แกร๊ก!นัดที่สี่ก็ยังไม่ได้ถูกยิงออกมาเช่นกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีระเบิดติดหน้าอกเริ่มเหงื่อออกอย่างควบคุมไม่ได้...สมาชิกระดับสูงคนอื่น ๆ ต่างก็มีดวงตาที่กระตุกอย่างบ้าคลั่งเช่นกันสามนัดแรกถือว่าไม่เป็นไร แต่สองสามนัดสุดท้ายถือเป็นการฆ่าตัวตายไปโดยปริยายแล้ว!ใบหน้าของอาเบลถอดสีจนซีดเผือด เขาต้องการที่จะพุ่งไปหาคนพวกนั้น และแทบจะระงับตัวเองเอาไว้ไม่ได้ทีเดียวเขากลัวว่าเจ้าหน้าที่นั่นจะเหนี่ยวไกปืนเพิ่มอีกสองสามครั้งด้วยความไม่ทันยั้งคิดเงาแห่งความตายก่อตัวไปทั่วสถานที่ ส่งผลให้ทุกคนสั่นสะท้านจนหนาวสั่นจูเลียนหัวเราะเยาะโดยไม่สำนึกผิดและบิดร่างของตัวเอง“ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมบอก นัดต่อไปพวกเราทุกคนตายกันหมดแน่!“อย่างนั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มจากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วดุจสายฟ้าก่อนที่พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ถือระเบิดติดตัวมาทันได้ตั้งสติ ฮาร์วีย์ก็คว้าปืนพกไปไว้กับตัวเองในทันที“ไอ้สารเลว!”จูเลียนเดือดด้วยความโกรธจนเจ็บอกฮาร์วีย์เหลือบมองจูเลียนก่อนจะชี้ปืนพกไปที่กลุ่มทหาร “ถ้าอยากจะเล่นแบบนี้จนทนไม่ไหว ก็มาเล่นกันต่อเถอะ” ฮาร์วีย์พูดด้วยรอยยิ้มจาง
ไม่มีใครคาดคิดว่าจูเลียนจะยอมแพ้ในวินาทีสุดท้ายจูเลียนคิดว่าเขาบ้ามากพอแล้ว แต่ฮาร์วีย์ซึ่งไร้อารมณ์ตลอดเวลาเมื่อเทียบกับเขาแล้วไม่ต่างอะไรจากคนเสียสติทุกคนตกใจมากเมื่อเห็นจูเลียนกรีดร้องหาแม่ พวกเขาไม่อาจเรียกสติกลับมาได้เลย นี่เป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของจูเลียนหรือเปล่า? หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนก็กลับมามีสติอีกครั้ง ไม่มีอะไรระเบิด!ไม่มีอะไรทั้งนั้น!ทุกคนควรจะตายหลังจากนัดสุดท้ายถูกยิงออกไปไม่ใช่เหรอ?!แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น?!ใบหน้าของจูเลียนเริ่มแข็งทื่อในทันทีเขาตระหนักได้ถึงผลการกระทำของตัวเองแล้ว นึกอยากจะมุดดินหนีชายที่ข่มขู่จะเอาชีวิตของทุกคน กลับมาร้องหาแม่ในวินาทีสุดท้าย…จูเลียนนึกอยากจะร้องไห้เพราะความหวาดกลัวไม่ต่างจากลูอิสในเวลาเดียวกัน…ฮาร์วีย์มองดูปืนพกของเขา อย่างค่อนข้างงุนงง“ปืนขัดลำกล้องหรือเปล่า?” เขากล่าวด้วยความสนใจเต็มที่“ดูเหมือนว่าตอนนี้เราทุกคนจะโชคดีมาก!”ฮาร์วีย์พยายามเหนี่ยวไกอีกสองสามครั้งหลังจากเล็งปืนพกไปที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงมีเสียงกระทบกันอีกหลายครั้ง แต่กระสุนก็ยังไม่หลุดออกมา มันยังค้างอยู่ในลำกล้องจริง ๆการกระทำและ
จูเลียน ยอร์กยกมือขึ้นกุมใบหน้าของเขาด้วยสีหน้าน่าสยดสยอง เมื่อเผชิญหน้ากับชายผู้โหดเหี้ยมและเจ้าปัญหาอย่างฮาร์วีย์ ยอร์ก จูเลียนก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ก้นบึ้งของหัวใจเขายอมแพ้แล้ว แต่ความภาคภูมิใจที่เขาสะสมมาตลอดทั้งชีวิตจะไม่ยอมให้เขาร้องขอความเมตตาเขารู้ว่าหากเราทำเช่นนั้น เขาและกองทหารของตระกูลยอร์กจะกลายเป็นตัวตลกที่น่าหัวเราะที่สุดในฮ่องกงและลาสเวกัส“ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย หักมือตัวเองและคุกเข่าขอร้องต่อหน้านายหญิงจัดด์ซะ“ไม่อย่างนั้น คุณศพไม่สวยแน่!”คำพูดอันสงบของฮาร์วีย์ได้ปิดผนึกชะตากรรมของจูเลียนไว้อย่างสมบูรณ์ตอนที่จูเลียนกำลังจะหักมือของตัวเอง...ก็เผอิญได้ยินเสียงดังมาแต่ไกลอากาศยานขนาดมหึมาสิบลำส่งเสียงคำรามไปทั่วท้องฟ้าพวกมันเป็นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ กลิ่นอายที่รุนแรงและความเข้มงวดฟุ้งกระจายมาจากพวกมัน ขณะที่พวกมันบินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วก่อนที่ฝูงชนจะทันได้ตั้งสติ เฮลิคอปเตอร์ก็มาถึงด้านบนของเดอะ การ์เด้น วิลล่าแล้วอาวุธปืนขนาดยักษ์ยื่นออกมาจากที่นั่งผู้โดยสาร ชี้ไปทางกองทหารของตระกูลยอร์กหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินน้ำเสียงห่างเหินดังขึ้น “เ
กองทหารตระกูลยอร์ก เหล่าบอดี้การ์ดและคนรับใช้ของเดอะ การ์เด้น วิลล่าอดไม่ได้ที่จะโค้งคำนับในขณะนั้นจูเลียน ยอร์กซึ่งในตอนแรกวางมาดสูงส่งและทรงพลังในตอนนี้ดูไม่ต่างจากตัวตลกเมื่ออยู่ต่อหน้ามาร์เซล ยอร์ก เขาดูไร้ประโยชน์และโง่เง่ามากในขณะนั้นความบ้าคลั่งและความอันตรายของเขาไม่มีความหมายอะไรสำหรับชายคนนี้หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เกือบทุกคนก็โค้งคำนับพร้อมกัน“ยินดีต้อนรับครับ นายท่านยอร์ก!”มีเพียงฮาร์วีย์ ยอร์กเท่านั้นที่ยังคงวางเฉยในขณะที่จ้องมองชายวัยกลางคนผู้มีอำนาจอย่างเต็มเปี่ยมไม่สำคัญว่ามาร์เซลจะกลับมาโดยบังเอิญหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกแล้ว ความเสียหายที่เกิดกับเซลีน่า จัดด์และเดอะ การ์เด้น วิลล่าทั้งหมดจะถูกคิดบัญชีอย่างแน่นอน ฮาร์วีย์จะเก็บงำความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ได้หากเป็นเช่นนั้นขณะที่ฮาร์วีย์แสดงรอยยิ้มจาง ๆ จูเลียนก็ตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นและเดินไปหามาร์เซลพร้อมยกมือกุมใบหน้า “คุณอาสี่” เขากล่าวด้วยความเคารพเห็นได้ชัดว่าจูเลียนพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้ความสัมพันธ์อันอ่อนแอของพวกเขาเพื่อเอาชีวิตรอดในจุดนั้นมาร์เซลเหลือบมองหลานชา
“นายพาพวกเขาบุกเข้ามาในเดอะ การ์เด้น วิลล่า ทำลายตราประจำตระกูล และทำทุกอย่างอย่างไม่ยั้งคิด ยังดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร“ถ้านายทำตามขั้นตอนหรือบอกฉันล่วงหน้าสักหน่อย ก็คงจะดี“ฉันคงจะไม่เข้ามาขวางนายแบบนี้“ถ้านายทำตัวมีอารยะมากกว่านี้อีกหน่อย และหยุดใช้วิธีป่าเถื่อนในการทำสิ่งต่าง ๆ แบบนี้...“ฉันจะไม่ปริปากเลยสักคำ“แต่นายปฏิบัติต่อกองทหารของตระกูลยอร์กที่ฉันเคารพมานานหลายปีไม่ต่างไปจากไพ่ตายสำหรับการใช้อำนาจในทางที่ผิดของตัวเอง“นายทำลายองค์กรที่ฉันประคับประคองมานาน…“นายทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ จูเลียน”มาร์เซล ยอร์กมองไปที่จูเลียน ยอร์กด้วยความรู้สึกสมเพชจูเลียนดูอึกอักในขณะนี้สมาชิกระดับสูงทั้งหมดมองหน้ากันก่อนที่จะกระแทกเข่าลงกับพื้น“เราผิดไปแล้ว! โปรดลงโทษพวกเราด้วย นายท่านยอร์ก!”ดวงตาของจูเลียนกระตุกอย่างบ้าคลั่ง หลังจากเห็นลูกน้องทุกคนคุกเข่าลงเขารู้ดีว่าถ้าเขาคุกเข่าต่อหน้าชายคนนี้ เขาจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอีกจูเลียนฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมไม่เคารพคุณนะ คุณอาสี่ ผมมาที่นี่เพื่อจับตัวนักฆ่าจากโถงปีศาจ“ผมกลัวว่านักฆ่าคนอื่นจะซุ่มซ่อนอยู่ทั่วฮ่องกง รอ
“ถ้านายอยากเล่นเกม ฉันจะเล่นกับนายเอง“กระสุนทั้งห้านัดที่ถูกถอดออกไปนั้น แสดงถึงความเคารพต่อทั้งห้าบ้านของตระกูลยอร์ก“กระสุนลูกสุดท้ายแทนคำพูดของคนเป็นลูกผู้ชายและสามี“จากนี้ไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตา!”จากนั้นมาร์เซล ยอร์กก็วางกระบอกปืนพกไว้ที่ไหล่ขวาของจูเลียน ยอร์กหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เหนี่ยวไกอย่างใจเย็นปัง!ด้วยเสียงปืนที่ดัง จูเลียนตัวสั่นก่อนที่ร่างกายของเขาจะถูกพัดกระเด็นไปด้วยพลังอันรุนแรง ขณะที่เขากระแทกพื้น ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไม่หยุดหย่อน เขาอยากจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ได้แต่กัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างยากลำบากจูเลียนโชคร้ายไม่น้อย เขาถูกยิงตั้งแต่นัดแรกฮาร์วีย์เกือบมองมาร์เซลด้วยสายตาลึกซึ้งต้องยอมรับเลยว่านายท่านแห่งยอร์กมีความสามารถค่อนข้างมาก และเขาก็มีออร่าที่สง่างามเป็นประกายรอบตัวด้วยเช่นกันจูเลียนยังดิ้นพล่านอยู่บนพื้นไม่หยุด เขาอยากจะคลานกลับขึ้นไป แต่ทำได้เพียงดิ้นรนเหมือนสุนัขที่กำลังจะตายเพราะมือที่หักทั้งสองข้างลูกน้องของเขาคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่มีใครยื่นมือออกไปช่วยเขาเลยในขณะนั้นสายตาของจูเลียนเต็มไปด้วยความไม่พอใจในขณะน
“ประการหนึ่ง จากนี้ไปอาเบล ยอร์กจะเป็นผู้ดูแลกองทหารของตระกูลยอร์ก ผู้รับผิดชอบคนเก่าจะถูกส่งไปยังกองบังคับคดีแห่งตระกูลยอร์กเพื่อพิจารณาคดี“ประการที่สอง เดอะ การ์เด้น วิลล่าตระกูลยอร์กจะถูกระบุว่าเป็นพื้นที่ต้องห้าม หากปราศจากคำสั่งของฉัน ใครหน้าไหนที่ก้าวเข้ามาที่นี่จะถูกฆ่าตายทันที“ประการที่สาม ในฐานะหัวหน้ากองบังคับคดีหลงเหมิน ปัจจุบันฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นแขกคนสำคัญของที่นี่ เขากับฉันมีสถานะทัดเทียมกัน“ไม่ว่าใครหน้าไหนที่ต่อต้านฮาร์วีย์ ก็เท่ากับต่อต้านฉันด้วย!“ใครพยายามจะยั่วยุเขาก็ฆ่าทิ้งให้หมด!”จากนั้นมาร์เซล ยอร์กก็เบือนสายตาไปทางฮาร์วีย์ด้วยความชื่นชมฮาร์วีย์มองลึกเข้าไปในดวงตาของมาร์เซล ก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นตอบกลับไป“ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณ นายท่านยอร์ก”ฮาร์วีย์เชื่อว่าชายคนนี้ต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำในฮ่องกงและลาสเวกัสเมื่อเร็ว ๆ นี้แล้วและทั้งที่เขารู้ แต่เขาก็ยังมอบตำแหน่งสำคัญให้ฮาร์วีย์ นี่เป็นวิธีแสดงจุดยืนของเขามาร์โกต์ พาเทลหญิงสาวที่ถือร่ม มองดูฮาร์วีย์ด้วยความรู้สึกสับสนเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายหน้าตาดีธรรมดา ๆ คนนี้ถึงเข้าตามาร์
"ฉันไม่เป็นไร"เซลีน่า จัดด์ตอบมาร์เซล ยอร์กด้วยดวงตาที่สดใส หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ความเสียใจก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ“ตลอดสิบปีที่ผ่านมานี้ฉันทำให้คุณผิดหวัง…“เพราะเรื่องลูกของเรา ฉันถึงได้จมอยู่กับความหดหู่ ละเลยความรู้สึกของคุณไป“เพื่อปกป้องฉันคุณได้เสียสละไปมากมาย“และเพราะลูกของเราเสียชีวิตไป ฉันจึงไม่พร้อมจะมีลูกอีก นั่นเป็นสาเหตุที่คุณย่ายอร์กบังคับให้คุณยอมรับเด็กเหลือขอ วินซ์ ยอร์กนั่น!“วินซ์ได้รับอำนาจมากมายภายในตระกูลเพราะเหตุนี้ ทำให้คุณในตอนนี้ตกอยู่ในความเสี่ยงสูง...“ฉันผิดเองที่ทำให้ทุกอย่างมันถึงจุดนี้”มาร์เซลตัวแข็งหลังจากได้ยินคำพูดของเซลีน่า เขาไม่คาดคิดว่าภรรยาที่น่าสงสารคนนี้จะเข้าใจปัญหาของเขาได้จริง ๆลูกน้องของเขาบอกเขาว่าฮาร์วีย์ ยอร์กสามารถรักษาอาการป่วยของเซลีน่าได้ ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นความจริงที่ผ่านมามาร์เซลใช้เส้นสายมากมายในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมารักษาอาการป่วยของเซลีน่า...แต่ก็ไม่มีประโยชน์ฮาร์วีย์เพียงแค่ตบเซลีน่าไม่กี่ครั้ง แต่นั่นก็เพียงพอที่จะรักษาเธอให้หายขาดมาร์เซลไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด สิ่งที่ฮาร์วีย์ทำมันทำให้เขานึกอย
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข