วินซ์ ยอร์กหรี่ตามองฮาร์วีย์ และเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “คุณยอร์ก คำพูดของเขาจะไม่มีความหมายอะไรถ้าคุณไม่อาจทำให้เขาพิสูจน์ตัวตนของตัวเองได้”ฮาร์วีย์ดูไม่แยแส“เรื่องนั้นก็ง่ายนิดเดียว นายน้อยยอร์ก” อากิโอะ ยาชิโระตอบอย่างสงบ“ผมไม่มีหลักฐานอะไรในการพิสูจน์ตัวเองอะไรทั้งนั้น แต่ผู้คนมากมายที่นี่ช่วยผมในเรื่องนั้นได้”จากนั้นอากิโอะก็จ้องมองไปที่เล็กซี่ ยอร์กก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขาขึ้น“สุภาพสตรีหมายเลขห้าแห่งตระกูลยอร์ก นายหญิงแห่งวังมังกรใช่ไหม?”เล็กซี่ขมวดคิ้ว"คุณกำลังจะพูดอะไร?"“ทุกคนรู้ดีว่าประเทศ H มีเสาหลักสี่ประการ ได้แก่หลงเหมิน หน่วยมังกรลับ กองกำลังการ์ดมังกร และวังมังกร…“นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ H วังมังกรรับผิดชอบการสอดแนมต่างประเทศ และทำให้ประเทศรอดพ้นจากสงคราม“พูดได้เลยว่าวังมังกรมีพลังที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาเสาหลักทุกแห่ง“และเพื่อป้องกันไม่ให้วังมังกรต้องอยู่ในภาวะระส่ำระสาย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาจำเป็นจะต้องหาคนคุมบังเหียน...“คนกลาง!“ผู้นำคนปัจจุบันของวังมังกรเป็นคนที่โดดเด่น!“เขาแต่งงานกับสุภาพสตรีหมายเลขห้าเพื่อเผยแพร่รากฐานของ
หน่วยอารักขาของนายท่านจำนวนสิบกว่าคนเดินออกมาและก้าวไปข้างหน้ายอดฝีมือจากวังมังกรภายใต้คำสั่งของมาร์เซล ยอร์กมาร์เซลตั้งใจที่จะปล่อยให้อากิโอะ ยาชิโระเปิดเผยทุกอย่างออกมาอากิโอะทำเพียงแค่ยิ้มก่อนจะมองไปทางคอรี่ ยอร์กอย่างใจเย็น“ทีนี้เรามาพูดถึงเรื่องของคุณดีกว่า“สิบสามปีที่แล้ว คุณกำลังวางแผนที่จะใช้เงินทุนของตระกูลไปลงทุนในบ่อขุดเจาะน้ำมันบนดาร์ก ไอส์แลน แต่ชาวอเมริกันก็คิดที่จะทำแบบเดียวกัน“ในสมัยนั้นเงินทุนของตระกูลสู้กับคู่แข่งไม่ได้“แล้วเพราะคุณหมดหวังที่จะไขว่คว้าความสำเร็จให้ตัวเองเพื่อที่คุณจะได้ไต่อันดับเร็วขึ้น...“คุณถึงขอความช่วยเหลือจากองค์กรรุกฆาต!“ไม่มีใครรู้เบาะแสของเหตุการณ์หลังจากนั้น ไม่มีใครรู้ว่าทำไมนักธุรกิจน้ำมันจากอเมริกาถึงยอมกระโดดลงทะเล“คุณถึงได้มีโอกาสซื้อบ่อขุดเจาะน้ำมันและสร้างล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดขึ้นมาได้! ถือเป็นการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ!“มีสุภาษิตหนึ่งที่ผมเห็นด้วย ทองคำก้อนแรกของเศรษฐีย่อมสกปรกเสมอ”“หุบปากเดี๋ยวนี้!”การแสดงออกของคอรี่นั้นดูแย่มาก“อย่าคิดว่านายจะพูดอะไรได้ตามต้องการ แค่เพราะนายเป็นยอดนักดาบที่ได้รับกา
“คุณกำลังบอกว่าแจ็คไนฟ์เป็นเจ้านายของคุณเหรอ?!“แล้วเขาก็เป็นคนที่อยากให้หลานชายของฉันตายด้วย!” คุณย่ายอร์กถามหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง“มีหลักฐานหรือเปล่า!”"มีสิ!"อากิโอะ ยาชิโระ ปรบมือก่อนที่ยอดฝีมือจากวังมังกรจะมอบเครื่องบันทึกเสียงเก่า ๆ มาให้“นี่คือเสียงของเขาที่บันทึกไว้ตอนนั้น ในเมื่อคุณรู้จักเขาดีมากผมมั่นใจว่าคุณคงจะจำเสียงของเขาได้“เนื่องจากนี่ไม่ใช่คำสั่งโดยตรงจากประเทศหมู่เกาะ ผมจึงต้องหาหลักฐานเผื่อเอาไว้!“เพราะผมไม่อยากให้ใครเอาเรื่องนี้มาโยนความผิดให้”คุณย่ายอร์กมีท่าทีที่ดูหวาดกลัว ก่อนจะมีคนนำเครื่องบันทึกเสียงมาไว้ข้างตัวเธอหลังจากเล่นการบันทึกอยู่นาน ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างก่อนที่เธอจะทำลายเครื่องบันทึกเสียงนั้นทันทีแน่นอนว่านั่นเพราะเธอต้องการทำลายหลักฐานการแสดงออกของมาร์เซล ยอร์กเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวฮาร์วีย์ ยอร์กมองดูคุณย่ายอร์กด้วยท่าทางนึกสนุกคุณย่ายอร์กลุกจากที่นั่งและเดินไปหาฮาร์วีย์อย่างช้า ๆ ก่อนจะโค้งคำนับต่อหน้าเขา“ฮาร์วีย์ “เป็นฉันเองที่ชักศึกเข้าบ้าน เป็นฉันเองที่ทำให้เรื่องเมื่อสิบปีก่อนเกิดขึ้น“ฉ
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น!'ชาวประเทศหมู่เกาะมีส่วนช่วยให้วินซ์ ยอร์กมีหน้ามีตาขึ้นมา!'นอกจากเหตุการณ์ของแจ็กไนฟ์แล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดยังเต็มไปด้วยแผนสมคบคิดมากมาย แค่คิดก็รู้สึกหวาดกลัวได้แล้ว สีหน้าของคุณย่ายอร์กมืดลงทันที เธอคงตระหนักได้แล้ว แต่ไม่กล้าเผชิญกับความจริงมากกว่า เธอจึงได้แต่พูดเช่นนั้นเพื่อให้ฮาร์วีย์เลิกสนใจเรื่องนี้แต่เธอไม่คาดคิดแล้วว่าเขาจะเปิดปากจนหมดเปลือกโดยปราศจากความเมตตา!มาร์เซล ยอร์กขมวดคิ้วก่อนจะเหล่ไปที่อากิโอะ ยาชิโระ“ยอดนักดาบ บอกทุกอย่างกับเรามา!“ถ้าคุณยอมบอก ผมจะรับประกันความปลอดภัยให้คุณเอง!”อากิโอะหัวเราะเบา ๆ“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย“ตัวอย่างเช่น ตอนที่นายน้อยยอร์กทำธุรกิจบางอย่างในประเทศหมู่เกาะ เราก็ลงมือเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะต่อรองราคาได้ดีและได้รับชื่อเสียงอย่างเต็มที่!“เราคือคนที่เตรียมการลอบสังหารเขาก่อนจะปล่อยเขาไปอย่างไร้เหตุผล ด้วยวิธีนี้เขาจะกลายเป็นคนสำคัญต่อสาธารณชน!“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งของเขาในฐานะเทพสงคราม เขามาได้ไกลขนาดนี้เพราะเขาได้รับของล้ำค่าจากราชวงศ์ของประเทศหมู่เกาะ ซึ่งเป็นยาที่ใ
วินซ์ ยอร์กดูเศร้าหมองมากในขณะนี้คอรี่ ยอร์กเองก็แสดงสีหน้าน่าสยดสยองออกมาเช่นกัน เขาจ้องมองไปที่อากิโอะ ยาชิโระด้วยสายตาที่ดุร้าย ราวกับอยากจะฆ่าอากิโอะด้วยตัวเองเล็กซี่ ยอร์กรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าวินซ์จะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับชาวประเทศหมู่เกาะถึงขนาดนี้แล้ววินซ์รู้ตัวไหมว่าเขาได้รับการสนับสนุนจากคนพวกนี้ในระหว่างก่อร่างสร้างตัว!แม้แต่คุณย่ายอร์กก็ดูแปลกไป ขณะที่เธอจ้องมองไปที่วินซ์อย่างตั้งใจ ความยึดมั่นและการสนับสนุนวินซ์ในตัวเธอลดน้อยลงเรื่อย ๆนอกจากคำพูดของอากิโอะแล้ว ยอดฝีมือของวังมังกรก็พากันเดินออกไปพร้อมกับถาดสองสามใบในเวลาต่อมารูปภาพ สัญญา บัญชีแยกประเภท และเอกสารต่าง ๆ ถูกนำออกมาด้วย ทุกคนเข้าใจได้ว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านด้วยซ้ำหากไม่เช่นนั้นฮาร์วีย์ ยอร์กคงไม่ยอมให้ทุกสิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้น เมื่ออ้างอิงจากวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ของเขาจากนั้นฮาร์วีย์ก็เหล่สายตาไปทางวินซ์“คุณอยากจะอธิบายอะไรหน่อยไหม นายน้อยยอร์ก”“ไม่มีอะไรต้องอธิบาย!”วินซ์ไม่ได้โกรธแค้น และไม่ได้ควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาได้แต่สงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก
“คุณแน่ใจเหรอ?“ทุกวันนี้ผู้คนอาจไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างประเทศ H และประเทศหมู่เกาะ แต่คุณจะไม่เข้าใจได้ยังไง“สิ่งชั่วร้ายทั้งหมดที่พวกเขาทำกับเราในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเป็นสิ่งที่ไม่อาจลืมได้! ประวัติศาสตร์ไม่เคยเลือนหายไป!”วินซ์ ยอร์กเย้ยหยันในขณะที่ใบหน้าส่อแววขี้เล่น“คุณไร้เดียงสาขนาดนี้ได้ยังไง ฮาร์วีย์ ยอร์ก?!“ยังคิดแบบนี้อยู่อีกเหรอ!“นั่นเป็นเรื่องเก่านานนมแล้ว!“ไม่ต้องพูดถึงความน่าเชื่อถือของมันด้วยซ้ำ!“ต่อให้มันจะเป็นเรื่องจริง แต่คุณไม่เคยได้ยินโบราณว่าไว้เหรอ?“ยอมถอยก้าวหนึ่งดีกว่าทะเลาะกัน!“นั่นมันก็ตั้งนานแล้ว! ในฐานะอารยชนของประเทศ H ทำไมคุณถึงไม่ให้อภัยความผิดพลาดในอดีตของพวกเขาบ้างล่ะ!“พวกเราก็คนกันเองทั้งนั้น! ไม่มีทางแยกจากกันไปได้หรอก!“ผมมั่นใจว่าพวกเขาลงทุนอยู่ในประเทศของเรามาระยะหนึ่งแล้ว!“แล้วเราก็ร่วมมือกันมาไม่น้อย!“ในเมื่อผมมีปัญญาทำได้ แล้วการที่ผมจะร่วมงานกับชาวประเทศหมู่เกาะมันจะทำไมล่ะ?“ผมเป็นตัวแทนในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ H และกลุ่มประเทศหมู่เกาะเชียวนะ!“ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรผมก็ไม่คิดว่าตัวเอง
นั่นก็เพราะทุกคนรู้ดีว่าวินซ์ ยอร์กจะไม่มีโอกาสได้เป็นนายน้อย หากเขาถูกตั้งข้อหากบฏเขาจะไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้อีกต่อไปเพราะผู้มีอำนาจระดับสูงของประเทศ H จะไม่ยอมให้คนแบบนี้ลืมตาอ้าปากได้นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาพยายามหาเหตุผลเข้าข้างการกระทำของวินซ์หลังจากไตร่ตรองสถานการณ์มาได้สักพักแล้ว คุณย่ายอร์กก็เงียบไปเธอคิดว่าคอรี่ ยอร์กและคนอื่น ๆ อาจจะพูดถูก อย่างไรเสียมันเป็นเรื่องปกติที่วินซ์จะทำงานร่วมกับชาวประเทศหมู่เกาะเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจอีกนัยหนึ่ง ความสามารถของวินซ์ก็ถูกกล่าวถึงไปทั่วได้เพราะสิ่งเหล่านี้“ผมยังมีอีกเรื่องที่จะพูดครับ คุณย่ายอร์ก!”ก่อนที่ใครจะทันได้อ้าปาก วินซ์ก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับประสานมือเอาไว้“ถ้าคุณย่าคิดว่าการที่ผมทำงานร่วมกับชาวประเทศหมู่เกาะเป็นความผิด...“ผมก็จะขอโทษ!“แล้วจะขอสาบานด้วยว่าจะตัดสายสัมพันธ์กับพวกเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!“นี่ก็น่าจะพอให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมได้แล้วใช่ไหม?“แต่ผมจะต้องขอบอกคุณย่าก่อนว่า! หากผมตัดสายสัมพันธ์กับพวกเขาแล้วผมจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายจากการทำอะไรแบบนั้นแม้แต่น้อย!”'เขาจะไม่รับผิดชอบอะ
ฮาร์วีย์ ยอร์กเหล่ตามองอย่างอดไม่ได้หลังจากได้ยินคำพูดเพ้อเจ้อของวินซ์ ยอร์กนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต่อกรกับวินซ์ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้กล้าดียังไงถึงพูดเรื่องแบบนี้ออกมา?แค่การที่วินซ์ใช้เหตุผลโง่ ๆ เหล่านั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาก็แย่พอแล้วแต่เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของวินซ์หลังจากที่มีความสัมพันธ์กับประเทศหมู่เกาะและพึ่งพาพวกเขาเพื่อสร้างตัว เขาก็ปฏิบัติต่อคนพวกนั้นราวกับเป็นเจ้านายของตัวเองเขาลืมเรื่องเหตุการณ์นองเลือดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองไปอย่างหมดหัวใจฮาร์วีย์ไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เขาจะพูดและทำหลังจากนี้ได้เลย!“วินซ์!”ในที่สุด มาร์เซล ยอร์กก็พูดออกมา ดวงตาของเขาฉายแววแห่งความเสียใจในขณะที่เขามองดูชายที่ถูกเขาเลี้ยงดูมากับมือ“เราไม่เคยมีกฎห้ามไม่ให้ทำงานกับชาวต่างชาติ!“ไม่มีใครขัดขวางไม่ให้เราสานสัมพันธ์กับชาวประเทศหมู่เกาะได้!“แต่ตั้งแต่ตระกูลถูกสร้างขึ้น เราก็ไม่ได้อัตคัด!“ในฐานะประชาชนของประเทศนี้ เรามีหน้าที่ปกป้องประเทศของเราเอง!“การทำงานร่วมกับชาวต่างชาติจะเป็นการขยายกิจการของเราก็จริง แต่เรื่องนี้มันยังมีจุดประ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข