“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! ไอ้สารเลว!”อาร์ยา จอห์นสันเริ่มรู้สึกตัวในตอนนั้นเธอไม่เชื่อว่าฮาร์วีย์จะกล้าปลิดชีวิตของลุกก้า บาวเออร์ต่อหน้าต่อตาของเธอเพราะยังไง ๆ เธอได้เตือนเขาไปแล้วว่าว่านี่คือกฏของเธอ กฎของเจฟฟ์ บาวเออร์...แต่ฮาร์วีย์ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยอาร์ยาถึงกับเดือดดาลด้วยความโกรธในขณะนั้นแต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับความจริงเธอโกรธฮาร์วีย์ที่ทำอะไรตามอำเภอใจ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ความขัดแย้งของเจฟฟ์และแฮโรลด์ บาวเออร์ก็จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ!ความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองก็จะบานปลายออกไปเพราะเหตุนี้!แฮโรลด์ก็อาจจะถึงกับคิดว่าเจฟตั้งใจยั่วยุเขา!เจฟฟ์จะไม่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้อย่างแน่นอน ถ้ามันลุกลามบานปลายออกไปแบบนี้อาร์ยาอยากจะเข้าไปบีบคอฮาร์วีย์อย่างไม่ลังเลเลยในวินาทีนั้น“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ!” เธออุทานอย่างโกรธจัด“ฉันบอกให้ปล่อยลุกก้าไป!“เราควรจัดการกับเขาตอนเขากลับมา! คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง!“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร!“คุณกล้าตบเขาลอยกระเด็นไปก่อนจะฆ่าเขาได้ยังไง!“คุณคิดว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องตลกเหรอ?!”ใบหน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลายสิบคนจากหลงเหมิน วอร์แบนด์ต่างยกอาวุธขึ้นโดยสัญชาตญาณ หลังจากได้ยินคำสั่งของอาร์ยา จอห์นสันพวกเขาทั้งหมดแสดงสีหน้าดุร้ายพร้อมกับคำรามใส่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของตระกูลบาวเออร์ เพื่อบังคับให้พวกนั้นล่าถอยออกไปลูกน้องที่ไว้ใจได้ของลุกก้า บาวเบอร์บางคนต้องการปิดกั้นเส้นทาง แต่ก็ถูกกลุ่มหลงเหมิน วอร์แบนด์ตบกระเด็นไปทางด้านข้างในทันทีถึงแม้ว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญจะโกรธเคืองมาก แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลีกทางให้สามนาทีต่อมา ฮาร์วีย์ ยอร์กก็นั่งอยู่ในรถโตโยต้า พราโด้ของเขาอย่างสบายใจ ก่อนจะทำไม้ทำมือส่งสัญญาณให้คนของอาร์ยาส่งลิเลียน เยตส์ไปโรงพยาบาลเส้นเลือดบริเวณหน้าผากของอาร์ยาโป่งพองจนเห็นได้ชัด ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปโดยสัญชาตญาณ“คุณคิดที่จะทำอะไรน่ะฮาร์วีย์!“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?!“นายน้อยบาวเออร์เตรียมงานเลี้ยงไว้สำหรับคุณโดยเฉพาะ!”“กลับไปบอกเขาว่า…” ฮาร์วีย์ตอบขณะสตาร์ทรถ“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้เลย“ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความจริงใจแล้ว“ถ้าเขาต้องการพบฉันจริง ๆ เขาก็มาหาฉันที่หอฝึกยุทธได้”จากนั้นฮาร์วีย์ก
“โจเซฟ บาวเออร์กลายเป็นคนพิการอย่างสิ้นเชิง ลูกน้องที่ไว้ใจได้ของแฮโรลด์ บาวเออร์ก็ถูกสังหารเช่นกัน…“ตอนนี้เจฟฟ์ บาวเออร์คงจะดีใจมากใช่ไหม?“ด้วยเหตุนี้ฉันกับแฮโรลด์จึงต้องเผชิญหน้ากัน“ถ้าฉันทำให้แฮโรลด์พิการได้จากเหตุการ์นี้ เจฟฟ์ก็สามารถชนะการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ได้โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ”ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตามองด้วยใบหน้าเรียบเฉย“คุณคิดว่าแฮโรลด์ตั้งใจทำทั้งหมดนี้หรือเปล่า? หรือเจฟฟ์หลอกให้เขาทำสิ่งนี้กันแน่?”ราเชล ฮาร์ดี้และคนอื่น ๆ มองหน้ากันฮาร์วีย์พูดถูกเหตุการณ์ทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก็ยังมีความเกินจริงไปเล็กน้อยการปรากฏตัวของทั้งลุกก้า บาวเออร์และอาร์ยา จอห์นสัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจงใจไปหน่อยหากทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเจฟฟ์ ก็แสดงว่าเขาคิดวางแผนการเอาไว้อย่างเกินความคาดหมายของทุกคนดวงตาของราเชลกระตุกอย่างบ้าคลั่ง“แล้วเราควรทำยังไงกันดีคะ คุณยอร์ก?” ราเชลถามเบา ๆ“เราควรดำเนินการตามแผนการซื้อกิจการของเลขาซาเวียร์ต่อไปหรือเปล่า?”"ต้องทำสิ ทำไมถึงจะไม่ทำล่ะ?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างสงบ“เป็นการดีที่จะระมัดระวังตัวเอาไว้ แ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพูดอยู่นั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยสองสามคนก็เดินเข้ามาด้วยสายตาระแวดระวัง เมื่อพวกเขาจ้องมองซีนเธียร์ ซิมเมอร์และคนอื่น ๆ“เรามาที่นี่เพื่อเข้าควบคุมโบดูกันที่อยู่ในเครือพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์“เราไม่สามารถแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าได้เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลา…“แต่ไม่ต้องกังวลไป นี่เป็นเพียงการโอนสิทธิ์ทางด้านทรัพย์สินตามปกติ เราจะไม่รบกวนการทำงานของคุณหรอกค่ะ”เห็นได้ชัดว่าซีนเธียร์ทำการบ้านมาอย่างดี เธอดูเหมือนเป็นผู้หญิงที่มีประสบการณ์ทันทีที่เธอพูดออกมา“ฉันชื่อซีนเธียร์ค่ะ กรุณาบอกฝ่ายบริหารของคุณด้วย เพื่อที่เราจะสามารถทำเรื่องการถ่ายโอนได้”จากนั้นผู้ช่วยของซีนเธียร์ที่อยู่ข้างหลังเธอ ก็ยื่นเอกสารอย่างเป็นทางการให้เจ้าหน้าที่อ่าน“คุณกำลังจะเข้ายึดโบดูกันใช่ไหม?”พนักงานดูค่อนข้างประหลาดใจ แต่เธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันก่อน เธอพยักหน้าก่อนจะหันกลับเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไรอีกในไม่ช้าผู้คนหลายสิบคนในชุดโบราณก็เดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงที่ดูสง่างามผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากออเดรย์ โลเปซ นายหญิงคนที่สิบเจ็ดของเจฟฟ์ บาวเออร์นั่นเอง
“หยุดพูดได้แล้ว!”ออเดรย์ โลเปซพูดตัดบทซีนเธียร์ทันที พร้อมกับแสดงท่าทีรำคาญ“ไม่มีความเข้าใจผิด และไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ด้วย!“ฉันไม่จำเป็นต้องโทรหาใคร!“ตอนนี้เป็นทรัพย์สินของนายน้อยบาวเออร์!“พวกคุณออกไปตอนนี้เลยดีกว่า! หยุดรบกวนธุรกิจของเราได้แล้ว!”“ถ้าไม่ยอมออกไป ฉันจะเรียกนายน้อยบาวเออร์ออกมาให้บทเรียนที่ฮาร์วีย์ ยอร์กจะไม่มีวันลืม!ออเดรย์โบกมือด้วยสีหน้าเย็นชา"มานี่! พาพวกเขาออกไปจากที่นี่!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างฉุนเฉียวโดยมีอาวุธปืนอยู่ในมือนี่เป็นครั้งแรกที่ซีนเธียร์เห็นภาพเช่นนี้ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจปฏิบัติตามที่เธอบอกไปก่อน"เรากำลังจะออกไป!"ซีนเธียร์กลับไปที่หอฝึกยุทธด้วยความรู้สึกไม่พอใจ“เจฟฟ์ บาวเออร์ซื้อทรัพย์สินทุกรายการของพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์เหรอ?”ดวงตาของฮาร์วีย์เปล่งประกายหลังจากได้ยินคำชี้แจงของซีนเธียร์“ไม่ต้องรีบร้อน ขอผมโทรศัพท์หน่อย”จากนั้นฮาร์วีย์ก็โทรหาแอนเซล ตอร์เรสแอนเซลถึงกับชะงัก เขารีบติดต่อรัฐบาลทันทีก่อนจะโทรกลับไปหาฮาร์วีย์“คราวนี้เจฟฟ์มาหาเราแล้ว คุณยอร์ก“โ
“บอกทุกคนว่าโจเซฟ บาวเออร์ใช้อุบายชั่วร้ายในการหาเงิน เพราะเจฟฟ์ บาวเออร์เป็นคนใช้อำนาจโดยมิชอบ!“แล้วบอกพวกเขาว่าเจฟฟ์ใช้อำนาจโดยมิชอบในการปกปิดความจริง แล้วส่งลูกน้องของตัวเองไปสังหารคนของแฮโรลด์ บาวเออร์!“แฮโรลด์เป็นคนยุติธรรมที่พยายามเปิดเผยเรื่องทั้งหมดต่อสาธารณะ!“สร้างเรื่องราวนี้ขึ้นมาอีกสองสามเวอร์ชั่น!“แต่งเรื่องให้ดูเกินจริงเท่าที่จะทำได้…“ยังไงก็ตามทุกคนต้องรู้ว่าเจฟฟ์และโจเซฟต่างลงเรือลำเดียวกันแล้ว!“และแฮโรลด์ก็ตกเป็นเป้าอย่างต่อเนื่องเพราะความชอบธรรมของเขา!“การต่อสู้แบบคลุกวงในของตระกูลบาวเออร์มีเจฟฟ์เป็นผู้เริ่มต้น…“เราจะทำให้พวกเขาวุ่นวายกันแบบสุด ๆ!”ครืน!ในขณะที่ราเชล และเคย์เดนกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ข้างนอกนั้นก็มีฟ้าร้องดังขึ้นฟลัตเวลล์เป็นเมืองที่ร้อนและชื้น พายุกำลังก่อตัว…ในช่วงหัวค่ำภายในสนามกอล์ฟส่วนตัวในเขตชานเมืองฟลัตเวลล์พระอาทิตย์ก็ฉายแสงเจิดจ้าพร้อมกับมีลมพัดเบา ๆหลังฝนตกเป็นเวลาที่เหมาะแก่การพักผ่อนในขณะตีกอล์ฟเจฟฟ์กำลังเดินเล่นไปรอบ ๆ พร้อมกับออร์เดย์ โลเปซและภรรยาลับคนอื่น ๆ ของเขาในช่วงนี้ผู้คนนับไม่ถ้วนจ้องมองไปที่คนหล่อ
ในขณะที่ผู้คนกลุ่มนั้นกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข…รถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ก็แล่นเข้ามาจอดอยู่ใกล้ ๆ เจฟฟ์และคนอื่น ๆเอลานอร์ ซึ่งแต่งหน้าสวยพร้อมกับสวมชุดกีฬาและหมวกกันแดดก็เดินออกจากรถมาเธอช่างดูสวยชวนหลงใหลเสียเหลือเกิน แม้แต่เจฟฟ์ที่คุ้นเคยกับร่ายกายทุกส่วนสัดของเธอ ก็ยังอดรู้สึกทึ่งไม่ได้เมื่อได้เห็นสายตาของเธอออเดรย์ โลเปซหรี่ตาลงทันทีที่เห็นคู่แข่งของเธอปรากฏตัว“นายน้อยบาวเออร์ไม่ได้ขอให้เธอมาในวันนี้เลยนะเอลานอร์ เธอต้องการอะไร?“เธอไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดของเขาแล้วเหรอ?”เจฟฟ์อวดรอยยิ้มอันอบอุ่นในขณะโบกมือให้“เธอเป็นพี่น้องกันนะออร์เดรย์ เธอต้องทำตัวน่ารักต่อกันสิ ไม่ใช่มาหึงหวงกันอย่างนี้”แน่นอนว่าเจฟฟ์ดูมีความสุขที่มีผู้หญิงมาทะเลาะกันเพื่อแย่งชิงตัวเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาดูมีเสน่ห์และมีตัวตนเป็นอย่างมากออเดรย์ทำเสียงเย้ยหยันอย่างเย็นชาพร้อมกับส่งสายตาเหยียดหยามเอลานอร์ไม่สนใจออเดรย์เลย และรีบเดินเข้าไปหาเจฟฟ์“คุณกำลังล้ำเส้นนะ นายน้อยบาวเออร์!“ฮาร์วีย์เป็นพันธมิตรของเรา!“เราสามารถกำจัดพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์ออกไปได้ก็เพราะเขา!“
ในจำนวนภรรยาลับ ๆ ทั้งหมดเจ็ดสิบสองคน มีผู้หญิงไม่มากนักที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์เอลานอร์ สแตนตันเป็นผู้ควบคุมทรัพย์สินส่วนใหญ่ ดังนั้นเธอจึงมักถูกแยกออกจากภรรยาลับคนอื่น ๆถ้าไม่ใช่เพราะเจฟฟ์ บาวเออร์ที่มีอีโก้สูงขนาดนั้น บรรดาภรรยาลับทั้งหลายคงเริ่มเยาะเย้ยเอลานอร์ที่นอกใจเจฟฟ์ ณ จุดนี้เอลานอร์ตัวสั่นขึ้นมาทันทีที่เธอรู้ว่าออเดรย์ โลเปซกำลังทำอะไรอยู่ เธอส่ายหัวโดยสัญชาตญาณเมื่อเธอพูดว่า “อย่าเข้าใจฉันผิดนะคะ นายน้อยบาวเออร์“ฉันแค่เป็นห่วงคุณ“ท้ายที่สุดแล้ว ไอ้สารเลวนั่นเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเขาโกรธเพราะเรื่องนี้ก็จะส่งผลร้ายแรง…”ออเดรย์หัวเราะอย่างเย็นชา“โกรธเหรอ? เขามีสิทธิ์อะไร?“ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธจริง แต่เธอคิดว่าเขาจะสู้กับนายน้อยบาวเออร์ได้เหรอ?“ทำไมเธอถึงโง่เขลาและไร้เดียงสาได้ถึงขนาดนี้?! เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอมีความอาฆาตแค้น!” "เอาล่ะ พอได้แล้ว ไม่ต้องมาโต้เถียงกันในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้หรอก”ดวงตาของเจฟฟ์เปล่งประกายก่อนจะโบกมือห้ามไม่ให้ออเดรย์พูดจากนั้นเขาก็ใช้แขนโอบไหล่ของเอลานอร์อย่างอ่อนโยนพร้อมกับอวดรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น“ฉั
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข