เลขาอากินะร้องไห้ในขณะที่เธอคุยโทรศัพท์ หน้าตาบอกบุญไม่รับของเธอดูราวกับว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานมาไม่น้อย มันเป็นภาพที่น่าสงสารมากแต่ทันทีหลังจากที่เธอวางสาย ใบหน้าที่เย็นชาและเย่อหยิ่งของเธอก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในทันที“รอก่อนเถอะ! กล้าดียังไงมาตีฉัน?!“ทันทีที่นายน้อยยอร์กมาถึงที่นี่ เขาจะจัดการกับนายก่อน!“ฉันขอเตือนนายเอาไว้เลยนะ วันนี้จะไม่มีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”เมื่อได้รับการสนับสนุนจากเบื้องหลังอย่างล้นหลาม เลขาอากินะจึงรู้สึกว่าเธอจะไม่มีวันพ่ายแพ้ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้เอ่ยปาก โอลิเวียเอ่ยปากตัดหน้าเขาออกไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว“ช่างมันไปเถอะ! เราจะทำให้เรื่องนี้บานปลายต่อไปไม่ได้อีก!“ไม่อย่างนั้นพวกเราจะถูกไล่ออก!”โอลิเวียไม่รู้ว่าไทอิจิและลูกน้องของเขาโทรหาใคร แต่คนที่ได้ชื่อว่านายน้อยยอร์กคงจะมาจากตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเท่านั้นเธอแน่ใจว่าหากมีคนในตระกูลมาที่นี่ ไม่เพียงแต่เธอจะเดือดร้อนเท่านั้น แต่ฮาร์วีย์และควินนี่ก็จะถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วย!ในฐานะหญิงสาวจากฮ่องกง เธอเข้าใจดีว่าทายาทเศรษฐีเหล่านั้นจะทำอะไรได้บ้างควินนี่เดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางสงบ ก่อนที่จะห
สีหน้าของโอลิเวียและเหล่าพนักงานเปลี่ยนไปเมื่อสตีเฟ่นมาถึงสตีเฟ่นมักจะปรากฏตัวในนิตยสารบันเทิงและข่าวการเงินแน่นอนว่าพวกเธอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครไม่มีใครคาดหวังว่าเศรษฐีอย่างสตีเฟ่นจะมาที่นี่หลังจากการโทรเรียกเพียงครั้งเดียวเลขาอากินะรู้สึกเบิกบานใจที่ได้เห็นการมาถึงของสตีเฟ่น เธอเดินโซเซไปทางเขาด้วยท่าทางหน้าสมเพชราวกับว่าเธอถูกทำร้ายอย่างสาหัส“ดูฉันสิ นายน้อยยอร์ก! ฟิลเลอร์บนหน้าฉันจะระเบิดออกมาแล้ว!“ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดล้ำเส้นเกินไป! พวกเขาต้องรับผิดชอบ!”เลขาอากินะถึงกับหลั่งน้ำตาขณะที่เธอโพล่งถึงเรื่องคับข้องใจใบหน้าของสตีเฟ่นดูเย่อหยิ่ง “พวกคุณทำงานได้ดีจริง ๆ ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัด!” เขาอุทานอย่างเย็นชา“ไม่รู้หรือว่านายน้อยอิชิกาวะ และชาวประเทศหมู่เกาะเป็นแขกคนสำคัญของนายน้อยยอร์ก?“แต่คุณกล้าโจมตีแขกของนายน้อยยอร์กงั้นเหรอ? เรื่องนี้ไม่มีทางจบง่าย ๆ แน่!“ใครที่เป็นคนทำเรื่องนี้ คุกเข่าและขอโทษนายน้อยอิชิกาวะเสีย! หักมือของตัวเองทิ้งซะ! ไม่อย่างนั้นไม่ช้าก็เร็วฉันจะเป็นคนจัดการเอง!”โอลิเวียและคนอื่น ๆ หวาดกลัวจนเกือบสิ้นสติ พวกเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป
ฮาร์วีย์หัวเราะอย่างไม่แยแส “ก็ลองถามสตีเฟ่นดูสิว่าฉันอยากตายหรือเปล่า?”“ฮ่า! นี่นายยังเสแสร้งได้อยู่อีกเหรอ?”เลขาอากินะหัวเราะอย่างเย็นชา“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใครมาจากไหน แต่กล้าดียังไงมาอวดต่อหน้านายน้อยยอร์ก! นายคงอยากตายสินะ?"ใช่! มันไม่มีประโยชน์! ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหน การที่นายมาหาเรื่องแขกกิตติมศักดิ์ของนายน้อยยอร์กแบบนี้ แสดงว่านายอยากจะตายน่าดู!“ฉันจะแนะนำอะไรนายให้นะ! ไปเรียกซีอีโอคนใหม่มาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!“บอกเธอว่าเธอจะถูกถอดออกจากตำแหน่ง ถ้าเธอไม่ปรากฏตัวภายในสามนาที!”"หุบปาก!"สตีเฟ่นดึงสติกลับมาได้ในทันทีเสียงตวาดอันโกรธเกรี้ยวของเขาทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างหลังตกตะลึง วินาทีต่อมา พวกเขาก็ตื่นเต้นกันมากสตีเฟ่นโกรธมาก เขาเดือดดาลด้วยความโกรธ!เขาพร้อมที่จะบดขยี้ใครสักคนแล้วในขณะนี้!“คุณอยากให้ผมช่วยอะไรไหม นายน้อยยอร์ก? ตอนนี้ผมชักคันไม้คันมือแล้วสิ ไอ้แมงดานี่…”เพี๊ยะ!สตีเฟ่นเหวี่ยงฝ่ามือไปหาผู้ติดตามที่พูดก่อนจะเสริมด้วยใบหน้าที่ดูน่าสมเพชว่า “ฉันบอกให้นายหุบปากไง! ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ!“และหยุดเรียกเขาว่าแมงดาได้แล้ว!“นายมีสิทธิ์อ
ยูกิโกะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลอิชิกาวะ เธอเคยเป็นตัวแทนของสถานทูตประจำประเทศหมู่เกาะในมอร์ดูเธอถือเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มทายาทของตระกูลตัวตนของเธอสามารถจัดการใครก็ตามที่ต่อต้านเธอ หากใครต่อต้านเธอ ก็เท่ากับว่าพวกเขาต่อต้านประเทศหมู่เกาะทั้งประเทศด้วยหากเป็นเช่นนั้น ก็จะถือเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในขณะที่ไทอิจิกำลังกดหมายเลขโทรออก เขาก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมากฮาร์วีย์ได้ยินชื่อที่คุ้นหู เขาเกือบจะจำตอนที่เขาตบหน้ายูกิโกะที่มอร์ดูไม่ได้แล้วด้วยซ้ำถ้าไม่ใช่เพราะไทจิ ฮาร์วีย์คงจำปลาซิวปลาสร้อยตัวนั้นไม่ได้แล้วด้วยซ้ำฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะขวางการโทรออกของเขาเลย เขารอไทอิจิอย่างใจเย็นหลังจากนั้นไม่นานสายก็ถูกต่อออกไปไทจิเปิดลำโพง น้ำเสียงห่างเหินแต่มีเสน่ห์ดังไปทั่วทั้งห้อง"นี่ใครกัน?"ร่างกายของไทจิสั่นเทาเมื่อเขามีความสุขมากขึ้น“ผมเอง ตัวแทนอิชิกาวะ! ผมคือไทจิ ลูกพี่ลูกน้องของคุณ!“ผมมาที่ฮ่องกงเพื่อเจรจาข้อตกลงกับล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัด แต่ตอนนี้ผมกลับถูกท้าทาย!“ผู้ชายคนนั้นพูดว่าตระกูลอิชิกาวะไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขาเลย!“ตอนนี้เขาดูหมิ
“ฮาร์วีย์ ยอร์ก?!”ยูกิโกะที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์หยุดนิ่งก่อนที่เธอจะเงียบไป “หัวหน้าสาขายอร์ก?”“ถูกต้อง” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นโทรศัพท์ก็เงียบไป ยูกิโกะตกใจมากในฐานะตัวแทนของสถานทูตประจำหมู่ประเทศเกาะ เธอสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆตัวอย่างเช่น เธอรู้ว่ามิยาตะ นักดาบแห่งชินคาเงะเวย์ถูกฮาร์วีย์สังหารอากิโอะแห่งชินดันเวย์ก็ถูกบังคับให้หนีตายเพราะฮาร์วีย์เช่นกันเหตุการณ์เหล่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ยูกิโกะเข้าใจว่าชายคนนี้น่ากลัวกว่าในตอนที่เขาอยู่ในมอร์ดูมากชาวประเทศหมู่เกาะถึงกับเตือนเธอว่าอย่าไปหาเรื่องฮาร์วีย์อีก เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริง ๆท้ายที่สุดแล้ว พวกเขายังไม่มีแผนการที่จะรับมือกับฮาร์วีย์ในตอนนี้การเปิดฉากต่อต้านฮาร์วีในตอนนี้มีแต่จะนำมาซึ่งความหายนะน้ำเสียงของยูกิโกะทั้งนอบน้อมและฟังดูเขินอายซึ่งต่างจากน้ำเสียงเย็นชาและห่างไกลในตอนแรกของเธอ“ฉันต้องขอโทษจริง ๆ หัวหน้าสาขายอร์ก ฉันไม่รู้ว่าเราทำให้คุณขุ่นเคือง! ตระกูลอิชิกาวะจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้!”แม้ว่ายูกิโกะจะอยู่ห่างจากฮาร์วีย์หลายพันไมล์ แต่ความจริงใจของเธอก็ย
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการประชุมของล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดหลังจากตื่นขึ้นมาในเดอะ การ์เด้น วิลล่าขณะที่ควินนี่พาฮาร์วีย์ไปยังห้องประชุมของบริษัท ก็พบว่ามีคนแน่นขนัดห้องไปหมดนอกจากดันเต้และเจ้าหน้าที่ระดับสูงแล้ว ยังมีคนอื่น ๆ อีกสองสามคนอยู่ที่นั่นคนที่นั่งตรงกลางไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้าสำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นซีอีโอและประธานล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดอย่างคอรี่ ยอร์กเขาเป็นพ่อของวินซ์และยังเป็นบุคคลสำคัญในตระกูลอีกด้วยหลังจากเห็นการมาถึงของคอรี่ ควินนี่ก็ขมวดคิ้วเธอรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนฮาร์วีย์ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เขาทักทายทุกคนรอบตัวอย่างไม่แสดงอารมณ์เท่าไหร่นัก"อรุณสวัสดิ์ทุกคน วันนี้ทุกคนมาที่นี่เพื่อดูให้เห็นกับตาว่าจะมีมือใครถูกหักบ้างใช่หรือเปล่า?”“นั่นเขาไงครับประธาน! เขาคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!”ก่อนที่คอรี่และคนอื่น ๆ จะทำได้เอ่ยปาก ดันเต้ก็ลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่ฮาร์วีย์อย่างฉุนเฉียว“ควินนี่ทำลายโอกาสที่ผมจะได้ร่วมงานกับนายน้อยอิชิกาวะ!“ฮาร์วีย์เอาแต่พ้นเรื่องไร้สาระออกมา บอกว่าผมเป็นพวกไร้ประโยชน์แล้วก็ขู่ว่าจะไล่ผ
“อะแฮ่ม!”ชายที่อยู่ในวัยห้าสิบผู้ซึ่งสวมแว่นตากรอบทองและชุดสูททูนิกซึ่งเต็มไปด้วยรัศมีของชนชั้นสูง คอรี่ ไอเบา ๆเขานั่งตัวตรงและพลิกดูเอกสารตรงหน้า จากนั้นหรี่ตาลงที่ควินนี่“ควินนี่ ทุกอย่างที่ผู้จัดการคาสโตรพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?“เธอมีอะไรจะแก้ตัวหรือเปล่า?”เขาไม่ได้ถามฮาร์วีย์โดยตรง ในสายตาของเขา ฮาร์วีย์เป็นเพียงแมงดาไร้ยางอายเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องถามฮาร์วีย์“ทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง”ควินนี่ไม่แยแสและไร้อารมณ์ เอ่ยออกมาตามตรง“แต่เขาไม่ได้บอกคือเหตุผลที่ฮาร์วียทำแบบนั้น“นายน้อยอิชิกาวะ และชาวประเทศหมู่เกาะกำลังทำร้ายพนักงานของเราตามอำเภอใจ“ฮาร์วีย์ต้องการยืนหยัดเพื่อพวกเธอ เขาถึงได้จัดการนายน้อยอิชิกาวะ และพรรคพวก“ฉันคิดว่าสิ่งที่ฮาร์วีย์ทำถูกต้องแล้ว“ถ้าคุณคิดว่าเขาควรรับผิดชอบเรื่องนี้ ฉันจะขอรับผิดทั้งหมดแทนเขาเอง“และสิ่งอื่นใด ฉันได้พูดเอาไว้แล้วว่าคำพูดของเขาก็คือคำพูดของฉัน และการกระทำของเขาก็คือเป็นการกระทำของฉันเช่นกัน“ฉันจะไม่กลับคำพูด”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่ควินนี่อย่างอยากรู้อยากเห็น เขาไม่คิดว่าเธอจะมีเสน่ห์เช่นนี้ดันเต้ห
“อีกอย่าง ต่อให้เธอจะไม่พอใจ เธอก็ไม่ควรทำตัวกระด้างกระเดื่องใส่พวกเขาและไม่ควรตบหน้าเลขาอากินะด้วย!“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นผู้หญิงของนายน้อยอิชิกาวะ !“ถ้าคิดว่าเราจะได้อะไรจากการตบตีผู้หญิงของนายน้อยอิชิกาวะ?“การทำข้อตกลงกับตระกูลอิชิกาว่าถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของบริษัทเราในปีนี้“หากเราสามารถทำข้อตกลงกับพวกเขาได้ หุ้นของเราจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า!“แต่เพราะเธอ ข้อตกลงสำคัญนี้ถึงได้พังไม่เป็นท่า!คอรี่มีสีหน้าผิดหวัง“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง! ฉันผิดหวังจริง ๆ!“ฉันจะขอคำชี้แจงจากน้องสี่ในเรื่องนี้!“แม้ว่าเขาจะเป็นพวกเลือกที่รักมักที่ชัง แต่นั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการเลือกคนมาทำงานบริษัท!“เอาแบบนี้ดีไหม? ไปเขียนจดหมายลาออกด้วยตัวเองซะ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป“ฉันจะไปบอกให้น้องสี่เลิกโยนคนไร้ประโยชน์มาให้ฉันสักที”“ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดเป็นแหล่งทำงานของตระกูลเรา!“นี่ไม่ใช่ที่ที่จะโยนลูกรักของใครเข้ามาได้!”ควินนี่ขมวดคิ้ว หากคอรี่เพียงคิดจะต่อต้านเธอเพียงคนเดียว เธอจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองมากนักแต่เธอค่อนข้างไม่พอใจเมื่อได้ยินว่าคอ