แม้แต่ฮาร์วีย์ ยอร์กที่เคยได้ลิ้มลองอาหารที่ดีที่สุดในโลกก็อดไม่ได้ที่จะประทับใจ“ถือว่าปรุงได้ดีทีเดียว”มาร์เซล ยอร์กเงยหน้าขึ้นมองฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น“มันก็เป็นแค่อาหารพื้นบ้านง่าย ๆ เท่านั้น แค่คุณไม่รังเกียจมันก็ดีพอแล้ว”รูม่านตาของฮาร์วีย์หดตัวลงหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ก่อนจะมองย้อนกลับไปที่หัวไชเท้าผัดขนาดของหัวไชเท้าทุกชิ้นมีความสม่ำเสมอกันอย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่สีของหัวไชเท้าก็ยังดูเหมือนกันหมด การจัดจานที่ดูเรียบง่ายนั้นให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติเช่นกันนี่เป็นการแสดงทักษะอย่างแท้จริง!แน่นอนว่ามาร์เซลฝึกฝนทักษะของเขาด้วยใบมีดเหล็กมาเป็นเวลาอย่างน้อยหลายสิบปี...เขาไม่ได้จงใจเปิดเผยสิ่งใด ๆ แต่ฮาร์วีย์รู้ว่าเขาคือเทพสงคราม จากการดูอาหารที่วางอยู่ตรงหน้ามาร์เซลไม่ได้เป็นเพียงเทพสงครามทั่วไปเท่านั้น เขามีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายขณะที่ฮาร์วีย์ชื่นชมความแข็งแกร่งของมาร์เซล เขาก็หรี่ตาพร้อมเผยรอยยิ้มจาง ๆ“คุณยอร์ก คุณไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้ากองบังคับคดีหลงเหมินเท่านั้น แต่คุณยังเป็นเจ้าชายแห่งเซาท์ไลท์อีกด้วย...“คุณถือเป็นชนชั้นสูงที่ประสบความสำเร็จทั้งท
หลังจากเงียบไปสักพัก ฮาร์วีย์ ยอร์กก็ตอบอย่างแผ่วเบาว่า “ผมมีคำถาม คุณยังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และคุณก็สามารถปกครองตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงต่อไปได้อีกอย่างน้อยสิบปี“ทำไมตระกูลถึงอยากให้คุณออกจากตำแหน่งขนาดนั้น?”ดวงตาของมาร์เซล ยอร์กเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย“คุณเคยอ่านประวัติศาสตร์มาบ้างหรือเปล่า คุณยอร์ก”“ไม่มากก็น้อย” ฮาร์วีย์ตอบขณะพยักหน้ามาร์เซลยิ้ม“ประวัติศาสตร์จะทำให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุของการเจริญรุ่งเรืองของประเทศ การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นจะสามารถช่วยให้คุณเข้าใจถึงสิ่งที่ถูกและผิดได้“คนหนุ่มสาวทุกวันนี้ไม่แม้แต่จะอ่านประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ“พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับความมอมเมา พวกเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับคนแก่อย่างพวกเรา”มาร์เซลครุ่นคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ก่อนที่จะยิ้มจาง ๆ“ในเมื่อคุณเคยอ่านประวัติศาสตร์ คุณก็น่าจะรู้เกี่ยวกับยุคทองของจักรพรรดิทั้งสามแห่งราชวงศ์ชิงใช่ไหม?”ฮาร์วีย์พยักหน้า“เราข้ามเรื่องจักรพรรดิองค์แรกไปเลยเถอะ“มาพูดเรื่องจักรพรรดิองค์ที่สองแทนดีกว่า” มาร์เซลกล่าว“จักรพรรดิยงเจิ้งเป็นผู้ปกครองที่ชาญฉลาด แต่ความไร้ความสามารถของจักรพร
"ผมเหรอ?"ฮาร์วีย์ ยอร์กนั่งตัวแข็งอยู่กับที่ จากนั้นก็ระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของมาร์เซล ยอร์ก“นี่คุณกำลังขอคำแนะนำจากผม? หรือแค่อยากจะทดสอบอะไรกันแน่?”“มันสำคัญตรงไหนกัน?”“แต่ถ้าคุณขอคำแนะนำจริง ๆ ล่ะก็ ผมขอแนะนำให้คุณทำลายทั้งตระกูลไปเลย“แต่ถ้าคุณทำเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง ผมก็จะบอกให้คุณอยู่ในเส้นทางของตัวเอง“คำแนะนำของผมค่อนข้างเสี่ยง และถ้าไม่ระวังมันจะออกมาแย่มาก“แน่นอน หากคุณมีความกล้าหาญและอำนาจพอที่จะปราบปรามทั้งตระกูล ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไรมันก็ไม่ผิดทั้งนั้น”“ทำลายตระกูลนั้นเหรอ?“หากปราศจากการทำลาย ก็คงไม่มีการรังสรรค์...“ตัดให้ขาดเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าต้องทนทุกข์ทรมาน…” มาร์เซลพึมพำกับตัวเองสำหรับเขา วินซ์ ยอร์กและคนอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ทำลายล้างตระกูลจากภายใน...แต่หากพวกเขาถูกล้มล้าง ตระกูลก็อาจแตกแยกเป็นสองฝักสองฝ่าย มาร์เซลอาจจะต้องตายในกระบวนการนี้เช่นกัน...แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงก็คงต้องดำเนินไปสู่การล่มสลายทางอำนาจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้แต่ผู้พิทักษ์อย่างมาร์เซลก็ยังมีบางสิ่งที่เขาไม่อาจตัดสินใจได้ด้วยตัวเองคำพู
ฮาร์วีย์ ยอร์กเดินทางออกจากเดอะ การ์เด้น วิลล่าอย่างไม่แยแสเขารู้ว่าคำพูดของเขาส่งผลกระทบต่อมาร์เซล ยอร์กเป็นอย่างมากมาร์เซลคงไม่คิดที่จะปล่อยให้ควินนี่ ยอร์กเข้ารับตำแหน่งหลังจากหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา หากมาร์เซลต้องตัดสินใจ ในวันเกิดคุณย่ายอร์กจะต้องมีการแสดงที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนฮาร์วีย์ไม่สนใจงานเลี้ยงวันเกิดนั่น ถึงแม้เขาอยากจะขอให้เซลีน่า จัดด์เอ่ยปากเชิญก็ตามทีเนื่องจากการแสดงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่จะหาชมได้ง่าย ๆขณะที่ฮาร์วีย์กำลังไตร่ตรองถึงสถานการณ์นั้น จู่ ๆ รถโตโยต้า อัลฟาร์ดไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียนก็มาหยุดอยู่ข้าง ๆ เขาหลังจากประตูรถเปิดออก ผู้หญิงผมสั้นในชุดเครื่องแบบก็ก้าวออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาเธอถือแล็ปท็อปที่มีรูปของฮาร์วีย์อยู่ข้างในมากมายหลังจากเปรียบเทียบฮาร์วีย์กับรูปภาพแล้ว เธอก็ถามอย่างใจเย็นว่า “คุณคือฮาร์วีย์ใช่ไหม?“นายท่านลำดับที่สามต้องการพบคุณ“เชิญเข้าไปในรถ”“นายท่านลำดับที่สาม?”ฮาร์วีย์เหลือบมองผู้หญิงคนนั้นอย่างสงสัย ดูจากรอยยับบนเครื่องแบบของเธอ เธอคงรออยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว...เธอเพียงแค่รอให้ฮาร์วีย์ปรากฏตัว“นายท่านลำดับท
ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นโนอาห์ ยอร์ก ซึ่งเป็นผู้นำบ้านหลังที่สามนั่นเองโนอาห์เดินไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วหรี่ตามองฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ยอร์กใช่ไหม? ดูไม่เลวเลยนะ”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะจุดซิการ์ในมือ“คุณกล่าวเกินไปแล้ว นายท่านยอร์กลำดับที่สาม“คนอย่างผมไม่มีทางสร้างความประทับใจให้กับบุคคลที่ทรงพลังอย่างคุณได้“ผมไม่คู่ควรกับคำชมนั้น”ดวงตาของโนอาห์หรี่ลงเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะตรงไปตรงมาขนาดนี้โนอาห์ซ่อนสายตาประหลาดใจไว้ ก่อนจะนั่งลงต่อหน้าฮาร์วีย์“ได้เป็นเจ้าชายแห่งเซาท์ไลท์ตั้งแต่อายุยังน้อย…” โนอาห์พูดขณะวิเคราะห์ฮาร์วีย์“นายสามารถก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญของหลงเหมินได้ในเวลาอันสั้นอีกต่างหาก...“ตอนฉันอายุเท่านาย ฉันไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนนายหรอก“ในบรรดาเด็กรุ่นใหม่ นายค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว“ตอนนี้แม้แต่ไอ้ลูกชายเนรคุณของฉันนายก็ยังเหนือกว่าเขา!”ฮาร์วีย์ยักไหล่หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป...“ฉันได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับนายมาไม่น้อยเลยล่ะ”โนอาห์ส่งสัญญาณมือให้หญิงสาวคนนั้นออกไปก่อนจะหรี่ตาม
"อะไรกัน? คุณเรียกผมมาเพื่อจะสั่งสอนผมอย่างนั้นเหรอ?” ฮาร์วีย์ยอร์กถามอย่างใจเย็น“คุณกำลังสอนให้ผมถ่อมตัวใช่ไหม?”หลังจากได้ยินน้ำเสียงห่างเหินจากคำพูดของฮาร์วีย์ โนอาห์ ยอร์กก็เอนกายลงบนโซฟาอย่างสบาย ๆ ขณะที่เขาหรี่ตามอง'ทหารชั้นสูงจากประเทศ H อาศัยชายจากหนานหยางเพื่อสนับสนุนเขา...'เขาคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญอะไรประเภทนั้นจริง ๆ เหรอ?'โนอาห์ตัดสินฮาร์วีย์ในทันที เขายื่นมือออกไปส่งสัญญาณหลังจากนั้นไม่นาน ประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นบอดี้การ์ดสามคนในชุดดำที่ถือจานมาคนละจานโนอาห์หรี่ตามองฮาร์วีย์“วันนี้ฉันไม่ได้เรียกนายมาที่นี่เพื่อสั่งสอน แล้วก็ไม่ได้เรียกมาเพื่อแก้แค้นด้วย“สิ่งที่ฉันอยากทำจะเป็นประโยชน์กับเราทั้งคู่ มันเป็นสถานการณ์ที่เราทั้งคู่จะได้ประโยชน์“เราจะพอใจกับผลลัพธ์ของสิ่งนี้แน่นอน”โนอาห์ดีดนิ้ว ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดคนแรกเผยแผ่นไม้ที่คลุมด้วยผ้าสีแดง ตำราโบราณวัตถุถูกเปิดเผยอยู่ข้างใน“นี่เป็นตำราโบราณจากหนึ่งในสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ มันมีอยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นายได้กลายเป็นเทพสงคราม“ถือว่านี่เป็นของขวัญสำห
พูดง่าย ๆ ก็คือโนอาห์ ยอร์กไม่ต้องการให้อนาคตของจูเลียน ยอร์กจบลงเพราะเหตุการณ์นี้ที่เขาเตรียมการที่จะลงมือทำเช่นนี้ เนื่องจากแผนการของวินซ์ ยอร์กถูกทำลายลง“ฉันรู้ว่าเพราะเซลีน่า จัดด์ทำให้นายตัดสินใจได้ไม่ง่ายนัก“แต่นายก็ใกล้จะได้ขึ้นเป็นเทพสงครามแล้ว แถมยังได้เป็นพันธมิตรกับฉันด้วย!“และสิ่งที่นายต้องทำก็เพียงแค่ไปเป็นพยานง่าย ๆ แค่นั้นเอง!“นี่คือเป็นจังหวะที่พอเหมาะพอดีที่สุด!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ โดยไม่ตอบกลับในทันที เขามองไปที่บอดี้การ์ดคนสุดท้ายแล้วพูดว่า “แล้วอย่างสุดท้ายนี้มีไว้สำหรับอะไร?“มันมีอะไรอยู่ในนั้น?”ไพ่ตายที่ดีที่สุดมักจะถูกทิ้งให้อยู่ลำดับสุดท้ายเสมอฮาร์วีย์อยากรู้ว่าโนอาห์จะเสนออะไรอีกบ้าง รวมถึงเงื่อนไขที่เขาจะต้องเรียกร้องด้วย“นี่คือสัญญาโอนหุ้นสิบฉบับ”โนอาห์ยกผ้าขึ้นก่อนจะโยนสัญญาลงหน้าโต๊ะของฮาร์วีย์“ปัจจุบันหุ้นพวกนี้มาจากบริษัทที่ใหญ่ที่สุดสิบแห่งในตลาดหุ้นฮ่องกง นายจะสามารถขึ้นเป็นครอบครัวที่มีลำดับสูงสุดได้ในทันที“นายจะได้เป็นนายน้อยคนที่ห้าแห่งฮ่องกง!”ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะปรบมือ"น่าประทับใจ! น่าประทับใจจริง ๆ!” เขาพูดอย่างใจเย็
“อ๋อ ใช่ ฉันได้ยินมาว่านายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลานสาวของดีน คอบบ์ด้วย“ด้วยสถานะปัจจุบันของนาย นายไม่ได้คู่ควรกับเธอเลย“แต่เมื่อนายได้เป็นนายน้อยคนที่ห้า นายจะไม่มีปัญหานั้นอีกต่อไป“ผู้หญิงที่ไหนจะปฏิเสธผู้ชายที่สู้เพื่อให้ได้เป็นนายน้อยคนที่ห้าของฮ่องกงด้วยสองมือของตนเอง?”โนอาห์ ยอร์กแสดงสีหน้าชื่นชมราวกับว่าเขากำลังมองคนที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมเขารู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนเดียวที่สามารถมองผ่านความตั้งใจที่แท้จริงของฮาร์วีย์ ยอร์กได้ฮาร์วีย์ไม่แยแส เขาไม่สนใจข้อเสนอใด ๆ เลยเขาหรี่ตามองโนอาห์และยิ้มจาง ๆ“เราต่างก็โต ๆ กันแล้วนายท่าน คุณอาจหลอกเด็ก ๆ ด้วยคำสัญญาลมปากเหล่านั้นได้...“แต่ผมไม่ได้หลอกได้ง่ายขนาดนั้น“ผมไม่เคยชอบใช้กลอุบายแบบนี้ แต่ผมรู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณแค่พยายามใช้ชื่อเสียง เกียรติยศ และความร่ำรวยทั้งหมดนั้นมาล่อผม“ถ้าผมส่งข้อมูลเหล่านั้นให้เซลีน่า จัดด์ และตระกูลล่มสลายด้วยเหตุนี้ จูเลียน ยอร์กก็จะขึ้นสู่อำนาจ...“ผมค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งแรกที่เขาจะทำจะไม่ใช่การแต่งตั้งนายน้อยคนที่ห้าของฮ่องกง“แต่เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าผมก่อนสิ่งอื่นใด ถูกไหม?“ท้
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข