“ไอรีน จอห์นสัน เธอมีลูกน้องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”เคทลิน พาร์สันถามอย่างเย้ยหยัน“ในสาขาย่อยของวังมังกรมีผู้ชายตั้งมากมาย ยังไม่พอใจอีกเหรอ? ยังต้องหาคนจากข้างนอกอีกเหรอ?“เธอไม่กลัวว่าเธอจะทำให้ตระกูลจอห์นสันเสื่อมเสียเหรอหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย?”วันนี้เธอตั้งใจมาที่นี่เพื่อหาเรื่องตระกูลจอห์นสัน แต่เรื่องนี้บานปลายจนเรื่องผลกำไรหลายหมื่นล้านของเรือนมรกตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเข้ามาเกี่ยวข้องดังนั้นเคทลินจึงต้องการที่จะใช้อิทธิพลของวินซ์ ยอร์กเพื่อผลักดันเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด!ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครในฮ่องกงและลาสเวกัสจะกล้ามีเรื่องกับวินซ์เรื่องต่าง ๆ อาจจะจบไม่สวย แต่เธอไม่กลัวใครทั้งนั้นสีหน้าของไอรีนเย็นชา อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้โกรธ เธอเพียงแต่หรี่ตามองฮาร์วีย์ ยอร์กแทนเธออยากจะรู้ว่าชายผู้ที่คุณปู่ของเธอชื่นชมจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร“เคทลิน คุณโชคดีนะที่ที่นี่กฏหมายเป็นใหญ่ และถือว่าคุณโชคดีที่คุณยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลย “ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะตายไปแล้วก็ได้”ฮาร์วีย์ไม่สนคำพูดของเคทลิน“แต่ตอนนี้คุณจะต้องขอโทษ และหลังจากที่คุณจอห์นสันให้อภัยคุณแล้วเท่านั้น เรื่อง
“อ๊า!”เคทลิน พาร์สันกระเด็นไปชนเข้ากับประตูในขณะที่กุมใบหน้าตัวเองด้วยความเจ็บปวด รอยฝามือสีแดงปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของเธอ สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้เธออึ้งและตกใจมากกว่าเธอตกอยู่ในภวังค์ด้วยความเหลือเชื่อถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กได้จัดการกับ แครอล ปาร์คเกอร์ นาโอโตะ ทาเคอิ และแคร์รี่ เคนเนดี้… แต่เธอก็ไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะกล้าทำอะไรเธอเพราะพวกเธอทุกคนเป็นคนของวินซ์แต่เธอพิเศษกว่านั้น เธอเป็นคนโปรดของวินซ์ ยอร์กเลยนะลือกันไว้ว่าในอนาคตเธออาจจะได้เป็นภรรยาของเขาด้วยซ้ำที่ฮ่องกง แม้กระทั่งหัวหน้าของสี่ตระกูลชั้นนำ ตระกูลดอนแห่งบรีวู้ด และหัวหน้าแก๊งหนานหยาง ก็ยังต้องเคารพเธอ ไม่มากก็น้อยใครจะกล้าทำร้ายเธอ?อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เคทลินตกใจคือการที่ฮาร์วีย์เป็นเจ้าปัญหาจริง ๆ เขาไม่ได้เพียงแค่ตบเธอเท่านั้น แต่เขายังทำให้เธอต้องอับอายเพราะการตบนั้นด้วย “นี่มันอะไรกัน?!”“เป็นไปได้ยังไง?!”“เขากล้าทำร้ายคุณพาร์สันจริง ๆ เหรอ?!”เมเบิล แอนเดอร์สันและผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงพวกเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองพวกเธอไม่อาจยอม
ในขณะนี้เคทลิน พาร์สันไม่ได้สง่างามและสูงส่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปตอนนี้เธอเหมือนผู้หญิงตามท้องถนนที่บ้าคลั่งและเอาแต่ตะโกนโวยวายว่าต้องการจะฆ่าฮาร์วีย์ ยอร์กคำสั่งของเคทลิน...ทหารชั้นสูงสองสามคนที่ถูกวินซ์ ยอร์กส่งตัวมาหรี่ตาลงในขณะนั้น จากนั้นพวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและเข้าหาฮาร์วีย์ทันทีพวกเขามีกันทั้งหมดสี่คนพวกเขาเข้ารุมล้อมฮาร์วีย์พร้อมกันพวกเขาลงมือพร้อมกัน บางคนคว้าแขนฮาร์วีย์ บางคนล็อกคอฮาร์วีย์ และที่เหลือก็กันทางฮาร์วีย์ต้องยอมรับว่าพวกเขาร่วมมือกันได้ดี หากเป็นเรื่องของการฆ่าคนพวกเขาก็หาที่เปรียบไม่ได้หากพวกเขาโจมตีใครได้สำเร็จ ว่ากันว่าแม้แต่เทพสงครามก็ยังต้องกระอักเลือดเหล่าทหารชั้นสูงสี่คนที่มีความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมเทียบเท่าได้กับสามนักบวชปีศาจจากประเทศไทยพวกเขาทำงานร่วมกันมานานหลายปีจนบรรลุความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเทพสงครามสีหน้าของรูเพิร์ต โฮเวลล์และคนอื่น ๆ ต่างถอดสีเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “จบแล้ว พวกเขาคือสี่พี่น้องแห่งตระกูลอีแวนส์ที่ทำงานให้กับนายน้อยยอร์ก!“ว่ากันว่าสี่พี่น้องนี่คือทหารชั้นนำจากประเทศ J ที่เกษียณแล
เคทลิน พาร์สันโกรธจนเดือดดาลในขณะนั้นหลังจากที่ควินนี่ ยอร์กถูกหน่วยมังกรลับจับตัวไป เธอก็ได้กลายเป็นคนโปรดของวินซ์ ยอร์กทุกคนต่างรู้กันดีว่าเธอมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นนายหญิงแห่งตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของเธอน่าจะเป็นทีล ลีโฮลด์ หญิงบริสุทธิ์แห่งวิหารคุณธรรมทั้งห้า…แต่ยากที่หญิงบริสุทธิ์แห่งวิหารคุณธรรมทั้งห้าจะแต่งกับคนนอกดังนั้น หลังจากที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอย่างถี่ถ้วน เคทลินก็ตระหนักว่าจะไม่มีใครสามารถแย่งชิงตำแหน่งอนาคตนายหญิงแห่งตระกูลยอร์กไปจากเธอได้เมื่อไม่นานมานี้เธอได้แอบเรียกตัวเองอย่างนั้นแล้วด้วยแม้แต่ผู้คนในสังคมชนชั้นสูงก็ยอมรับความพัฒนาของเธอ พวกเขาจึงได้ประจบประแจงเธอและเคารพเธอมาจนถึงทุกวันนี้ แม้แต่วินซ์ก็ชื่นชมเธอ เขามักจะพาเธอไปกับเขาทุกที่กล่าวได้ว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องเคทลินมาก่อน…แต่คนอย่างฮาร์วีย์กลับกล้าพอที่จะทำเช่นนั้นหากฮาร์วีย์ไม่ถูกจัดการเดี๋ยวนั้น เคทลินจะต้องอับอายอย่างมากหากเธอยังคงอยู่ในสังคมชนชั้นสูงของฮ่องกงและลาสเวกัสต่อศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของเธอจะเสื่อมเสีย!บอดี้การ์ดหลายสิบคนรีบวิ่งตามเสีย
ไอรีน จอห์นสันกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายกันไปใหญ่หลังจากที่เคทลิน พาร์สันโทรตามกำลังเสริม เธออดไม่ได้ที่จะดึงฮาร์วีย์ ยอร์กออกมาและพูดว่า “ช่างมันเถอะนายน้อยยอร์ก พวกเขาได้ชดใช้แล้ว”ก่อนหน้านี้เป็นฮาร์วีย์ที่เหนี่ยวไกปืนด้วย แม้ว่าเขาจะเช็ดรอยนิ้วมือของตัวเองออกจากปืนแล้ว แต่ที่นั่นก็ยังมีพยานมากมายหากเรื่องบานปลายไป เขาอาจจะต้องติดคุกหากเป็นเช่นนั้นคุณปู่ของไอรีนก็น่าจะโทษเธอที่ดูแลฮาร์วีย์ได้ไม่ดีพอเธอไม่ต้องการที่จะให้มันเป็นอย่างนั้นเธอยอมที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปแทนที่จะต้องถูกพรากจากฮาร์วีย์เคทลินหัวเราะเยาะหลังจากที่เห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของไอรีนเธอรู้ดีว่าท่าทางของไอรีนเป็นเพราะความกลัวและความตื่นตระหนก“เป็นอะไรไป? กลัวเหรอ?“ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะไอรีน! ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไปที่จะยอมคุกเข่านะ!”เมื่อสีหน้าของเธอเริ่มเยาะเย้ยได้ เคทลินก็กล้าได้กล้าเสียอีกครั้ง“ถ้าเธอไม่คุกเข่าและขอโทษ เธอได้เจอดีแน่!”“แก…”สีหน้าของไอรีนเยือกเย็นเมื่อเธอได้ยินดังนั้น…เธอตั้งใจที่จะไกล่เกลี่ยสถานการณ์ แต่เธอไม่ได้คิดว่าเคทลินจะคอยกดดันเธอแบบนั้น“ไม่ต้องห่วงคุณจอห์นสัน ผมไม่
ออสติน เบียร์สแต็ดท์เดินนำหน้าลูกน้องของเขาไปที่ชั้นสองของเรือนมรกตเขาผลักผู้คนที่ชุมนุมกันออกไปและเดินเข้าหาเคทลิน พาร์สันด้วยสีหน้าที่ดุร้าย“ใครมันกล้าก่อเรื่องในเรือนมรกต?! มันกล้าเหยียดหยามคุณได้ยังไง?!” ออสตินถามด้วยสีหน้าที่พร้อมจะมีเรื่อง“ตลก!“กล้าดียังไง?!“พวกเขาไม่รู้เหรอว่าคุณคือราชินีแห่งฮ่องกง?!”ออสตินเจ็บปวดราวกับว่าโดนถลกหนัง ณ ตอนนั้น เขาทอดสายตามองคนรอบ ๆ เขาด้วยความเย็นชา“ไหนบอกผมสิว่ามันเป็นใคร ผมจะทำให้มันได้รู้จักกับกฏหมายของฮ่องกงเอง!”รูเพิร์ต โฮเวลล์ตัวสั่นเมื่อเขาเดินไปข้าง ๆ ฮาร์วีย์“ยอมเถอะนายน้อยยอร์ก!” เขาพูดเบา ๆ“ออสตินเป็นคนของตระกูลพาร์สัน! เขาคุมละแวกนอกเมือง! ที่นี่เขาจะสามารถทำอะไรก็ได้!“คนอย่างเขาจะต้องมีเส้นสายกับรัฐบาลหรือโลกใต้ดินแน่นอน บางทีเขาอาจจะมีเส้นสายกับกองทหารด้วยซ้ำ!“และบวกกับความไร้เหตุผลของเขา แม้แต่ลูกหลานคนรวยก็ยังกลัวเขา!“เพราะฉะนั้นคุณจะต้องคิดให้ดี ๆ! ถ้าคิดรับมือเขาไม่ไหว คุณก็ควรจะยอมซะ!”ฮาร์วีย์ยิ้ม“งั้นเหรอ น่าสนใจ”เมื่อเห็นออสตินนำพาทีมตำรวจพร้อมอาวุธมา เคทลินก็กลับมามีความกล้าอีกครั้ง“มาได้ทัน
เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ ยอร์กเหวี่ยงหลังมือของเขาไปที่ใบหน้าของออสติน เบียร์สแต็ตท์ทันทีออสตินตกตะลึงและไม่ทันเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นปืนของเขาเล็งไปที่หัวของฮาร์วีย์แท้ ๆ แต่อาร์วีย์กลับกล้าที่จะสู้กลับ…ออสตินพูดไม่กระจ่างเหรอ?หรือว่าฮาร์วีย์ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ตัวเองอีก?ออสตินตะโกนโดยไม่คิดว่า “แหกตาดูด้วย! ฉันคือออสติน เบียร์สแต็ตท์ สารวัตรสถานีตำรวจนอกเมืองของฮ่องกง!“แกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าละเมิดกฏหมายของฮ่องกง! ตามกฏหมายฉันสามารถยิงแกทิ้งเลยก็ได้!“ถ้าไม่อยากตายก็คุกเข่าซะ!”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ตบหน้าออสตินอย่างง่ายดายอีกครั้งเสียงตบคมชัดกว่าเดิม ผู้คนต่างมากันตื่นตระหนกพวกเขาต่างตกอยู่ในความเหลือเชื่อโดยเฉพาะเคทลิน พาร์สันที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองไม่มีใครรู้ว่าฮาร์วีย์ได้ความกล้าเหล่านี้มาจากไหน…ปืนของออสตินมีลูกกระสุนเต็มกระบอกและเล็งไปที่หัวของฮาร์วีย์หากออสตินเผลอเหนี่ยวไกโดยไม่ได้ตั้งใจ ฮาร์วีย์คงจะได้ตายเดี๋ยวนั้น!ผู้คนในชุดกี่เพ้าต่างงุนงง แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะดื้อรั้นเช่นนั้น พวกเขาเพียงแต่จะยอมโดยดีหากต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น…แต่ฮาร์วี
ออสติน เบียร์สแต็ตท์จะสามารถทำอะไรในถิ่นเขาก็ได้ เขาพาคนของตัวเองพร้อมกับอาวุธมาที่นี่ แต่เขาไม่เพียงแต่จะไม่สามารถข่มเหงชายจากประเทศ H ผู้นี้ได้ แต่เขายังโดนตบหน้าหลายครั้งอีก! ใบหน้าที่ฟกช้ำของเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในขณะนี้เขาไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้!หากออสตินไม่แสดงอำนาจอย่างสุดความสามารถเพื่อทวงคืนความภาคภูมิใจของเขา เขาจะให้อภัยตัวเองได้อย่างไร?!เขาจะทวงคืนความยุติธรรมให้เคทลิน พาร์สันได้อย่างไร?!เจ้าหน้าที่ตำรวจก้าวมาข้างหน้าและปลดล็อกปืนตนเองทันที พร้อมที่จะเหนี่ยวไกทุกเมื่อฮาร์วีย์ ยอร์กหยิบทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดมือตนเองในขณะนั้น“คุณคือออสติน ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น“ผมจะไม่โทษที่คุณยืนหยัดเพื่อคนอื่น“แต่ก่อนที่คุณจะตายไป คุณควรจะได้รู้จักคนที่เพิ่งจะตบคุณ“ผมอนุญาตให้คุณโทรหาเลสลี่ คลาร์ก“หลังจากนั้นคุณค่อยตัดสินใจว่าคุณยังอยากจะมีเรื่องกับผมไหม…“มาดูกันว่าคุณจะยอมเสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อผู้หญิงคนนี้ไหม!”“ไอ้สารเลว!”“กล้าเอ่ยชื่อคุณเลสลี่ คลาร์กได้ยังไง?!”ออสิตนโกรธถึงที่สุดเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“คนอย่างแกน่ะเหรอจะกล้าท้าทายฉัน?!“แกบอกว่าแ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข