กล่าวคือ ทางราชวงศ์จะไม่ยอมให้ชาวต่างชาติมาจัดตั้งโรงเรียนในประเทศ H นั่นคือสาเหตุที่แม้จะผ่านเวลาไปนานมากขนาดไหนชาวอินเดียก็ไม่เคยประสบความสำเร็จแต่ใครจะคิดเล่าว่าตระกูลจอห์นจะมอบใบอนุญาตดังกล่าวมาให้พวกเขาจริง ๆแม้แต่แฟรงกี้ การ์เซียซึ่งมักจะสงบและสุขุมก็ยังอดไม่ได้ที่ส่องประกายตื่นเต้นในดวงตาใบอนุญาตนี้มีค่ามากกว่าชีวิตของเฟร็ดดี้ การ์เซียเสียอีก!ถ้าแฟรงกี้รู้ว่าการตายของเฟร็ดดี้จะทำให้เขาได้รับใบอนุญาตเช่นนี้...เขานี่แหละที่จะเป็นฝ่ายจบชีวิตของหมอนั่นเอง!นอกจากนี้ ชาวอินเดียยังมีโอกาสที่จะบุกประเทศ H หรือแม้แต่ทำลายรากฐานที่สำคัญของประเทศอย่างหลงเหมินได้อีกด้วย!หากประเทศ H และอินเดียทำสงครามกัน ชาวอินเดียก็จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปทั้งหมดอย่างแน่นอนพูดง่าย ๆ ก็คือใบอนุญาตได้เปิดโอกาสให้พวกเขาแล้วแฟรงกี้คว้าเอกสารไว้อย่างไม่ลังเลในทันที"คุณหนูจอห์น! กรุณานำเรื่องนี้ไปบอกตระกูลจอห์นด้วย!“ตราบใดที่สภาธุรกิจภารตะการดำรงอยู่ได้ ตระกูลจอห์นก็จะเป็นหุ้นส่วนที่ดีของอารามสวรรค์และชาวอินเดียทั้งประเทศตลอดไป!“เราจะแบ่งปันของที่กอบโกยได้พวกนั้นมาเป็นของเราเอง และรับรองได
“ฮาร์วีย์ ยอร์ก?!”มีชาวอินเดียจำใบหน้านั้นได้พวกเขาเดือดดาลด้วยความโกรธเมื่อได้ยินฮาร์วีย์เรียกชื่อโคดี การ์เซียพวกเขาทุกคนชักดาบออกมาขณะที่พวกเขากรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด สายตาเย็นชาล้อมรอบฮาร์วีย์ไว้ในขณะนั้น“ฮาร์วีย์ ยอร์ก…”แฟรงกี้ การ์เซียตัวแข็งก่อนที่เขาจะหัวเราะเบา ๆ“นายคงอยากตายมากสินะ!“นายฆ่าน้องฉัน แถมตอนนี้ยังมาสร้างปัญหาที่โถงไว้ทุกข์ของเขาทั้งยังกล้าตะโกนชื่อเจ้านายของฉันอีก!“นายคิดว่าตัวเองมีความสามารถมากขนาดนั้นเชียวหรือ!“เคยคิดบ้างไหมว่าหากทำตัวเป็นศัตรูกับเราแล้วจะต้องเจอกับผลลัพธ์เช่นไร!”แฟรงกี้ไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะมาปรากฏตัวด้วยตัวเอง ก่อนที่อารามสวรรค์และสภาธุรกิจภารตะจะลงมือเสียอีกผู้ชายคนนี้ถือว่าล้ำเส้นเกินไปแล้ว!ชาวอินเดียหลายสิบคนกรีดร้องด้วยความโกรธขณะพุ่งตัวไปข้างหน้า พวกเขากวัดแกว่งดาบไปรอบ ๆ ราวกับว่าอยากจะฉีกฮาร์วีย์ให้เป็นชิ้น ๆดาห์เลีย จอห์นก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับดวงตาถมึงทึง“นายกล้าดียังไง ฮาร์วีย์!“หลังจากฆ่าเฟร็ดดี้ การ์เซียแล้ว ยังคิดจะมาสร้างความวุ่นวายอะไรอีกล่ะ?!“นี่นายคิดจริง ๆ หรือว่าแค่เพราะนายได้รับการสนับสนุนจาก
ทุกคนอ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์กพวกเขาอาจมองออกแล้วด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่นึกเลยว่าฮาร์วีย์จะหาพยานมาพิสูจน์ตัวเองด้วยเมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ชาวอินเดียที่อยู่ในระหว่างการฆาตกรรมในวันนั้นก็สามารถบอกได้เลยว่าแพทย์ตรงหน้าเขาดูเหมือนฆาตกรมากกว่าฮาร์วีย์เสียอีกความเกลียดชังของทุกคนถูกแทนที่ด้วยสีหน้าตระหนักรู้ดวงตาของดาห์เลีย จอห์นกระตุกก่อนที่เธอจะก้าวไปข้างหน้า“อย่าคิดจะโยนความผิดใส่เรานะ ฮาร์วีย์!” เธออุทาน“นายคิดว่าตระกูลจอห์นเป็นยังไง! ทำไมเราต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย!“อย่าคิดจะป้ายสีให้กับพวกเรา!“บางทีผู้ชายคนนี้อาจเป็นแค่ขอทานข้างถนนที่นายหวังจะใช้เขาโจมตีเราก็ได้ไม่ใช่เหรอ!“หัดระวังปากเอาไว้จะดีกว่านะฮาร์วีย์!“ถ้าพ่นอะไรแบบนั้นออกมาไม่เลิกนายจะต้องชดใช้!”ดาห์เลียดูมีความมั่นใจอย่างยิ่งเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะหันเหความสนใจของแฟรงกี้ การ์เซียและคนอื่น ๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้เพิกเฉยต่อคำพูดของฮาร์วีย์แฟรงกี้เหล่ตามองครู่หนึ่งก่อนจะหันไปจ้องมองยังฮาร์วีย์“นายกำลังจะบอกว่าหมอนี่ปลอมตัวเป็นนายและฆ่าน้องของฉันงั้นเหรอ! ถ้าอย่างนั้นก็โชว์หลักฐา
“ไอ้สารเลว! กล้ากล่าวหาตระกูลจอห์นแบบนี้ได้ยังไง?!”สีหน้าของดาห์เลียเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของสามสิบเก้า เธอยกปืนขึ้นทันทีด้วยเจตนาฆ่าปัง!ฮาร์วีย์กระทืบพื้น ก้อนหินก้อนหนึ่งลอยไปกระทบข้อมือของดาห์เลียและทำให้เธอยิงพลาด“อย่าเพิ่งรีบสิคุณจอห์น“อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนที่ผมยังอยู่ที่นี่“ในเมื่อคุณพยายามจะฆ่าชายคนนี้ มันก็คงไม่ผิดหากผมจะเข้าใจว่าคุณบอกให้ผู้ชายคนนี้ใส่ร้ายผม ถูกไหม?”ทุกคนหันไปมองดาห์เลียโดยสัญชาตญาณเมื่อเห็นรอยยิ้มของฮาร์วีย์ตาของดาห์เลียกระตุกอย่างบ้าคลั่งเมื่อเธอกรีดร้องว่า “ฮาร์วีย์ ไอ้สารเลว!“แกจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียใช่ไหม?!“ไม่ช้าก็เร็วแกจะต้องชดใช้!“ถ้าแกยังทำแบบนี้ต่อไป ฉันจะทำให้ตระกูลของแกและเพื่อนของแกต้องซวยไปด้วย!“ฉันจะขุดบรรพบุรุษของแกขึ้นมาด้วย!“ฉันจะเผาพวกเขาให้เป็นเถ้าถ่าน!”ดูเหมือนว่าดาห์เลียกำลังข่มขู่ฮาร์วีย์ แต่จริง ๆ แล้วเธอกำลังสาปแช่งเอลเลียต จอห์นฮาร์วีย์เมินดาห์เลียโดยสิ้นเชิงและมองไปที่สามสิบเก้าอย่างใจเย็น“บอกมาทุกอย่างที่คุณรู้“ไม่ต้องห่วง ผมจะรักษาความปลอดภัยของคุณเอง ผมสัญญา
“คุณเป็นคนฉลาดนะคุณการ์เซีย!“คุณควรรู้ว่าฮาร์วีย์กำลังพยายามทำให้คุณสับสน!“เขาต้องการที่จะฉวยโอกาสจากสถานการณ์โดยไม่สร้างปัญหาให้ตนเอง!”ดาห์เลียโทษฮาร์วีย์ด้วยท่าทางมั่นใจสำหรับทุกสิ่งทันทีราวกับว่าทุกสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงถึงตอนนั้นฮาร์วีย์ก็ยังคงประทับใจความใจเย็นและสุขุมของดาห์เลียมากฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า“ในเมื่อคุณมั่นใจมากขนาดนั้น เราก็ควรที่จะโทรแจ้งตำรวจจะดีกว่า“ผู้อำนวยการตอร์เรสเป็นคนที่ยุติธรรมและเที่ยงตรง“ผมมั่นใจว่าเขาจะให้คำตอบที่เราต่างจะเห็นดีกันได้”แววตาของแฟรงกี้ การ์เซียเป็นประกายหลังจากที่ได้ยินคำพูดจากทั้งสองฝ่าย เขามีสีหน้าจริงจังในขณะนี้จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว“คุณไม่ต้องห่วงนะคุณจอห์น!“คนน่ารังเกียจอย่างเขาจะไม่มีวันหลอกพวกเราได้!“สภาธุรกิจภารตะและตระกูลจอห์นมีผลประโยชน์ต่อกัน! จะไม่มีใครฆ่ากษัตริยกาผู้สูงศักดิ์ของเราเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง!“ถึงจุดนี้แล้วคุณยังจะพยายามทำให้พวกเราทะเลาะกันเองอีกเหรอ?!“ไร้เดียงสาจริง ๆ!“ยอมรับความผิดของตัวเองซะ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เตือน!”ทุกคนชะงักหลั
“พอได้แล้ว!“ปิดประตูซะ!“ห้ามไม่ให้ใครออกไปจนกว่าเราจะจัดการกับฮาร์วีย์เสร็จ!” แฟรงกี้ การ์เซียกล่าวไม่นานประตูลานบ้านก็ปิดลงโลกภายนอกถูกตัดออกโดยสิ้นเชิงในขณะนั้นไม่มีใครสามารถเข้าออกสถานที่ได้ ไม่มีใครจะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ด้วย“จริงเหรอ? คุณจะปล่อยหมาออกมาตอนนี้เหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น“คุณคิดว่าประตูนี้จะสามารถหยุดผมได้งั้นเหรอ?”“ครั้งนี้ แม้แต่พระเจ้าก็จะไม่สามารถช่วยคุณออกไปจากสถานการณ์นี้ได้!”แฟรงกี้หัวเราะอย่างชั่วร้าย“ใช่แล้ว!“ครั้งที่แล้วคุณมีตำรวจหนุนหลัง!“คราวนี้ผมอยากจะเห็นเหลือเกินว่าใครจะช่วยได้!”ฮาร์วีย์ยกดาบในมือของเขาอย่างสงบก่อนที่จะเลื่อนนิ้วไปบนดาบด้วยรอยยิ้ม“อะไรทำให้คุณเชื่อว่าครั้งที่แล้วผมจำเป็นต้องมีความช่วยเหลือจากตำรวจ?“พวกเขาอาจจะปกป้องคนของคุณแทนก็ได้”“ทำไม? คุณกำลังจะบอกว่าพวกเรากำลังจะตายงั้นเหรอ?”แฟรงกี้หัวเราะ“คุณเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?!“อย่าไร้เดียงสาเลยฮาร์วีย์!”“นั่นไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของคุณ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“แต่ก่อนที่ผมจะทำอะไร ผมต้องเตือนคุณก่อน...“ถ้าคุณคุกเข่าและยอมรับความผิดขอ
ราเชล ฮาร์ดี้ดูไม่แยแสเมื่อเธอมองชาวอินเดียที่จ้องเธอบนพื้นอย่างไม่พอใจเธอเหวี่ยงดาบอีกครั้งและฟันชาวอินเดียอีกสองคนที่พยายามจะแอบเข้ามาโจมตีเธอชาวอินเดียห้าคนนอนอยู่บนพื้นโดยไม่มีแรงที่จะสู้ต่อ ในขณะที่ที่เหลือต่างมีสีหน้าฉงนพวกเขากวัดแกว่งดาบก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าราเชลไม่รู้สึกตื่นตระหนกเลยเมื่อเห็นภาพนี้ เธอกระทืบพื้นก่อนที่จะบินขึ้นไปพร้อมกับดาบในมือฉัวะ!ชาวอินเดียที่อยู่ข้างหน้าตัวสั่นและล้มลงกับพื้นด้วยความเหลือเชื่อเมื่อดาบของเขาหักออกเป็นสองท่อน ไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ราเชลชี้ดาบของเธอไปข้างหลังของเธอแล้วแทงทะลุมือของอีกฝ่ายก่อนที่พวกอินเดียจะทันได้โต้ตอบ ราเชลก็หมุนตัวอยู่กลางอากาศก่อนที่จะส่งอีกคนลอยไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวการเคลื่อนไหวของเธอลื่นไหลผิดปกติในขณะนั้นหลังจากที่ทำให้ชาวอินเดียบางส่วนพิการ ราเชลก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วแสงก่อนที่จะฟันอีกสองคนชาวอินเดียจำนวนหนึ่งที่มีหน้าไม้กำลังขึ้นลูกธนูเพื่อยิงราเชลราเชลกระทืบพื้นอีกครั้งทันทีในเวลาเพียงชั่วครู่ ดาบบนพื้นก็แยกออกเป็นสองส่วนและหักเหลูกธนูทุกลูกที่เข้ามาหาเธอเคร้ง
การต่อสู้รุนแรงขึ้นในขณะที่มือปืนของตระกูลจอห์นแสดงสีหน้าน่าสยดสยองแม้ว่าฝีมือของราเชลจะพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ชาวอินเดียก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเช่นกันหลังจากที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ชาวอินเดียหลายสิบคนก็ลุกขึ้นยืนและล้อมราเชลไว้อย่างสมบูรณ์โดยวางแผนที่จะทำให้เธอเหนื่อยอย่างช้า ๆเจตนาฆ่าลอยมาจากดาบทุกเล่มของพวกเขาผู้คนนับไม่ถ้วนมุ่งเป้าไปที่ราเชลราวกับว่าพวกเขาต้องการตัดผู้หญิงคนนั้นทิ้งเพราะเธอไม่เคารพพวกเขาราเชลเหวี่ยงดาบของเธออย่างสงบ เผยให้เห็นแสงจ้าของแสงจันทร์แสงทั้งหมดหายไปทันทีในขณะนี้ สิ่งที่เหลืออยู่คือเสียงสะท้อนจากการโจมตีของราเชลเหล็กหลอมอย่างดีทั้งหมดพังทลายลงในทันทีราเชลโบกมือไปรอบ ๆ และแกว่งดาบของเธอราวกับนางฟ้าแห่งความตายฉัวะ!ชาวอินเดียคนหนึ่งจับแขนของเขาขณะก้าวถอยหลังแล้วก็คนที่สอง แล้วก็คนที่สาม…ในเวลาเพียงห้านาที ชาวอินเดียหลายสิบคนล้มลงกับพื้นเป็นอัมพาต ในขณะนั้นพวกเขาทั้งหมดสูญเสียพลังการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิงราเชลมีรอยแผลปรากฏบนตัวเธอสองสามจุด เธอหายใจถี่ ๆ แต่เธอดูดีมากเมื่อเทียบกับสภาพของชาวอินเดียดาห์เลียตกใจมากกับภาพที่เห็นมือปืนของ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข