพียะ!“อันนี้สำหรับการไม่เชื่อฟังกฏหมายของแก!”เพียะ!“อันนี้สำหรับความหยิ่งผยองจนโง่งมของแก!“แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใคร แต่แกก็ยังยืนหยัดเพื่อคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?"อะไร?“แกคิดว่าแกเป็นคนที่ดูน่าประทับใจเหรอ?“แกคิดว่าฉันจะไม่ฟาดแกเหรอ?”ฮาร์วีย์โบกไม้โบกมือป้วนเปี้ยนอยู่บนใบหน้าของลุกก้า ทำให
รถเร้นจ์ โรเวอร์ส์หยุดทันทีที่เสียงดังก้องในระยะไกลเงียบเสียงลงชายในชุดคลุมกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวขึ้นหลังจากประตูรถเปิดออกผู้ชายกลุ่มนั้นเข้าห้อมล้อมลุกก้า บาวเออร์ ฮาร์วีย์ ยอร์ก และคนอื่น ๆ ทันทีฮาร์วีย์หรี่ตามอง เขาไม่ได้คาดหวังว่าเจฟฟ์ บาวเออร์จะใช้อำนาจของหลงเหมิน วอร์แบนด์เขาได้ยินเพียงแค่ผู้นำสาขาของหลงเหมินประมาณครึ่งหนึ่ง พร้อมด้วยโถงในและโถงนอกให้การสนับสนุนเจฟฟ์เท่านั้น…แต่หลังจากเห็นภาพนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจได้ว่าอำนาจของเจฟฟ์นั้นยิ่งใหญ่เพียงใดไม่ต้องสงสัยเลยว่าอำนาจของเจฟฟ์จะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอน ถ้าเขาตัดสินใจที่จะทุ่มเทอย่างต็มที่ ก็คงไม่ใครมาเทียบเทียมคนอย่างโจเซฟได้เลยขณะที่ฮาร์วีย์จ้องมองภาพนั้นด้วยความสงสัย หญิงสาวในชุดคลุมสีดำก็เดินออกมาจากประตูรถด้านหน้าเธอไม่เพียงแต่มีรูปร่างที่ชวนดึงดูดสายตาเท่านั้น แต่การแสดงออกที่ดูเยือกเย็นของเธอยังแสดงให้เห็นถึงความสง่างามในตัวเธออีกด้วยที่สำคัญกว่านั้นก็คือความสงบนิ่งและความมั่นใจในตัวเอง ที่ไม่สามารถบรรยายได้เมื่อเธอเปล่งเสียงออกมาคงจะไม่ผิดนักที่จะเรียกเธอว่าผู้ทะนงตัวและชอบใช้อำนาจไม่ว่าคนอื่น
“ผู้ชายคนนี้ใส่ร้ายฉันโดยไม่มีเหตุผล เขาอ้างว่าฉันปลอมของที่ระลึกของเจ้านายคุณขึ้นมา เขาชี้ดาบมาที่ฉัน แถมยังวางแผนที่จะฆ่ายกครัว และเผาบรรพบุรุษของฉันให้สิ้นซากด้วย…ฮาร์วีย์ทำหน้าเหมือนไม่แยแสอะไรเลย“แต่คุณแค่ตัดเงินเดือนของเขาเป็นเวลาหกเดือนเท่านั้นเหรอ?“ในฐานะที่เป็นลูกน้องของเจฟฟ์ บาวเออร์ คุณจะมาทำเมินเฉยกับผมแบบนี้เหรอ?“คุณจะเมินเฉยต่อหน้าที่แบบนี้เหรอ?”ใบหน้าของอาร์ยาดูแย่ลงทันทีหลังจากได้ยินข้อกังขาของฮาร์วีย์ลุกก้าหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“แกคิดว่าแกเป็นใคร ไอ้สารเลว!“เราไม่ได้ต้องการให้แกมาสอนให้ทำโน่นทำนี่หรอกนะ!“แกคิดว่าแกจะโค่นฉันลงเพียงเพราะแกมีนายน้อยบาวเออร์คนโตเข้าข้างอยู่น่ะเหรอ?"จะบอกอะไรให้นะ! ฉันก็เป็นคนของตระกูลบาวเออร์ด้วยเหมือนกัน“เราทั้งหมดมีสายเลือดเดียวกัน แม้ว่าฉันจะเป็นเพียงญาติก็ตาม!ลุกก้าอวดรอยยิ้มที่ดูน่าสมเพชเวทนา“ซึ่งก็ดีต่อแกที่ฉันไม่ได้รับเงินค่าจ้าง!“คนต่ำต้อยเช่นแกไม่มีสิทธิ์ที่จะมีคนเอ่ยถึงต่อหน้าฉันด้วยซ้ำไป!”“ฉันจะปล่อยแกไปเพื่อเห็นแก่อาร์ยา…“แต่ฉันจะหาโอกาสจัดการกับแกอีกครั้ง!“ฉันไม่เพียงแต่จะฆ่าแกเท่านั้น แต่ฉัน
ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้ให้โอกาสเขาพูดด้วยซ้ำไปเขาขว้างใบมีดที่อยู่ในมือปักเข้าไปตรงคอหอยของลุกก้า บาวเออร์ฉึก!เลือดพุ่งออกมาจากคอลุกก้าจนได้ยินเสียงเลือดกลั้วอยู่ในลำคออย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าลุกก้ากำลังจะตายมิตายแหล่หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น...โจเซฟ บาวเออร์ซึ่งนอนตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นหลังจากพิการไปแล้วนั้นรู้สึกตกใจสุดขีด เขาไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่เห็อยู่ตรงหน้านี้จะเป็นจริงเขาไม่ได้คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะชอบใช้กำลังได้ถึงขนาดนี้การทำให้โจเซฟพิการนั้นกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย...แต่นี่เขาถึงกับเอาชีวิตของลุกก้าต่อหน้าอาร์ยา โดยไม่แสดงความเคารพยำเกรงต่อเจฟฟ์ บาวเออร์เลย!ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่าแม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของลุกก้าในครั้งนี้ได้ในขณะนี้สิ่งที่เหลืออยู่บนใบหน้าของเขาคือความขุ่นเคือง ความโกรธแค้น และความไม่เชื่อเขาคิดว่าการที่อาร์ยามาอยู่ที่นี่จะช่วยปล่อยเขาออกไปได้ ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อย ๆ เขาก็จะสามารถเตรียมตัวก่อนที่จะได้จัดการกับฮาร์วีย์อีกครั้ง...แต่เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะปลิดชีวิตเขาหลังจากตบหน้าจนเขาล
“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! ไอ้สารเลว!”อาร์ยา จอห์นสันเริ่มรู้สึกตัวในตอนนั้นเธอไม่เชื่อว่าฮาร์วีย์จะกล้าปลิดชีวิตของลุกก้า บาวเออร์ต่อหน้าต่อตาของเธอเพราะยังไง ๆ เธอได้เตือนเขาไปแล้วว่าว่านี่คือกฏของเธอ กฎของเจฟฟ์ บาวเออร์...แต่ฮาร์วีย์ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยอาร์ยาถึงกับเดือดดาลด้วยความโกรธในขณะนั้นแต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับความจริงเธอโกรธฮาร์วีย์ที่ทำอะไรตามอำเภอใจ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ความขัดแย้งของเจฟฟ์และแฮโรลด์ บาวเออร์ก็จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ!ความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองก็จะบานปลายออกไปเพราะเหตุนี้!แฮโรลด์ก็อาจจะถึงกับคิดว่าเจฟตั้งใจยั่วยุเขา!เจฟฟ์จะไม่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้อย่างแน่นอน ถ้ามันลุกลามบานปลายออกไปแบบนี้อาร์ยาอยากจะเข้าไปบีบคอฮาร์วีย์อย่างไม่ลังเลเลยในวินาทีนั้น“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ!” เธออุทานอย่างโกรธจัด“ฉันบอกให้ปล่อยลุกก้าไป!“เราควรจัดการกับเขาตอนเขากลับมา! คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง!“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร!“คุณกล้าตบเขาลอยกระเด็นไปก่อนจะฆ่าเขาได้ยังไง!“คุณคิดว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องตลกเหรอ?!”ใบหน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลายสิบคนจากหลงเหมิน วอร์แบนด์ต่างยกอาวุธขึ้นโดยสัญชาตญาณ หลังจากได้ยินคำสั่งของอาร์ยา จอห์นสันพวกเขาทั้งหมดแสดงสีหน้าดุร้ายพร้อมกับคำรามใส่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของตระกูลบาวเออร์ เพื่อบังคับให้พวกนั้นล่าถอยออกไปลูกน้องที่ไว้ใจได้ของลุกก้า บาวเบอร์บางคนต้องการปิดกั้นเส้นทาง แต่ก็ถูกกลุ่มหลงเหมิน วอร์แบนด์ตบกระเด็นไปทางด้านข้างในทันทีถึงแม้ว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญจะโกรธเคืองมาก แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลีกทางให้สามนาทีต่อมา ฮาร์วีย์ ยอร์กก็นั่งอยู่ในรถโตโยต้า พราโด้ของเขาอย่างสบายใจ ก่อนจะทำไม้ทำมือส่งสัญญาณให้คนของอาร์ยาส่งลิเลียน เยตส์ไปโรงพยาบาลเส้นเลือดบริเวณหน้าผากของอาร์ยาโป่งพองจนเห็นได้ชัด ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปโดยสัญชาตญาณ“คุณคิดที่จะทำอะไรน่ะฮาร์วีย์!“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?!“นายน้อยบาวเออร์เตรียมงานเลี้ยงไว้สำหรับคุณโดยเฉพาะ!”“กลับไปบอกเขาว่า…” ฮาร์วีย์ตอบขณะสตาร์ทรถ“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้เลย“ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความจริงใจแล้ว“ถ้าเขาต้องการพบฉันจริง ๆ เขาก็มาหาฉันที่หอฝึกยุทธได้”จากนั้นฮาร์วีย์ก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข