แม้ว่าฮาร์วีย์จะค่อนข้างสุขุมและไม่มีความทะเยอทะยานมากเกินไป...แต่เขาก็จะไม่ยอมนั่งอยู่เฉย ๆ และปล่อยให้คนอื่นเหยียบย่ำเขาเพื่อทำให้โนแลนประทับใจในทัศนคติและความกล้าหาญของเขา ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจที่จะให้โอกาสสภาภารตะอีกครั้งหากพวกเขาไม่เปลี่ยนวิถีทางของตนและยังตามรังควานฮาร์วีย์ต่อไป เขาก็จะไม่รังเกียจที่จะจัดการกับพวกเขาให้รู้แล้วรู้รอด...โคลตันไม่ได้พูดอะไรอีกเพื่อที่จะไม่ทำลายความมั่นใจของฮาร์วีย์ในความเป็นจริงเขาได้พูดถึงความดีของฮาร์วีย์กับสภาภารตะก่อนที่เขาจะมาที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะผ่านไปเร็ว ๆ นี้หลังจากที่เตือนฮาร์วีย์ให้ไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดหลงเหมินในวันพรุ่งนี้ โคลตันก็ยืนขึ้นและจากไปฮาร์วีย์เอนกายนอนบนเก้าอี้และหลับตาลง เขาไม่ได้ใส่ใจสภาธุรกิจภารตะมากนักสองชั่วโมงต่อมา เสียงฝีเท้าอันรวดเร็วก็ดังเข้ามาใกล้“แย่แล้วค่ะนายน้อยยอร์ก!”ราเชลวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นกังวลฮาร์วีย์ชะงัก“มีอะไรเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอีกแล้วเหรอ?”“เปล่าค่ะ!”ราเชลหายใจเข้าลึก ๆ“ที่โรงแรมฟลัตเวลล์!“ครึ่งชั่วโมงที่แล้วมีผู้ตรวจการกลุ่มใหญ่บุกเข้าไปในโรงแรมและปิดมั
โทรศัพท์ของราเชลเริ่มสั่นในขณะนั้น มีคนส่งข้อความถึงเธอหลังจากที่อ่านข้อความนั้นแล้ว สีหน้าของราเชลก็แย่ลง“เรารู้แล้วว่าใครทำเรื่องนี้ เขาเป็นสมาชิกคนนอกของกองบังคับคดีของหลงเหมิน คนของมิทเชล“แต่คุณมีอำนาจสูงสุดในกองบังคับคดีของหลงเหมิน“ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ คุณก็จะต้องรับโทษ!“เราจะทำยังไงดี? เราควรบอกคนอื่นเกี่ยวกับคนนี้ไหม?”“ไม่จำเป็น” ฮาร์วีย์ตอบ“เราสืบได้ว่าใครเป็นผู้นำกลุ่มนั้น สภาธุรกิจภารตะไม่ใช่คนโง่ พวกเขาต้องรู้เรื่องนี้“แต่ในเมื่อมิทเชลตายไปแล้ว พวกเขาก็จะต้องโทษฉันเป็นธรรมดา“ถ้าเราบอกว่าเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนเหล่านั้นก็เท่ากับเราตบหน้าตัวเอง!“ฉันต้องยอมรับว่านี่เป็นแผนที่น่าประทับใจเลยทีเดียว!“พวกมันพยายามทำให้เราตื่นตระหนกในขณะที่บีบบังคับให้พวกเราไม่มีทางสู้ไปพร้อม ๆ กัน…“น่าสนใจ”“นี่คุณกำลังจะบอกว่าคุณรู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังงั้นเหรอ?”ราเชลตกใจ“จริง ๆ แล้วมันง่ายมากเลยนะ ศัตรูอาจจะไม่มีเจตนาที่จะซ่อนตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วเธอและฉันต่างก็รู้ดีว่ามิทเชลเป็นคนของโจเซฟ“ถ้าไม่ใช่เขาแล้วใครจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้อีก?”“ถ้าอย
โบดี้ปรบมือ หลังจากนั้นสหายของเขาก็ลุกขึ้นและจ้องเคย์เดนอย่างเย็นชาทันทีเหล่าบอดี้การ์ดไม่ได้ซ่อนเจตนาฆ่าของตนอีกต่อไปเคย์เดนเพิกเฉยต่อคนเหล่านั้นโดยสิ้นเชิงและเดินไปหาอีไล“นายน้อยเบอร์ตันใช่ไหม?” เขาถามขณะที่หรี่ตาลง“นายน้อยยอร์กส่งผมมาที่นี่เพื่อที่จะบอกคุณบางอย่าง“เขาไม่ต้องการให้คุณคืนความยุติธรรมให้เขาในวันพรุ่งนี้ เขาต้องการมันเดี๋ยวนี้”“นายน้อยยอร์ก? เขาเป็นใคร?”อีไลสับสน“โอ้? นายคือหัวหน้าบัลเมอร์ไม่ใช่เหรอ? ฉันก็ว่าอยู่ว่าไอ้โง่ที่ไหนมันมาวิ่งเล่นแถวนี้!“ไม่เจอกันนานเลยนะ! ฉันไม่ยักรู้ว่านายได้กลายเป็นลูกน้องของไอ้แมงดานั่น!“นายเป็นหนึ่งในหัวหน้าของแก๊งทั้งหก! แก๊งของนายเองก็มีชื่อเสียง!“ทำไมนายถึงได้ไปทำงานให้คนอื่นล่ะ?“ที่ผ่านมาแก๊งขวานคงเก่งแต่โอ้อวดสินะ…”อีไลพ่นควันออกมา เขากำลังดูถูกเคย์เดนโดยสิ้นเชิงผู้หญิงที่นั่นต่างพากันปิดปากตนเองและหัวเราะคิกคัก พวกเธอมั่นใจมากว่าเคย์เดนกำลังรนหาที่ตาย“เลิกพล่ามได้แล้วอีไล”เคย์เดนเปลี่ยนเรื่องทันที“ผมจะถามคุณอีกครั้ง คุณจะชดใช้สำหรับการทำร้ายแมนดี้ ซิมเมอร์ยังไง?”“ชดใช้?“นี่นายกำลังถามฉันเหรอ?“
เคย์เดนตบมือของอีไลออกไป แววตาของเขาเยือกเย็นอีไลเผยรอยยิ้มอันครุ่นคิดเมื่อตัดสินใจที่จะข้ามเส้นไปอีก“เอาแบบนี้ดีไหม? เราอย่าพูดถึงฮาร์วีย์ในตอนนี้เลย“ยังไงนายน้อยการ์เซียก็จะต้องฆ่าเขา พวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้“ฉันสัญญาว่าอย่างน้อยฉันจะขอร้องให้นายน้อยการ์เซียเหลือแขนให้ฮาร์วีย์เอาไว้ขอทานข้างถนนหลังจากที่เขาหักแขนขาที่เหลือของฮาร์วีย์แล้ว“แต่นายจะต้องตอบแทนฉัน“ฉันชอบซีนเธียร์ ซิมเมอร์จริง ๆ!“ฉันคิดถึงเธอมากจนนอนไม่หลับ!“นายเป็นคนดีนะหัวหน้าบัลเมอร์“ทำไมนายไม่ส่งเธอขึ้นเตียงของฉันและช่วยปลดปล่อยฉันจากความเจ็บปวดนี้?”อีไลพ่นควันใส่หน้าของเคย์เดนก่อนที่จะหัวเราะ“ไม่ต้องห่วง หลังจากนั้นฉันจะขอบคุณนายอย่างงามเลย“ยังไงฉันก็จะต้องตอบแทนบุญคุณนายเหมือนกัน ถูกไหม?”โบดี้และคนอื่น ๆ ต่างกระหยิ่มยิ้มย่อง พวกเขาเชื่อว่าเคย์เดนจะไม่กล้าขัดอีไลสีหน้าของเคย์เดนแย่ลง“คุณกำลังจะบอกว่าคุณจะไม่ทำตามที่ผมบอกงั้นเหรอ?”“ทำไม? นายจะขัดฉันหรือไง?”อีไลหัวเราะ“ใช่สิ! มหาอำนาจในท้องถิ่นอย่างนายมีไว้เพื่อถูกฉันเหยียบย่ำอยู่แล้ว!”“อยากตายหรือไง?!” เคย์เดนค
“นายน้อยยอร์ก!”อีไลขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเขาเคย์เดนเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยความเคารพและโค้งคำนับให้ฮาร์วีย์โดยที่มือทั้งสองข้างของเขาแนบชิดข้างลำตัวหัวใจของอีไลเต้นเร็วขึ้นเขาดูถูกเคย์เดนอยู่เรื่อยทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเคย์เดนยังคงเป็นหนึ่งในหัวหน้าแก๊งของฟลัตเวลล์เคย์เดนเป็นสมาชิกของแก๊งทั้งหก!แม้ว่าเคย์เดนจะอยู่ในแก๊งที่แย่ที่สุดจากแก๊งทั้งหก แต่การที่เขาเคารพฮาร์วีย์อย่างมากขนาดนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของฮาร์วีย์ได้แล้วอย่างไรก็ตาม อีไลไม่เข้าใจว่าชายที่เป็นแมงดาและต้องพึ่งความช่วยเหลือจากตำรวจจะมีอะไรพิเศษแต่อีไลไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนักท้ายที่สุดแล้วชะตากรรมของฮาร์วีย์ก็ถูกกำหนดทันทีที่เขาแจ้งตำรวจไปปิดโรงแรมฟลัตเวลล์แล้วแฟรงกี้จะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะฆ่าเขาได้“ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เองครับนายน้อยยอร์ก” เคย์เดนพูดด้วยความเคารพ“คุณไม่ต้องมาถึงที่นี่ก็ได้ครับ”“ในเมื่อนายน้อยเบอร์ตันแตะต้องภรรยาของผมและทำให้เธอต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสองถึงสามสัปดาห์เต็ม ๆ…“แน่นอนว่าผมจะต้องตอบแทนเขาด้วยตัวเอง ถูกไหม?”ฮาร์วีย์ตบไหล่ของเคย์เดนเบา ๆ ก่อนที่จะจ้อ
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างสุภาพ“มีบางอย่างที่คุณอาจไม่รู้ นายน้อยเบอร์ตัน“สำหรับผม คุณก็ไม่ต่างจากหมาจรจัดที่วิ่งเล่นอยู่ข้างนอก”สีหน้าของโบดี้ดุร้ายทันทีก่อนที่เขาจะคำรามว่า “แกพูดว่าอะไรนะไอ้สารเลว?!“ถ้าแกกล้าพูดแบบนั้นอีกฉันจะฆ่าแก! ไม่เชื่อก็ลองดู!”อีไลโบกมือเพื่อให้โบดี้และคนอื่น ๆ สงบลงเขามองฮาร์วีย์ตั้งแต่หัวจรดเท้าและเยาะเย้ย“เอาเลยนายน้อยยอร์ก ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว! เอาเลยสิ!“คิดซะว่าทำเพื่อเมียของนาย!“นายจะทำได้หรือเปล่า?“หรือจะให้ต้องถามว่า นายคู่ควรที่จะได้ฆ่าฉันหรือเปล่า?!”สีหน้าของอีไลเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง ในสายตาของเขา ฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่จะขาดความกล้าเท่านั้น แต่ฮาร์วีย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้นด้วยซ้ำฮาร์วีย์ไม่มีความกล้า และไม่คู่ควรด้วยซ้ำบรรดาสาวสวยจ้องฮาร์วีย์ด้วยความดูถูก‘ไอ้สารเลวคนนี้ทำได้แค่เล่นสกปรกแล้วแจ้งตำรวจ! ช่างสกปรกไร้ประโยชน์จริง ๆ!’‘คนอย่างเขาฝันว่าจะเอาชนะนายน้อยเบอร์ตันได้ได้ยังไง?’เพล้ง!ฮาร์วีย์ไม่เสียเวลาและหยิบขวดเบียร์ตีหัวของอีไลทันทีมันเป็นการโจมตีที่รวดเร็วและทรงพลัง ไม่มีใครสามารถตอบสนองต่อมันได้ศีรษ
เพล้ง!ฮาร์วีย์หยิบขวดเบียร์ขึ้นมาอีกขวดก่อนที่จะตีหัวของอีไลอีกครั้งอย่างไม่หยุดยั้ง“ในเมื่อคุณให้ความยุติธรรมกับผมไม่ได้ ผมก็จะทำมันเอง“นี่สำหรับภรรยาผม!”เพล้ง!“นี่สำหรับน้องสะใภ้!”เพล้ง!“นี่สำหรับแม่ยาย!”ฮาร์วีย์ทุบขวดสามขวดแตกในทันที ศีรษะของอีไลเต็มไปด้วยเลือดและเศษแก้วขณะที่เขาร้องด้วยความเจ็บปวดบรรดาสาวสวยไม่เคยเห็นเลือดมากขนาดนั้นมาตลอดชีวิต พวกเธอกรีดร้องด้วยความกลัวขณะที่พากันถอยหลังไปสองสามก้าว สีหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ผมตีหัวคุณแล้วจะยังไง?”ฮาร์วีย์ตบไหล่ของอีไลเบา ๆ“สำหรับผมแล้วโนแลนก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัขจรจัด แอรอนยังยอมคุกเข่าให้ผมเลย…“แล้วคุณคิดว่าคุณเป็นใคร?“คุณคิดว่าตัวเองมีอิทธิพลมากขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณก็เป็นได้แค่หนอนเน่า ๆ”อีไลกัดฟันด้วยความโกรธแค้น“นายดูถูกผู้สูงศักดิ์อย่างเรา ๆ และนายยังทำร้ายฉันไม่ยั้ง! นายเคยนึกถึงผลของการกระทำของตัวเองบ้างไหม?!”แน่นอนว่าในสายตาของอีไล คนอย่างเขาไม่ควรถูกทำให้ต้องอับอายเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือของตนไปที่ใบหน้าของอีไล“ผู้สูงศักดิ์?“ผลที่จะตามมา?“แม้แต่โนแลนยังไม่กล้าโอ้อ
ชายหนุ่มหัวโล้นในชุดคลุมเดินตามหลังชายวัยกลางคนคนนั้น เขาเดินเข้าไปในห้องอย่างโอ่อ่าราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกชายวัยกลางคนเผยถึงความเป็นชนชั้นสูงขณะที่เขาเดินเข้าไปพร้อมกับพรรคพงกของตนข้างในห้อง ฮาร์วีย์กำลังนั่งไขว้ห้างและจิบชาเมื่อเขาเห็นชายวัยกลางคนคนนั้น“คุณเป็นใคร?“คุณดูไม่เหมือนแฟรงกี้เลย…”“กล้าดียังไง?!”ชายวัยกลางคนถอดแว่นตาออกและเช็ดมันด้วยทิชชู่“นายคงเป็นฮาร์วีย์”แววตาของเขาเยือกเย็น‘ก็แค่ชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่ง แม้ว่าออร่าของเขาจะค่อนข้างพิเศษ แต่เขาก็ยังเป็นเพียงคนธรรมดา…’‘อีไลไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เขาไม่สามารถจัดการกับชายคนเดียวได้แม้ตนจะมีพรรคพวกมากมายอยู่ด้วยก็ตาม เขายังต้องมาขอความช่วยเหลือจากฉันอีก’‘ลูกชายคนนี้จะต้องเป็นตัวซวยของฉัน…’ฮาร์วีย์ไม่ตอบคำถามของชายคนนั้นแต่กลับมองชายคนนั้นด้วยความสงสัยแทน เพียงแค่มองแวบเดียวเขาก็สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้มาจากตระกูลเบอร์ตันอีไลทำให้ตัวเองดูยิ่งใหญ่มาก แต่สถานะของเขายังต้อยต่ำเกินไปเขาไม่มีสิทธิ์โทรหาแฟรงกี้เขาจึงโทรหาพ่อของเขาแทน“ซีอีโอเบอร์ตันกำลังถามนาย! นายหูหนวกหรือไง?!”หลังจากที่เห็นสีหน้าท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข