ครึ่งชั่วโมงต่อมาหุ้นพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์ก็ลดลงหลายสิบจุดในขณะที่หุ้นมีราคาสูงขึ้น เงินทุนจำนวนมหาศาลก็หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเงินทุนมุ่งตรงไปที่พันธมิตร โดยซื้อหุ้นชอร์ตในทันทีนักลงทุนต่างตกใจมากเมื่อเห็นคำสั่งซื้อหลายแสนรายการที่รอให้ดำเนินการอยู่พวกเขาทั้งหมดขายหุ้นไปพร้อม ๆ ด้วยกลัวว่าหุ้นเหล่านั้นจะกลายเป็นตัวเลขที่ไร้ค่าในเวลาเพียงไม่กี่นาที หุ้นพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์ก็ร่วงลงจากสี่สิบดอลลาร์เหลือเพียงยี่สิบแปดดอลลาร์หนึ่งในสามของมูลค่าตลาดจำนวนพันล้านดอลลาร์ของพันธมิตรหายวับไปทันทีนอกจากผู้คนในฟลัตเวลล์ที่คอยติดตามสถานการณ์แล้ว นักลงทุนจากต่างประเทศก็รู้สึกมืดมนไร้หนทางด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะหยุดยั้งสถานการณ์เช่นนี้ก็คือคอยระวังไม่ให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราคาหุ้นพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์จะถูกสังหารหมู่ ถ้าผู้คนยังคงขายหุ้นของตัวเองต่อไป หนึ่งชั่วโมงต่อมาพันธมิตรก็ถูกทำให้ขาดสะบั้นอย่างไร้ความปราณีโจเซฟไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องนำเงินทุนออกจากคลังส่วนตัวและเงินทุนหมุนเวียนของพันธมิตร เพื่อนำเข้าสู่ตลาดหุ้นราคาหุ้นขอ
ตลาดหุ้นเปิดอีกครั้งในช่วงบ่ายฮาร์วีย์ยังไม่ออกจากลานบ้านของตระกูลบาวเออร์ เขาโชว์หุ้นพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์ตรงทางเข้าผ่านจอโปรเจ็กเตอร์เห็นได้ชัดว่าฮาร์วีย์กำลังวางแผนที่จะเข้าไปรับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเมื่อเห็นดังนั้นครอบครัวที่คิดร้ายต่อโจเซฟก็เดินเข้าไปในลานบ้านทันทีพวกเขาทั้งหมดพยายามที่จะสร้างปัญหาให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์อยู่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ได้นำสิ่งที่พวกเขาต้องการเข้าไปข้างในก็คงจะเป็นการสูญเปล่าในขณะที่การต่อสู้อันดุเดือดในตลาดหุ้นยังคงดำเนินอยู่ ทันใดนั้นแมนดี้ซึ่งอยู่ในบริษัทฮาร์ทสโตนก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุดหย่อนเธอไม่คิดที่จะรับสายแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นหลังจากเห็นชื่อบนหน้าจอเธอถอนหายใจ“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าซื้อขายหุ้นอีก!“ทำไมคุณไม่ฟังฉันสักครั้ง!“คุณไม่เพียงแต่ทุ่มเงินออมทั้งหมดของคุณให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์เท่านั้นนะ แต่คุณยังซื้อโดยมีเงินทดรองความสูญเสียด้วยเหรอ?“คุณใช้การกู้เงินเพื่อการลงทุนได้น้อยกว่าหนึ่งในสามของเงินทุนทั้งหมด แต่คุณจะถูกบังคับให้ปิดตำแหน่งของคุณหากหุ้นร่วงหล่นลงเรื่อย ๆ!“เงินของคุณไม่เพ
"ขอแต่งงานเหรอ?"รูบี้ตัวแข็งทื่อ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าจริง ๆ แล้วลิเลียนโง่เขลาขนาดไหนแต่เพื่อให้เป็นไปตามแผน เธอก็ยังคงสงบสติอารมณ์เอาไว้"คุณเยตส์คะ นายน้อยบาวเออร์จะขอซีอีโอซิมเมอร์แต่งงานแน่นอน แต่ไม่ใช่วันนี้และไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ“เราต้องการให้คุณโทรหาเธอที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ…”“ช่วยอะไรเหรอ?”ลิเลียนรู้สึกสับสน“ลูกเขยที่รักของคุณกำลังสร้างปัญหาให้กับนายน้อยบาวเออร์อยู่ในตอนนี้“นายน้อยบาวเออร์ไม่มีความสุขเลย เราหวังว่าลูกสาวของคุณจะโน้มน้าวให้ฮาร์วีย์หยุดได้“เรื่องนี้จะไม่เป็นผลดีต่อใครก็ตามที่เกี่ยวข้องเลย!”มีบางอย่างที่รูบี้ไม่ได้พูด ถึงแม้ว่าแมนดี้จะช่วยอะไรไม่ได้ พวกเขาก็ยังใช้เธอเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของฮาร์วีย์ได้อยู่ดีจะต้องทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นก่อนที่ตลาดหุ้นจะปิดในบ่ายวันนั้น ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องทั้งหมดนี้ก็จะไร้ประโยชน์“ไอ้สารเลวนั่นกำลังสร้างปัญหาให้กับนายน้อยบาวเออร์เหรอ?!”ลิเลียนขึ้นเสียงทันที“เขาไม่อยากให้ลูกสาวของฉันอยู่อย่างสงบสุขหรือไง?!"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ! ฉันจะให้แมนดี้จะจัดการกับเจ้าสารเลวนั่นแน่นอนเมื่อเธอมาถึงท
“หยุดพูดได้แล้ว!"คุณต้องการอะไร?!"แมนดี้มีทีท่าระมัดระวังตัวรูบี้หัวเราะเบา ๆ“คุณควรคุยกับซีอีโอซิมเมอร์แทนจะดีกว่าค่ะคุณเยตส์“เราเป็นแค่คนนอกคงไม่สะดวกที่จะเข้าไปยุ่มย่าม“ตราบใดที่ซีอีโอซิมเมอร์ยอมรับข้อเสนอของเรา เราก็จะทำให้ความปรารถนาของคุณกลายเป็นจริง”ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของรูบี้ ลิเลียนก็จ้องไปที่แมนดี้ราวกับว่าเธอถูกฉีดสารอะดรีนาลีนเข้าไป“ไอ้สารเลวฮาร์วีย์นั่นกำลังสร้างปัญหาให้กับนายน้อยบาวเออร์! ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนแบบไหนถึงทำแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้เขากำลังทำให้หุ้นของนายน้อยบาวเออร์เกิดความปั่นป่วน!“โทรหาเขาเดี๋ยวนี้เลย!“บอกให้เขาหยุดเดี๋ยวนี้!“ถ้าเขาไม่หยุด ฉันจะให้บทเรียนชนิดที่เขาจะไม่มีวันลืม!”แมนดี้ถึงกับชะงัก หลังจากนั้นเธอก็จ้องไปที่รูบี้อย่างเอาเป็นเอาตาย“เธอช่างไร้ยางอายสิ้นดี!”รูบี้ตอบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“คุณพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไงคะ?“เราไม่ได้เป็นคนขอให้ทำแบบนี้นะ แม่ของคุณเป็นคนทำ“ตราบใดที่คุณโทรหาฮาร์วีย์และบอกเขาให้หยุดสิ่งที่เขาทำกับนายน้อยบาวเออร์…“แม่ของคุณก็จะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ“หุ้นของเธอก็จะไม่ร่วงลงมาด้วย“นี่ไม่ใ
แต่อย่างไรก็ตาม บอดี้การ์ดสี่คนของแมนดี้ก็ก้าวออกมาอย่างไม่ลังเลอะไรเลยแมนดี้รีบวิ่งไปที่ประตูหน้าเธอรู้ว่าเธอต้องออกไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอตกอยู่ในกำมือของรูบี้ เธอจะถูกใช้เป็นเครื่องมือกับฮาร์วีย์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในตอนนี้เธอไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของลิเลียนเลยเธอบอกได้เลยว่าลิเลียนลงเรือลำเดียวกับศัตรูไปแล้ว“แกออกไปไม่ได้นะแมนดี้!” ลิเลียนตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณหุ้นของเธอจะหายไปตลอดกาลถ้าแมนดี้จากไป!มูลค่าถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์เชียวนะ!แมนดี้รีบพรวดพราดออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกตูม! ตูม! ตูม!ก่อนที่แมนดี้จะทันได้ขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเพราะความเจ็บปวดดังมาจากทางด้านหลังบอดี้การ์ดทั้งสี่คนลอยกระเด็นอยู่กลางอากาศเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วในขณะที่พวกเขาล้มลงกับพื้น พวกเขาหมดสติในทันทีรูบี้ยิ้มในขณะที่เธอเดินไปพร้อมกับคนของเธอเป็นธรรมดาที่เธอไม่สามารถปล่อยให้แมนดี้หลุดลอยไปในตอนนี้ได้เลย“รีบไปเถอะ ซีอีโอซิมเมอร์!”บอดี้การ์ดที่คอยเฝ้าระวังได้ถอดอาวุธปืนของเขาออกขณะพาแมนดี้ขึ้นรถเนื่องจากเขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ๆ การเคลื่อนไหวของเขาจึงดูเชื่
“ฮาร์วีย์?!“ทำไมไอ้สารเลวถึงมาอยู่ที่นี่ได้!”รูบี้หันไปดูโดยสัญชาตญาณ หัวใจของเธอเต้นรัวทันทีเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ารถเธอเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ อย่างรวดเร็วในขณะที่เธอเดินเข้าหาฮาร์วีย์ โดยมีเส้นผมของแมนดี้อยู่ในมือของเธอด้วย“อ๊า!”แมนดี้อดที่จะกรีดร้องออกมาไม่ได้ในขณะที่เธอถูกดึงเส้นผมให้เดินตามไปรูบี้ตบหน้าที่สวยงามของแมนดี้อย่างไม่ได้ใส่ใจ ก่อนจะส่งเสียงขู่ออกมาอย่างเย็นชา "กรี๊ดสิ! กรี๊ดให้ดังกว่านี้!“กรี๊ดให้สามีของเธอได้ยิน! ดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอเป็นปรปักษ์กับนายน้อยบาวเออร์!”แมนดี้ส่งเสียงร้องออกมาหลังจากรู้สึกเจ็บแปลบบนใบหน้าเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้เมื่อมองดูฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์!”หลังจากที่ได้เห็นรูบี้ลงไม้ลงมือกับแมนดี้แบบนี้ พร้อมกับเห็นเลือดและรอยแผลบนใบหน้าของแมนดี้ ดวงตาของฮาร์วีย์ก็ฉายแววความเคียดแค้นออกมาเขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามว่า “คุณโอเคไหม แมนดี้?”“ฉันไม่เป็นไร…” แมนดี้ตอบแม้เธอจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ก็ตามฮาร์วีย์พยายามสงบสติอารมณ์ลงได้เมื่อเขาแน่ใจว่าแมนดี้ไม่ได้เป็นอะไรเขาไม่คิดว่าโจเซฟจะหน้าด้านขนาดนี้พวกเขาไม่สามารถบังคับแมนดี้ไ
ชายกำยำในชุดสูทต่างรู้สึกยินดีเมื่อเห็นฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังเสียเปรียบเช่นนี้ฮาร์วีย์ทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาไม่น้อยลานบ้านของตระกูลบาวเออร์ยังคงถูกห้อมล้อมอย่างหนาแน่นในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสได้แก้แค้น..."ฉันขอสาบาน หากเกิดอะไรขึ้นกับแมนดี้ ซิมเมอร์ พวกคุณทุกคนรวมถึงโจเซฟ บาวเออร์ด้วย จะต้องตายอย่างแน่นอน” ฮาร์วีย์ประกาศก้องหลังจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ คำพูดเหล่านั้นไม่อาจสัมผัสได้ถึงอารมณ์แม้แต่น้อยทั่วทั้งสถานที่แห่งนั้นอัดแน่นไปด้วยความเคียดแค้นอย่างรุนแรง"โอ้? คุณจะฆ่าฉันเหรอ?"อะไรกัน? คุณรักภรรยาของคุณมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”รูบี้ เมอร์เรย์อวดรอยยิ้มจาง ๆ"ดีละ! ถ้าอย่างนั้นหลังจากที่คุณทำให้คนของคุณหยุดการกระทำลงแล้ว คุณก็ต้องคุกเข่าด้วย!"วิงวอนขอร้องฉันสิ!“ถ้าไม่ทำ ผู้หญิงคนนี้ก็ตาย!”รูบี้ส่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นชายในชุดสูทก็หัวเราะออกมาดังลั่นเช่นกันลิเลียน เยตส์ ซึ่งยังคงอยู่ในวิลล่า กำลังแสดงสีหน้าขบขันในขณะชมภาพเหตุการณ์นั้น'ไอ้สารเลวคนนี้กล้าดียังไงมาเป็นปรปักษ์กับนายน้อยบาวเออร์?!''ลูกเขยแบบนั้นไม่สมควรเป็นปรปักษ์กับเขาหรอก!'เขาไม่มีความตระหนั
รูบี้ เมอร์เรย์มีความทะนงตัวเป็นอย่างมากในขณะนั้น เธอจ้องมองฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างโอหังในขณะถือปืนกวาดไปรอบ ๆ“นายยังยืนอยู่ใช่ไหม?!” เธอส่งเสียงในขณะที่ชี้ไปที่ฮาร์วีย์ลิเลียน เยตส์ก็รอคอยให้ฮาร์วีย์ยอมจำนนอย่างมีความสุขเช่นกันในสายตาของเธอ ลูกเขยอย่างฮาร์วีย์ไม่มีสิทธิ์ไปต่อกรกับคนอย่างโจเซฟ บาวเออร์หุ้นของเธอจะไม่ดิ่งลงถ้าฮาร์วีย์แค่คุกเข่าลงเท่านั้น วิธีนี้จะทำให้เธอไม่ต้องสูญเสียสิ่งใดเลย ลูกสาวของเธอก็ไม่ต้องได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ในความคิดของลิเลียน ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะฮาร์วีย์"ก็ได้ ฉันจะคุกเข่าลง อย่าเพิ่งทำอะไรล่ะ...”ฮาร์วีย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับว่าเขายอมแพ้แล้ว เข่าของเขาค่อย ๆ ย่อต่ำลง…แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเขากำลังคุกเข่าอยู่นั้น เขาก็พุ่งไปข้างหน้าทันทีราวกับลูกธนูฟุ่บบบ!ฮาร์วีย์ปลิวทะยานผ่านชายหลายสิบคนก่อนจะร่อนลงตรงหน้ารูบี้รูบี้รู้สึกเฉื่อยชาอย่างไม่น่าเชื่อ เธอไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ พวกผู้ชายก็อ้าปากค้าง พวกเขาไม่มีกำลังพอที่จะหยุดยั้งไม่ให้เกิดอะไรแบบนี้ได้พวกเขายกปืนขึ้นอย่างบ้าเลือดก่อนที่จะเหนี่ยวไกโดยสัญชาตญาณน่าเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข