มือของบูลด็อกแตกก่อนที่มันจะบิดราวกับขนมเพรทเซล“อ๊าก!”บูลด็อกกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ร่างของเขากระเด็นไปชนเข้ากับคนหลายคนที่มุงดูอยู่ ก่อนจะร่วงลงไปกองกับพื้นเหงื่อเย็นหยดลงบนใบหน้าของเขาจนชุ่มโชก!เขาพิการไปแล้วในตอนนั้น!คุณนายลีและบรรดาแขกเหรื่อต่างตกใจเมื่อเห็นภาพนั้น'เขาพิการไปแล้วเหรอ?''บูลด็อกเป็นคนที่ไร้เทียมทาน ทำไมเขาถึงไม่สามารถรับการโจมตีจากฮาร์วีย์ได้แม้แต่ครั้งเดียวกัน?''นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?'"เกิดอะไรขึ้น?""นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!"“หมอนี่น่ากลัวขนาดนั้นเชียวเหรอ? เขาสามารถทำให้บูลด็อกพิการได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวเนี่ยนะ!”“นี่ฉันตาฝาดหรือเปล่า?”“บูลด็อกประเมินคู่ต่อสู้ของเขาต่ำไปงั้นเหรอ?”“บางทีเขาอาจจะบาดเจ็บตั้งแต่ที่สู้กับดิลลอนแล้ว!”“ต้องเป็นแบบนั้นแน่! ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น!”บรรดาแขกต่างขยี้ตาตัวเองแรง ๆ หลังจากเห็นฮาร์วีย์ทำให้บูลด็อกสิ้นท่าได้อย่างง่ายดายแบบนั้นพวกเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตาตัวเองแต่ก็ทนไม่ได้ที่จะยอมรับความจริงข้อนั้นบูลด็อกเป็นนักสู้ที่มีชื่อเสียงมาหลายปี เขาส่งดิลลอนให้บินไปได้อย่างไม่
สายตาของคุณนายลีเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“นายคิดว่านายมีสิทธิ์ทำแบบนี้แค่เพราะนายพอมีเส้นสายที่แข็งแกร่งอยู่บ้างงั้นเหรอ?“คิดว่าเราจะไม่มีปัญญาหาใครมาจัดการกับนายได้จริง ๆ หรือไง?"ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ! หลงเหมินมีแต่ยอดฝีมือเต็มไปหมด!“คราวนี้นายได้เปรียบก็จริง แต่คิดจะมาหาเรื่องฉันกับสามีของฉันจริง ๆ เหรอ?“นายไม่มีปัญญาทำแบบนั้นได้หรอก!“นายรู้จักผู้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านายนี่ไหม!”คุณนายลีหัวเราะอย่างเย็นชา“ฉันจะแนะนำพวกเขาให้นายรู้จักเอง!“นี่คือรองหัวหน้าสาขาหลงเหมินแห่งโกลเด้น แซนด์!“นี่คือนายน้อยลำดับที่สองของหลงเหมินสาขาภายนอกที่สาม!“และนี่คือสมาชิกจากกองบังคับคดีหลงเหมิน! สถานะของเขาไม่ธรรมดาด้วย!”ผู้คนหลายสิบคนลุกขึ้นยืนเมื่อคุณนายลีเรียกชื่อพวกเขา คนเหล่านั้นต่างจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยสีหน้าดุร้ายเธอหวาดกลัวน้อยลงได้เพราะคนเหล่านั้นเธอเหล่ตามองก่อนจะเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าของเธอ“พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลสำคัญของหลงเหมิน!“แถมยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลงเหมินอีกด้วย!“นายคิดจะต่อต้านพวกเรางั้นเหรอ!“หลงเหมิน เป็นหนึ่งในสี่เสาหลั
ตราสัญลักษณ์กองบังคับคดีของหลงเหมิน!ตราสัญลักษณ์นี้เป็นตัวแทนของหัวหน้ากองบังคับคดี!ในเวลาเพียงชั่วครู่…คุณนายลีและคนอื่น ๆ ตกใจราวกับถูกฟ้าผ่า ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด ขณะที่ขาของพวกเขาเริ่มจะยืนไม่ไหว พวกเขาเสียวสันหลังวาบ รู้สึกหนาวไปถึงกระดูก...พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าฮาร์วีย์จะมีตราประจำตำแหน่งจริง ๆ!'นี่มัน…?''เป็นไปได้ยังไง!'ผู้คนหลายสิบคนยืนขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน พวกผู้คนที่เอาแต่อวดความแข็งแกร่งของตนเองโดยใช้ชื่อของหลงเหมินต่างล่าถอยไป ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดตกใจเป็นอย่างมากบางครั้งพวกเขาอาจจะไม่เคยกลัวยอดฝีมือที่มีอำนาจคนใด...แต่ตราประจำตำแหน่งเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้แล้วนี่คือตราของกองบังคับคดีหลงเหมิน!ตราสัญลักษณ์นี้เป็นตัวแทนของหัวหน้ากองบังคับคดี! นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!สมาชิกของกองบังคับคดีของหลงเหมินไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นยืน สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือคุกเข่าต่อไปในขณะที่ดวงตากระตุกอย่างบ้าคลั่งทันใดนั้นเขาก็นึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับหัวหน้ากองบังคับคดีคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งได้..นับตั้งแต่ที่ราเชล ฮาร์ดีเข้ามาด
สาวกของหลงเหมินแห่งฟลัตเวลล์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งพวกเขารู้ว่ากองบังคับคดีของหลงเหมินเป็นตัวแทนของอะไร แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าคนที่เพิ่งจับมือกันเมื่อครู่จะหันหน้ามาเป็นศัตรูกับพวกเขาทันทีที่เห็นตรานั่นใบหน้างดงามของคุณนายลีซีดขาวราวกับกระดาษ ฝ่ามือของเธอกำแน่น จนเล็บเกือบจะทิ่มเข้าไปในฝ่ามือของตัวเองอยู่รอมร่อหลังจากเตะบอดี้การ์ดจากตระกูลลีออกไปหลายคน ขณะโยนตราสัญลักษณ์เล่นไปมา ฮาร์วีย์ ยอร์กก็เดินไปหาคุณนายลีด้วยรอยยิ้มยะเยือก“ทีนี้ก็บอกมาสิคุณนายลี ว่าผมจะต้องสู้กับใครอีก” ฮาร์วีย์ถามด้วยน้ำเสียงสงบ...คำพูดทุกพยางค์ของเขาเพียงพอจะทำให้ดวงตาของคุณนายลีกระตุกและหัวใจเต้นรัวแล้ว“นายต้องการอะไรกันแน่ หนุ่มน้อย?”การแสดงออกของคุณนายลีแย่ลง“คิดจะเป็นศัตรูกับฉันจริง ๆ เหรอ?”คุณนายลีรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ดังกล่าว...แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่อาจคุกเข่าได้!นอกจากความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของเธอในฐานะภรรยาของหัวหน้าสาขาหลงเหมินแห่งฟลัตเวลล์แล้ว เธอยังมีผู้หนุนหลังแสนแข็งแกร่งอยู่อีกด้วยบุคคลนั้นก็มีอำนาจสูงมากเหมือนกัน“คุณบิดเบือนความจริงและทำร้ายน้องภรรยาของผม ทำแม้
ขณะที่คุณนายลีมองด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า...ฮาร์วีย์ ยอร์กก็ขว้างโทรศัพท์ลงบนพื้น"เอาสิ ผมจะให้โอกาสคุณ“โทรหานายน้อยของคุณเลย!“ถามเขาให้ชัดเจนด้วย“ดูสิว่าตอนนี้เขายังเต็มใจจะหนุนหลังคุณอยู่หรือเปล่า!”คุณนายลีตัวแข็ง เธอไม่คิดเลยว่าแม้จะได้ยินชื่อของโจเซฟ บาวเออร์แล้ว ฮาร์วีย์จะยังสงบนิ่งได้ถึงขนาดนี้แต่เธอไม่มีเวลามาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกดหมายเลขแล้วโทรออกหลังจากสัญญาณดังเพียงไม่กี่ครั้ง อีกฝ่ายก็รับสายก่อนที่จะได้ยินเสียงทักทายอันห่างเหิน"นี่ใคร?"คุณนายลีโค้งคำนับด้วยความเคารพ แม้ว่าเธอจะอยู่ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็ตาม“ฉันคือคุณนายลีจากหลงเหมินสาขาฟลัตเวลล์ ฉันมีปัญหากับคนที่ครอบครองตรากองบังคับคดีของหลงเหมิน“เขาจะทำให้ฉันต้องพิการ”“กองบังคับคดี?”โจเซฟฟังดูไม่แยแส“คนที่มีตราประจำตำแหน่งนั้นมีสิทธิ์อวดความแข็งแกร่งในฟลัตเวลล์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”คุณนายลีจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเหนือกว่าราวกับว่าเธอชนะไปแล้วฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น“บอกเขาไปสิว่าไม่ใช่แค่คนที่มีตราประจำตำแหน่งที่กำลังมีปัญหากับคุณเท่าน
“ผมเป็นใครน่ะเหรอ?”ฮาร์วีย์ ยอร์กบรรจุปืนพกของเขาด้วยท่าทีสบาย ๆ และปลดเซฟตี้ออกจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาก่อนจะวางปืนพกไว้บนมือของคุณนายลี“ผมก็บอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรือไง?“ผมฮาร์วีย์ ยอร์ก! ผมเป็นพี่เขยของซีนเธียร์ ! แล้วมาทีนี้เพื่อทวงความยุติธรรมให้เธอเท่านั้น!”หลังจากนั้นไม่นาน ฮาร์วีย์ก็เหนี่ยวไกอย่างใจเย็นกระสุนเจาะทะลุข้อมือของคุณนายลีฝูงชนกรีดร้องด้วยความกลัวก่อนที่จะยกมือขึ้นปิดปากไม่มีใครคิดว่าฮาร์วีย์จะทำอย่างที่พูดโดยไม่ลังเลเช่นนี้แต่นี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะแม้แต่โจเซฟ บาวเออร์ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้...นับประสาอะไรกับคุณนายลี!เขาสามารถทำได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการ!ร่างกายของคุณนายลีสั่นเล็กน้อยในขณะที่ฝูงชนกรีดร้อง ในขณะนั้น ความตกใจได้ปกปิดความเจ็บปวดของเธอไว้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเห็นมือขวาของเธอพิการไปแล้วเธอก็ได้แค่สิ้นสติไปสิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่นสำหรับคุณนายลีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีคนคอยหนุนหลังเธออยู่เธอไม่จำเป็นต้องสนใจเลยว่าตัวเองทำอะไรใครไปบ้าง และไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะต้องพบกับจุดจบแบบนี้ปัง!จา
“ฮาร์วีย์! ฮาร์วีย์!”“ไอ้สารเลวนั่นอีกแล้ว!”หลังจากได้ยินคุณลีร้องขอความช่วยเหลือ โจเซฟก็รู้ดีว่าถ้าเขาไม่ปกป้องเธอ เขาจะไม่เพียงต้องสูญเสียชื่อเสียงของตัวเองไปเท่านั้น...แต่หลังจากได้รู้ว่าโจเซฟกลัวฮาร์วีย์ หลายคนก็จะหันไปหาฮาร์วีย์อีกด้วย!โจเซฟเสียเปรียบโดยสิ้นเชิงหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตที่อยู่อาศัยใหม่ของฟลัตเวลล์เขายังคงมีเรื่องยุ่งยากบางอย่างที่เขาต้องพยายามแก้ไขให้ทันการหากเขายังคงท้าทายฮาร์วีย์ต่อไป เขาคงต้องได้พบกับสงครามเต็มรูปแบบรออยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอนและหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น โจเซฟเชื่อมั่นว่าพี่ชายทั้งสองของเขาจะต้องใช้โอกาสนี้บดขยี้เขาทันทีและตลอดไปอย่างแน่นอนความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเขาจะสูญเปล่าด้วยเหตุนี้ โจเซฟจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยให้คุณนายลีดูแลตัวเอง“ถ้าฉันได้อำนาจมาอยู่ในมือเมื่อไหร่ฉันจะฆ่านายแน่ ฮาร์วีย์!”นี่เป็นครั้งแรกที่โจเซฟรู้สึกอับจนหนทางขนาดนี้นอกจากกรีดร้องด้วยความโกรธแล้ว เขาก็ทำอะไรไม่ได้อีก“ทำการใหญ่ใจต้องนิ่งไม่ใช่เหรอ คุณเคยสอนเอาไว้แบบนั้นนี่นายน้อยบาวเออร์” รูบี้กล่าวหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งโ
โจเซฟกำลังลังเลว่าจะออกไปสู้กับฮาร์วีย์ชนิดให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยดีไหม...ในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ลืมเรื่องของขวัญที่เขามอบให้โจเซฟไปแล้วเขานั่งอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอผลการรักษาของซีนเธียร์ซีนเธียร์ค่อนข้างโชคดี เนื่องจาก รูดอล์ฟและทีมของเขายังไม่ได้เดินทางไปที่ไหนไกล พวกเขาจึงช่วยดูแลเธอได้เป็นพิเศษหลังจากผ่านเวลาไปทั้งคืน อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของเธอก็ดีขึ้นแล้วสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากเช่นกัน เธอไม่เพียงแต่ตื่นเท่านั้น แต่ยังหิวมากอีกด้วย“นี่คือโจ๊กลูกโอ๊กที่เธอชอบ ฉันเป่าให้แล้ว เธอกินเลยสิ”ฮาร์วีย์เปิดฝาออกอย่างสบาย ๆ และวางหม้อโจ๊กไว้บนโต๊ะข้างเตียงของซีนเธียร์ฮาร์วีย์รู้วิธีทำอาหารเอง แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีเวลาทำแบบนั้น เขาใช้วิธีการสั่งอาหารให้มาส่งแทน“ฉันเจ็บมือนะพี่เขย! ป้อนฉันทีสิ!”ซีนเธียร์อ้าปากเล็กน้อยด้วยสีหน้าสิ้นหวังฮาร์วีย์พูดไม่ออก เขาถอนหายใจขณะที่เขามองดูมือของเธอซึ่งกำลังปัดบนโทรศัพท์“ยังจะให้ฉันป้อนเธออีกเหรอ? แล้วต่อไปจะแต่งงานออกไปได้ยังไง?”“ชิ!”ซีนเธียร์เยาะเย้ยก่อนจะยิ้มอันอบอุ่นให้เขา“ฉันไม่ได้อยากแต่งสักหน่อย! ถ้าฉันแต่งออกไปพี่เขยก็จ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข