มาเทโอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยืดหลังของเขาให้ตรง“คุณไม่ต้องห่วง นายน้อยลีโอ ผมอาจจะช้า แต่ผมจะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงให้เร็วที่สุด!“ขอเวลาผมอีกสองวัน! ผมจะสร้างฮ่องกงแบบใหม่ให้คุณเห็นเอง!”“ฉันก็หวังอย่างนั้น” เจสันวาดหวัง“แต่ถึงนายจะทำแบบนั้นไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรหรอก“มีบางเรื่องที่ฉันควรจัดการด้วยตัวเองตั้งแต่แรก”จากนั้นเจสันก็สะบัดขี้เถ้าออกจากซิการ์ของเขาก่อนที่จะส่งสัญญาณให้มาเทโอตามเขาออกไปข้างนอก“ในอดีต ฉันถือเป็นคนหนุ่มไฟแรงจากตระกูลลีโอแห่งฮ่องกง” เจสันเล่าอย่างสงบขณะที่เขาเดินไปด้วย“ตระกูลดูถูกฉัน แต่ฉันก็ยังต่อสู้ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อตระกูลลีโอ ฉันภูมิใจกับสิ่งนั้น!“ฉันอยากให้ตระกูลลีโอเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัส!“ฉันปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดของตระกูลลีโอ เพื่อให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย อำนาจ และพลังของตระกูลทำให้เราได้ขึ้นเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกง!“เราเกือบจะแย่งตำแหน่งของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงมาได้แล้ว…“แต่มันก็น่าอัปยศอดสูที่สุด ถึงขั้นนั้นแล้วตระกูลก็ยังไม่วายดูถูกฉัน“พวกเขาคิดว่าฉันเป็นคนของดินแดนพระอา
ที่ภูเขาไท่ผิงอ่าววิคตอเรียปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนจากคฤหาสน์บนยอดเขาของตระกูลลีโอสถานที่นี้เต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีสัน และมีการเสิร์ฟไวน์หลากหลายชนิด ช่างเป็นสิ่งที่หรูหราฟุ่มเฟือยเสียจริงเมลิสซาซึ่งมีอำนาจในตระกูลลีโอแล้ว กำลังนั่งอยู่บนห้องโถง เธอกำลังเมามายอย่างหนัก “ขอพระเจ้าอวยพรตระกูลลีโอ!” เธออุทานอย่างตื่นเต้น“เมื่อกี้มีข่าวจากสนามบิน“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินและรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์ เจสัน ลีโอ รับปากว่าจะมาเยี่ยมเราหลังจากมาจากวอลช์!“โชคเข้าข้างเราจริง ๆ!“เมื่อได้รับการคุ้มครองของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ตระกูลของเราก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำสี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกง!”ควินตันซึ่งยืนอยู่ด้านล่างเมลิสซามีรอยยิ้มจาง ๆเขาได้รู้เรื่องผู้ทรงอิทธิพลที่วินซ์เชิญมา แต่เขาไม่มีข้อมูลภูมิหลังของชายผู้นั้นเลยแต่นั่นจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อตระกูลของเขาเลย เนื่องจากในสี่ตระกูลชั้นนำ ตระกูลลีโอมีส่วนช่วยพาเจสันมาที่นี่มากที่สุดควินตันเตรียมการไว้อย่างมากมาย เพียงเพื่อให้ชายผู้มีอำนาจคนนั้นมาเยี่ยมเยียนตระกูลลีโอมาเทโอและผู้คนรอบตัวเขาได้รั
เมื่อคนในตระกูลลีโอเห็นว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร พวกเขาก็ตกใจมากเสียจนเกือบลืมหายใจ “นั่น… นั่นเจสันไม่ใช่เหรอ!”มีบางคนที่จำเจสัน ชายหนุ่มผู้เคยมีอนาคตที่สดใสทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัสเมื่อหกปีที่แล้วได้ เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นทันใดนั้นทุกคนก็จ้องมองไปที่เจสัน"เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?!"“เป็นไปได้ยังไง?!”ความคิดมากมายถาโถมเข้าใส่ทุกคน พวกเขาถึงกับสติหลุดลอยไปจากความตกใจอย่างรุนแรงเจสันเพิกเฉยต่อสายตาที่ดูสับสนของทุกคน และเดินไปหาเมลิสซาอย่างมุ่งมั่น เขาพินิจมองหญิงสาวตรงหน้าซึ่งดูเหมือนจะตัวแข็งคือไม่ต่างจากหิน “ฉันได้ยินมาว่าไอ้แก่อลันถูกกักบริเวณในบ้านเพราะคุณ” เขาพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“ไอ้เวรคริสนั่นก็ถูกคุณเฉดหัวทิ้งเหมือนกัน“คุณเก่งมากเลยเมลิสซา”รอยยิ้มอันลึกซึ้งปรากฏบนริมฝีปากของเจสันดวงตาของเมลิสซากระตุก“เจสัน? เธอไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลเรามาตั้งนานแล้ว!“ทำไมถึงยังกล้ามาที่นี่อีก!“ไอ้คนสารเลวไร้ประโยชน์!“ใส่หัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”เพี๊ยะ!เจสันเหวี่ยงหลังมือลงไปบนใบหน้าของเมลิสซาอย่างใจเย็นเมื่อได้เห็นนายหญิงผู้ทรงอำนาจลอยไปอีกฝั่งหนึ่งของห้องโถงเป
เวลาสี่ทุ่มตรง ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดทำให้ไม่เห็นอะไรเลยฮ่องกงถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด พื้นที่ทุกแห่งถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำทมิฬราวกับว่าพายุฝนกำลังใกล้เข้ามา นั่นเป็นสิ่งที่ดูน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมากฮาร์วีย์เข้าไปในเดอะ การ์เด้น วิลล่าของตระกูลยอร์ก หลังจากได้รับโทรศัพท์จากควินนี่ที่ระบุว่ามาร์เซลต้องการพบเขาเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบเดินทางไปอย่างเร็วที่สุดเขาพักอยู่ในเดอะ การ์เด้น วิลล่ามาสองสามวันแล้ว ปกติแล้วเขาจะได้พบกับมาร์เซลอยู่ตลอดเวลาหากไม่มีเรื่องสำคัญอะไรควินนี่คงไม่โทรมาตามเขาแบบนี้ในตอนที่เขามาถึงเครื่องดื่มก็ถูกจัดเตรียมไว้ภายในห้องอาหารของวิลล่าแล้วมาร์เซลไม่ขยับอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารเลย กระทั่งหลังจากเห็นฮาร์วีย์มาถึงแล้ว เขาเจอยื่นรูปถ่ายสองสามรูปให้ฮาร์วีย์เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามา ฮาร์วีย์พยักหน้าทักทายเซลีน่าและควินนี่ซึ่งอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนที่จะหันไปดูภาพรูปถ่ายปรากฏคนสองคน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวลูกครึ่ง และอีกคนเป็นชายหนุ่มรูปงามจากภาพเพียงภาพเดียว ฮาร์วีย์ยังสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดุดันของชนชั้นสูงคนทั่วไปคงไม่กล้าสบตาพวกเขาฮาร์วีย์หรี่
หากตระกูลเศรษฐีจากทั้งฮ่องกงและลาสเวกัสเข้ามามีส่วนด้วย ฮาร์วีย์ก็คงไม่สนใจสถานการณ์นี้มากนักแต่หลังจากที่มาร์เซลชี้ให้เห็นความตั้งใจที่แท้จริงในการกลับมาของเจสัน ฮาร์วีย์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ฮาร์วีย์เพิ่งขับไล่ชาวประเทศหมู่เกาะกลุ่มหนึ่งออกจากฮ่องกงและลาสเวกัสไป และจู่ ๆ เจสันก็มาปรากฏเมื่อพิจารณาจากประวัติโดยย่อของเจสันแล้ว เขาเป็นตัวแทนของกองกำลังตะวันตกที่กำลังบุกโจมตีฐานที่มั่นของประเทศ Hหลังจากตระหนักได้ถึงข้อเท็จจริงนี้ ฮาร์วีย์ก็รู้สึกได้ว่าเขาจะวางเฉยต่อไปไม่ได้“คุณอยากให้ผมต่อสายไปและส่งเขากลับไปที่ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินยังคงเป็นหนี้บุญคุณเขาอยู่ หากฮาร์วีย์ต้องการ วิคตอเรีย เจ้าหญิงองค์โตของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็จะทำตามที่เขาขออย่างแน่นอนแต่ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ฮาร์วีย์ก็ไม่อยากขอความช่วยเหลือเธอ ถ้าเขาขอความช่วยเหลือมากจนเกินไป เขาก็จะเหลือโอกาสในการขอสิ่งอื่นน้อยลง“ต่อให้ครั้งนี้คุณจะไล่เขากลับไปได้ แต่คนรับประกันได้เหรอว่าเขาจะไม่กลับมาอีกหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี?“อีกอย่าง การจะไล่เขาออกไปจากที่นี่มันไม่ได
"แล้วอีกอย่าง เพราะเขามีเจ้าหญิงองค์ที่สี่อยู่ใกล้ตัว มันก็หมายความว่าเจสันได้รับการสนับสนุนจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินอย่างเต็มที่“สี่ตระกูลชั้นนำที่เป็นเบี้ยล่างของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินไม่กล้าต่อต้านเจ้านายของตัวเองหรอก!“ผมได้ข่าวมาว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะมอบเงินก้อนใหญ่ ทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาล และหุ้นที่พวกเขาถือให้กับเจสัน“พวกเขาหวังจะใช้ทรัพย์สินเหล่านั้นในการยับยั้งเจสัน“ถึงแม้เจสันจะบอกว่าต้องการเอาชีวิตพวกเขา แต่เขากลับไม่ได้ฆ่าคนพวกนั้นทันทีที่กลับมาถึง เขาให้เวลาคนพวกนั้นได้ไตร่ตรอง“เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงตัดสินใจยุติเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเมื่อหกปีที่ก่อนด้วยเงินจำนวนมากมาย“เจสันไม่ได้ทำอะไรเลย เขาทำเพียงแค่ยึดครองคฤหาสน์ของตระกูลลีโอไว้กับตัวเท่านั้น…“แต่สี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกงก็ยอมยกธงขาวให้แล้ว“ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเองก็ตกอยู่ภายใต้ความระส่ำระสายเช่นกัน ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลย”มาร์เซลถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามีอำนาจที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่เนื่องจากการหมั้นหมายของเจสันและควินนี่ เขาจึงถือได้ว่าเป็นพ่อตาในนามของเจสันพ่อตาที่
“ทำไมคุณถึงบอกทุกอย่างกับผม?” ฮาร์วีย์ถามขณะมองไปที่มาร์เซล“คุณอยากให้ผมสะสางปัญหายุ่งยากให้คุณงั้นเหรอ?”มาร์เซลส่ายหน้า"เปล่า ผมแค่พยายามจะบอกให้คุณได้รับรู้ทุกอย่าง เพื่อที่คุณจะได้พาภรรยาและลูกสาวของผมกลับไปยังประเทศ H หากเกิดอะไรขึ้น”เดิมที มาร์เซลมีวิธีจัดการกับสถานการณ์อยู่แล้วเขาบอกฮาร์วีย์มากมายขนาดนี้เพราะฮาร์วีย์มีสิทธิ์ที่จะได้รู้มาร์เซลเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสงครามในครั้งนี้เพียงลำพัง"ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเขาจะไม่เป็นอะไร“หรือยิ่งกว่านั้น… ทั่วทั้งฮ่องกงและลาสเวกัส ตระกูลคลาร์ก ตระกูลเมนโดซา ตระกูลแฮมิลตัน และคนอื่นๆ ทุกคนจะไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย“ถ้าเจสันมาที่นี่เพื่อแก้แค้นหลังจากการกลับมาผงาดขึ้นอีกครั้งของเขา ผมก็คงไม่กังวลอะไร“แต่ถ้าเขาคิดจะทำลายรัฐด่านหน้าทั้งสองของประเทศ H…“ฐานะเทพสงครามของเขาก็จะสิ้นสุดลง”ฮาร์วีย์ไม่แสดงออกทางสีหน้า ไม่ว่าใครที่กล้าคิดที่จะใช้ประโยชน์จากประเทศ H ต้องพร้อมที่จะสละชีวิตอยู่แล้วมาร์เซลมองลึกเข้าไปในดวงตาของฮาร์วีย์ ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเบา ๆ“ผมเรียกคุณมาที่นี่เพื่อจะบอกกับคุณอีกเรื่อง“ถ้าเราจัดการกับเจส
ควินนี่ ยอร์กพยายามอธิบายสถานการณ์ ขณะหมุนพวงมาลัยหลังจากเห็นสีหน้าครุ่นคิดของฮาร์วีย์ ยอร์ก“เขาล้อเล่นเหรอ?”ฮาร์วีย์กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากที่เขานิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง"เรื่องอะไรล่ะ?"ใบหน้าของควินนี่แดงเป็นลูกตำลึงแต่สามารถซ่อนมันไว้ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างสมบูรณ์แบบ“เรื่องที่เขาพูดในตอนท้าย คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกนะ“ฉันเคยนับถือคุณเป็นพี่ชายของฉัน จากนั้นฉันก็ทำเหมือนคุณเป็นศัตรูตัวร้ายของฉันอีก แต่ตอนนี้ฉันกลับคิดว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดี…”ควินนี่รู้สึกเหมือนเธอจะพูดอะไรผิดไป “ก็เท่านั้นแหละ…” ควินนี่กระซิบเบา ๆ"โอ้? เธอพูดถึงเรื่องที่เขาจะให้ฉันไปเป็นลูกเขยน่ะเหรอ?” ฮาร์วีย์ตอบกลับไปตามสัญชาตญาณหลังจากนั้นเขาก็ถึงกับพูดไม่ออก“ทุกครั้งที่พวกเขาเจอฉัน พวกเขาก็เอาแต่ขอให้ฉันไปเป็นลูกเขย…“ฉันหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ?”ควินนี่ถอนหายใจก่อนจะตอบเบา ๆ “ถ้าคุณทำงานในผับเอเวอร์บลู ฉันมั่นใจแล้วว่าในคืนคืนนึงคุณจะต้องทำเงินได้อย่างมากมาย”ฮาร์วีย์เอนกายลงพิงที่นั่งแล้วถอนหายใจ"ช่างมันเถอะ เธอก็รู้ว่าฉันมีภรรยาอยู่แล้ว ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ขึ้นมาว่าฉันไปเป็นลูกเข