หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ควินนี่ ยอร์กก็สามารถขจัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปได้ชั่วคราว ก่อนที่เธอจะยิ้มมา“ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะลงมือแล้ว คุณคิดจะทำอะไรต่อไป?”“ฉันจะนั่งดูเหตุการณ์อยู่เฉย ๆ”ดวงตาของฮาร์วีย์ ยอร์กสว่างขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหัวเราะเบา ๆ“เจสัน ลีโอเพิ่งกลับมาผงาดได้อีกครั้งใช่ไหม?“เขาเพิ่งเรียกร้องให้ทุกคนฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา“ฉันอยากจะเห็นว่าจะมีใครทำตามข้อเรียกร้องของเขาหรือเปล่า“ในตอนที่เจสันเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่าง เราจะหาโอกาสโจมตีเขา“ฉันมั่นใจเลยว่าโอกาสนั้นจะมาถึงเราแน่“แน่นอน เราจะต้องเสริมการป้องกันของเราในล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดด้วย เธออาจจะเป็นเป้าหมายแรกของเขาก็ได้”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮาร์วีย์ได้เผชิญหน้ากับคนอย่างเจสันเทพสงครามที่อายุน้อยและไร้เทียมทานเช่นเขาต้องเย่อหยิ่งถือดีอย่างแน่นอนเมื่อเปรียบเทียบกับลูคัส ฌอง เฮกเตอร์ ทอมป์สัน และคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ คนอย่างเจสันรับมือได้ยากกว่ามากหากมีโอกาสเกิดขึ้น ฮาร์วีย์ก็ไม่รังเกียจที่จะไปเผชิญหน้ากับเทพสงครามของอัศวินเทมพลาร์หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์ได้อย่างสมบูรณ์ เทพสงครามคนใหม
“นายคงรู้แล้วใช่ไหมว่าเจสัน ลีโอกำลังจะกลับมาอย่างแข็งแกร่ง?”โทบี้ คลาร์กเข้าประเด็นทันที“ใช่ ผมรู้ ผมรู้ด้วยว่าเขาเรียกร้องให้ตระกูลที่ร่ำรวยในฮ่องกงทั้งหมดไปปลิดชีพตนเองต่อหน้าเขาภายในสามวัน” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“แล้ว? นายคิดที่จะจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเองเหรอ?“นายจะระดมกำลังจากสถานีตำรวจฮ่องกง หรือนายจะโทรเรียกกองกำลังทหารแห่งเซาท์ไลท์แทน?”โทบี้หัวเราะอย่างขมขื่นขณะส่ายหัว“เจสันยังไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายใด ๆ เลย แล้วฉันจะใช้อำนาจของรัฐกับเขาได้อย่างไร?“นอกจากนี้เขายังมีเจ้าหญิงองค์ที่สี่แห่งดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินอยู่เคียงข้างเขาด้วย ถ้าฉันใช้อำนาจรัฐบาลจัดการกับเขา ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากจะเข้ามาเกี่ยวข้อง…”ฮาร์วีย์เอียงศีรษะเล็กน้อยขณะหรี่ตามองโทบี้“คุณกำลังจะบอกว่าผมควรจะใช้วังมังกรหรือหลงเหมินแทนงั้นเหรอ?”“ไม่ใช่”โทบี้ตอบพร้อมกับถอนหายใจ“พูดตามตรงก็คือ ครึ่งหนึ่งของฉันยังคงเป็นคนแห่งดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก่อนที่ฮ่องกงจะถูกยึดคืน ฉันเคยพบเจ้าหญิงองค์ที่สี่สองสามครั้งด้วย“แน่นอนว่าใจของฉันอยู่กับประเทศ H มาโดยตลอดหลังจากที่ฮ่องกงถูกยึดคืน”ฮาร์วีย์เ
ฮาร์วีย์ ยอร์กพยายามโน้มน้าวโทบี้ คลาร์กอย่างขมขื่นว่าสิ่งที่เขาเรียกว่าความสำเร็จของเขาในตอนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับคนชนชั้นสูง...แต่เขาก็ยังตัดสินใจที่จะไปพบกับเจ้าหญิงองค์ที่สี่ในวันรุ่งขึ้นและเพื่อแสดงความจริงใจ เขายังขอให้ควินนี่ ยอร์กไปกับเขาด้วยโทบี้มองว่าควินนี่สามารถเป็นตัวแทนของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงได้และบวกกับเขา พวกเขาสองคนก็น่าจะเพียงพอที่จะเป็นตัวแทนในการแสดงเจตจำนงของชนชั้นสูงทั้งหมดของฮ่องกงฮาร์วีย์รู้สึกว่าสิ่งนี้ยังคงไร้ความหมาย แต่หลังจากที่เห็นท่าทางมุ่งมั่นของโทบี้เมื่อเขาขอร้องให้ทำตามแผนของเขา ฮาร์วีย์ก็ตัดสินใจที่จะปล่อยให้ควินนี่ไปเพื่อสังเกตสถานการณ์ฮาร์วีย์ไม่ได้กลัวที่จะสู้กับเจ้าหญิงองค์ที่สี่หรือเจสัน ลีโอ...แต่หากพวกเขาเต็มใจที่จะพูดคุยกัน เขาก็จะไม่ปฏิเสธข้อเสนอเช่นกันท้ายที่สุดแล้วโลกก็ถูกสร้างขึ้นผ่านความสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่การต่อสู้และการฆ่าเท่านั้นในวันรุ่งขึ้น ในช่วงเช้าตรู่ ฮาร์วีย์พักอยู่ในห้องสวีทของสวนบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมทรี ซีซั่นโทบี้พาเลสลี่ คลาร์ก และควินนี่ไปที่วิลล่าบนยอดเขาไทปิงเขายังนำของขวัญฟุ่มเฟือยมากมายไปให
โทบี้ คลาร์กแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่เห็นสีหน้าเย็นชาของพ่อบ้านและหัวเราะออกมา“ปะ! เข้าไปข้างในกันเถอะ เจ้าหญิงองค์ที่สี่คงจะรอพวกเราอยู่”จากนั้นโทบี้ก็ก้าวไปข้างหน้าควินนี่ ยอร์ก และเลสลี่ คลาร์กมองหน้ากันก่อนที่จะเดินตามเขาเข้าไปข้างในพวกเขาถูกพาไปที่ห้องโถงด้านข้างก่อนที่พ่อบ้านผมสีเงินจะรินชาแดงให้พวกเขา“ทำตัวตามสบายเลยนะครับ แต่นอกเหนือจากห้องโถงนี้แล้ว กรุณาอย่าไปที่อื่น“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ยังคงเจ็ทแล็กอยู่ คุณคงจะต้องรอสักครู่”น้ำเสียงของพ่อบ้านสุภาพอย่างยิ่ง และการกระทำของเขาก็สุภาพมาก แต่ใบหน้าของโทบี้กลับเย็นชาลงเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ยังคงเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฮ่องกง แม้แต่เอกอัครราชทูตของอเมริกาก็ยังต้องเป็นฝ่ายที่ไปเยี่ยมเขาแต่หลังจากที่เขาตัดสินใจละทิ้งเกียรติของเขาและมาเยี่ยมเจ้าหญิงองค์ที่สี่ คนนอกอย่างเธอกลับกล้าปล่อยให้เขาต้องรอแบบนี้เหรอ?เธอยังคงปฏิบัติต่อเขาเพียงในฐานะคนรับใช้ของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเหรอ?โทบี้โกรธแค้นโดยไม่อาจควบคุมได้ทันทีแต่หลังจากที่คิดถึงจุดประสงค์ของการมาเยือนครั้งนี้แล้ว เขาก็หายใจเ
“ทำไมตอนนี้คุณถึงได้มาเยี่ยมเจ้าหญิงองค์ที่สี่ล่ะ? คราวนี้คุณจะขายประเทศ H เหรอ?“คุณจะแสดงความสามารถของคุณในฐานะหนึ่งในตระกูลทาสอีกครั้งเหรอ?“ถ้าเป็นอย่างนั้นผมมั่นใจว่าเราจะพอหาทางได้ ไปคุกเข่าข้างนอกเป็นเวลาสามวันก่อน แล้วเราจะให้โอกาสคุณพูด”เจสัน ลีโอมีสีหน้าสนุกสนานสีหน้าของโทบี้ คลาร์กเปลี่ยนไปเล็กน้อย การถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในตระกูลทาสถือเป็นข้อห้ามที่ใหญ่ที่สุดของเขา เจสันกำลังเหยียดหยามโทบี้อย่างโจ่งแจ้งโทบี้ยังสามารถระงับความโกรธได้ในตอนนี้และฝืนยิ้ม“คุณนี่ตลกดีนะนายน้อยลีโอ”“ผมดูเหมือนพูดเล่นเหรอ?”เจสันเอียงศีรษะขณะจุดซิการ์ จากนั้นเขาก็พ่นควันใส่หน้าโทบี้“คุณมาที่นี่ทำไมกันแน่?“คุณคิดว่าตอนนี้คุณสำคัญมากเพียงเพราะคุณเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฮ่องกงงั้นเหรอ? คุณก็เลยคิดว่าคุณจะโน้มน้าวใครก็ได้งั้นเหรอ?”เจสันเอื้อมมือออกไปพร้อมกับซิการ์และตบหน้าโทบี้เบา ๆ สองสามครั้งพร้อมกับแสดงสีหน้าเยาะเย้ย“คุณเข้าใจผมผิดแล้วนายน้อยลีโอ เราทุกคนที่นี่ต่างก็มีอารยธรรม หากสิ่งนี้ดำเนินต่อไป ทุกคนต่างก็จะมีแต่สูญเสีย ท้ายที่สุดสิ่งที่จะนำมาซึ่งความมั่งคั่งก็คือความสามัคคี”
“กล้าดียังไง?!”“อยากตายหรือไง?!”“คุณสองคนอยากตายหรือไง?! กล้าดียังไงมาพูดกับผู้บัญชาของเราแบบนั้น?!”“พวกแพศยา!”ก่อนที่เจสัน ลีโอจะทันได้พูดอะไร ลูกน้องของเขาที่อยู่ข้างหลังก็เดือดดาลด้วยความโกรธแล้วเจสันคือทุกอย่างในสายตาของพวกเขา พวกเขาจะทนเห็นหัวหน้าของพวกเขาโดนดูถูกแบบนี้ได้อย่างไร?เจสันโบกมือให้ลูกน้องของเขาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“อย่าถือสาผู้หญิงโง่ ๆ สองคนเลย“ไม่เป็นไร อีกไม่นานพวกเขาก็จะต้องทำตามที่ฉันบอกอยู่ดี“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”เหล่าอัศวินเทมพลาร์ต่างหัวเราะพร้อมกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเจสันพวกเขานึกถึงผู้หญิงที่ปากร้ายคนก่อน ๆ ที่ถูกหัวหน้าของพวกเขารังแกก่อนที่จะกลายเป็นทาสในสนามรบ สุดท้ายพวกเธอจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องทำตามคำสั่งของเจสันความคิดที่ว่าผู้หญิงจากตระกูลที่ร่ำรวยสองคนจะกลายเป็นทาสนั้นช่างน่ายินดีจริง ๆจากนั้นเจสันก็หรี่ตามองโทบี้ คลาร์กอยู่ครู่หนึ่ง“ไม่เลวเลย คุณมาจากหนึ่งในตระกูลทาส แต่ผมชอบของขวัญของคุณนะ“ทิ้งสองคนนี้ไว้ที่นี่แล้วออกไปซะ ผมจะสนุกกับพวกเธอสักสองสามวัน“หลังจากนั้นผมจะพิจารณาที่จะฆ่าคนในฮ่องก
ผู้คนในชุดประจำชาตินับสิบคนเดินเข้ามาในห้องโถงคนที่เป็นชาวตะวันตกมีสีหน้าถ่อมตนอย่างยิ่งพวกเขากำลังรายล้อมผู้หญิงที่เย็นชาและห่างเหินซึ่งดูเหมือนเป็นลูกครึ่งผู้หญิงคนนั้นสวมชุดกระโปรงยาวและมีมงกุฎที่ประดับด้วยอัญมณีและทองคำอยู่บนหัว เธอดูเหมือนจะอายุยี่สิบแปดปีเป็นอย่างมาก เธอดูสง่างามมาก แต่ความมีอำนาจครอบงำของเธอก็ค่อนข้างจะชัดเจนเช่นกันออร่าอันดุร้ายของเธอปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าหญิงองค์ที่สี่ของดินแดนออร่าอันน่าสะพรึงกลัวแพร่จากร่างกายของเธอในทุกย่างก้าวที่เธอก้าว สายตาที่เย็นชาของเธอจับจ้องไปที่โทบี้ คลาร์กก่อนที่เธอจะพูดอย่างเย็นชาว่า “นายน้อยลีโอเป็นคนของฉัน เขาเป็นรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์ ถ้าคุณต่อต้านเขาก็เท่ากับว่าคุณต่อต้านฉันด้วย“ถ้าคุณไม่ขอโทษเขาดี ๆ ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่”เห็นได้ชัดว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่จำสิ่งที่โทบี้เคยทำเพื่อเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ในขณะนี้เธอกำลังปฏิบัติต่อโทบี้เหมือนกับว่าเขาเป็นสุนัขจรจัดที่พยายามจะเกาะติดเธอเจสัน ลีโอหัวเราะเบา ๆ“คำสั่งของเจ้าหญิงองค์ที่สี่ถือเป็นความเด็ดขาด“ถ้าเธอบอกให้คุณคุกเข่าและขอโทษ ค
ในขณะที่คนอื่น ๆ ตกใจอย่างมากกับเหตุการณ์นั้น เจสัน ลีโอกลับไม่แยแสท้ายที่สุดก็มีคนจำนวนมากเคยคุกเข่าต่อหน้าเขา ต่อให้จะเป็นโทบี้ คลาร์ก มันก็ไม่ได้แตกต่างกันแต่อย่างใดเขาเดินไปข้างหน้าอย่างใจเย็นและย่องลงข้างหน้าโทบี้ก่อนที่จะตบหน้าเขาเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม“แบบนี้มันไม่ดีเลยนะผู้ว่าคลาร์ก“เมื่อกี้คุณไม่ได้จะยิงผมหรอกเหรอ? ทำไมล่ะ? คุณคุกเข่าเพียงเพราะเจ้าหญิงองค์ที่สี่อยู่งั้นเหรอ?“ดูเหมือนว่าเหล่าคนชนชั้นสูงของดินแดนจะพูดถูก! พวกตระกูลที่ร่ำรวยในฮ่องกงก็เป็นเพียงคนรับใช้ของดินแดน!“พวกคุณอาจจะดูดีมีฐานะ แต่พวกคุณจะยอมคุกเข่าทันทีหากจำเป็น!“การเหยียบย่ำคนอย่างพวกคุณมันช่างน่าเบื่อจริง ๆ...“ในเมื่อคุณสิ้นหวังขนาดนี้ ผมก็จะให้โอกาสคุณ! ขัดรองเท้าผมซะ แล้วผมจะยกโทษให้! ผมอาจจะให้โอกาสคุณพูดด้วย!”จากนั้นเจสันก็ก้าวไปหาโทบี้และชูรองเท้าหนังของเขาพร้อมกับรอยยิ้มเลสลี่ คลาร์กตัวสั่นด้วยความโกรธอย่างควบคุมไม่ได้หลังจากที่เห็นภาพนั้น“คุณมันบ้าไปแล้วเจสัน!” เลสลี่ตะโกนอย่างโกรธเคือง“ไม่เป็นไร มันเป็นเกียรติของพ่อที่ได้รับใช้นายน้อยลีโอ!”โทบี้มองเลสลี่และส่งสายตาบอกให้เธออย่า
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข