ฟิ่ว ฟิ่ว ฟิ่ว!บรรดาผู้หญิงในชุดเรียบ ๆ กระโจนเข้าหาฮาร์วีย์พร้อมกันแววตาของพวกเธอจ้องเขาอย่างดุเดือดราวกับว่าพวกเธอต้องการฆ่าฮาร์วีย์ขณะที่พวกเธอเข้ามาใกล้ก็มีเงาหนึ่งลอยมาจากด้านหลังของห้องโถงเงานั้นปล่อยใบมีดด้วยกระบวนท่าเดียวบรรดาผู้หญิงในชุดเรียบตัวสั่นเมื่อมีแสงสีเงินแวบผ่านต่อหน้าต่อตาทุกคน บาดแผลสีแดงสดปรากฏบนข้อมือของพวกเธอ“ใครกล้าแตะลูกเขยของฉัน?”เซลีน่าจ้องผู้คนอย่างโกรธเคืองด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น เธอดูน่ากลัวอย่างมาก“นายหญิงจัดด์?”“น้องสะใภ้?!”“เธอจะทำอะไร?!”หลังจากที่เห็นเซลีน่าปกป้องฮาร์วีย์ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ผู้อาวุโสของตระกูลก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ตระกูลแฮมิลตัน ตระกูลเมนโดซา ตระกูลคลาร์ก และคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้กับตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงคุณย่ายอร์กต้องการไล่เขาออกจากเขตแดน แต่คุณหญิงจัดด์พยายามปกป้องเขาอย่างสุดตัวหัวใจของวินซ์และสมาชิกบ้านใหญ่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม พวกเขาไม่คิดว่าเซลีน่าจะทำขนาดนี้“อย่าเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว”เซลีน่าเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยท่าทางเด็ดขาด“ฮาร์วีย์เป็นลูกเขยท
ผู้คนสั่นสะท้านกับคำพูดเหล่านั้นทุกคนถูกเตือนว่าจริง ๆ แล้วมาร์เซลมีสิทธิ์ที่จะแต่งตั้งใครก็ตามที่เขาต้องการให้เป็นหัวหน้าคนใหม่แม้ว่าวินซ์จะเป็นที่รู้จักในนามนายน้อยของตระกูล แต่มาร์เซลก็ไม่เคยยอมรับเขาเลยนี่คือเหตุผลที่วินซ์จึงอยากเป็นลูกชายของมาร์เซลความฝันของวินซ์จะไม่มีวันเป็นจริงถ้ามาร์เซลไม่ยอมรับเขาเขาสามารถได้รับโอกาสขึ้นสู่อำนาจได้ก็ต่อเมื่อมาร์เซลยอมรับเขาวินซ์รู้สึกว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มาร์เซลใช้ควินนี่เพื่อสู้กับเขาเขาสูญเสียไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้กังวลมากนักท้ายที่สุดแล้วเขาก็เชื่อว่าคุณย่ายอร์กจะไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าไม่ใช่แค่คุณย่ายอร์กเท่านั้น ผู้อาวุโสในตระกูลก็จะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้นเช่นกันแต่ทันใดนั้น เซลีน่าก็ประกาศว่าเธอต้องการให้ฮาร์วีย์มาเป็นลูกเขยของเธอและให้เขาไต่อันดับขึ้นไปวินซ์เต็มไปด้วยความวิตกกังวลในขณะนั้นเขารู้ดีว่าฮาร์วีย์มีความสามารถเพียงใดหากฮาร์วีย์ขึ้นสู่อำนาจจริง ๆ ทุกสิ่งที่วินซ์วางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็จะมอดไหม้ความขุ่นเคืองเผยในแววตาของวินซ์ในขณะนั้นหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว คุ
ฮาร์วีย์รู้ว่ามาร์เซลกำลังทำทั้งหมดนี้เพื่อระงับความทะเยอทะยานของวินซ์และทำให้วินซ์หมดความหวังในการขึ้นสู่อำนาจ...แต่การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันนี้ทำให้ฮาร์วีย์ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วินซ์และบ้านใหญ่จะต้องตามล่าฮาร์วีย์จนตายแม้ว่าฮาร์วีย์จะเข้าใจเหตุผลและความรู้สึกของมาร์เซลในการทำเช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกเหมือนถูกแทงข้างหลังฮาร์วีย์พร้อมที่จะเดินออกไปและประกาศว่าเขาจะไม่เป็นลูกเขยของมาร์เซลแต่เซลีน่าและควินนี่กลับมองมาที่เขาราวกับว่าพวกเธอกำลังขอร้องให้เขาอยู่ต่อแน่นอนว่าพวกเธอจะรู้ดีว่าฮาร์วีย์จะเป็นเป้าหมายใหญ่ในวันนั้นแต่เพื่อป้องกันไม่ให้วินซ์ไต่อันดับภายในตระกูล และเพื่อหยุดดินแดนพระอาทิตย์ฯ และประเทศหมู่เกาะไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของฮ่องกงและลาสเวกัส พวกเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น“หุบปาก!“หุบปากเดี๋ยวนี้!”คุณย่ายอร์กกระแทกไม้เท้าของเธอลงกับพื้นอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยความโกรธแค้นที่ไม่อาจควบคุมได้“พวกนายไม่มีสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องภายในตระกูล!“พวกนายต่างก็เป็นคนของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกง!“แม้ว่าจะเป็นสมาชิกสิบตระกูลอันดับต้น หรือส
สมาชิกของบ้านหลังที่สามและสี่ต่างสบตากันอย่างระมัดระวัง ราวกับว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะหนีแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างหวาดกลัวความโกรธเกรี้ยวของคุณย่ายอร์กวินซ์และคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกกับทัศนคติของเธอตราบใดที่คุณย่ายอร์กอยู่ข้างพวกเขา ตำแหน่งของวินซ์ก็มั่นคงความวุ่นวายสงบลงในที่สุดทุกคนต่างถอนหายใจ มาร์เซลไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ทุกอย่างก็จบลงอย่างง่ายดายอย่างที่คาดไว้จากคุณย่ายอร์ก!มาร์เซลกำลังจะเดินไปหาฮาร์วีย์สีหน้าของคุณย่ายอร์กเปลี่ยนไปทันที เธอกระแทกไม้เท้าของเธอลงกับพื้นด้วยความโกรธ“มาร์เซล!” เธออุทานด้วยความโกรธ“นี่มันหมายความว่ายังไง?!“คนอื่นพยายามต่อต้านเราและให้คนนอกขึ้นมาเป็นหัวหน้าและทำให้ตระกูลของเรากลายเป็นประวัติศาสตร์!“แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าตระกูล นายไม่เพียงแต่จะไม่จัดการกับสถานการณ์ นายยังกำลังจะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการอีกด้วย!“นายจะบ้าไปแล้วเหรอ?!“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันควรจะต้องพิจารณาแต่งตั้งคนอื่นมาเป็นหัวหน้าตระกูลแทน!”มาร์เซลหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองวินซ์อยู่ครู่หนึ่ง“คุณแม่ครับ…” เขาเริ่มเบา ๆ“มีบางอย่างที่ผมไม่อยากบอกคุณในวันเก
ผู้คนอ้าปากค้างกับคำพูดเหล่านั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณย่ายอร์กจะตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้วินซ์เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคนใหม่เธอยังจะให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นด้วย! มันน่าตกใจจริง ๆแต่ถ้าคิดดูดี ๆ แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องคาดไว้ถ้าคุณย่ายอร์กจะต้องจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อให้วินซ์ขึ้นสู่อำนาจแล้วจะทำไม?ผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่าคนนี้ได้เคารพมาร์เซลอย่างเงียบ ๆ โดยประนีประนอมเพื่อวินซ์อยู่ตลอดเวลาเมื่อทุกคนคิดว่ามาร์เซลจะเห็นด้วยกับข้อตกลงนั้น เขากลับขมวดคิ้ว“ผมเกรงว่าผมจะไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาของคุณได้ครับคุณแม่”คุณย่ายอร์กระเบิดด้วยความโกรธ“นายจะต่อต้านฉันในวันเกิดของฉันเหรอ?!”“ผมไม่สามารถปฏิเสธคำอวยพรวันเกิดของคุณได้เนื่องจากนี่คืองานเลี้ยงวันเกิดของคุณ…“แต่ถ้าอนาคตของตระกูล เมือง และแม้แต่คนทั้งประเทศเกี่ยวข้อง ผมก็ต้องต่อต้านคุณ!“วินซ์จะลุกขึ้นสู่อำนาจไม่ได้!“แม้ว่าจะไม่ใช่ฮาร์วีย์ที่จะเข้ามาแทนที่…“แม้จะเป็นคนอื่นในฮ่องกงและลาสเวกัส“ยังไงวินซ์ก็จะต้องไม่ขึ้นเป็นหัวหน้า!”สีหน้าของวินซ์มืดลงทันที เขาอยากจะตบหน้ามาร์เซลมากเขาไม่คิดว่านา
เซลีน่ารวดเร็วมาก การเคลื่อนไหวของเธอไม่ต่างจากความเร็วของสายฟ้าในช่วงพริบตาดาบของเธอก็พุ่งเข้าหาใบหน้าของวอลเทอร์ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบด้วยซ้ำสีหน้าของคุณย่ายอร์กเปลี่ยนไปทันที เธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอซึ่งหมกมุ่นอยู่กับศิลปะการต่อสู้มากจะไม่สามารถโจมตีเซลีน่าได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อถึงจุดนี้ เธอก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงไม้เท้าของเธอเซลีน่าไม่ทันได้ระวังตัวและถูกตีหลังอย่างเจ็บปวด เธอไม่คิดว่าคุณย่ายอร์กจะหน้าด้านถึงขั้นโจมตีเธอจากด้านหลังเซลีน่ากลืนเลือดที่เกือบจะไหลออกจากปากเธอและเพิ่มความเร็วของเธอ ไม่นานหลังจากนั้นวอลเทอร์ก็ถูกดาบของเธอฟาดเข้าหน้าเซลีน่ายังคงเคารพตระกูลของเธอ เธอจึงใช้เพียงสันดาบขณะที่โจมตีเขาแต่วอลเทอร์ก็ยังคงล้มคะมำกับพื้น มันเป็นภาพที่น่าสังเวชผู้คนอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความกลัว มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!เซลีน่าปิดปากตนเองแล้วเดินกลับไปหาฮาร์วีย์หลังจากที่โจมตีสำเร็จ“ฉันบอกพวกคุณแล้ว! คุณจะต้องข้ามศพของฉันถ้าคุณอยากแตะต้องนฮาร์วีย์!”สีหน้าของวอลเทอร์เผยถึงความเจ็บใจ หลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขาทำได้เพียงก
เมื่อได้เห็นกับตาว่ามาร์เซลยอมสละชีวิตเพื่อฮาร์วีย์ ใบหน้าของวินซ์เปลี่ยนไปเป็นดูน่าสมเพช เขาทุบกระจกในมือด้วยความโกรธแมทธิวและคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ข้างวินซ์เข้าใจดีว่าวินซ์รู้สึกอย่างไรหากมาร์เซลเลือกที่จะยืนหยัดเพื่อฮาร์วีย์ นั่นจะถือเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อตำแหน่งปัจจุบันของวินซ์ศึกครั้งนี้ถือเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายเลยก็ว่าได้คุณย่ายอร์กจ้องมองมาร์เซลอย่างเย็นชาอยู่นานสองนาน จนกระทั่งสุดท้ายเธอได้แต่ถอนหายใจ"ได้! ในเมื่อนายต้องการปกป้องเขา ฉันก็จะไม่ห้าม“นอกจากนายเป็นหัวหน้าของตระกูลคนปัจจุบัน เพราะงั้นฉันจะปล่อยให้แขกคนสำคัญของนายอยู่ในงานต่อไป“แต่ฉันก็ยังคงจะยืนยันคำเดิม นายต้องทำตามสิ่งที่รับปากเอาไว้!“เราเคยคุยเรื่องนี้กันมาแล้ว วินซ์ควรจะได้ขึ้นเป็นนายน้อยคนใหม่ในวันเกิดของฉันในปีนี้!“ก่อนหน้านี้นายรับปากแล้ว“เพราะอย่างนั้น เพื่ออนาคตและความมั่นคงของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกง…“นายควรจะจัดการเรื่องนี้ให้จบที่นี่ต่อหน้าทุกคน!“นายก็น่าจะรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการเพียงคนเดียว พ่อของนายก็ต้องการแบบนี้เหมือนกัน!“หรือนายกำลังจะบอกว่านายจะทำลายเจตจำนงของเขาต่
“นายวางแผนจะหันหลังให้กับคนทั้งตระกูลเหรอ น้องสี่?“งั้นนายไม่เคยคิดจะให้วินซ์เข้ารับตำแหน่งนายน้อยมาตั้งแต่แรกกันแน่?“ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมนายไม่บอกพวกเราตั้งแต่แรกล่ะ?“นายคงไม่ได้คิดหรอกใช่ไหมว่าการดันฮาร์วีย์ให้ก้าวเข้าสู่อำนาจจะช่วยแก้ปัญหาของตระกูลได้?“ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว หากเรื่องนี้ไม่ถูกแก้ไขอย่างถูกต้อง จะไม่ใช่แค่ตำแหน่งของนายเท่านั้นที่จะสั่นคลอน…“ไม่ช้าก็เร็วตระกูลทั้งตระกูลอาจจะล่มสลายไปเลยก็ได้!”“พี่จะยอมหันหลังให้ตระกูลจริง ๆ เหรอ พี่สี่?”เล็กซี่เหลือบมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาขณะที่เธอพูดว่ากันตามตรง ฮาร์วีย์ค่อนข้างเก่งเรื่องสร้างปัญหาแม้แต่งานเลี้ยงทั้งงานก็ยังพังไม่เป็นท่าเพราะเขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวจริง ๆ!เล็กซี่เริ่มรู้สึกแย่ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้พยายามฆ่าฮาร์วีย์ให้มากพอถ้าฮาร์วีย์ตายไปตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นมันก็สายเกินไปแล้วมาร์เซลขมวดคิ้วกับคำพูดของเหล่าพี่น้องของตัวเอง ความเจ็บปวดและความขุ่นเคืองฉายชัดอยู่ในดวงตาของเขาขณะที่มาร์เซลถูกบีบบังคับให้จนมุม เซลีน่าก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนที่จะก้าวไป
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข