เสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอกห้อง เซียนน่าเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอซีดเผือดผู้คนจำนวนมากที่ดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ดของเธอเดินตามหลังเธอมา พวกเขาต่างจ้องไปที่ลูกน้องของดาห์เลียแววตาของเฟรดดี้เป็นประกายทันทีที่เซียนน่าปรากฏตัว“ผมว่าแล้วว่าคุณจะไม่ทิ้งผมไป ที่รัก! ผมกินยาไปสามเม็ดเพื่อคุณเลยนะ! คืนนี้คุณจะต้องมีความสุข…”เพี๊ยะ!เซียนน่าตบหน้าเฟร็ดดี้ทันทีก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบประโยค เขาอดไม่ได้ที่จะเซถอยไปข้างหลังเขาไม่ได้สู้กลับ เขาเพียงแต่กุมแก้มตนเองด้วยสีหน้าที่ดูลึกลับเมื่อสังเกตอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่าการหายใจของเฟร็ดดี้เร็วขึ้นไปอีก ราวกับว่าเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไปดาห์เลียมองเซียนน่าตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่ครู่หนึ่ง“เธอเป็นลูกทูนหัวของโคลตัน ตอร์เรสงั้นเหรอ?” เธอถามหลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเซียนน่าใช้ตัวตนนี้ภายนอกฟลัตเวลล์ถ้าทุกคนรู้ว่าจริง ๆ แล้วเซียนน่าเป็นเจ้าหญิงแห่งตระกูลไรท์ เธอคงจะเป็นจุดสนใจมากกว่านี้ถึงกระนั้น ตัวตนของเธอในฐานะลูกทูนหัวของโคลตันก็ค่อนข้างน่ากลัวอยู่แล้ว“ใช่แล้ว”เซียนน่าเดินไปหาฮาร์วีย์และจ้องดาห์เลียอย่างเย็นชา“ตระกูลคุณกล้าดีนะ!
ดาห์เลียรู้ว่าเซียนน่ามีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา...แต่เธอก็ไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้ท้ายที่สุดแล้วคนนอกก็ไม่สามารถสู้มหาอำนาจในท้องถิ่นได้ตระกูลตอร์เรสดูเหมือนจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตระกูลอื่น ๆ แต่พวกเขาเทียบกับตระกูลจอห์นไม่ได้เลยท้ายที่สุดแล้วโคลตันก็ได้พ่ายแพ้ต่อหัวหน้าแห่งวังทองคำเมื่อพวกเขาชิงบัลลังก์กันมาก่อน และด้วยอาการบาดเจ็บจากอดีตของเขา เขาจึงจวนจะสิ้นชีวาดาห์เลียไม่ได้ตั้งใจจะขอโทษเธอเพียงแต่รู้สึกว่าเธอจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการทำให้สถานการณ์บานปลายอีกต่อไปเพียงเพราะผู้หญิงที่มีอำนาจเพียงเล็กน้อยเฟร็ดดี้ไม่ได้แสดงความกลัวใด ๆ เช่นกัน สิ่งเดียวที่เขาทำคือการมองเซียน่าอย่างหื่นกามแน่นอนว่าเขายังคงสนใจเธอเป็นอย่างมากฮาร์วีย์เหลือบไปเห็นผู้สูงอายุในชุดคลุมสีดำที่ยืนอยู่ข้างหลังเฟร็ดดี้ บุคคลนี้ไม่ได้มีความโดดเด่นแต่อย่างใด แต่ยังสามารถเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา ๆ เป็นไปได้สูงว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะจากอินเดีย“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของเธอ“หรือเงินของเธอ“ฉันไม่ต้องให้พ่อทูนหัวของฉันมาสู้กับเธอด้วย“ฉันสามารถจัดการกับเธอด้วยตัวเองอย่างง่า
“นายน้อยการ์เซียเป็นบุตรชายของผู้อาวุโสของอารามสวรรค์ บุคคลสำคัญที่เกือบจะได้เป็นเทพสงคราม!“นายน้อยการ์เซียให้เกียรติคุณด้วยการใฝ่หาคุณ!”“ไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง…”หัวหน้าบอดี้การ์ดของเซียนน่ามีสีหน้าเย็นชาไม่เคยมีใครพูดจาแย่ ๆ แบบนี้กับเจ้าหญิงมาตลอดชีวิต!หัวหน้าไม่พูดอะไรอีก เขาเดินไปข้างหน้าและบีบคอชายหนุ่มคนนั้นก่อนที่จะทุ่มเขาลงบนโต๊ะด้านหลังปัง!โต๊ะหักออกเป็นครึ่ง ชายหนุ่มคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเศษแก้ว ทำให้เขาสั่นสะท้านจากความเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้ผู้คนต่างตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเซียนน่าจะมีอำนาจครอบงำขนาดนี้แม้ว่าดาห์เลียจะแจ้งทุกอย่างอย่างกระจ่างแล้วก็ตามณ ตอนนี้ บอดี้การ์ดของเซียนน่าไม่เพียงแต่จะทำร้ายใครบางคน แต่พวกเขายังดูหมิ่นตระกูลจอห์นและชาวอินเดียโดยสมบูรณ์!เรื่องนี้คงจะไม่จบลงด้วยดี!ขณะที่ทุกคนยังคงตกตะลึง ฮาร์วีย์ก็เหลือบมองเฟร็ดดี้ด้วยความสงสัยเฟร็ดดี้กำลังจับหน้าอกของตนเองหลังจากที่เกิดความวุ่นวายเพียงเล็กน้อยยาเม็ดสีน้ำเงินส่งผลกระทบต่อหัวใจของเขาอย่างรุนแรงแต่นั่นก็เป็นเรื่องป
โลแกนอยู่ในชุดเครื่องแบบใหม่ เขาเดินไปตรงกลางห้องอย่างดุเดือดจกานั้นเขาก็กอดอกด้วยสีหน้าที่สง่าผ่าเผยเซียนน่าขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรดาห์เลียเผยสีหน้าฉงนและมองเซียนน่าอย่างมีเลศนัย“เกิดอะไรขึ้น?“พวกคุณคิดว่าที่ฟลัตเวลล์ไม่มีกฎหมายหรือไง?! พวกคุณคิดอย่างนั้นใช่ไหม?!“พวกคุณกำลังดูถูกทั้งกองกำลังตำรวจ!“คุณถึงกับจะใช่อาวุธเพื่อจัดการปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?!“พวกคุณจะฆ่าทุกคนเลยหรือไง?!” โลแกนถามโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครถูกหรือผิดอย่างไรก็ตาม ใครที่รู้ทันก็จะสามารถบอกได้ว่าเขากำลังต่อว่าเซียนน่า ยิ่งไปกว่านั้น เขาดูค่อนข้างจะเคารพดาห์เลียด้วยซ้ำทุกครั้งที่เขามองเธอ“ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะสร้างปัญหานะผู้ตรวจการ! แต่พวกอินเดียวางยาฉัน และผู้หญิงคนนี้ก็พยายามจะช่วยให้พวกเขาเอาเปรียบฉัน!” เซียน่าพูดอย่างเย็นชา“มันเป็นเพียงความเข้าใจผิดค่ะผู้อำนวยการโบวี่!” ดาห์เลียตอบโต้ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น“ใช่ พวกเราผิดพลาดไปและยินดีที่จะขอโทษและชดเชยให้…“แต่คุณไรท์ไม่ยอมรับคำขอโทษของพวกเรา! เธอยังต้องการตัดตอนนายน้อยการ์เซียด้วย!“เธอไม่รู้ได้ยังไงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นข้อพิพาททา
ทุกคนหันไปมองเซียนน่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอ“ฉันจะไม่ยอมรับสิ่งนี้!” เธอกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา“คุณคิดว่าเรื่องนี่เป็นเพียงความพยายามงั้นเหรอ?! กล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง?!“ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เจอฮาร์วีย์…“คุณรู้ไหมว่าฉันจะจบลงยังไง?“ถ้าหากว่าฉันไม่มีอิทธิพลและภูมิหลัง จะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน?!“ฉันไม่ได้ต้องการคำขอโทษ! และฉันก็ไม่ได้ต้องค่าชดเชยใด ๆ!“ฉันต้องการเอาคืน!“ฉันต้องการให้เฟร็ดดี้ถูกตัดตอน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ไป!”แน่นอนว่าเซียนน่ากำลังมองสถานการณ์จากมุมมองของผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งหากคนชั่วอย่างเฟร็ดดี้ไม่ถูกจัดการ ในอนาคตพวกผู้หญิงเหล่านั้นคงจะต้องทนทุกข์ทรมานปัญหานี้จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเท่านั้น“หุบปาก!”สีหน้าของโลแกนเคร่งขรึมทันที“คุณไรท์! ผมให้เกียรติคุณขนาดนี้เพราะเห็นแก่ผู้อาวุโสตอร์เรสหรอกนะ!“อย่าเอาแต่อารมณ์ตนเอง! เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครถูกหรือผิด!“บางทีอาจเป็นคุณก็ได้ที่ล่อลวงนายน้อยการ์เซียอย่างไร้ยางอายและแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!“เขาก็ขอโทษคุณแล้ว! เขายังตกลงที่จะชดเชยให้คุณด้วย! ผู้คนมากมายไม่
ขณะที่เซียนน่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ฮาร์วีย์ก็ถอนหายใจแล้วก้าวออกมา“ผมมีเรื่องจะพูด” เขาเริ่มอย่างใจเย็น“โอ้? ที่นี่มีคนรนหาที่ตายด้วย?!”โลแกนเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธ“จะบอกอะไรฉันเหรอพ่อหนุ่ม? อยากให้ฉัน…”ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อทันทีที่เขาเห็นฮาร์วีย์ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้“คะ… คุ… คุณ…”โลแกนไม่อาจเอ่ยชื่อของฮาร์วีย์ออกมาด้วยซ้ำเขารีบก้มตัวทันทีและยืนข้างหน้าฮาร์วีย์ด้วยท่าทางกังวลดาห์เลียชะงักเมื่อเห็นภาพนั้น“มีอะไรรึเปล่าผู้อำนวยการโบวี่? คุณรู้จักเด็กคนนี้เหรอ?”เธอคิดว่าโลแกนจำคนผิดสำหรับเธอ เธอคิดว่าจะไม่มีใครสามารถทำให้โลแกนกลัวได้ขนาดนี้นอกจากตระกูลบาวเออร์และตระกูลจอห์นฮาร์วีย์เมินดาห์เลียโดยสิ้นเชิงและมองโลแกนด้วยความใจเย็น“มานี่สิ” เขาพูดพร้อมกับกระดิกนิ้วชี้โลแกนเริ่มหน้ามืด เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องทำตามที่ฮาร์วีย์สั่ง ดาห์เลียและเฟร็ดดี้จ้องมองเขาด้วยความสับสน“ฉะ- ฉันขอโทษคุณยอร์ก ฉันไม่รู้...” เขาพูดขณะที่ตัวสั่นอย่างไม่หยุดหย่อนเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือไปทางด้านซ้ายของใบหน้าของโลแกน
“ถ้านายไม่กล้าก็ไปบอกให้หัวหน้านายมาทำสิ!“หรือนายรู้อยู่แล้วว่าเขาก็ไม่สามารถทำอะไรฉันได้เหมือนกัน?“บทเรียนครั้งก่อนยังไม่พอสำหรับนายเหรอ?“นายอยากตายหรือไง? ทำไมนายถึงได้ยืนหยัดเพื่อผู้กระทำผิดอีกแล้ว?“ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันคงจะต้องปลดนายออกจากตำแหน่ง นายจะได้มีเวลามากมายทบทวนความผิดพลาดของตัวเองเมื่อนายอยู่หลังลูกกรง!”ปัง!“ฉันขอโทษคุณยอร์ก!”โลแกนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องหมอบลงกับพื้น“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอีก! ได้โปรด! ให้โอกาสฉันเถอะ!“ผมผิดเองครับคุณไรท์!“แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ!”โลแกนมีสีหน้าเศร้าสร้อยตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการถูกลากเข้ามาพัวพันในการทะเลาะระหว่างผู้มีอำนาจหมายความว่าอย่างไรทั้งสองฝ่ายมีภูมิหลังที่ทรงพลังและประวัติศาสตร์อันยาวนาน...อย่างไรก็ตาม เขาเป็นเพียงรองผู้บัญชาการของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์เท่านั้น เขาไม่ได้มีใครคอยหนุนหลังเขาด้วยเขาไร้อำนาจในสถานการณ์เช่นนี้!ฮาร์วีย์เตะโลแกนลงกับพื้นก่อนที่จะเหลือบมองเซียนน่า“มีบางอย่างที่คุณไม่สามารถทำได้เพราะตัวตนของคุณ คุณไรท์“เพราะฉะนั้นผมจะจัดหารให้คุณเอง”เซียนน่ากำลังสับสน เนื่องจากภ
“อ๊ากกก!”เฟร็ดดี้นอนตัวสั่นบนพื้นด้วยความเจ็บปวดราวกับว่าเขาถูกแทงมาหลายสิบครั้งก่อนหน้านี้เขายังทำตัวสูงส่งและยิ่งใหญ่ เขาคิดว่าเขาได้วางแผนทุกอย่างไว้ดีแล้ว แต่ในขณะนั้นมันกลับไม่ได้สำคัญแต่อย่างใดความเจ็บปวดเป็นสิ่งเดียวที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาไม่สามารถพูดอะไรได้แม้แต่คำเดียว อย่าว่าแต่การข่มขู่ฮาร์วีย์เขายังมีชีวิตอยู่ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าเขาตายไปเสีย“นายน้อยการ์เซีย!“เป็นอะไรไป?“เกิดอะไรขึ้น?!”ดาห์เลียและคนอื่น ๆ สีหน้าเปลี่ยนทันทีหลังจากที่เห็นเฟร็ดดี้อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ เฟร็ดดี้ล้มลงกับพื้นได้อย่างไร?!เขาตกใจเพราะเสียงปืนของฮาร์วีย์เหรอ?ไม่มีทาง!เฟร็ดดี้แข็งแกร่งกว่านั้นมาก!ผู้สูงอายุในชุดคลุมสีดำรีบวิ่งมาหาเฟร็ดดี้อย่างรวดเร็วเขาชื่อครอยซ์ เขาเป็นยอดฝีมือของอารามสวรรค์ของอินเดียและยังเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเฟร็ดดี้อีกด้วยเขาเชี่ยวชาญด้านโยคะ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเชี่ยวชาญทักษะทางการแพทย์บางอย่างด้วยเขาจับเส้นเลือดของเฟร็ดดี้ทันทีและยัดยารักษาหัวใจที่ออกฤทธิ์เร็วสองสามเม็ดเข้าไปในปากของเฟร็ดดี้...ทว่า
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข