สมาชิกของบ้านหลังที่สามและสี่ต่างสบตากันอย่างระมัดระวัง ราวกับว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะหนีแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างหวาดกลัวความโกรธเกรี้ยวของคุณย่ายอร์กวินซ์และคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกกับทัศนคติของเธอตราบใดที่คุณย่ายอร์กอยู่ข้างพวกเขา ตำแหน่งของวินซ์ก็มั่นคงความวุ่นวายสงบลงในที่สุดทุกคนต่างถอนหายใจ มาร์เซลไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ทุกอย่างก็จบลงอย่างง่ายดายอย่างที่คาดไว้จากคุณย่ายอร์ก!มาร์เซลกำลังจะเดินไปหาฮาร์วีย์สีหน้าของคุณย่ายอร์กเปลี่ยนไปทันที เธอกระแทกไม้เท้าของเธอลงกับพื้นด้วยความโกรธ“มาร์เซล!” เธออุทานด้วยความโกรธ“นี่มันหมายความว่ายังไง?!“คนอื่นพยายามต่อต้านเราและให้คนนอกขึ้นมาเป็นหัวหน้าและทำให้ตระกูลของเรากลายเป็นประวัติศาสตร์!“แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าตระกูล นายไม่เพียงแต่จะไม่จัดการกับสถานการณ์ นายยังกำลังจะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการอีกด้วย!“นายจะบ้าไปแล้วเหรอ?!“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันควรจะต้องพิจารณาแต่งตั้งคนอื่นมาเป็นหัวหน้าตระกูลแทน!”มาร์เซลหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองวินซ์อยู่ครู่หนึ่ง“คุณแม่ครับ…” เขาเริ่มเบา ๆ“มีบางอย่างที่ผมไม่อยากบอกคุณในวันเก
ผู้คนอ้าปากค้างกับคำพูดเหล่านั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณย่ายอร์กจะตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้วินซ์เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคนใหม่เธอยังจะให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นด้วย! มันน่าตกใจจริง ๆแต่ถ้าคิดดูดี ๆ แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องคาดไว้ถ้าคุณย่ายอร์กจะต้องจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อให้วินซ์ขึ้นสู่อำนาจแล้วจะทำไม?ผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าคนนี้ได้เคารพมาร์เซลอย่างเงียบ ๆ โดยประนีประนอมเพื่อวินซ์อยู่ตลอดเวลาเมื่อทุกคนคิดว่ามาร์เซลจะเห็นด้วยกับข้อตกลงนั้น เขากลับขมวดคิ้ว“ผมเกรงว่าผมจะไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาของคุณได้ครับคุณแม่”คุณย่ายอร์กระเบิดด้วยความโกรธ“นายจะต่อต้านฉันในวันเกิดของฉันเหรอ?!”“ผมไม่สามารถปฏิเสธคำอวยพรวันเกิดของคุณได้เนื่องจากนี่คืองานเลี้ยงวันเกิดของคุณ…“แต่ถ้าอนาคตของตระกูล เมือง และแม้แต่คนทั้งประเทศเกี่ยวข้อง ผมก็ต้องต่อต้านคุณ!“วินซ์จะลุกขึ้นสู่อำนาจไม่ได้!“แม้ว่าจะไม่ใช่ฮาร์วีย์ที่จะเข้ามาแทนที่…“แม้จะเป็นคนอื่นในฮ่องกงและลาสเวกัส“ยังไงวินซ์ก็จะต้องไม่ขึ้นเป็นหัวหน้า!”สีหน้าของวินซ์มืดลงทันที เขาอยากจะตบหน้ามาร์เซลมากเขาไม่คิดว่านา
เซลีน่ารวดเร็วมาก การเคลื่อนไหวของเธอไม่ต่างจากความเร็วของสายฟ้าในช่วงพริบตาดาบของเธอก็พุ่งเข้าหาใบหน้าของวอลเทอร์ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบด้วยซ้ำสีหน้าของคุณย่ายอร์กเปลี่ยนไปทันที เธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอซึ่งหมกมุ่นอยู่กับศิลปะการต่อสู้มากจะไม่สามารถโจมตีเซลีน่าได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อถึงจุดนี้ เธอก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงไม้เท้าของเธอเซลีน่าไม่ทันได้ระวังตัวและถูกตีหลังอย่างเจ็บปวด เธอไม่คิดว่าคุณย่ายอร์กจะหน้าด้านถึงขั้นโจมตีเธอจากด้านหลังเซลีน่ากลืนเลือดที่เกือบจะไหลออกจากปากเธอและเพิ่มความเร็วของเธอ ไม่นานหลังจากนั้นวอลเทอร์ก็ถูกดาบของเธอฟาดเข้าหน้าเซลีน่ายังคงเคารพตระกูลของเธอ เธอจึงใช้เพียงสันดาบขณะที่โจมตีเขาแต่วอลเทอร์ก็ยังคงล้มคะมำกับพื้น มันเป็นภาพที่น่าสังเวชผู้คนอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความกลัว มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!เซลีน่าปิดปากตนเองแล้วเดินกลับไปหาฮาร์วีย์หลังจากที่โจมตีสำเร็จ“ฉันบอกพวกคุณแล้ว! คุณจะต้องข้ามศพของฉันถ้าคุณอยากแตะต้องนฮาร์วีย์!”สีหน้าของวอลเทอร์เผยถึงความเจ็บใจ หลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขาทำได้เพียงก
เมื่อได้เห็นกับตาว่ามาร์เซลยอมสละชีวิตเพื่อฮาร์วีย์ ใบหน้าของวินซ์เปลี่ยนไปเป็นดูน่าสมเพช เขาทุบกระจกในมือด้วยความโกรธแมทธิวและคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ข้างวินซ์เข้าใจดีว่าวินซ์รู้สึกอย่างไรหากมาร์เซลเลือกที่จะยืนหยัดเพื่อฮาร์วีย์ นั่นจะถือเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อตำแหน่งปัจจุบันของวินซ์ศึกครั้งนี้ถือเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายเลยก็ว่าได้คุณย่ายอร์กจ้องมองมาร์เซลอย่างเย็นชาอยู่นานสองนาน จนกระทั่งสุดท้ายเธอได้แต่ถอนหายใจ"ได้! ในเมื่อนายต้องการปกป้องเขา ฉันก็จะไม่ห้าม“นอกจากนายเป็นหัวหน้าของตระกูลคนปัจจุบัน เพราะงั้นฉันจะปล่อยให้แขกคนสำคัญของนายอยู่ในงานต่อไป“แต่ฉันก็ยังคงจะยืนยันคำเดิม นายต้องทำตามสิ่งที่รับปากเอาไว้!“เราเคยคุยเรื่องนี้กันมาแล้ว วินซ์ควรจะได้ขึ้นเป็นนายน้อยคนใหม่ในวันเกิดของฉันในปีนี้!“ก่อนหน้านี้นายรับปากแล้ว“เพราะอย่างนั้น เพื่ออนาคตและความมั่นคงของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกง…“นายควรจะจัดการเรื่องนี้ให้จบที่นี่ต่อหน้าทุกคน!“นายก็น่าจะรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการเพียงคนเดียว พ่อของนายก็ต้องการแบบนี้เหมือนกัน!“หรือนายกำลังจะบอกว่านายจะทำลายเจตจำนงของเขาต่
“นายวางแผนจะหันหลังให้กับคนทั้งตระกูลเหรอ น้องสี่?“งั้นนายไม่เคยคิดจะให้วินซ์เข้ารับตำแหน่งนายน้อยมาตั้งแต่แรกกันแน่?“ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมนายไม่บอกพวกเราตั้งแต่แรกล่ะ?“นายคงไม่ได้คิดหรอกใช่ไหมว่าการดันฮาร์วีย์ให้ก้าวเข้าสู่อำนาจจะช่วยแก้ปัญหาของตระกูลได้?“ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว หากเรื่องนี้ไม่ถูกแก้ไขอย่างถูกต้อง จะไม่ใช่แค่ตำแหน่งของนายเท่านั้นที่จะสั่นคลอน…“ไม่ช้าก็เร็วตระกูลทั้งตระกูลอาจจะล่มสลายไปเลยก็ได้!”“พี่จะยอมหันหลังให้ตระกูลจริง ๆ เหรอ พี่สี่?”เล็กซี่เหลือบมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาขณะที่เธอพูดว่ากันตามตรง ฮาร์วีย์ค่อนข้างเก่งเรื่องสร้างปัญหาแม้แต่งานเลี้ยงทั้งงานก็ยังพังไม่เป็นท่าเพราะเขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวจริง ๆ!เล็กซี่เริ่มรู้สึกแย่ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้พยายามฆ่าฮาร์วีย์ให้มากพอถ้าฮาร์วีย์ตายไปตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นมันก็สายเกินไปแล้วมาร์เซลขมวดคิ้วกับคำพูดของเหล่าพี่น้องของตัวเอง ความเจ็บปวดและความขุ่นเคืองฉายชัดอยู่ในดวงตาของเขาขณะที่มาร์เซลถูกบีบบังคับให้จนมุม เซลีน่าก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนที่จะก้าวไป
หลังจากได้ยินชื่อของอากิโอะ ดวงตาของฝูงชนก็กระตุก พวกเขารีบมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าแปลก ๆสายตาของพวกเขาคมกริบราวกับใบมีดการแสดงออกของคอรี่และวอลเทอร์เปลี่ยนไปในทันทีเช่นกันแน่นอนว่าพวกเขารู้ดีว่าชื่อนั้นมีความหมายเช่นไรสำหรับพวกเขา มีบางสิ่งที่พวกเขาไม่อาจเอ่ยถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเอ่ยถึงเรื่องเหล่านั้นต่อหน้าสาธารณะชน หากว่าเขาทำเช่นนั้น นี่จะเป็นหายนะ!“นายพยายามจะทำอะไรกันแน่ฮาร์วีย์!”คุณย่ายอร์กไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอสังหรณ์ใจไม่ดีเลย“นายไม่ใช่คนในตระกูลเราด้วยซ้ำ แถมยังท้าทายฉันไม่หยุดหย่อนอีก!“นายคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่านายเหรอ!“ต่อให้นายจะเป็นลูกเขยของมาร์เซลก็เถอะ…“ไม่มีทางที่ฉันจะยอมให้นายได้ขึ้นเป็นนายน้อยของตระกูลแน่!“คนนอกอย่างนายคิดจะไต่ระดับของตระกูลขึ้นไปงั้นเหรอ!"ฝันไปเถอะ!"“แม่ครับ ฮาร์วีย์ไม่เคยคิดอยากจะเป็นนายน้อยเลย” มาร์เซลตัดบทเธออย่างใจเย็น“ผมไม่ได้บอกเขาด้วยซ้ำว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้“ผมแค่คิดว่าเขาเป็นผู้ท้าชิงที่เหมาะสม นั่นคือเหตุผลที่ผมวางแผนมอบบัลลังก์ให้เขา”คุณย่ายอร์กตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอไม่เชื่อสิ่งที่ไ
“สิ่งที่ผมกำลังจะกล่าวถือว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์เช่นนี้เลย“แต่ต้องขอบอกเลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยมากเกินไป“ดังนั้นผมถึงต้องหยิบยกเรื่องราวเหล่านั้นมาพูดตอนนี้!“เมื่อสิบปีที่แล้ว นายท่านยอร์กมีบุตรชายคนหนึ่ง เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม เด็กชายผู้นั้นก็ถูกนำตัวออกจากโรงพยาบาลมาเรีย“ในวันเดียวกันนั้นเอง เพื่อความปลอดภัยของเด็กชายคนดังกล่าว เลดี้ จัดด์และเด็กชายจึงถูกแยกด้วยรถสองคัน“ตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้น!“ลูกชายของนายท่านยอร์กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น!“เหตุการณ์นี้เองที่เป็นหนามยอกอกของเลดี้ จัดด์ และนายท่านยอร์กมาโดยตลอด“ตั้งแต่นั้นพวกเขาได้สืบสวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น!“จนในวันนี้ เราได้พาตัวผู้ร้ายมาที่นี่แล้ว!“เขาคืออากิโอะ ยาชิโระ ยอดนักดาบแห่งชินดัน เวย์!“ก่อนหน้านี้เขามีอีกตัวตนหนึ่ง นั่นก็คือริน หัวหน้าองค์กรนักฆ่าที่มีชื่อว่าองค์กรรุกฆาต!“หลังจากที่ผมกับจูเลียนพยายามจัดการกับเขา สุดท้ายเขาก็ยอมเปิดปาก!“เขาได้บอกเราถึงความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น พร้อมกับแผนสมรู้ร่วมคิดอันน่าสะพรึงกลัวของชาวประเทศหมู่เกาะ”ฮาร์วีย์ปรบมื
แน่นอนว่าคุณย่ายอร์กโกรธและไม่พอใจฮาร์วีย์ที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาในช่วงเวลาสำคัญของวินซ์ ยอร์กถ้าเธอมีวิธีรับมือมาร์เซล เธอคงไม่จำเป็นต้องยอมให้ฮาร์วีย์มาทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ แน่นอนว่ามาร์เซลเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน“คุณแม่ ผู้ใหญ่ของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงคงจะมีข้อสรุปอะไรบางอย่างใช่ไหม?“พวกคุณทุกคนไม่แยแสต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้วใช่ไหมล่ะ?“แต่วันนี้เราจะแสดงให้ทุกคนได้เห็น!“ทุกอย่างจะถูกเปิดเผย!“พวกคุณทุกคนจะได้เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น!”หลังจากได้ยินคำพูดของมาร์เซล เซลีน่า จัดด์ก็สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อสงบสติอารมณ์ของเธออีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเหลือบมองฮาร์วีย์“ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันจะสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่”ฮาร์วีย์พยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะแลกเปลี่ยนสายตากับเซลีน่าจากนั้น เขาก็เดินไปหาอากิโอะ ยาชิโระและพูดอย่างใจเย็น “ถ้าวันนี้คุณร่วมมือกับผมและเปิดเผยทุกสิ่งที่คุณรู้...“หลังงานเลี้ยงนี้จบลงผมจะปล่อยคุณไป ตามที่เราตกลงกันไว้!”“คุณมีเมตตาเหลือเกิน ผมมีหน้าที่รับผิดชอบในการเปิดเผยทุกอย่างต่อสาธารณะ เมื่อมีโอกาสได้พูดแล้ว ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและชาวโลกจะได้ยินท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข