ตอนกลางคืนในวันเดียวกันณ สนามบินนานาชาติฮ่องกงเครื่องบินจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินกำลังเตรียมลงจอดมีผู้เห็นเครื่องบินขับไล่หลายร้อยลำคอยคุ้มกันเครื่องบินลำนั้น เครื่องบินทั้งหมดล้วนมาจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเช่นกันสนามบินทั้งสนามบินถูกปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์มีข่าวลือว่าเพื่อความปลอดภัยของสนามบิน ตระกูลสี่อันดับแรกของฮ่องกงได้ระดมอำนาจของตระกูลในการเรียกให้คนเรือนหมื่นมาปิดล้อมสถานที่ทั้งหมดเอาไว้เป็นที่แน่ชัดและว่าตระกูลเหล่านี้ร่วมมือกันมาอย่างช้านานทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะการมาถึงของผู้มีอำนาจนอกเหนือจากสมาชิกสายหลักของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงแล้ว บรรดาเครือญาติของตระกูลรู้เพียงว่าบารอนของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินและรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์กำลังจะมาถึงเท่านั้น หลายคนไม่รู้ว่าบุคคลในตำนานดังกล่าวไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็นเจสันเองในตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถย่างกรายเข้าไปใกล้สนามบินได้เลยมีผู้คนมากมายที่พยายามจะเข้าไปพะเน้าพะนอชายผู้ทรงอำนาจคนนั้น แต่พวกเขาทั้งหมดกลับถูกไล่ออกไปที่ทางเดินมาเทโอกอดอก ขยับขาอยู่ตลอดเวลาผู้ชายหลายคนจากประเทศ H สวมเ
ในไม่ช้า ผู้คนมากมายที่แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมก็ปรากฏตัวขึ้นรอบกายมาเทโอหญิงสาวในชุดฉลองพระองค์ พร้อมด้วยชายหนุ่มที่ดูสบาย ๆ กำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นงดงาม ดูราวกับเป็นลูกครึ่ง สันจมูกของเธอค่อนข้างสูงและดวงตาของเธอก็งดงามราวกับภาพวาด หน้ากากทำให้เธอดูลึกลับแต่มีเสน่ห์เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับที่สี่แห่งราชวงศ์ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน อันเป็นเจ้าหญิงองค์ที่สี่คนที่อยู่ข้างหลังเธอเป็นชายหนุ่มรูปงาม สูงประมาณห้าฟุตเก้านิ้ว ใบหน้าคมคายราวกับใบมีดเขาดูมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลิ่นไอชั่วร้ายก็แพร่ออกมาจากตัวเขาไปทั่วทุกอณู ความรู้สึกดังกล่าวทำให้ผู้คนรอบตัวแทบจะยืนไม่อยู่เขาเป็นบารอนแห่งดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน รองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์และ เทพสงคราม เจสัน ลีโอนั่นเอง!เจสันเหลือบมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทีสงบก่อนที่จะดึงซิการ์มวลบางและยาวออกมาจุดอย่างสบาย ๆมาเทโอเดินไปข้างหน้าเหมือนโกเฟอร์ผู้ซื่อสัตย์ เขาโค้งคำนับด้วยความเคารพ มือของเขาวางอยู่ข้างลำตัวอย่างเรียบร้อย“เจ้าหญิง นายน้อยลีโอ”“นายทำให้ฉันผิดหวังมากนะ
มาเทโอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยืดหลังของเขาให้ตรง“คุณไม่ต้องห่วง นายน้อยลีโอ ผมอาจจะช้า แต่ผมจะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงให้เร็วที่สุด!“ขอเวลาผมอีกสองวัน! ผมจะสร้างฮ่องกงแบบใหม่ให้คุณเห็นเอง!”“ฉันก็หวังอย่างนั้น” เจสันวาดหวัง“แต่ถึงนายจะทำแบบนั้นไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรหรอก“มีบางเรื่องที่ฉันควรจัดการด้วยตัวเองตั้งแต่แรก”จากนั้นเจสันก็สะบัดขี้เถ้าออกจากซิการ์ของเขาก่อนที่จะส่งสัญญาณให้มาเทโอตามเขาออกไปข้างนอก“ในอดีต ฉันถือเป็นคนหนุ่มไฟแรงจากตระกูลลีโอแห่งฮ่องกง” เจสันเล่าอย่างสงบขณะที่เขาเดินไปด้วย“ตระกูลดูถูกฉัน แต่ฉันก็ยังต่อสู้ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อตระกูลลีโอ ฉันภูมิใจกับสิ่งนั้น!“ฉันอยากให้ตระกูลลีโอเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัส!“ฉันปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดของตระกูลลีโอ เพื่อให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย อำนาจ และพลังของตระกูลทำให้เราได้ขึ้นเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกง!“เราเกือบจะแย่งตำแหน่งของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงมาได้แล้ว…“แต่มันก็น่าอัปยศอดสูที่สุด ถึงขั้นนั้นแล้วตระกูลก็ยังไม่วายดูถูกฉัน“พวกเขาคิดว่าฉันเป็นคนของดินแดนพระอา
ที่ภูเขาไท่ผิงอ่าววิคตอเรียปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนจากคฤหาสน์บนยอดเขาของตระกูลลีโอสถานที่นี้เต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีสัน และมีการเสิร์ฟไวน์หลากหลายชนิด ช่างเป็นสิ่งที่หรูหราฟุ่มเฟือยเสียจริงเมลิสซาซึ่งมีอำนาจในตระกูลลีโอแล้ว กำลังนั่งอยู่บนห้องโถง เธอกำลังเมามายอย่างหนัก “ขอพระเจ้าอวยพรตระกูลลีโอ!” เธออุทานอย่างตื่นเต้น“เมื่อกี้มีข่าวจากสนามบิน“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินและรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์ เจสัน ลีโอ รับปากว่าจะมาเยี่ยมเราหลังจากมาจากวอลช์!“โชคเข้าข้างเราจริง ๆ!“เมื่อได้รับการคุ้มครองของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ตระกูลของเราก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำสี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกง!”ควินตันซึ่งยืนอยู่ด้านล่างเมลิสซามีรอยยิ้มจาง ๆเขาได้รู้เรื่องผู้ทรงอิทธิพลที่วินซ์เชิญมา แต่เขาไม่มีข้อมูลภูมิหลังของชายผู้นั้นเลยแต่นั่นจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อตระกูลของเขาเลย เนื่องจากในสี่ตระกูลชั้นนำ ตระกูลลีโอมีส่วนช่วยพาเจสันมาที่นี่มากที่สุดควินตันเตรียมการไว้อย่างมากมาย เพียงเพื่อให้ชายผู้มีอำนาจคนนั้นมาเยี่ยมเยียนตระกูลลีโอมาเทโอและผู้คนรอบตัวเขาได้รั
เมื่อคนในตระกูลลีโอเห็นว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร พวกเขาก็ตกใจมากเสียจนเกือบลืมหายใจ “นั่น… นั่นเจสันไม่ใช่เหรอ!”มีบางคนที่จำเจสัน ชายหนุ่มผู้เคยมีอนาคตที่สดใสทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัสเมื่อหกปีที่แล้วได้ เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นทันใดนั้นทุกคนก็จ้องมองไปที่เจสัน"เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?!"“เป็นไปได้ยังไง?!”ความคิดมากมายถาโถมเข้าใส่ทุกคน พวกเขาถึงกับสติหลุดลอยไปจากความตกใจอย่างรุนแรงเจสันเพิกเฉยต่อสายตาที่ดูสับสนของทุกคน และเดินไปหาเมลิสซาอย่างมุ่งมั่น เขาพินิจมองหญิงสาวตรงหน้าซึ่งดูเหมือนจะตัวแข็งคือไม่ต่างจากหิน “ฉันได้ยินมาว่าไอ้แก่อลันถูกกักบริเวณในบ้านเพราะคุณ” เขาพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“ไอ้เวรคริสนั่นก็ถูกคุณเฉดหัวทิ้งเหมือนกัน“คุณเก่งมากเลยเมลิสซา”รอยยิ้มอันลึกซึ้งปรากฏบนริมฝีปากของเจสันดวงตาของเมลิสซากระตุก“เจสัน? เธอไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลเรามาตั้งนานแล้ว!“ทำไมถึงยังกล้ามาที่นี่อีก!“ไอ้คนสารเลวไร้ประโยชน์!“ใส่หัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”เพี๊ยะ!เจสันเหวี่ยงหลังมือลงไปบนใบหน้าของเมลิสซาอย่างใจเย็นเมื่อได้เห็นนายหญิงผู้ทรงอำนาจลอยไปอีกฝั่งหนึ่งของห้องโถงเป
เวลาสี่ทุ่มตรง ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดทำให้ไม่เห็นอะไรเลยฮ่องกงถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด พื้นที่ทุกแห่งถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำทมิฬราวกับว่าพายุฝนกำลังใกล้เข้ามา นั่นเป็นสิ่งที่ดูน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมากฮาร์วีย์เข้าไปในเดอะ การ์เด้น วิลล่าของตระกูลยอร์ก หลังจากได้รับโทรศัพท์จากควินนี่ที่ระบุว่ามาร์เซลต้องการพบเขาเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบเดินทางไปอย่างเร็วที่สุดเขาพักอยู่ในเดอะ การ์เด้น วิลล่ามาสองสามวันแล้ว ปกติแล้วเขาจะได้พบกับมาร์เซลอยู่ตลอดเวลาหากไม่มีเรื่องสำคัญอะไรควินนี่คงไม่โทรมาตามเขาแบบนี้ในตอนที่เขามาถึงเครื่องดื่มก็ถูกจัดเตรียมไว้ภายในห้องอาหารของวิลล่าแล้วมาร์เซลไม่ขยับอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารเลย กระทั่งหลังจากเห็นฮาร์วีย์มาถึงแล้ว เขาเจอยื่นรูปถ่ายสองสามรูปให้ฮาร์วีย์เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามา ฮาร์วีย์พยักหน้าทักทายเซลีน่าและควินนี่ซึ่งอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนที่จะหันไปดูภาพรูปถ่ายปรากฏคนสองคน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวลูกครึ่ง และอีกคนเป็นชายหนุ่มรูปงามจากภาพเพียงภาพเดียว ฮาร์วีย์ยังสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดุดันของชนชั้นสูงคนทั่วไปคงไม่กล้าสบตาพวกเขาฮาร์วีย์หรี่
หากตระกูลเศรษฐีจากทั้งฮ่องกงและลาสเวกัสเข้ามามีส่วนด้วย ฮาร์วีย์ก็คงไม่สนใจสถานการณ์นี้มากนักแต่หลังจากที่มาร์เซลชี้ให้เห็นความตั้งใจที่แท้จริงในการกลับมาของเจสัน ฮาร์วีย์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ฮาร์วีย์เพิ่งขับไล่ชาวประเทศหมู่เกาะกลุ่มหนึ่งออกจากฮ่องกงและลาสเวกัสไป และจู่ ๆ เจสันก็มาปรากฏเมื่อพิจารณาจากประวัติโดยย่อของเจสันแล้ว เขาเป็นตัวแทนของกองกำลังตะวันตกที่กำลังบุกโจมตีฐานที่มั่นของประเทศ Hหลังจากตระหนักได้ถึงข้อเท็จจริงนี้ ฮาร์วีย์ก็รู้สึกได้ว่าเขาจะวางเฉยต่อไปไม่ได้“คุณอยากให้ผมต่อสายไปและส่งเขากลับไปที่ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินยังคงเป็นหนี้บุญคุณเขาอยู่ หากฮาร์วีย์ต้องการ วิคตอเรีย เจ้าหญิงองค์โตของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็จะทำตามที่เขาขออย่างแน่นอนแต่ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ฮาร์วีย์ก็ไม่อยากขอความช่วยเหลือเธอ ถ้าเขาขอความช่วยเหลือมากจนเกินไป เขาก็จะเหลือโอกาสในการขอสิ่งอื่นน้อยลง“ต่อให้ครั้งนี้คุณจะไล่เขากลับไปได้ แต่คนรับประกันได้เหรอว่าเขาจะไม่กลับมาอีกหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี?“อีกอย่าง การจะไล่เขาออกไปจากที่นี่มันไม่ได
"แล้วอีกอย่าง เพราะเขามีเจ้าหญิงองค์ที่สี่อยู่ใกล้ตัว มันก็หมายความว่าเจสันได้รับการสนับสนุนจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินอย่างเต็มที่“สี่ตระกูลชั้นนำที่เป็นเบี้ยล่างของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินไม่กล้าต่อต้านเจ้านายของตัวเองหรอก!“ผมได้ข่าวมาว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะมอบเงินก้อนใหญ่ ทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาล และหุ้นที่พวกเขาถือให้กับเจสัน“พวกเขาหวังจะใช้ทรัพย์สินเหล่านั้นในการยับยั้งเจสัน“ถึงแม้เจสันจะบอกว่าต้องการเอาชีวิตพวกเขา แต่เขากลับไม่ได้ฆ่าคนพวกนั้นทันทีที่กลับมาถึง เขาให้เวลาคนพวกนั้นได้ไตร่ตรอง“เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงตัดสินใจยุติเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเมื่อหกปีที่ก่อนด้วยเงินจำนวนมากมาย“เจสันไม่ได้ทำอะไรเลย เขาทำเพียงแค่ยึดครองคฤหาสน์ของตระกูลลีโอไว้กับตัวเท่านั้น…“แต่สี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกงก็ยอมยกธงขาวให้แล้ว“ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเองก็ตกอยู่ภายใต้ความระส่ำระสายเช่นกัน ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลย”มาร์เซลถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามีอำนาจที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่เนื่องจากการหมั้นหมายของเจสันและควินนี่ เขาจึงถือได้ว่าเป็นพ่อตาในนามของเจสันพ่อตาที่
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข